ป้าชัช swine

หน้า: (หน้าก่อน)  1 ...  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82 ...83   (ต่อไป)
โดย ป้าชัช swine - Friday, 19 November 2004, 08:15PM
 
อีกรูป

โดย ป้าชัช swine - Friday, 19 November 2004, 08:14PM
 
วันนี้แว๊บเข้าไปบ้านนิรมลตอนเที่ยงครึ่ง เพื่อติดต่อว่าจะนำสแลนที่ป้าวิซื้อให้ไปแก้ปัญหาเรื่องความร้อนก่อน โดยถ่ายรูปว่าแดดที่นั่นส่องจนเด็ก ๆ ไม่มีที่นอนเล่น พอมีตรงไหนร่มหน่อยไปนอน ลองดูภาพ

โดย ป้าชัช swine - Thursday, 18 November 2004, 11:40PM
 

สวัสดีค่ะ คุณเพื่อนบางแก้ว

ป้าวิกะป้าชัชก็ต่อว่าเค้าเรื่องที่เค้าไม่เข้าไปตอบอะไรในเว็บเลย เค้าบอกว่าไม่ว่าง ประกอบกับช่วงนี้คุณอ๊อดมีลูกสาว (เมื่อเราไปเยี่ยมครั้งที่แล้ว เค้ายังแดง ๆ อยู่) ตอนนี้ก็ยังตัวเล็กและกินนมแม่อยู่เช่นเดิม

ขณะนี้ที่บ้านพักมีสุนัขสามขา 3 ตัว และที่ขาหลังเสียต้องลากขาอยู่ในกรงอีก 2 ตัว

ป้าวิได้จัดซื้อสแลนให้ใช้พรางแสงอาทิตย์แล้ว ป้าชัชจะพาช่างเข้าไปช่วยขึง และป้าชัชจะสอบถามเรื่องการจัดทำประวัติและถ่ายรูปสุนัขขึ้นเว็บเพื่อหาผู้อุปการะต่อไป ถ้าเจ้าของบ้านยินดี แต่มีปัญหาติดขัดเรื่องอะไรบ้างจะนำมาปรึกษาในเว็บต่อไปนะค่ะ


โดย ป้าชัช swine - Thursday, 18 November 2004, 09:04AM
 

เมื่อวานนี้ (17 พย. ) ประมาณเที่ยงวัน ป้าวิโทรมาบอกว่ารออยู่ที่โรงพยาบาลสัตว์กำแพงแสน ชวนไปบ้านนิรมล มี 4 คน คือ 2 ป้า กะอีก 2 สาว รวมรถ 3 คัน เป็น 1 คัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาทีก็ถึงบ้านนิรมลพบคุณอ๊อด ส่วนคุณวิมกำลังดูแลสุนัขป่วยอยู่และในที่สุดก็จับเจ้าตัวนั้นขึ้นรถไปหาหมอ

ต่อไปนี้ ป้าชัชจะขอกล่าว ถึงเรื่องราวที่ได้ไปดูและคุยมา ป้าวิกรุณาเสริมและแก้ไขด้วย ถ้าป้าชัชฟังหรือเข้าใจเรื่องราวผิดพลาด

สิ่งที่ป้าชัชอยากรู้มากที่สุด คือ เหตุผล (แรงบันดาลใจ) ที่มาทำบ้านนิรมล คุณอ๊อดบอกว่า ตั้งแต่ยังเป็นโสดอยู่ ทั้งตัวเธอและคุณวิม (สามี) ชอบช่วยเหลือสุนัขตกยาก (โดยเก็บมาเลี้ยง) อยู่แล้ว เมื่อแต่งงานกันจึงมีคุณจร (หมาจรจัด) มากมายในอุปการะ ทำให้คุณกุ้ง (ญาติ) ซึ่งมีที่ดินว่างเปล่า 11 ไร่ที่กำแพงแสน เอ่ยปากให้ยืมที่ดินผืนนี้มาสร้างบ้านนิรมลเพื่อเป็นที่พำนักของคุณจรทั้งหลาย

