นิวัต เจริญชล

หน้า:  1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18 ...210   (ต่อไป)
โดย นิวัต เจริญชล - Friday, 2 March 2007, 03:42PM
 
แนะนำให้กั้นบริเวณที่อยากให้หมาวิ่งเล่น กะบริเวณที่ไม่อนุญาตให้วิ่งเล่น ออกจากกัน อย่างเด็ดขาด ก็จะแก้ปัญหาได้...ดังรูปตัวอย่างของที่บ้านผมนะครับ


โดย นิวัต เจริญชล - Monday, 12 February 2007, 03:00PM
  เรื่องสำคัญเรื่องที่สอง คือต้องพยายามให้เขากินให้ได้ เพราะการที่เขาจะสร้างภูมิได้นั้น ร่างกายของเขาจะต้องแข็งแรงก่อน การที่ร่างกายจะแข็งแรงได้ เขาก็จะต้องกินให้ได้ก่อนนั่นเอง

อาการในช่วงนี้ อาหารที่ให้เขานั้นจะเป็นอาหารปกติไม่ได้ เพราะเขาจะอาเจียนออกมา แม้ว่าเราจะป้อนโดยการยัด แล้วให้เขากลืนก็ตาม อาหารที่ต้องให้เขาช่วงนี้จะต้องเป็นอาหารอ่อน อาหารประเภทที่ร่างกายของเขาสามารถดูดซึมไปใช้ได้ง่าย เป็นประโยชน์ในการสร้างภูมิ และที่สำคัญคือย่อยง่าย และพยายามให้เขากินน้ำให้มากๆ

ให้พวกที่มีส่วนผสมของเบต้าแคโรทีนสูง เช่น ฟักทองนึ่ง แครอทนึ่งบดละเอียด ผสมน้ำซุป ค่อยๆป้อน - ผสมน้ำผึ้ง และ แบรนด์ ซุปไก่สกัด เข้าไปด้วย หรือจะใช้แบรนด์ ใส่ไซลิ้งป้อนต่างหากก็ได้

ถ้าใส่ช้อนป้อนเขาไม่ได้ ก็ให้ใช้ไซลิ้งดูดอาหารอ่อนที่ผสมไว้ แล้วฉีดเข้าข้างปากเขา เช่นเดียวกับการป้อนยาน้ำนั่นแหละครับ เราอาจจะดูดน้ำหวานเพิ่มเข้าไปเล็กน้อยก่อนจะฉีดเข้าปากเขา

ควรให้ไข่ไก่สด เอาเฉพาะไข่แดงนะครับ เพราะไข่ขาวมันจะกระตุ้นให้อาเจียน เพราะสารอาหารในไข่แดงนั้นเป็นประโยชน์ต่อสุนัข และสามารถย่อยได้ง่าย...

อาหารประเภทนม ข้าว ข้าวต้ม โจ๊ก นั้นงดไปเลย เพราะย่อยยากสำหรับกระเพาะหมา ถ้าอยากให้นมควรให้อาหารประเภทโยเกริตแทนดีกว่า

ที่ถามถึงอาหารที่มีโปรตีนสูงนั้น ขอแนะนำให้ใช้แบรนเนอร์ โปรตีน ชนิดที่เป็นแคปซูล ให้เอาเข็มเจาะที่แคปซูลแล้วบีบเอาเนื้อที่เป็นโปรตีนสกัดเข้มข้นออกมา รีดใส่ปากเขาไปเลย หรือถ้าเขาเลียกินเจลได้ให้ผสมกับเจลไปเลยก็ดีครับ (เอาเจล ผสมกับโปรตีนสกัดไปป้ายที่บริเวณใต้จมูกเขาน่ะครับ เขาจะได้กลิ่นและเลียกินจนหมดเอง)

