หมาบางแก้ว return

หน้า: (หน้าก่อน)  1 ...  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26 ...28   (ต่อไป)
โดย หมาบางแก้ว return - Friday, 10 September 2004, 06:54AM
 

“ดิงโกทั้งหลายมีบรรพบุรุษมาจาก  สุนัขเลี้ยงที่อาศัยอยู่ในภาคใต้ของประเทศไทยและประเทจีน 

ขอแก้ไขเป็น

“ดิงโกทั้งหลายมีบรรพบุรุษมาจาก  สุนัขเลี้ยงที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยและทางใต้ของประเทศจีน 

สุนัขที่ทำการวิจัย(ตัวแทนจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้)ที่มาจากประเทศเวียดนาม  เขมรและประเทศไทย  มีจำนวนทั้งสิ้น 18 ตัว

ง่วง


โดย หมาบางแก้ว return - Thursday, 9 September 2004, 01:25PM
 

"เราทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับสหาย "ขอบคุณครับ  เพราะพวกเราคือพวกสุนัขบางแก้วใช่มั้ยนายน้อย...  กระโจนรวดเร็วดั่งเจ้าตัวยุ่ง  หอนเสียงเดียวกัน(ตาเหลือกนิด ๆ)5555  สุนัขที่ใช้ทดสอบในงานวิจัยนี้เป็นสุนัขจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 21 ตัวครับ(แต่ไม่รู้มีพวกเจ้าตัวยุ่งหรือเปล่า)

กลับนิทราก่อนดีกว่า  กลางวันแสบตาจัง5555  ข้อมูลงานวิจัยชิ้นนี้ถ้าจินตนาการตาม  จะมีความหมายมากครับ  ในแง่คนไทยอยู่ที่ไหน(กันแน่ว่ะ!)  มันโยงกันไปหมดครับ  นายน้อย...ลองอ่านดูแล้วกันน่ะ

มันตรัย


โดย หมาบางแก้ว return - Thursday, 9 September 2004, 01:00PM
 

ช่างคิด เห็นด้วยกับป้าวิครับ เชพเพอดกับหมาไทย ๆ ก็ยิ่งแปลก ๆ  บางครั้งก็เล่นกันอย่างสนุกสนานเหมือนเพื่อนกัน  เคยเจอก็คือเจ้าหมาไทยพาเจ้าเชพเพอดออกเที่ยว(ท่องโลก-หนีออกจากบ้าน)  555ครื้นเครงกันน่าดู มันน่ารักดีครับ

ที่จะแปลบทความเรื่องสุนัขไทยในงานวิจัยของชาวต่างชาติ  แปลเสร็จแล้วครับพี่ลี้  ดีไม่ดีอย่างไรพี่ลี้คงต้องพิจารณา  มีปัญหาอย่างไร(ลิขสิทธิ์ ฯ) ลบได้เลยน่ะครับ  แต่คงไม่น่ามีปํญหาอะไรเพราะน่าจะอยู่ในบทความด้านการศึกษาที่น่าจะเผยแพร่ได้ ยิ้ม

ดิงโกมีบรรพบุรุษที่เป็นสุนัขเลี้ยง

รายงานโดย  Heather  Catchpole

วันที่ 3 สิงหาคม 2004     ดิงโก, สุนัขป่าของประเทศออสเตรเลีย, เป็นสุนัขที่มีบรรพบุรุษที่มาจากสุนัขเลี้ยงของเอเชีย,  ไม่ใช่เป็นสุนัขป่า(Wolf)  ตามที่มีอยู่ในรายงานวิจัยของหลาย ๆ ประเทศได้เคยได้รายงานมา

ดิงโกทั้งหมดอาจจะมาจากบรรพบุรุษที่เป็นสุนัขตัวเมียที่ตั้งท้องเพียงตัวเดียว  ที่มีชีวิตอยู่ประมาณ 5000 ปีที่แล้ว  และเดินทางมาถึงทวีปออสเตรเลียโดยทางเรือ

นักวิจัยชาวสวีเดน  Peter  Savolainen  จาก The Royal  Institute of Technology ในสตอกโฮม  ได้นำงานวิจัยของเขาและคณะ  ออกมาเผยแพร่ในหนังสือนิตยสารหรือวารสาร(ไม่แน่ใจ-ผู้แปล)  ที่ชื่อว่า  “Proceeding of National Academy of Science”