บ้านนิรมลประกอบด้วยบ้านพักคุณจรประเภทหลังคาจาก 1 หลัง แบ่งเป็น 6 ห้อง บ้านพักหลังคากระเบื้อง 1 หลังแบ่งเป็น 10 ห้อง โรงเรือนสุนัขป่วยและพิการ 1 โรง และโรงเรือนกลางแจ้ง (แต่มีเพิงให้คุณจรไปนอนเล่นได้) อีก 1 โรง รวมสุนัขที่ดูแลประมาณกว่า 200 ชีวิต นอกจากนั้นก็ยังมีคุณแมวอีก 1 ห้องประมาณ 50 ตัว มีบ้านพักคนงาน 5 คนที่อยู่ดูแลสุนัขและแมว 

สุนัขที่นี่มีที่มา 2 แบบ คือ

1. เจ้าของนำมาฝากเลี้ยง เช่น เค้าดุมากจนเอาไว้ไม่ไหว เจ้าของไม่สามารถเลี้ยงเค้าได้เนื่องจากมีภาระกิจ หรือย้ายไปอยู่บ้านที่ไม่สามารถนำสุนัขไปด้วยได้ รวมทั้งเจ้าของเบื่ออยากมีของใหม่เลยต้องกำจัดของเก่าออกไปก่อน เป็นต้น แบบนี้ทางบ้านจะเรียกค่าใช้จ่ายแรกเข้าบ้าน (1500 หรือ 3000 บาท ค่ะป้าวิ) และค่าเลี้ยงดูรายเดือน 300 บาท คุณอ๊อดก็บอกว่า มีหลายตัวที่เจ้าของดีมาก ออกเงินค่าสร้างห้องพักให้ลูกตัวเอง และส่งค่าใช้จ่ายให้สม่ำเสมอ รวมทั้งมาเยี่ยมเยือนลูก ๆ ประจำด้วย แต่เจ้าของอีกจำนวนมาก นอกจากต่อรองค่าใช้จ่ายแรกเข้าแล้ว ยังไม่ส่งค่าเลี้ยงดูรายเดือนให้อีก และเมื่อติดต่อกลับไปก็ไม่พบเจอเจ้าของแล้ว เจ้าสุนัขตัวนั้นเลยเป็นคุณจรตัวจริง  

2. ไปเก็บมาจากสถานที่ต่าง ๆ เช่น เมื่อวานซืน มีคนแจ้งว่ามีสุนัขติดอยู่ใต้อัฒจันทร์ที่สนามจุ๊บ(จุฬา) อดข้าวอดน้ำมาหลายวันแล้ว คุณวิมไปช่วยเหลือและอุ้มมาดูแล และตั้งชื่อให้ว่า คุณอัฒจันทร์ สุนัขประเภทนี้ไม่มีใครช่วยค่าใช้จ่ายและน่าจะมีมากกว่าประเภทแรก  

จากที่ไปพบเห็นและพูดคุยกับคุณอ๊อด ป้าวิและป้าชัชพบว่าสิ่งที่ต้องหาทางช่วยเหลือและปรับปรุงบ้านพักนิรมล มีดังนี้

1. บริเวณที่พักค่อนข้างร้อน เนื่องจากมีต้นไม้น้อยเกินไป น่าจะมีโครงการดังนี้ 1. ระยะสั้น หาสแลนสีดำไปพรางแสงพระอาทิตย์ก่อน 2. ระยะกลางคุณอ๊อดว่าจะติดตั้งระบบน้ำฉีดพ่นบนหลังคาบ้านของคุณจรทั้งหลาย 3. ระยะยาว ใช้ร่มเงาต้นไม้ช่วย โดยชุมชนไปช่วยกันปลูกต้นไม้ให้คนละต้น 2 ต้น คุณอ๊อดจะให้คนงานขุดหลุมปลูกรอ ส่วนต้นไม้ป้าชัชจะเตรียมให้ ส่วนพวกเราชาวชุมชนไปปลูกกันต้นไม้ร่วมกันดีไหม