เมื่อเขาทานอาหารได้สม่ำเสมอแล้ว เราจะเห็นอาการเขาขึ้นๆลงๆ เช้าขึ้น เย็นลง เพราะภูมิที่สร้างขึ้นกำลังต่อสู้กับเชื้อไวรัส ช่วงนี้เรามีหน้าที่ส่งกำลังใจ และกำลังสนับสนุน คืออาหาร บำรุงให้เขาอย่างเต็มที่ ห้ามท้อถอยเด็ดขาด เพราะเขาจะสู้ได้หรือไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณเพียงคนเดียว - หมออาจจะช่วยส่งกำลังสนับสนุนได้ด้วยการอัดสารอาหารเข้าเส้นเลือดโดยตรง แต่อย่าให้ทางเส้นเลือดตลอด เพราะระบบย่อยเขาจะเสียไปเลยได้ ต้องช่วยประคับประคอง สลับกันไป เมื่อเห็นว่าทรุดลงก็ต้องพึ่งการฉีดเข้าเส้นเลือดโดยตรง

อ้อ ให้ วิตามินบีรวม เช่น B-Complex อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ร่างกายเขาซ่อมแซม ส่วนของประสาทที่สามารถซ่อมแซม หรือสร้างใหม่ได้ ขึ้นมาได้ และระวังอย่าให้ไข้ขึ้นสูงเด็ดขาด ถ้ามีไข้ต้องให้ยาลดไข้ มิฉะนั้นเขาจะชัก การชักเนื่องจากไข้ขึ้นสูงนั้น จะทำให้เชื้อเข้าสู่สมอง และประสาทของเขาจะถูกทำลายมากขึ้น

พยายามให้เต็มที่นะครับ เอาใจช่วยทั้งเจ้าของ และสุนัขครับ

โดย นิวัต เจริญชล - Monday, 12 February 2007, 02:16PM
  ขออนุญาตให้คำแนะนำ ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันดังนี้นะครับ

เรื่องกำลังใจ เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ณ ตอนนี้ อันดับแรกเจ้าของเองจะต้องมีกำลังใจที่ดีเยี่ยมก่อน อย่าเพิ่งท้อแท้ อย่าเพิ่งทำใจ มันจะทำให้เราท้อและไม่ทำอะไรให้มันสุดๆเท่าที่ทำได้เพื่อเขา

เมื่อคราวที่ผมทราบว่าหนูจ๋า ของผมเป็นหัดระยะสุดท้าย เชื้อเข้าถึงประสาท และกระตุกแล้ว หมอก็แจ้งผมว่าให้ทำใจ แต่ผมก็ไม่เคยท้อแท้

ป้าวิ เคยให้แนะนำผมว่า "เคยมีหมาของหลานตัวนึงเป็นค้อกเก้อร์ แกก็กระตุกแล้ว แต่รักษาจนหายแล้วก็ยังกระตุกอยู่จนแก่ตายอายุสิบกว่าขวบ แต่ไม่กระตุกตลอดเวลา จะเป็นๆหายๆ ฉลาดมากเหมือนเดิม เขาสอนให้หยิบของให้ได้นะคะ ขนาดกระตุกๆงั้น หยิบแว่น หยิบกุญแจ"

เมื่อกำลังใจของเจ้าของดีเยี่ยมแล้ว ก็จะส่งผลผ่านการสัมผัสทางกาย ทางจิตระหว่างเจ้าของกับสุนัขให้กำลังใจกันและกัน คุณและเขาจะรู้สึกได้เอง การช่วยกระตุ้นเขาบ้างนิดๆหน่อยๆ แบบถูเนื้อถูตัว หรือเกาแรงๆ ตรงที่เขาเคยชอบ ครั้งละเล้กละน้อย ทำให้เขารู้สึกตื่นตัวและนึกถึงเรื่องที่เคยเล่นสนุกกัน

และถ้าเขาไม่ขัดขืน ก็อุ้มแกไว้แนบอกบ่อยๆเท่าที่ทำได้ หรือเอาฝ่ามือเราแนบกับหัวใจเขาไว้ แล้วทำจิตใจให้สงบ อย่าคิดเรื่องอะไรทั้งสิ้น คิดแต่ภาพที่แกร่าเริง แข็งแรงที่เคยเป็นมา กอดแกมากๆ สำคัญมากที่เราต้องสงบและมีกำลังใจดี เขาจะรับรู้ได้...ตอนนี้กำลังใจของเขาสำคัญที่สุด

