การถ่ายพยาธิ ต้องถ่ายซ้ำทุก 2 สัปดาห์จนกว่าจะไม่พบตัวพยาธิอีก  ถ้าถ่ายครั้งแรกพบว่ามีตัวพยาธิ  จะต้องถ่ายซ้ำทุก 2 สัปดาห์อย่างน้อย 3 รอบขึ้นไป   ไม่ว่าจะหมาเล็ก  หรือหมาโต     เพราะถ้ามีไข่พยาธิหลงเหลืออยู่  ก็จะฟักเป็นตัวออกมาได้อีก   ยาถ่ายพยาธิมีฤทธิ์ฆ่าพยาธิได้  แต่ไม่ได้ทำลายไข่พยาธิ

วิธีป้องกันโรคต่างๆในลูกหมา  ต้องให้อาหารที่เหมาะสมสำหรับลูกหมา  บำรุงร่างกายลูกหมาให้แข็งแรงที่สุด   เพื่อให้เสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้เอง   ตามธรรมชาติ ลูกหมาแรกเกิดจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับนมน้ำเหลืองซึ่งมีภูมิคุ้มกันจากแม่ในช่วงแรกคลอด    ไม่ควรพาลูกหมาเล็กๆเข้าไปในที่ๆมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคต่างๆได้  เช่นปล่อยให้วิ่งเล่นไปบนพื้นตามถนนหรือสวนสาธารณะ โรงพยาบาล  ฯลฯ  หรือเล่นกับหมาอื่นที่ไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไรอยู่หรือไม่

ลิ้งมาจากพันทิพ   ช่วงนี้ หมามีอาการป่วยโรคทำนองนี้กันมาก  ต้องระวังสังเกตอาการของหมาที่เลี้ยงกันไว้ด้วย

http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J4064423/J4064423.html

ได้คุย เรื่องแก้ว  กับสัตวแพทย์ที่รู้จักกัน    หมอไม่ได้ออกความเห็นอะไรเรื่องอาการแพ้ยาจนถึงชีวิตของแก้ว   เพราะหมอเองก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จริง   แต่ก็ให้ความเห็น ว่าเรื่องการจัดการศพไปโดยพละการนั้น เป็นเรื่องไม่สมควร....

***ยังได้ความรู้ใหม่  จากประสบการณ์ของหมอ   พบว่าเมื่อเทียบกับพันธุ์อื่นๆ บางแก้ว จะมีความเปราะบางมาก  เกี่ยวกับเรื่องเม็ดเลือดแตก   เลือดหยุดยาก   เช่นโรคพื้นๆอย่างพยาธิเม็ดเลือด  ก็ทำให้บางแก้วถึงตายได้ง่ายๆ   ในขณะที่ในหมาพันธุ์อื่นแม้อาการหนักกว่า  ก็สามารถรักษาให้หายได้ไม่ยาก     จึงต้องระมัดระวังกันมาก  ในเรื่องการให้ยาต่างๆที่จะไปมีผลกับเรื่องนี้ 

หมอได้ให้ความเห็นไว้ด้วยว่า  อาจจะเป็นลักษณะความบกพร่องที่สืบทอดทางพันธุกรรมได้   จึงควรระวังในเรื่องการคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์และการวางแผนการผสมพันธุ์    ว่าควรต้องคัดเลือกพ่อ-แม่ที่ร่างกายแข็งแรง  ไม่เคยมีอาการป่วยเกี่ยวกับโรคเลือดต่างๆ    เพื่อให้ถ่ายทอดเฉพาะยีนส์ที่แข็งแรง  สืบต่อกันไป  ทำให้ลูกหมารุ่นต่อๆไป  แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ    อย่างน้อยก็น่าจะลดความเสี่ยงลงได้ในระดับหนึ่ง

มาให้ข้อมูลไว้ เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อคนรักบางแก้วท่านอื่นๆได้บ้าง

ขอบคุณทุกท่านที่แสดงความเสียใจค่ะ...งานนี้  ต้องโทษตัวเองแต่เพียงผู้เดียว  ถ้าไม่คิดหาบ้านใหม่ให้ แก้ว  ก็คงไม่พาแก้วไปรักษาที่โรงพยาบาล    เพียงแต่คอยดูแลทำแผลให้เขาเมื่อแผลปะทุขึ้น  เช่นที่เคยทำมา   ก็ทำต่อไป   คงไม่ต้องมานั่งเจ็บปวดอย่างนี้  

แก้วก็คงยังวิ่งเล่นอยู่ในคอกแรกสุด  ที่นั่งมองจากหน้าต่างห้องก็เห็นได้ชัดเจน   ซึ่งต่อจากนี้ไม่มีอีกแล้ว.....ก้อนกลมๆฟูๆ สีขาว  ที่มองเห็นแต่ไกลกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ในคอก

โรงพยาบาล คิดค่าใช้จ่ายตามปกติทุกอย่าง แม้แต่ค่ายาฉีด ที่ทำให้หมาต้องตาย   หากทางโรงพยาบาล มีความเห็นใจและเข้าใจในสถานะการณ์  เขาควรเป็นผู้ออกปากลดหย่อนค่าใช้จ่ายให้เราเอง    ประกอบกับตัวเองมีนิสัยไม่ต่อปากต่อคำกับใคร  โดยเฉพาะเรื่องเงินๆทองๆ   เมื่อเขาคิดมาเต็มที่ก็จ่ายให้เขาไปตามนั้น

ตอนที่หมาตาย  เขาก็แจ้งให้ทราบทันทีค่ะ    และทางคุณบี(ที่ป้าวิวานให้เป็นเจ้าของไข้  เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาล)  ก็ได้แจ้งความจำนงค์ต่อโรงพยาบาลแล้ว  ว่าเราจะขอรับศพมาดำเนินการเอง   โดยขอฝากในตู้เก็บของทางโรงพยาบาลก่อน     พร้อมเมื่อไหร่  จะไปขอรับศพ      

แต่เมื่อไปขอรับศพ     ปรากฏว่าคลาดกันไม่กี่ชั่วโมง   โดยทางโรงพยาบาลอ้างว่า  ป้ายที่ติดไว้(ว่าไม่ต้องเอาไปกำจัด)นั้น  หลุดหายไป  เจ้าหน้าที่กำจัดซากไม่ทราบว่าต้องการเก็บ     จึงนำซากไปเผาเรียบร้อยแล้วในตอนเช้าวันนั้นเอง