2. การจัดการฐานข้อมูลของสุนัข ยังไม่มีระบบเลย ทำให้ไม่ทราบจำนวนสุนัขทั้งสองประเภท ประวัติความเป็นมาและเป็นไปของสุนัขแต่ละตัวได้ เช่น ชื่อ พันธุ์ แหล่งที่มา สภาพและสุขภาพแรกเข้า ป้าวิเสนอให้มีการลงทะเบียนโดยถ่ายภาพและขึ้นเว็บให้ทุกคนได้ดู ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อบ้านพักในด้านการบริหารจัดการ และอาจมีส่วนให้คนทั่วไปมาเลือกอุปการะสุนัข หรือรับสุนัขไปเลี้ยงได้ อันนี้ยังไม่เห็นทางออกว่าจะทำอย่างไรดี เพราะเจ้าของบ้านก็ยุ่งกับการเลี้ยง ไม่มีเวลามาจัดการแน่นอน นิกจากหาอาสาสมัครเข้าไปช่วย

3. การแสวงความช่วยเหลือจากภายนอก เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูสุนัข 200 กว่าตัวมีมาก เช่น ค่าแรงคนงาน 5 คน ค่าข้าวสารวันละ 75 กิโลกรัม ค่าซี่โครงไก่ ค่าแก๊สหุงต้ม จิปาถะ วันละเกือบ 3000 บาท (อึม ถ้าเป็นป้าชัชก็คิดหนัก) คงต้องแสวงหาความช่วยเหลือจากภายนอกที่เป็นกอบเป็นกำ เช่น จากองค์กรช่วยเหลือต่าง ๆ เช่น ปตท. สมาคมพิทักษ์สัตว์ กลุ่มgreen peace แต่ต้องมีคนไปช่วยหาองค์กร และบ้านพักคงต้องแสดงบัญชีค่าใช้จ่ายและจำนวนสุนัขที่ชัดเจนให้เค้าเห็นก่อน จึงจะหาความช่วยเหลือนี้ได้ ถ้าจะอาศัยพวกเราไปช่วยก็คงเป็นได้ชั่วครั้งคราว 

4. การหารายได้พิเศษเพื่อช่วยเหลือตัวเอง เช่นการทำปุ๋ยจากมูลสุนัข การทำน้ำหมักชีวภาพเพื่อใช้เองและขาย การถักสายจูงขาย เป็นต้น

ขณะนี้คงต้องจบก่อน เพราะต้องเข้ากรุงเทพฯ แล้ว

ป้าวิช่วยเข้ามาเสริมด้วยนะจ๊ะ

และขอฟังความคิดเห็นจากทุก ๆ คนด้วยจ๊ะ

ความเดิม จากกระทู้ http://www.bangkaew.com/elearning/mod/forum/discuss.php?d=257


โดย ป้าชัช swine - Thursday, 18 November 2004, 08:57AM
 

เมื่อวานนี้ (17 พย. ) ประมาณเที่ยงวัน ป้าวิโทรมาบอกว่ารออยู่ที่โรงพยาบาลสัตว์กำแพงแสน ชวนไปบ้านนิรมล มี 4 คน คือ 2 ป้า กะอีก 2 สาว รวมรถ 3 คัน เป็น 1 คัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาทีก็ถึงบ้านนิรมลพบคุณอ๊อด ส่วนคุณวิมกำลังดูแลสุนัขป่วยอยู่และในที่สุดก็จับเจ้าตัวนั้นขึ้นรถไปหาหมอ

ต่อไปนี้ ป้าชัชจะขอกล่าว ถึงเรื่องราวที่ได้ไปดูและคุยมา ป้าวิกรุณาเสริมและแก้ไขด้วย ถ้าป้าชัชฟังหรือเข้าใจเรื่องราวผิดพลาด

