กี๋ ปากอ่าว

หน้า: (หน้าก่อน)  1 ...  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53 ...61   (ต่อไป)
โดย กี๋ ปากอ่าว - Monday, 30 January 2006, 07:43PM
 

" น้องกัส " กลับบ้านแล้ววว..โชคดียิ่งกว่ารับอั่งเปา... พบที่ทางด่วนอุรุพงษ์ สงสัยจังว่า น้องกัส เบี้ยวค่าทางด่วน..เลยถูกนายด่านสกัดจับไว้เชยชม เสน่ห์ร้ายไม่เบานะน้องกัส!!!  น้องกัสคงดีใจไม่แพ้เจ้าของ!!!!...ปีนี้ขอให้น้องหมาทุกเผ่าพันธุ์เฮงๆ..ปีจอนี่เจ้าค่ะ


โดย กี๋ ปากอ่าว - Sunday, 29 January 2006, 12:16PM
 
เรื่องเศร้าที่จบลงได้เสียที..... เมื่อใกล้ถึงวันนัดที่จะต้องฉีดยาอีกครั้ง นายหญิงและนายผู้ชายปรึกษาหารือ หาทางออกทีดีที่สุด ทั้งสองมีความเห็นพร้องกันว่า ควรเลิกบังคับขืนใจเต๋าเต้ยเสียที การฝึกให้เรียนรู้เรื่องการฉีดยาจึงเริ่มขึ้น ยามใดที่เล่นกับเต๋าเต้ย นายหญิงจะสอดแทรกบทเรียน ด้วยการหยิกที่ขาหลังบริเวณกล้ามเนื้อ ที่คาดว่าจะแทงเข็มฉีดยา หรือถ้าเป็นการฉีดใต้ผิวหนังเพื่อรักษาโรคผิวหนังเห็บหมัด จะดึงที่หนังบริเวณคอยกขึ้นเล็กน้อย หยิกพอให้รู้สึกเจ็บจี้ดๆ พร้อมกับพูดซ้ำๆว่า " แม่ฉีดยาให้เต๋าเต้ยนะ " แรกๆเมื่อได้ยินคำว่าฉีดยา เต๋าเต้ยสะดุ้งขยับตัวหนี จ้องมองอย่างหวาดระแวง เอี้ยวตัวมาขู่และงับมือเบาๆ สื่อให้รู้ว่าไม่อยากให้ทำ นายหญิงรีบถามต่อ จะให้หมอฉีดหรือจะให้แม่ฉีด เต๋าเต้ยยกขาหน้าวางบนมือนายหญิงแล้วเลียทีมือ ซึ่งนายหญิงเดาเหมาเอาเองว่า เต๋าเต้ยยอมให้นายหญิงฉีดดีกว่า ทำแบบนี้ทุกวันซ้ำๆกัน คอยสังเกตอาการจนแน่ใจว่า เริ่มเกิดการเรียนรู้ว่าตรงนั้นจะเจ็บเมื่อนายหญิงบอกว่า..ฉีดยา และไม่มีอาการต่อต้านใดๆอีก  นายหญิงเลือกวันตรุษจีนเป็นวันดีเดย์ ไปที่คลีนิคแห่งเดิม ขอให้หมอผสมยาและบรรจุไว้ในหลอดพร้อมฉีด หมอเอายาใส่ไว้ในซองกระดาษอีกชั้น ก่อนหยิบน้ำแข็งใส่ถุงแช่มาด้วย กำชับให้กลับบ้านไปฉีดทันที เพราะยาที่ผสมแล้วเก็บไว้นานไม่ได้ อย่างแรกที่นายหญิงมั่นใจ คือบางแก้วจะไม่กัดนายที่รัก อย่างมากก็อาจจะขัดขืนวิ่งหนี พอถึงบ้านนายผู้ชายรับบทเป็นผู้ช่วยหมอ อาสาหลอกล่อจับขาหน้าชวนคุย ส่วนนายหญิงเป็นหมอมือใหม่ ซ่อนเข็มไว้ในในผ้าผืนเล็ก อำพรางไม่ให้เต๋าเต้ยมองเห็น เกรงว่าจะวิ่งหนี ที่ฝึกกันมาจะสูญเปล่า พอเผลอค่อยๆแทงเข็มโดยไม่ลืมส่งสัญญาณก่อน "แม่ฉีดยานะ " เต๋าเต้ยสะดุ้งขยับขาหนีเมื่อเข็มสัมผัสเข้าที่เนื้ออ่อนๆ แต่ด้วยความรักและเกรงใจนายทั้งสอง จึงได้แค่พยายามหันมาดูที่ขา นายหญิงกดเข็มเข้าไปลึกประมาณครึ่งเข็มและกดยาจนหมดหลอด เรื่องมันง่ายกว่าทีคิดเหลือเกิน นับจากนี้ไปเรื่องเศร้าของเต๋าเต้ยจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว เมื่อนายหญิงขอสมัครเป็นหมอประจำตัวของเต๋าเต้ยแต่เพียงผู้เดียว  เทคนิคนี้เป็นวิธีลับเฉพาะคนรู้ใจ ระหว่างบางแก้วหัวดื้อน่าหยิกกับนายแสนรัก...ที่ต่างมอบโลกทั้งใบให้นายคนเดียว

