แม่กี๋อดไม่ได้ ที่จะนึกถึงเจ้าของเก่าของหัวโต อยากรู้ว่า เขาเลี้ยงดูหัวโตอย่างไร? วัยเด็กของหัวโต รูปร่างหน้าตาและนิสัยเป็นอย่างไร? หรือเป็นหมามาจากจังหวัดไหน? คนหรือประสบการณ์กันแน่ ที่หล่อหลอมให้หมาตัวนี้..เข้าใจและเรียนรู้การมีชีวิตอยู่ร่วมกับคนอย่างเป็นสุข หัวโตเข้าใจคำสั่งของแม่กี๋ได้เป็นอย่างดี ทำตามคำสั่งสั้นๆ ง่ายๆได้หลายคำ เช่น นั่ง ยืน ลุกขึ้น เงียบ กินข้าว กินน้ำ นอน อาบน้ำ สะบัดตัว สวัสดี .. . แม่กี๋ได้ใช้คำพูดเหล่านี้สื่อสารระหว่างกัน ตั้งแต่หัวโตมาอยู่ด้วย แน่นอนที่มันไม่ได้เกิดจากการฝึกของแม่กี๋เอง หากแต่มันติดสมองน้อยๆนั้นมาจากอดีต จนถึงวันนี้ แม้นสมองจะเสื่อมถอย หัวโตก็ยังจดจำ คำพูดคำสั่งใหม่ๆของแม่กี๋ เช่น ม๊ะ(มาหา) ป๊ะ(ไปกัน) มาหาแม่ กินขนม ไปเที่ยว เข้าบ้าน ฉีดยา เป็นต้น แม่กี๋ชอบคุยเล่นๆกับพ่อจ๋าว่า พ่อจ๋า สงสัยหมาหัวโต ใกล้จะเป็นคนแล้วละมั้ง หมั่นไส้จังเป็นหมาจะรู้อะไรกันนักหนา แม่กี๋จึงไม่อายที่จะพูดคุยกับหมาของตัวเองในบ้าน หรือพูดทักทายกับหมานอกบ้าน หัวโต...ทำไมไม่กินข้าว แม่เบื่อหัวโตจริงๆ บอกให้กินข้าวก็ไม่กิน เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก พูดไม่รู้เรื่อง เสียงเข้มๆ ประกอบท่าทางขมึงตึงของแม่กี๋ ทำให้หัวโตเหลือบตามอง แล้วค่อยๆลุกขึ้น เดินไปที่ชามข้าว เริ่มกินไปเรื่อยๆจนหมดชาม ส่วนแม่กี๋ยืนอมยิ้มแก้มตุ่ย ภูมิใจที่หลอกหมาหัวโตได้สำเร็จ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่.......ถึงสมองหมา แต่ปัญญาน่ารักเกินบรรยาย แม้นว่าบ้านพักจะมีบริเวณโดยรอบรวมถึงลานดิน ที่มีหญ้าธรรมชาติเหมาะกับการขับถ่ายของหมา แต่โดยธรรมชาติ หมาเป็นสัตว์รักความสะอาด ไม่ชอบปล่อยของเสียเลอะเทอะ ในที่อยู่ของตัวเอง หัวโตก็เช่นกัน ไม่เคยทำความสกปรกในรั้วบ้าน บางวันหัวโต แอบเข้าไปอึ ที่ดงตะไคร้ ป่ารกบริเวณหลังบ้านผู้อื่น บ้านหลังนี้อยู่เยื้องๆกันไม่ไกล หรือบ้านหลังไหนที่มีพื้นดินและกลิ่นหญ้า หัวโตจะพยายามแฝงกายหลบแวบเข้าไป โดยไม่มีใครทันสังเกตเห็น บางวันเจ้าของบ้านออกไปทำงาน ปิดล็อคประตูรั้ว สักครู่แม่กี๋จะได้ยินเสียงหัวโตร้องเสียงดังกรี้ดกร้าด นั่งคอยาวอยู่ในรั้วบ้านเขา ไม่นานนักจะเห็นน้านักการปีนข้ามรั้วเข้าไปอุ้มหัวโต ยกข้ามรั้วออกมาอย่างทุลักทุเล ก็น้าตัวผอมเล็กกระจิดริด แต่หัวโตตัวอ้วนหนามหึมา ถึงแม่กี๋จะเข้าใจว่าเป็นธรรมชาติของหมา ที่ต้องหาทำเลเหมาะแบบหมาๆ แต่การเข้าไปละเมิดสิทธิของผู้อื่นถึงในบ้าน เป็นเรื่องที่เสียมารยาทคนเลี้ยงหมาและเพื่อนบ้านที่ดี สองคดีนี้ติดคุกทางใจหัวโต แม่กี๋จึงต้องรีบหาทางป้องกัน ไม่ต้องการให้การถูกละเมิดสิทธิ เกิดขึ้นกับใคร แม่กี๋เคยถูกละเมิดสิทธิ ที่บ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่เมืองกรุงฯ โดยหมาที่เจ้าของเปิดไฟเขียว ให้ออกไปหา ที่ขับถ่ายนอกบ้านเอง เมื่อใดที่หมาในซอยถูกปล่อยออกจากบ้าน เจ้าหมาจะเริงร่าพากันวิ่งอ้าว ฝุ่นตลบ เพื่อทำเวลา หาทำเลขับถ่าย เพราะถ้าขืนชักช้าโอ้เอ้ เจ้านายผู้มีชีวิตเร่งรีบเป็นอาจิณ จะเรียกกลับเข้าบ้าน อดปล่อยทุกข์!!! เจ้าหมาต้องเก็บของเสียเอาไว้ รอรอบต่อไป ที่กว่าจะมาถึงอีกตั้งหลายชั่วโมง..ถ้าอดรนทนไม่ไหว ขืน ปล่อย. ของเหม็นภายในบ้าน มีหวังถูกเจ้านายด่าเปิดเปิง แม่กี๋เห็นแล้ว แอบเห็นใจหมาเมืองกรุงฯอย่างแรง หมาเมืองกรุงฯ ที่อยู่ในนิวาสถานเช่น ทาวน์เฮาส์ แฟลต คอนโดฯ หอพัก ฯลฯ จะถูกเจ้าของฝีกไม่ให้ ปล่อย เรี่ยราด ไม่เป็นที่เป็นทาง เจ้าของจะไม่ยอมให้หมาของตัวเองปล่อย ในบ้านโดยเด็ดขาด หมาพวกนี้จะมีความอดทนอดกลั้นได้ดีเยี่ยม หมาเมืองกรุงฯจะต้องอั้นฉี่ อั้นอึ รอเจ้านายกลับบ้านทุกเย็น และสถานการณ์จะแย่ลงกว่าเดิม ถ้าเจ้านายติดธุระ มีเหตุต้องกลับบ้านช้า ผิดเวลา ในความเห็นของแม่กี๋ หมาเหล่านี้น่าสงสารมาก เพราะพวกเขาต้องพลอยมีความเป็นอยู่ ที่ฝืนธรรมชาติหมา และต้องปรับตัวให้เข้ากับ วิถีชีวิตของเจ้านาย เจ้าหมาในหมู่บ้านแม่กี๋ แม้นจะถูกปล่อยออกมานอกรั้วบ้าน แต่เมื่อเริ่มวิ่งมันก็ยิ่งไกล ตั้งแต่ต้นซอยไปจนถึงท้ายซอย มันก็ยังหาทำเลที่ถูกใจไม่ได้ เพราะตลอดเส้นทางที่วิ่งไป มีแต่ถนนคอนกรีตที่ร้อนระอุ ประตูบ้าน รถยนต์ที่จอดเรียงรายไปตลอดทาง แม้นในขณะที่กำลังหมุนตัวจนได้ที่ หย่อนก้นจัดท่าถนัด ก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อมีวัตถุลึกลับและเสียงขับไล่ลอยออกมาจากในรั้วบ้าน ไป โป๊ ไปขี้ที่อื่น เจ้าหมาต้องหาทางออก แก้ปัญหาเฉพาะหน้า หาที่ขับถ่ายตามธรรมชาติของหมา กล่าวคือธรรมชาติอย่างหนึ่งของหมาจะชอบขับถ่ายในบริเวณที่สกปรก หรือมีขยะมูลฝอย ซึ่งเป็นที่มาของคำพังเพยที่ว่า ไม่มีมูลฝอย หมาไม่ขี้ ดังนั้นหน้าบ้านหลังไหน ที่ไม่ค่อยทำความสะอาด ไม่เคยชะล้างหน้าบ้าน ปล่อยให้มีกลิ่นเน่าเสียของขยะบนพื้นหน้าบ้าน มีมูลฝอยหลงเหลือ ตกเรี่ยราด ไม่ค่อยเก็บกวาดใบไม้ ที่ร่วงหล่นทับถมกัน ระวังเถอะ!!หน้าบ้านนั้น อาจจะกลายเป็นส้วมของหมาในซอยหมู่บ้าน แล้วอย่าไปโทษหมาก็แล้วกัน ที่หน้าบ้านของแม่กี๋ถูกละเมิดสิทธิ มิได้เกิดจาก การขาดการดูแลรักษาความสะอาดหน้าบ้าน แต่เพราะบ้านที่อยู่ติดกัน มันดันรกร้าง ไม่มีผู้พักอาศัย เจ้าของบ้านคนเดิม ปลูกมะม่วงต้นใหญ่ไว้หน้าบ้าน พอไม่มีคนดูแลเก็บกวาด ใบมะม่วงจึงร่วงทับถมกันเป็นกองพะเนิน กลายเป็นมูลฝอยทั้งในบ้านและนอกบ้าน และมีของแถมจากบุรุษลึกลับ ที่ชอบเอาขยะมาทิ้งแปะไว้ หมาๆในซอยบ้านไหนๆ ต่างยกพวกพากันมาจับจองใช้เป็นที่อึถาวร และที่แย่ก็คือ อึกันแสนเพลิน เดินล้ำเส้น เผื่อแผ่มาถึงหน้าบ้านของแม่กี๋ด้วย
|