ดิงโกมองดูเหมือนสุนัขเลี้ยง  แต่มีบางสรีระและพฤติกรรมที่สำคัญ ๆ แตกต่างออกไป  ยกตัวอย่างเช่น  ดิงโกจะผสมพันธุ์เพียงปีละครั้งและมีการสื่อสารกันด้วยการหอนมากกว่าการเห่า  ดังนั้นจึงได้มีข้อถกเถียงกันว่า  ดิงโกมีความสัมพันธ์โดยใกล้ชิดกับสุนัขป่า (Wolf)  มากกว่าสุนัขเลี้ยง

การวิจัยครั้งล่าสุดนี้  ได้ทำการวิจัยเปรียบเทียบ  การเปลี่ยนแปลงของ DNA ที่อยู่ในไมโตรคอนเดรีย (mtDNA)  ในสุนัขดิงโก, สุนัขป่า และสุนัขที่ดูว่าจะมีความสัมพันธ์กับสุนัขดิงโก

ไมโตรคอนเดรีย DNA สามารถพบได้ภายในเซล  ในส่วนที่เฉพาะเป็นแหล่งกำเนิดพลังงาน,  คือส่วนนี้เป็นส่วนที่สามารถถ่ายทอดพันธุกรรมจากแม่มาสู่ลูกสาว   และเป็นเครื่องมือของนักชีววิทยาใช้ในการหาร่องรอยของการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมในช่วงเวลาที่ผ่านมา  เพื่อหาเงื่อนงำพันธุกรรมของบรรพบุรุษ

นักวิจัยได้เปรียบเทียบ mtDNA ของสุนัขดิงโกออสเตรเลีย  211 ตัวกับสุนัขทั่วโลก 676 ตัว, สุนัขป่า Eurasian 38 ตัวและ 19 ตัวอย่างของ mtDNA จากกระดูกของสุนัขที่อาศัยในช่วงเวลา pre-European ในเกาะของ Polynesia

ผลของงานวิจัยได้แสดงถึง “ดิงโกไม่ได้มีบรรพบุรุษที่มาจาก สุนัขป่า ที่มีชื่อว่า Indian หรือ Arabian wolves”  ดังเช่นแนวคิดที่มีมาก่อนหน้านี้,  นี้เป็นคำกล่าวของทีมงานวิจัยออสเตรเลีย  Alan Wilton  และคณะของเขา  จากมหาวิทยาลัย New South Wales ใน Sydney

“ดิงโกทั้งหลายมีบรรพบุรุษมาจาก  สุนัขเลี้ยงที่อาศัยอยู่ในภาคใต้ของประเทศไทยและประเทจีน  ที่มาถึงออสเตรเลียโดยทางเรือ”,  Wilton  ได้กล่าวว่า  “ ดิงโกดูเหมือนอย่างมากกับสุนัขที่พบเห็นได้ทั่วไปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”  และเค้ายังได้กล่าวอีกว่า  “ พวกมันทั้งหลายยังคงเหมือนสุนัขที่เลี้ยงเมื่อ 5000 ปีที่แล้ว  ลักษณะรูปร่างของพวกเค้าก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากเลย” นี่คือคำกล่าวของ Wilton

การวิเคราะห์ mtDNA นั้นได้แสดงให้เห็นถึง  สุนัขเพศเมียที่ตั้งท้องเพียงตัวเดียว,  หรือจากสุนัขตัวเดียวที่มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับสุนัขดิงโก

“ ในสุนัขเลี้ยงจะมีการแบ่งแยกชนิดของ mtDNA ออกมาได้อย่างมากมาย  แต่ที่พบในสุนัขดิงโกทั้งหมดนั้นมาจาก mtDNA  ชนิดเดียวเท่านั้น,  Wilton ได้บอกกับ ABC Science Online

“เราเรียกมันว่า  Genetic bottleneck” เขาได้กล่าว เป็นการอ้างถึงความโน้มเอียงสำหรับความแปรปรวนทางพันธุกรรมที่ไม่มากนัก,  ถ้าสัตว์นั้นมีการผสมพันธุ์กันในเฉพาะกลุ่ม   และอยู่ในพื้นที่ ๆ เข้าไปตั้งรกรากอยู่เป็นการเฉพาะกลุ่มของเค้า(ดั่งเช่นทวีปออสเตรเลีย-ผู้แปล)

แล้วมีการเปรียบเทียบกับหลักฐานทางโบราณคดี(ซาก fossil)กันอย่างไร ?

