ตอนที่ 5 ห่วงใย สงสาร(เจ้าตัวยุ่ง) ............. พออายุ 3 เดือน เป็นช่วงที่เจ้าตัวยุ่งต้องรับวัคซีนหลายตัวเพื่อป้องกันสารพัดโรค แต่ละตัวสัตวแพทย์เค้าจะเว้นระยะห่างการฉีดดังนี้ วันที่ 7 มกราคม 2547 พาเค้าไปฉีดวัคซีนเข็มแรกเพื่อป้องกันโรคหัด / ตับอักเสบ / เลปโตฯ โดยสัตวแพทย์หญิงท่านหนึ่งย่าน... พอเราอุ้มเจ้าตัวยุ่งเข้าคลีนิค ทุกคนจะมองเจ้าตัวยุ่งมาก เพราะในเวลานั้นมีแต่หมาพันธุ์เล็กที่ดูน่ารัก ... ของเราก็น่ารักแต่หน้าลักไปเก็บเพราะไม่เป็นที่สบอารมณ์ของเจ้าของหมาท่านอื่นๆ พอเห็นว่าหมาเราเป็นพันธุ์"ดุ"เค้าก็อุ้มหมาเค้าหลบไป การที่หมาเจอหมาด้วยกันก็เป็นธรรมดาที่มันต้องเห่าใส่กันบ้าง (ไอ้เราเพิ่งเลี้ยงยังเข้าใจเลย) เค้าแสดงอาการออกชัดมากว่าไม่อยากยุ่งทั้งคนทั้งหมา (แหมไม่อยากจะใช้คำว่ารังเกียจเลยนะเนี่ย แต่ก็ไม่เป็นไรเข้าใจค่ะ) หมาเราก็อยู่ในสายจูงนะไม่คิดจะสร้างปัญหาให้ตัวเองหรอกกลัวไปได้ โธ่... เมื่อถึงคิวของเจ้าตัวยุ่งสัตวแพทย์ท่านนั้น เดินเข้ามาทักทายเจ้านายกับเจ้าตัวยุ่ง อาการของเค้าแสดงออกเห็นได้ชัดมากว่า "เกรง" เค้าถามเราว่า อ้าว...บางแก้วเหรอ ชื่ออะไรละ อายุเท่าไหร่ เค้าก็พยามทำความรู้จักกับเจ้าตัวยุ่ง แต่อาการเค้ายังดูเหมือนกล้าๆกลัวๆเจ้าตัวยุ่งอยู่ ตอนที่เจ้าตัวยุ่งอยู่บนเตียงหมอมายืนคุยถามโน้นถามนี้ไม่มีการเห่าหรือขู่เลยแต่พอหมอออกอาการกลัวๆกล้าๆ(เหมือนเราเลย) เค้ายื่นมือมาแบบไม่มั่นใจว่าเราจะจับหมาเราอยู่มั๊ย ไม่ค่อยกล้าฉีดยาให้เจ้าตัวยุ่ง ตอนนั้นแหละที่เจ้าตัวยุ่งเริ่มขู่ แต่ไม่มาก ฉีดยาเสร็จพากลับบ้านพร้อมยาถ่ายพยาธิครึ่งเม็ด หมอบอกว่าหมาที่ฉีดวัคซีนภายใน 3 วันห้ามอาบน้ำแต่เช็ดตัวได้นะค่ะ การกินยาของเจ้าตัวยุ่ง เจ้านายก็ให้เป็นหน้าที่เรา(อีกแล้ว) เราเป็นคนป้อนยาเค้าเองโดยจับเค้าอ้าปากตั้งคอตรงๆหย่อนยาลงให้ลึกที่สุด ...อ้าว..เราทำได้ไงเนี่ย แถมไม่ยากเลย.. (ดีใจๆ) 10 วันต่อมา (17 มกราคม 2547) หมอนัดให้เจ้าตัวยุ่งไปฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 เพื่อป้องกันโรคหลอดลมอักเสบกับสัตวแพทย์คนเดิม ก่อนไปเราหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าการพาหมาไปหาหมอทำอย่างไงไม่ให้หมาตื่นกลัว เราก็นำมาปฏิบัติตาม โดยการคุยกับเค้าตลอดทางที่มาคลีนิคบอกเค้า