Pingpong \(-_-)/

หน้า: (หน้าก่อน)  1 ...  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26 ...29   (ต่อไป)
โดย Pingpong \(-_-)/ - Sunday, 5 June 2005, 06:18AM
  “กรุงเทพมหานคร” เมืองหลวงที่คลาคล่ำและแออัดไปด้วยผู้คน ซึ่งไม่เพียงแต่ “คน” เท่านั้นที่แออัดยัดทะนานอยู่ในเมืองฟ้าอมรแห่งนี้ พลเมืองของ “เจ้าตูบ” ใน กทม.ก็มีจำนวนมากด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะหมาเร่ร่อนไร้เจ้าของที่พบเห็นได้แทบทุกตรอกซอกซอย ปัญหาสุนัขจรจัดส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความไม่รับผิดชอบของ “คน” เพราะมีสุนัขจำนวนไม่น้อยที่ถูกซื้อหามาเลี้ยงดูในวัยเด็ก แต่เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ ความน่ารักของหมาน้อยลดลงก็นำไปปล่อยทิ้ง ให้ไปใช้ชีวิตเป็นหมาข้างถนน...อนิจจาสงสารหมาตาดำๆ จากการสำรวจเบื้องต้นของ กทม.พบว่าในพื้นที่เมืองหลวงมีสุนัขจรจัดอยู่มากถึง 1.2 แสนตัว โดยสำนักอนามัย กทม.ได้ทำหมันสุนัขกลุ่มนี้ไปแล้ว 80,000 ตัว ซึ่ง กทม.พยายามที่จะลดจำนวนสุนัขจรจัดโดยการทำหมันและปล่อยกลับถิ่นเดิม โดยไม่มีนโยบายกำจัดสุนัขด้วยการ “ฆ่าทิ้ง” เพราะมันดูใจไม้ไส้ระกำจนเกินไป
สำหรับสุนัขที่มีนิสัยก้าวร้าวดุร้าย กทม.จะนำไปดูแลที่ศูนย์ควบคุมสุนัขประเวศ ซึ่งปัจจุบันมีสุนัขอยู่ที่ศูนย์ควบคุมดังกล่าว 1,500 ตัว แต่เนื่องจากจำนวนสุนัขจรจัดที่มีจำนวนมาก ทำให้ กทม.ต้องหาพื้นที่รองรับสุนัขไร้เจ้าของเหล่านี้เพิ่มเติม โดยมีโครงการจัดสร้างที่พักพิงสุนัขในต่างจังหวัดขึ้นอีกแห่ง ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านโคกหม้อ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี บนเนื้อที่ประมาณ 1,400 ไร่ ท่ามกลางการโอบล้อมของขุนเขาและห่างไกลจากแหล่งชุมชนของผู้คน
       
       โครงการบ้านกึ่งวิถีสุนัขมีแผนการก่อสร้างคอกสุนัขรวมขนาด 500 ตัว ซึ่งก่อสร้างเป็นอาคาร 5 เหลี่ยม อากาศถ่ายเทได้สะดวก แสงแดดส่องถึง และมีส่วนที่เป็นพื้นดินให้สุนัขได้วิ่งเล่นตามธรรมชาติของน้องหมาที่ต้องขุดดินขุดทรายบ้าง อาคาร 5 เหลี่ยมนี้ถูกซอยเป็นคอกสุนัข 5 คอก แต่ละคอกสามารถให้น้องตูบอยู่รวมกันได้คอกละ 100 ตัว ในระยะที่ 1 ก่อสร้างจำนวน 2 อาคาร และระยะที่ 2 อีกจำนวน 14 อาคาร คอกสุนัขเดี่ยว 3 หลัง รวมไปถึงการก่อสร้างคลินิกรักษาสุนัข ลานแสดงสุนัข อาคารหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ตลอดจนบ้านพักสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่อยู่ในโครงการดังกล่าวด้วย โดยคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม 2548
พ่อเมืองของคนกรุง “อภิรักษ์ เกษะโยธิน” ได้เดินทางไปติดตามการก่อสร้างโครงการ “บ้านกึ่งวิถีสุนัข” เมื่อเร็วๆ นี้ โดยเปิดเผยแผนการใช้บ้านกึ่งวิถีสุนัขว่า หากการก่อสร้างในระยะที่ 1 เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะสามารถรองรับสุนัขจรจัดได้ประมาณ 1,000 ตัว และเมื่อการก่อสร้างระยะที่ 2 เสร็จสิ้นจะรองรับสุนัขจรจัดได้อีก 7,000 ตัว ซึ่งหลังจากนั้นจะเป็นการก่อสร้างส่วนเพิ่มเติมอีก 200 ไร่ในช่วงปี 2549 ซึ่งในส่วนนี้จะรองรับสุนัขจรจัดได้อีกประมาณ 80,000 ตัว โดยวางเป้าหมายไว้ในระยะเวลา 10 ปี บ้านกึ่งวิถีสุนัขจะรองรับการพักพิงของสุนัขได้เกือบ 90,000 ตัวทีเดียว
       
       “เราไม่ได้เอาภาระของคนกรุงเทพฯ มาทิ้งให้กับประชาชนในต่างจังหวัด เพราะกรุงเทพมหานครได้คำนึงถึงสภาพแวดล้อมทั้งเรื่องกลิ่นและเสียง โดยจะมีระบบบำบัดน้ำเสียและการกำจัดมูลสัตว์ ซากสัตว์อย่างเป็นระบบ นอกจากนี้พื้นที่ของโครงการก็ตั้งอยู่ไกลแหล่งชุมชน ท่ามกลางธรรมชาติที่เป็นภูเขาสามารถดูดซับเสียงได้เป็นอย่างดีอีกด้วย และ กทม.จะประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยฝึกสุนัข
       รวมทั้งจะพัฒนาบ้านกึ่งวิถีสุนัขเป็นแหล่งท่องเที่ยวของคนรักสัตว์ โดยจะมีสถานที่สำหรับฝึกและแสดงสุนัข และเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ต้องการเลี้ยงสุนัขสามารถขอสุนัขที่ กทม.ดูแลไปเลี้ยงได้ ขณะที่ศูนย์จำหน่ายสินค้า 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ ก็จะนำสินค้าของคนในท้องที่มาจำหน่าย โดยจะเน้นไปที่สินค้าซึ่งเกี่ยวข้องกับสุนัขเป็นหลัก ขณะเดียวกันคลินิกสุนัขก็จะเปิดให้บริการสำหรับสุนัขเลี้ยงของชาวบ้านโดยทั่วไปด้วยเช่นกัน ซึ่งพื้นที่บ้านกึ่งวิถีสุนัขนี้จะเป็นพิพิธภัณฑ์และแหล่งรวบรวมข้อมูลเรื่องสุนัขไว้ด้วย”
       
       เรียกว่าชาวอุทัยมีแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่เพิ่มขึ้นอีกแห่งทันที เพราะเป้าหมายที่วางไว้นั้น ต้องการให้ประชาชนเข้ามาเที่ยวชมเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ โดยจะจัดลานการแสดงสุนัข เทศกาลประจำปีและมหกรรมสุนัขในบางช่วงเวลา และเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ กทม.ก็จะกราบบังคมทูลขอพระราชทานชื่อบ้านกึ่งวิถีสุนัขจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่พระราชทานทุนทรัพย์ส่วนหนึ่งให้กับ กทม.ในการแก้ไขปัญหาสุนัขจรจัดด้วย
สำหรับขั้นตอนการรับสุนัขเข้ามาพักพิงที่บ้านกึ่งวิถีใน อ.ทัพทัน นั้น หมาเร่ร่อนที่ทาง กทม.จับมาได้จะถูกทำหมัน ฉีดวัคซีน รักษาโรค กำจัดเห็บหมัด ถ่ายพยาธิ ทำเครื่องหมายและบันทึกประวัติ รวมทั้งปรับพฤติกรรมให้ลดความก้าวร้าวดุร้ายที่ศูนย์ควบคุมสุนัขประเวศก่อนระยะหนึ่ง จากนั้นจึงจะเคลื่อนย้ายเข้าสู่บ้านพักพิงเพื่อฝึกและปรับพฤติกรรมให้เหมาะสมต่อการรับไปอุปการะต่อไป โดยคาดว่าจะสามารถส่งสุนัขให้กับผู้มีความประสงค์จะรับน้องหมาไปอุปการะได้ปีละประมาณ 1,000 ตัว
       
       ส่วนอาหารที่จะนำมาใช้เลี้ยงสุนัขนั้น จะใช้ทั้งอาหารสำเร็จรูปและข้าวหุงสุก ซึ่งจะสามารถรับซื้อข้าวสารจากเกษตรกรเป็นการสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ทางหนึ่งด้วย โดยทั้งอาหารสำเร็จรูปและข้าวหุงสุก 250-300 กิโลกรัมจะสามารถเลี้ยงสุนัขได้ประมาณ 1,000 ตัว ซึ่งการให้อาหารสุนัขจะให้วันละ 1 มื้อเท่านั้น
       