นักโบราณคดีที่เป็นที่ปรึกษาและเป็นผู้ชำนาญในซาก fossil  ของดิงโก,  Collin Pardoe  ได้กล่าวว่า  ผลของงานวิจัยครั้งนี้ไม่ได้ทำความประหลาดใจและยังสอดคล้องกับหลักฐานของซาก fossil

เริ่มแรกของซาก fossil ของดิงโกนั้นมีอายุประมาณ  3000 – 3600 ปี แต่อย่างไรก็ตามสามารถมีอายุได้มากถึง  5000 ปี,  Pardoe ได้กล่าวว่าการวิเคราะห์ mtDNA นั้นเป็นข้อแนะนำได้ว่าโดยปกติบรรพบุรุษของสุนัขเลี้ยงนั้นมีชีวิตอยู่เมื่อ 5000 ปีที่แล้ว

ในส่วนที่เหลือของซากกระดูกที่พบในทวีปออสเตรเลียนั้นมีการเปลี่ยนแปลงของอายุอยู่ในช่วง 4000 – 5000 ปีที่ผ่านมา, Pardoe ได้กล่าว

ในเวลานั้น, กระดูกได้มีการถูกเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมคือ “มีการหักและแตกละเอียด” เป็นเครื่องชี้ได้อย่างหนึ่งว่ามนุษย์มีการกินเนื้อสัตว์เพื่อการดำรงชีพ “ถูกทำลายลงอย่างสมบูรณ์”  เขาได้กล่าว  “ มันจึงค่อนข้างจะชัดเจนว่าสุนัขนั้นได้มาถึงดินแดนแห่งนี้ในเส้นทางเดียวกัน”

ดิงโกยังเป็นผู้แข่งขันในเรื่องของอาหารกับสัตว์ท้องถิ่นด้วย,  คือ Thylacines หรือเสือ Tasmanian,

ที่เคยแพร่กระจายที่ไปสู่การสูญพันธุ์บนทวีปของออสเตรเลียเมื่อ 4000 ปีที่แล้ว

“ Thylacines ได้หายไปในเวลาที่ต่างกันบนแผ่นดินทวีปออสเตรเลีย,  ครั้งแรกก็ทางเหนือแล้วต่อมาก็ทางใต้” Pardoe ได้กล่าว

Thylacines บางตัวมีชีวิตในตอนใต้ของเกาะรัฐ Tasmania,   ที่ ๆ ดิงโกนั้นไม่สามารถไปถึง,  และแล้ว Thylacine ที่ถูกเก็บไว้ตัวสุดท้ายก็ได้ตายลงในปี 1936

การเป็นสัตว์เลี้ยงของดิงโกและข้อเท็จจริงที่ว่า มันเป็นสุนัขที่มีการรวมกลุ่มกันเป็นสังคมที่มากนั้นเป็นการช่วยให้ได้รับการครอบครองพื้นที่ทั้งหมดไปจาก Thylacines, Pardoe กล่าว

“มันเป็นพื้นฐานที่ดีมากที่มีอยู่ในตัวของสุนัข”  เขาได้กล่าวทิ้งท้าย

(ที่มา : แปลจาก http://dsc.discovery.com/news/afp/20040802/dingo.html)