กอดเค้า ลูบตัวเค้า (พูดมากๆ) พอมาถึงอาการเจ้าตัวยุ่งยังตื่นอยู่มากหางตก ยื่นเบียดกับเจ้าของ เจอหมาตัวอื่นมีเห่าแต่ไม่ขู่ พอถึงคิวเรียกเจ้าตัวย่ง ดูหมอเค้ากล้ามากขึ้นเพราะเจ้าตัวยุ่งไม่ขู่หมอคนนี้เลย ยอมให้ฉีดวัคซีนแต่โดยดี แถมฉีดวัคซีนเสร็จเจ้าตัวยุ่งมันอ้อนเราต่อหน้าหมออีกนะ หมอยังแซวอีกว่า อ้อนแม่โชว์หมอเสียแล้ว หมั่นไส้จริงๆ วันนั้นเราดีใจมากที่เจ้าตัวยุ่งปรับตัวกับสถานที่ได้ ถึงจะไม่ดีมากก็ตาม และจะด้วยสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ ดูเจ้าตัวยุ่งยังคึกคักอยู่เหมือนไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองโดนฉีดวัคซีนเลย กลับถึงบ้านยาคงเริ่มออกฤทธิ์ เจ้าตัวยุ่งดูเพลียๆ นอนตลอดบ่ายวันนั้น ตื่นมาก็เป็นปีศาจตัวน้อยๆเหมือนเดิม วันที่ 27 มกราคม 2547 การเปลี่ยนของเจ้าตัวยุ่งในการไปหาหมอเริ่มเกิดขึ้น การมาครั้งนี้เพื่อมารับวัคซีนป้องกันโรคหัด / ตับอักเสบ / โรคลำไส้อักเสบ และโรคพิษสุกนัขบ้า ขณะที่เดินทางไปที่คลีนิคเราก็ทำเหมือนครั้งที่แล้วเพื่อไม่ให้เจ้าตัวยุ่งตื่นกลัวมาก ปรากฏว่าเมื่อไปถึงอาการตื่นของเจ้าตัวยุ่งดูดีกว่าครั้งที่แล้วไม่ขัดขืนมาก และเมื่อถึงคิวเจ้าตัวยุ่งที่ต้องไปรับวัคซีน อ้าว .. คุณ..ไม่ใช่หมอคนเดิม จะเป็นอะไรมั๊ยเนี่ย คราวนี้เป็นสัตวแพทย์ผู้ชาย ที่ดู(เหมือน)จะไม่กลัวบางแก้ว แต่ที่ไหนได้เดินมาไม่พูดไม่ทักทายกะจะมาฉีดให้เสร็จๆ แล้วกลับไป เจ้าตัวยุ่งเห็นคนนี้เดินเข้ามามันเริ่มขู่เค้า และขู่มากขึ้น จนจะฉีดวัคซีนแล้วเจ้าตัวยุ่งก็จะไม่ยอม เจ้านายจับก็ไม่ยอม จนต้องใช้ผู้ช่วยเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งมาช่วยจับ ผู้ช่วยคนนั้นก็ทำอย่างที่หมอทำ (ทำไมนะไม่มีจิตวิทยาการบ้าง(ว่ะ)) คือไม่พูดพร่ำทำเพลงเดินจะเข้ามาจับ เจ้าตัวยุ่งก็จะไม่ยอมให้จับตัว หันไปจะงับมือเค้าเจ้านายยื่นมือเข้าไปเพื่อดึงคอเข้า(ต้องการจะห้าม) เลยโดนลูกหลงไป 1 แผลที่นิ้ว ไม่ลึกมากไม่ถึง 1 มิล แล้วเสียงก็ไม่ใช่ค่อยๆ หมอก็ตกใจ หน้าซึดเป็นไก่ต้มเลย คงคิดในใจว่าดีนะที่ไม่ใช่นิ้วกรู ... การฉีดวัคซีนครั้งนั้นทำให้สัตวแพทย์ในคลีนิคไม่กล้าที่จะมาเข้ามารักษาเจ้าตัวยุ่งแล้ว และด้วยที่ว่าจะต้องมาฉีดเพื่อป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในอาทิตย์ถัดไป