       สำหรับแผนการแก้ปัญหาสุนัขจรจัดระยะยาว ผู้ว่า กทม.วางเอาไว้ว่า หากในอนาคตไม่มีสุนัขจรจัดเข้ามาเพิ่มเติมจำนวนของสุนัขไร้บ้านก็จะค่อยๆ ลดลงและหมดไปในที่สุด ซึ่ง กทม.กำลังเร่งออกข้อบัญญัติการเลี้ยง การควบคุมและการปล่อยสุนัข โดยกำหนดให้เจ้าของสุนัขจะต้องนำสุนัขที่อยู่ในความดูแลไปลงทะเบียนเพื่อทำประวัติและฉีดวัคซีนป้องกันโรค ซึ่งในอนาคตหากมีการนำสุนัขไปปล่อยก็จะสามารถตรวจสอบไปถึงเจ้าของได้ และจะมีบทลงโทษด้วยการให้เจ้าของเสียค่าปรับ ขณะเดียวกันก็ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนด้วยว่าการเลี้ยงสัตว์ต้องมีความรับผิดชอบ เพราะการปล่อยสุนัขออกมาเร่ร่อนนั้นอาจจะก่อให้เกิดโรคต่างๆ ติดต่อมาสู่คนได้
       
       ใครที่คิดจะเลี้ยงหรือเลี้ยงเจ้าหูตูบอยู่แล้ว ก็ขอให้รักและเอาใจใส่อย่างจริงจัง เพราะแม้จะเป็นแค่สัตว์เลี้ยงแต่เจ้าสี่ขาก็มีหัวใจ ไม่ใช่แค่เอ็นดูเฉพาะตอนเป็นลูกหมา พอโตขึ้นเป็นหมาใหญ่ก็ละเลยไม่ดูแล ผลักไสให้ต้องกลายมาเป็นภาระของสังคม ไม่ละอายแก่ใจก็ขอให้อายหมามันบ้างก็ยังดี
http://www.manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9480000073581

โดย Pingpong \(-_-)/ - Wednesday, 1 June 2005, 09:27AM
 

เพื่อนๆคงพอจะจำกันได้บ้างเรื่องสุนัขบางแก้วที่ไปกัดลูกเจ้าของตัวเอง   ทำให้เจ้าของสุนัขโกรธมากจะนำสุนัขไปทำให้หลับ   แต่โชคยังช่วยทำไม่ลงเลยกะว่าจะตัดหูด้านที่มีหมายเลขประจำตัวออกแล้วปล่อยไปตามบุญกรรม แต่ก็ยังไม่ได้ทำเพื่อนๆในห้องเชพเพอดรวมทั้งห้องจตุจักรได้ไปทำการช่วยเหลือสุนัขเอาไว้ทันท่วงที่ แล้วนำไปฝากไว้ที่บ้านพักนิรมลเพื่อแก้ไขพฤติกรรมสุนัขในเรื่องที่ดุเกินเหตุ ในเวลานี้สุนัขตัวนี้ที่ได้รับการเปลี่ยนชื่อใหม่จาก (ตาล) มาเป็นชื่อแก้ว (ย่อจากบางแก้วแต่ตัดคำว่าบางออก) เพื่อให้สุนัขจำชื่อใหม่ตัวเองได้ง่าย
http://www.bangkaew.com/elearning/file.php/1/moddata/forum/1/4853/DSC00631x.JPG
รูปจากกระทู้ http://www.bangkaew.com/elearning/mod/forum/discuss.php?d=581 

* บัดนี้บ้านพักนิรมลร่วมกับป้าวิและชาวบางแก้ว ภูมิใจนำเสนอ ...*

สุนัขเพศผู้ มีนิสัยดี มีชาติตระกูล(บางแก้วมีเพ็ดตกยาก) สีขาวน้ำตาล หุ่นดีขี้เล่น(ไม่ดุแล้วคับ) ไม่ชอบอาหารเม็ด นิยมดิบๆ ชอบใช้ชีวิตง่ายๆ แบบลูกทุ่งสนามกว้างๆ
ขี้อ้อนเป็นบ้างเล็กน้อย
ชอบการเกาท้อง
งานอดิเรก ชอบเล่นน้ำเป็นชีวิตจิตใจ
สิ่งที่ไม่ชอบ เกลียดการถูกขังที่สุด
สิ่งที่เกลียดกลัว ไม้ยาวๆ เงื้อทำท่าตี,กะละมังเคาะเสียงดัง