โดย กี๋ ปากอ่าว - Tuesday, 24 January 2006, 11:54AM
 

นั่นสิคะคุณลูกพี่เจ้าไบรท์ ชักไม่แน่ใจเสียแล้วสิว่าวันนั้น ระหว่างเจ้าหนูตัวนั้น เต๋าเต้ยหรือแม่กี๋ที่เมากว่ากัน อย่างที่เล่าใน มินิ ซี่รี่นั่นแหละคะ เจ้าจ๋อเคยประลองกำลังกับหมาแถวนั่นมาแล้ว น้าวินมอเตอร์ไซด์เห็นมากับตา ขนาดหมอยังไม่รับเย็บหน้าเจ้าจ๋อ เพราะมันโชกเลือดเต็มไปหมดทั้งหน้า ข้อมูลที่ได้จากคลีนิคอีกหนึ่ง คือที่เพชรบุรีมีคนเลี้ยงบางแก้วเยอะมั่ก..มากกกค้า


โดย กี๋ ปากอ่าว - Monday, 23 January 2006, 02:15PM
 

เมื่อถึงคราวทีต้องพาลูกชายไปฉีดยา หัวใจแม่กี๋เต้นดังตึ้กตั๊กๆๆ เหมือนมีแมงมุมมาขย้ำหลังคา ที่ยากที่สุดก็คือกลัวเดาใจลูกไม่ให้ถูกทาง..จะหักหาญน้ำใจหรือก็ใช่ที่  