ให้เขารู้สึกว่าเราอยู่กับเขาแทบทุกเวลา เขาไม่ได้อยู่อย่างเดียวดาย เวลาเราอยู่ก็คอยลูบหัว ลูบตัวเขา อุ้มมานอนตัก พูดคุยกับเขาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน ถ้าเราไม่ได้อยู่เช่นเวลาออกไปข้างนอก ก็เอาเสื้อผ้าของเราที่มีกลิ่นของเรา (ไม่ต้องซัก) เอามารองให้เขานอน เวลาตื่นขึ้นมาเขาก็จะได้กลิ่นของเรา ไม่เคว้งคว้าง และเอามาแขวนในบริเวณที่ใกล้ๆกับที่เขาจะเดินไปเดินมา แม้ว่าประสาทสัมผัสบางส่วนเขาจะถูกทำลาย แต่เขาก็จะพัฒนาประสาทส่วนอื่นมาใช้งานแทน เช่นถ้าตามองไม่เห็น เขาก็จะใช้กลิ่น ร่วมกับประสาทการได้ยินเข้ามาแทน ต้องหมั่นเรียกชื่อเขาบ่อยๆ ให้เขารู้สึกว่าเราอยู่ใกล้ๆกับเขา...

ในทุกๆวัน พยายามให้เขาได้รับอากาศบริสุทธิ์ ยามเช้า นอนรับแสงแดดอ่อนๆยามเช้า ในสถานที่ๆอากาศถ่ายเทสะดวก....จะช่วยได้มาก

ขอเป็นกำลังใจให้ทั้งเจ้าของ และสุนัขได้ผ่านพ้นไปด้วยดีนะครับ


โดย นิวัต เจริญชล - Tuesday, 6 February 2007, 01:01PM
  ขอร่วมส่งน้องเบียร์สิงห์ ข้ามสะพานสายรุ้งด้วยคนนะครับ

เมื่อวานยังหวังว่าอาการจะดีวันดีคืน เฮ้อ...วันนี้ sky so blue


โดย นิวัต เจริญชล - Monday, 5 February 2007, 12:52PM
  เป็นกำลังใจให้หายจากโรคที่เป็นอยู่โดยเร็วนะครับ...

จากประสบการณ์ที่มีหมาที่เลี้ยงในบ้าน และพาหมาของคนอื่นไปรักษาซึ่งเป็นอาการของลำไส้อักเสบ ซึ่งก็มีทั้งอายุ 3 เดือนกว่าๆ จนถึง 6-7 เดือนนั้น ยืนยันได้ว่าหมอเดี๋ยวนี้มีความเชี่ยวชาญ และทันต่ออาการของโรคอย่างสูงทีเดียวครับ จนน่าจะพูดได้ว่าถ้าถึงมือหมอเร็ว ก็สบายใจได้ - ถ้า รพส หรือคลีนิคที่ไปรักษานั้นมีกล้องจุลทรรศน์ ก็สามารถรู้ได้ทันทีว่าเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย หรือไวรัส ถ้าเป็นแบคทีเรีย ก็ใช้เวลาไม่นาน อยู่คลีนิคสักสามวัน ก็น่าจะโอเค ส่วนที่จะหนักนั้นจะเป็นเนื่องจากเชื้อไวรัส เพราะต้องอาศัยภูมิของสุนัข มาต่อสู้กับเชื้อเอง...

อ้อ คุณประภาส อย่าลืมทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรคที่บ้านบริเวณ ที่เขาอึ-ฉี่ ให้ปลอดเชื้อด้วยนะครับ เดี๋ยวเวลาเขาหายกลับมาแล้ว มาโดนเชื้อที่ยังไม่ได้ฆ่าแล้วจะกลับมาเป็นได้อีก ที่บ้านผมขนาดทำความสะอาดดีแล้ว ก็ยังมีวนๆ เวียนๆ เดี๋ยวตัวนั้นหาย ตัวนี้เป็นอีกวุ่นน่าดู กว่าจะหายหมดทุกตัว...กันไว้ก่อนครับ

หน้า:  1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18 ...210   (ต่อไป)