ขอฝากผู้ที่กำลังมองหาเพื่อนแท้ที่จะอยู่คู่กันตลอดชีวิต รับรองท่านจะได้เพื่อนแท้ที่ซื่อสัตย์จนวันตายแน่นอน...
ติดต่อ ขอดูตัวกันได้ที่ 06-6093415
ไม่มีค่าใช้จ่ายๆ ใดๆทั้งสิ้น
http://www.pantown.com/board.php?id=322&name=board1&topic=761&action=view


โดย Pingpong \(-_-)/ - Sunday, 29 May 2005, 07:19AM
 
ขุมทองบางแก้วเพศเมียที่บ้านพักสัตว์เลี้ยงนิรมลเป็นไงบ้างครับ
   puppypuppy อายุ 2 ปีกว่าๆไม่รู้ว่ามีใครเอาไปเลี้ยงยังครับ puppypuppy

โดย: ต้น [27 พ.ค. 48 21:41] ( IP A:202.57.171.175 X: )
http://www.pantown.com/board.php?id=714&name=board1&topic=108&action=view

โดย Pingpong \(-_-)/ - Friday, 20 May 2005, 05:09AM
  Vaccine Should Protect Dogs
Tulsa World, May 14, 2005

by DENISE FLAIM Newsday


At first glance, it sounds like an epidemic.

Last year, 120 shelter dogs in Chicago died of canine distemper. The usually
fatal viral disorder also hit Los Angeles, Miami, Phoenix, Atlanta, Dallas
and Washington state.

Last month New York City's Animal Care & Control issued a news release
headlined "Protect Your Pets, New York" urging owners to "fully immunize"
their animals. And just last week, shelter officials confirmed a distemper
case in a dog that had reportedly been vaccinated.

But before you speed-dial your vet to schedule a distemper booster, listen
to vet Ronald Schultz, chairman of pathobiological sciences at the
University of Wisconsin School of Veterinary Medicine at Madison, who has
been studying the efficacy of canine vaccines since the 1970s.

"The idea that outbreaks occurred as a result of owners inadequately
vaccinating their dogs really is not the case at all," says Schultz, who was
part of a task force studying the Chicago outbreak. "If a dog was
effectively vaccinated as a puppy, and very certainly if it was ever
vaccinated at a year old, it is immune for life."

Schultz adds that the majority of the sick Chicago dogs had never been
vaccinated.

By contrast, he says, "the vaccinated pet population in Chicago never had
any problem."

Distemper was the leading cause of death among dogs until the 1950s, when a
vaccine was introduced. Until recently, it has been considered an "old"
disease -- not quite eradicated, but generally under control, with shelters
normally seeing only a handful of cases.

Schultz notes that today, canine distemper is still prevalent among
wildlife, including raccoons, coyotes and foxes. That is likely how the
Chicago outbreak began, he adds: Vehicles used to transport stray dogs had
previously picked up infected raccoons, providing a point of transmission.

With the distemper vaccine, Schultz says, one jab will do you -- provided
the shot imparts immunity. That can be gauged with a titer, a blood test
that measures antibody levels.

Puppies are trickier. During their first weeks of life, they are protected
by maternal antibodies from their mothers. Vaccinating too early can result
in those antibodies interfering with the vaccine, leaving the puppy more
vulnerable than before.

And the age at which maternal immunity fades varies from puppy to puppy.
Schultz says that at 6 weeks, about half of puppies no longer have maternal
immunity; at 9 weeks, it's about 75 percent; and at 12 weeks, about 90
percent. Given those odds, he recommends keeping a puppy relatively isolated
until 12 weeks, then vaccinating. Several weeks later, owners should titer,
and, if the puppy has inadequate antibody levels, revaccinate.

Ed Boks, executive director of New York City's Animal Care & Control, says
that, in shelters, mass vaccination is crucial for avoiding outbreaks.

"Veterinarians in general don't know much about vaccines, and they know less
about immunology," he says.

(C) 2005 Tulsa World. via ProQuest Information and Learning Company; All
Rights Reserved

โดย Pingpong \(-_-)/ - Wednesday, 18 May 2005, 04:56AM
 

สงกรานต์นี้ พาลูกสาวไปหลบร้อน เปิดหูเปิดตาที่สิงคโปร์มา

ส่วนปิงปอง(ลูกหมา)ปล่อยให้อยู่เป็นเพื่อนอาม่าที่บ้าน

ได้แง่คิดมาหลายอย่าง ทั้งเรื่องคน เรื่องหมา เลยขออนุญาตนำมาฝากกัน

เล่าอยู่ห้อง Blue Planet  ตามไปอ่านได้ที่
http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/
E3418763/E3418763.html

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E3418763/E3418763-4.jpg


หน้า: (หน้าก่อน)  1 ...  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26 ...29   (ต่อไป)