เรื่อง DNA สามารถอ่านได้ง่าย ๆ จาก

http://www.elib-online.com/doctors/dna.html

ผิดพลาดอย่างไรไปต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้

มันตรัย


โดย หมาบางแก้ว return - Wednesday, 8 September 2004, 11:32PM
 

ช่างคิด แก่ความรอบรู้...ต่างหากครับนายน้อย...มี web มาฝากพี่ลี้ด้วยล่ะครับ

http://dsc.discovery.com/news/afp/20040802/dingo.html

สุนัขไทย  จากภาคใต้ของประเทศไทยที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับดิงโกทั่วออสเตรเลีย  เดี๋ยวคงแปลให้อ่านกัน คงไม่ละเมิด ฯ อะไรใช่มั้ยครับ  ถ้าพี่ลี้ตกลงก็จะแปลมาให้ครับ  ไว้กับกระทู้หญิงชรา(ไปด้วยความรู้)นี่แหละ  ข้อมูลเหล่านี้จะไปสอดคล้องที่อาจารย์ม.ร.ว. ศึกฤทธิ์  ปราโมช ได้เคยเขียนไว้  รวมทั้งที่ท่านอาจารย์ดร. สุรวิช  ได้เคยวิเคราะห์เรื่องเกี่ยวกับสุนัขไทยให้เราได้อ่านกัน  จะไปเกี่ยวกับสุนัขบางแก้วหรือไม่ต้องพิจารณากันเองครับช่างคิดแลบลิ้น

อีก 2-3 วันน่ะนายน้อย...จะแปล  แล้วมาแจมด้วยในกระทู้  เสียดายคนที่ทำงานวิจัยชิ้นนี้  มีหยิบ DNA ของสุนัขบางแก้วหรือหมาบนดอยสูง(แม้ว)ไปตรวจด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้  น่าจะมีน่ะ(ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียด)  แต่จะพยายามค้น ๆ ดูอีกทีในรายละเอียด  ชุดของคนอเมริกาทำไว้เค้าบอกหมด  ว่ามีสุนัขอะไรบ้าง  คงต้องค้นต่อไปตาโต

นังตัวดีของข้า ฯ รวมทั้งเจ้าตัวยุ่งของนายน้อย...มีแต่ความลึกลับแปลกใจ  ไม่ธรรมดา  อยู่กับคนไทยคงมานานหลายพันปี  คนอเมริกาที่ได้เห็นสุนัขสายนี้ยังบอกว่า  การเลี้ยงเค้าจะมองแค่สายสัมพันธ์ที่เกื้อกูลกันนั้นคงไม่ได้  แต่ต้องมองให้ลึกลงไปถึงจารีต  ประเพณี ฯลฯ  ค้น ๆ อ่านดูแล้วเค้าคิด  ลงไปลึกมาก  ถึงว่ามองตาเจ้าตัวยุ่งหรือเจ้าด่างที่แสนดีแล้วรู้สึกถึงความลึกลับ  วันก่อนเจ้าตัวยุ่งออกเดินหน้าบ้าน สุนัขที่ไม่ใช่เจ้าถิ่น  พอเห็นเค้าเท่านั้นเดินหนีกลับบ้านกันหมด  สังเกตดูแล้วก็แปลกใจ  ลึกลับดียิ่งกว่านิทรานครเสียอีก  ทำไมหนอยังคิดทิ้งพวกเค้าได้ลงคอ  สายพันธุ์ของเค้าแท้จริงแล้ว  เค้าเลี้ยงตัวเองได้โดยไม่ต้องง้อพวกเรา  แต่ทำไมถึงยังมอบความภักดีให้กับพวกเราอยู่  สงสัยจริง ๆ

มันตรัย 


โดย หมาบางแก้ว return - Tuesday, 7 September 2004, 08:42AM
 

- ทำเป็นแบบฟอร์มมาตรฐานสักนิด  ในรูป file word ซึ่งสามารถพิมพ์ได้เป็นแบบสอบถามจริง 

- แจ้งเหตุผลในการทำวิจัยให้คุณวิเชียรและคุณโป๋  ได้รับทราบจะดีที่สุดครับพร้อมแนบ file แบบสอบถามไว้ให้ท่านทั้ง 2 ส่วนที่เหลือผมคาดว่า web master จะต้องให้ความกรุณาช่วยคุณอย่างแน่นอน(ดูตัวอย่างความคิดเห็นคุณวิเชียร)

-การทำแบบสอบถามเพื่องานวิจัย  จะไม่มีการกำหนด  ชื่อ  ที่อยู่ ของคนกรอกแบบสอบถามครับ ส่วนนี้คงต้องแก้ไข  ที่จริงแล้วมีขั้นตอนมากกว่านี้  ถ้าต้องการนำไปใช้และวิเคราะห์ค่าทางสถิติ  ลองคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาดูด้วยครับ  ว่าข้อมูลที่เราจะเก็บมีอะไรบ้าง  ครบมั้ย

ยินดีที่จะตอบข้อมูลให้ครับ


หน้า: (หน้าก่อน)  1 ...  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26 ...28   (ต่อไป)