สิ่งที่ป้าชัชอยากรู้มากที่สุด คือ เหตุผล (แรงบันดาลใจ) ที่มาทำบ้านนิรมล คุณอ๊อดบอกว่า ตั้งแต่ยังเป็นโสดอยู่ ทั้งตัวเธอและคุณวิม (สามี) ชอบช่วยเหลือสุนัขตกยาก (โดยเก็บมาเลี้ยง) อยู่แล้ว เมื่อแต่งงานกันจึงมีคุณจร (หมาจรจัด) มากมายในอุปการะ ทำให้คุณกุ้ง (ญาติ) ซึ่งมีที่ดินว่างเปล่า 11 ไร่ที่กำแพงแสน เอ่ยปากให้ยืมที่ดินผืนนี้มาสร้างบ้านนิรมลเพื่อเป็นที่พำนักของคุณจรทั้งหลาย

บ้านนิรมลประกอบด้วยบ้านพักคุณจรประเภทหลังคาจาก 1 หลัง แบ่งเป็น 6 ห้อง บ้านพักหลังคากระเบื้อง 1 หลังแบ่งเป็น 10 ห้อง โรงเรือนสุนัขป่วยและพิการ 1 โรง และโรงเรือนกลางแจ้ง (แต่มีเพิงให้คุณจรไปนอนเล่นได้) อีก 1 โรง รวมสุนัขที่ดูแลประมาณกว่า 200 ชีวิต นอกจากนั้นก็ยังมีคุณแมวอีก 1 ห้องประมาณ 50 ตัว มีบ้านพักคนงาน 5 คนที่อยู่ดูแลสุนัขและแมว 

สุนัขที่นี่มีที่มา 2 แบบ คือ

1. เจ้าของนำมาฝากเลี้ยง เช่น เค้าดุมากจนเอาไว้ไม่ไหว เจ้าของไม่สามารถเลี้ยงเค้าได้เนื่องจากมีภาระกิจ หรือย้ายไปอยู่บ้านที่ไม่สามารถนำสุนัขไปด้วยได้ รวมทั้งเจ้าของเบื่ออยากมีของใหม่เลยต้องกำจัดของเก่าออกไปก่อน เป็นต้น แบบนี้ทางบ้านจะเรียกค่าใช้จ่ายแรกเข้าบ้าน (1500 หรือ 3000 บาท ค่ะป้าวิ) และค่าเลี้ยงดูรายเดือน 300 บาท คุณอ๊อดก็บอกว่า มีหลายตัวที่เจ้าของดีมาก ออกเงินค่าสร้างห้องพักให้ลูกตัวเอง และส่งค่าใช้จ่ายให้สม่ำเสมอ รวมทั้งมาเยี่ยมเยือนลูก ๆ ประจำด้วย แต่เจ้าของอีกจำนวนมาก นอกจากต่อรองค่าใช้จ่ายแรกเข้าแล้ว ยังไม่ส่งค่าเลี้ยงดูรายเดือนให้อีก และเมื่อติดต่อกลับไปก็ไม่พบเจอเจ้าของแล้ว เจ้าสุนัขตัวนั้นเลยเป็นคุณจรตัวจริง  

2. ไปเก็บมาจากสถานที่ต่าง ๆ เช่น เมื่อวานซืน มีคนแจ้งว่ามีสุนัขติดอยู่ใต้อัฒจันทร์ที่สนามจุ๊บ(จุฬา) อดข้าวอดน้ำมาหลายวันแล้ว คุณวิมไปช่วยเหลือและอุ้มมาดูแล และตั้งชื่อให้ว่า คุณอัฒจันทร์ สุนัขประเภทนี้ไม่มีใครช่วยค่าใช้จ่ายและน่าจะมีมากกว่าประเภทแรก  