สัตวแพทย์ท่านนั้นก็เลยบอกว่าวันนี้ฉีดไปเลยแล้วกันจะได้ไม่ต้องมาอาทิตย์ถัดไปให้เสียเวลา อ้าวหมอบอกอย่างนี้นี้หว่า ไอ้เราชาวบ้านจะไปรู้อะไรเค้าว่าไงเราก็ว่าตาม ฉีดก็ฉีด คราวนี้เจ้าตัวยุ่งก็ดิ้นจะไม่ยอมอีก หมอก็เริ่มออกอาการกลัวๆกล้าๆ เค้าเกี่ยงกันต่อหน้าเราที่จะเข้ามาฉีดวัคซีนตัวนี้ เพราะว่าวัคซีนนี้ต้องฉีด 2 เข็ม เค้ากลัวว่าเราจะจับไม่อยู่มันจะหันมางับเค้า(มั่ง) โธ่.. หมา 3 เดือนกลัวอะไรกัน เจ้าของก็อยู่ (เดี๋ยวก็ปล่อยมันเสียจริงๆหรอก) พอเราอุ้มเจ้าตัวยุ่งมาจากเตียง เจ้าของหมาน้อยท่านอื่นๆที่รอคิวรักษาต่างพากันอุ้มหมาน้อยของตัวเองกันเสียฉิบ.. เพราะวีรกรรมหมาของฉัน ตั้งแต่นั้นมาความรู้สึกของเจ้าตัวยุ่งเมื่อเวลาไปถึงบริเวณคลีนิค เค้าจะขืนตัวไม่ยอมเข้า เข้าไปก็ไปเห่า เราคุยกับใครไม่ได้เลยเป็นเห่าไปหมด เห่าหมาทุกตัวที่เข้ามาในร้าน (แต่ไม่มีขู่) จนบางครั้งต้องอุ้ม หรือไม่ก็พาไปเดินข้างนอก หลังจากลับไปหาหมอแต่ละครั้ง เราสงสารเจ้าตัวยุ่งจับใจจริงๆ นี้เค้าจะไม่มีคนที่ไม่ต้องการเค้าเลยเหรอ มีแต่คนที่เห็นแล้วหลบ ไม่ยุ่งด้วยทั้งนั้น บางแก้วนี้มันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ (เกิดคำถามซ้ำๆหลายเรื่องในใจเรา) จากวันนั้นเราก็เริ่มที่จะเล่นกับเจ้าตัวยุ่งมากขึ้นโดยที่ไม่ต้องรอให้เจ้านายบอกว่าว่ามาเล่นกับมันบ้างสิ เราสงสารเค้าอย่างบอกไม่ถูก เราเข้าใจความรู้สึกดีว่าการอยู่คนเดียวมันเหงา มันโดดเดี่ยวขนาดไหน ขนาดคนนานๆเข้ายังเครียด แล้วหมามันจะมีความรู้สึกมั๊ยหนอ ... หมาแถวบ้านเจ้าของก็ไม่ให้เจ้าตัวยุ่งเล่นด้วย เค้าเคยพูดกับเราตรงๆว่า "หมาบางแก้วดุ กัดเจ้าของ กัดหมาด้วยกันตายมาแล้ว พี่ไม่กล้าปล่อยให้เล่นด้วยหรอกนะ แล้วนี้เคยกัดใครบ้างหรือยังละ" ... ปัทโธ่.. นึกถึงภาพเหล่านั้นแล้วน่าสงสารเหลือเกิน เห็นหมาตัวอื่นเล่นกัน เจ้าตัวยุ่งก็วิ่งไปเกาะรั้วไปยืนดูเค้า ร้องทำเสียงเหมือนอยากจะไปเล่นกับเค้าด้วย วิ่งไปวิ่งมา ไม่เห่าไม่ขู่เค้า เชื่อมั๊ยว่าเรานั่งร้องไห้นะ ไม่รู้สิ อธิบายความรู้สึกตอนนั้นยากจัง (บ้าหรือเปล่าว่ะเรา) .... คราวนี้ละนายหญิงจะเป็นเพื่อนเจ้าเองเจ้าตัวยุ่ง เจ้ายังมีนายหญิงกับเจ้านายเสมอ หมาน้อยของฉัน ... |