โดย กี๋ ปากอ่าว - Monday, 23 January 2006, 01:39PM
 

ไชโยๆ....การฉีดยาประจำปีของเต๋าเต้ยผ่านพ้นไปแล้ว นายทั้งสองแอบกระหยิ่มยิ้มย่อง
อย่างน้อยก็ได้เว้นวรรค หายใจคล่องปอดไปอีกสิบเอ็ดเดือนสามสิบวัน
ก่อนกลับบ้านนายหญิงยืนคุยกับไทยมุงนายหนึ่ง ที่เฝ้าดูเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น พอจับใจความได้ว่า
ที่บ้านพี่แกเลี้ยงสุนัขบางแก้วไว้ทั้งหมดเจ็ดชีวิต แต่ไม่เคยพามาฉีดยาที่คลีนิคเลย
แกเลือกที่จะป้อนยาเองที่บ้าน คุยกันอย่างถูกคอ ตามประสาคนที่ลงเรือลำเดียวกัน
ก่อนจากนายหญิงทำหน้าอธิบายยาก แววตาชื่นชมระคนสยองขวัญ
อัศจรรย์ใจที่พี่แกมีบางแก้วอยู่ในปกครองเป็นฝูง!!! ลองคิดดูถ้าแกเลือกยกโขยงลูกๆ มาคลีนิค
คงเกิดเหตุการณ์จารจลหน้าเขาวัง โกลาหลทั้งคนทั้งหมา ต้องยืมมือเทศกิจจาก กทม. มาสลายม๊อบ
หมาชุมนุมบางแก้ว ไทยมุง หมามุงและจ๋อมุง จนตกเป็นข่าวท๊อคออฟเดอะเพชรบุรีทาวน์เป็นแน่
เรื่องนี้เต๋าเต้ยไม่ขอออกความเห็น เพราะหลังจากโดนเข็มก็รีบแจ้นขึ้นไปนั่งหน้าป๋อหล๋อรออยู่บนรถ
นายผู้ชายรู้ใจยิ่งนัก พอจับพวงมาลัยรถได้ รีบออกรถบึ่งกลับบ้านอย่างรวดเร็ว
ในรถผู้โดยสารนั่งเงียบงันจนกระทั่งถึงบ้าน เต๋าเต้ยออกอาการดีใจจนตัวสั่นระริก วิ่งปรี่เข้าบ้าน
นอนเหยียดขาหลังยืดตรงไปด้านหลังทั้งสองข้าง เรียกให้เท่ว่า "ท่าขาไก่ย่าง" แลบลิ้นสีแดงแจ๋
หายใจแรงจนตัวโยน ยังไม่หายระทึกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ไยดีกับเสียงนายหญิงที่กระเซ้าเย้าแหย่
แกล้งชวนออกไปนั่งรถเที่ยวต่อ ยืนอมยิ้มที่เห็นนักเลงบางแก้วสิ้นลาย กลัวเข็มฉีดยาจนขึ้นสมอง
เวลาล่วงไปเกือบสองชั่วโมง เต๋าเต้ยเกิดอาการแปลกพิสดาร วิ่งกระสับกระส่ายรอบบ้าน
ตะกุยน้ำในถังที่วางไว้ให้กิน ตะกายหน้าตัวเอง วิ่งสะบัดขาหน้าและขาหลังเหมือนถูกตะปูตำ
ออกแรงขุดดินจนฝุ่นตลบ แล้วลงไปคุดคู้อยู่ในหลุมดิน แต่ก็อยู่ได้ไม่นานต้องวิ่งพล่านหาที่ซุกตัวใหม่
เข้าไปแอบใต้ตู้และใต้เตียง ตะเกือกตะกายถูหน้ากับพื้นและกระสอบที่ปูไว้ให้นอน
วิ่งเข้าหานายหญิงคล้ายจะขอความช่วยเหลือ ขณะที่นายหญิงได้แต่ยืนหน้าซีดละล่ำละลักถาม "
เต๋าเต้ยเป็นอะไรๆ ? " พอได้สติรีบหมุนโทรศัพท์ถึงหมอที่คลีนิคเดิม เล่าเรื่องจับหนู
การวางยาเบื่อหนูในบ้านและการฉีดวัคซีน เพื่อเป็นข้อมูลให้หมอวิเคราะห์อาการป่วยเบื้องต้น
ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร? ทั้งที่ในใจมุ่งประเด็นไปที่ยาเบื่อหนู " เรด คิลเลอร์ "
ยาคงอยู่ในเลือดของเจ้าหนูตัวนั้น เต๋าเต้ยสัมผัสสารพิษตอนขย้ำหนูนั่นเอง
ยาตัวนี้จะออกฤิทธิ์ทำลายประสาท ซึ่งจะเริ่มชาที่อวัยวะต่างๆ
และลามไปที่สมองจนหมดความรู้สึกและตายในที่สุด ใช่แล้ว..เต๋าเต้ยกำลังชาที่ปากและขาทั้งหน้าและหลัง
การที่ตะกายหน้าสะบัดขาและหาที่หลบ เป็นไปตามสัญชาตญาณการอยู่รอดของสัตว์นั่นเอง