จากที่ไปพบเห็นและพูดคุยกับคุณอ๊อด ป้าวิและป้าชัชพบว่าสิ่งที่ต้องหาทางช่วยเหลือและปรับปรุงบ้านพักนิรมล มีดังนี้

1. บริเวณที่พักค่อนข้างร้อน เนื่องจากมีต้นไม้น้อยเกินไป น่าจะมีโครงการดังนี้ 1. ระยะสั้น หาสแลนสีดำไปพรางแสงพระอาทิตย์ก่อน 2. ระยะกลางคุณอ๊อดว่าจะติดตั้งระบบน้ำฉีดพ่นบนหลังคาบ้านของคุณจรทั้งหลาย 3. ระยะยาว ใช้ร่มเงาต้นไม้ช่วย โดยชุมชนไปช่วยกันปลูกต้นไม้ให้คนละต้น 2 ต้น คุณอ๊อดจะให้คนงานขุดหลุมปลูกรอ ส่วนต้นไม้ป้าชัชจะเตรียมให้ ส่วนพวกเราชาวชุมชนไปปลูกกันต้นไม้ร่วมกันดีไหม

2. การจัดการฐานข้อมูลของสุนัข ยังไม่มีระบบเลย ทำให้ไม่ทราบจำนวนสุนัขทั้งสองประเภท ประวัติความเป็นมาและเป็นไปของสุนัขแต่ละตัวได้ เช่น ชื่อ พันธุ์ แหล่งที่มา สภาพและสุขภาพแรกเข้า ป้าวิเสนอให้มีการลงทะเบียนโดยถ่ายภาพและขึ้นเว็บให้ทุกคนได้ดู ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อบ้านพักในด้านการบริหารจัดการ และอาจมีส่วนให้คนทั่วไปมาเลือกอุปการะสุนัข หรือรับสุนัขไปเลี้ยงได้ อันนี้ยังไม่เห็นทางออกว่าจะทำอย่างไรดี เพราะเจ้าของบ้านก็ยุ่งกับการเลี้ยง ไม่มีเวลามาจัดการแน่นอน นิกจากหาอาสาสมัครเข้าไปช่วย

3. การแสวงความช่วยเหลือจากภายนอก เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูสุนัข 200 กว่าตัวมีมาก เช่น ค่าแรงคนงาน 5 คน ค่าข้าวสารวันละ 75 กิโลกรัม ค่าซี่โครงไก่ ค่าแก๊สหุงต้ม จิปาถะ วันละเกือบ 3000 บาท (อึม ถ้าเป็นป้าชัชก็คิดหนัก) คงต้องแสวงหาความช่วยเหลือจากภายนอกที่เป็นกอบเป็นกำ เช่น จากองค์กรช่วยเหลือต่าง ๆ เช่น ปตท. สมาคมพิทักษ์สัตว์ กลุ่มgreen peace แต่ต้องมีคนไปช่วยหาองค์กร และบ้านพักคงต้องแสดงบัญชีค่าใช้จ่ายและจำนวนสุนัขที่ชัดเจนให้เค้าเห็นก่อน จึงจะหาความช่วยเหลือนี้ได้ ถ้าจะอาศัยพวกเราไปช่วยก็คงเป็นได้ชั่วครั้งคราว 

4. การหารายได้พิเศษเพื่อช่วยเหลือตัวเอง เช่นการทำปุ๋ยจากมูลสุนัข การทำน้ำหมักชีวภาพเพื่อใช้เองและขาย การถักสายจูงขาย เป็นต้น

ขณะนี้คงต้องจบก่อน เพราะต้องเข้ากรุงเทพฯ แล้ว

ป้าวิช่วยเข้ามาเสริมด้วยนะจ๊ะ

และขอฟังความคิดเห็นจากทุก ๆ คนด้วยจ๊ะ


หน้า: (หน้าก่อน)  1 ...  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82 ...83   (ต่อไป)