หมอให้พากลับไปที่คลีนิคอีกครั้ง ต้องไปแน่และในทันที แต่พลขับคนเดิมติดประชุมสำคัญ
หากขับรถไปเองแล้วใครจะช่วยจับให้นั่งนิ่งๆในรถได้ ก็โลกทั้งใบเต๋าเต้ยยอมให้นายแค่สองคนเท่านั้น!!!
และแล้วชีวิตนี้ยังไม่สิ้นหวัง ต้องถือว่าดวงยังเฮง สงสัยหมาดีผีคุ้ม คนข้างบ้านเลี้ยงหมาไว้หลายตัว
เขามีกรงขนาดย่อมที่สามารถยกขึ้นท้ายรถปิคอัพได้ และอาสาขับรถไปส่ง หาคนนั่งประกบท้ายไปอีกสองคน
เต๋าเต้ยยอมเข้ากรงแต่โดยดี ไม่ขู่คนแปลกหน้าที่นั่งประกบอีกด้วย
อาการผิดปกติภายในทำให้ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง หายซ่าชั่วคราว ลมแรงปะทะหน้าจนต้องหมอบลงกับพื้น
มองไม่เห็นนายหญิงที่นั่งชะเง้อมองจากด้านหน้ารถ ในสมองน้อยๆนั้นคงเต็มไปด้วยคำถาม ?
รถจอดเทียบหน้าคลีนิค อุ่นใจอีกครั้งเมื่อเห็นนายหญิง เต๋าเต้ยถูกพาไปผูกไว้ที่เดิม
หลังจากนั้นนายหญิงก็เดินหายเข้าไปข้างใน แต่คราวนี้ไม่เห็นนายหญิงเดินกลับออกมา
มีแต่หมอผู้ชายคนใหม่ตัวโตถือเข็มฉีดยา เดินนำหน้าผู้ช่วยหมอคนเดินมุ่งตรงเข้ามา
เหมือนหนังที่ฉายซ้ำอีกรอบ หมอซ่อนเข็มไว้ข้างหลังเดินวนไปรอบๆ ประสบการณ์เมื่อเช้ายังไม่จางไปจากใจ
ผู้ช่วยหมอเริ่มหลอกเบนความสนใจ ลูกไม้เก่าไร้ผล
เต๋าเต้ยระวังตัวยกกำลังห้า.....ยืนจังก้าหน้าเข้มแยกเขี้ยวพร้อมรบ ส่วนหมอตั้งท่าราวกับนักกีฬาฟันดาบ
ทิ่มแล้วชิ่งหลบ เพียงแค่กระพริบตาหมอเหยียดสุดแขน แทงเข็มตรงเข้าที่ขาหลัง
เต๋าเต้ยกระโจนเข้าหาหมอเหมือนกระทิงเปลี่ยว โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ทำซ้ำกันหลายครั้งกว่ายาจะหมด
ต้องชื่นชมความว่องไวของหมออย่างจริงใจ แต่ข่าวร้ายสำหรับเต๋าเต้ยยังไม่หมด
หมอนัดให้ไปฉีดวัคซีนใหม่อีกครั้ง เพราะยาแก้แพ้ที่เพิ่งฉีด ทำให้วัคซีนที่ฉีดไปเมื่อเช้าโมฆะ
นายหญิงมองสบตาเต๋าเต้ยอย่างอ่อนแรง เมื่อกลับถึงบ้านเต๋าเต้ยเซื่องซึม นอนหลับนิ่งนาน
ไม่วิ่งเล่นร่าเริงเหมือนเคย บ่อยครั้งที่นายหญิงเดินเข้าไปใกล้ๆ เพื่อดูว่ายังมีลมหายใจอยู่
คงเป็นเพราะฤิทธิ์ยา คืนนั้นเต๋าเต้ยได้เข้าไปนอนในบ้าน โดยมีนายหญิงนอนบนโซฟาใกล้ๆ
ทั้งคนทั้งหมานอนจ้องตากันด้วยความห่วงใยจนรุ่งเช้า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนหน้าใหม่
สำหรับคนที่มีสัตว์เลี้ยงแสนรักในบ้าน ภายใต้หลังคาเดียวกันกับเจ้าหนูผู้บุกรุก และไม่อาจรู้ด้วยว่า
วันใดเพื่อนบ้านอีกหลายสิบหลังคาเรือน จะจัดงานปาร์ตี้ "เรด คิลเลอร์ " อีกหน
สำหรับเต๋าเต้ยเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น มันเป็นเรื่องเศร้าๆที่หมาอยากลืม...
แต่ถ้าเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ ทุกวันนี้เต๋าเต้ยยังสวมวิญญาณนักล่า
ออกลาดตระเวนรอบๆบ้านคอยขับไล่ผู้บุกรุกอย่างแข็งขัน

โดย : กี๋ ท่ายาง [ 2006-01-23 17:24:12 ] 203.113.66.9 EDIT DELETE

หน้า: (หน้าก่อน)  1 ...  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53 ...61   (ต่อไป)