การเลือกที่รักมักที่ชัง ที่หัวโตแสดงออกมาอย่างชัดเจน เป็นข้อกังขาที่น่าสะกิดใจ ในความคิดของหมา ที่ไม่ต่างไปจากคน ในการรับรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่า ใครรัก ใครชอบ ใครเกลียด และคนไหนเป็นพวกพ้อง คนไหนเข้าข่ายศัตรู เปรียบเสมือนการยอมรับสมาชิกในฝูงเดียวกัน และ การปฏิเสธการเป็นพันธมิตรกับสมาชิกในฝูงคู่แค้น โดยตั้งแง่ทะเลาะเบาะแว้ง แบบเหมายกฝูง
แม่กี๋ของเริ่มที่คนแปลกหน้า ที่ไม่ใช่สมาชิกในครอบครัวก่อน โดยนิสัยแล้ว บางแก้วจะไม่ค่อยสบายใจและแสดงอาการดุร้าย หากมีคนที่ไม่รู้จักมักคุ้น เข้ามาเดิน มานั่งหรือข้องแวะพูดคุยกับเจ้าของ ภายในบริเวณบ้าน
ดังนั้นการที่คนแปลกหน้าจะเข้ามาผูกมิตรกับบางแก้วถึงในบ้าน จึงเป็นเรื่องที่ยาก และไม่นิยมทำกัน จึงมีน้อยคนที่จะประสบความสำเร็จ ส่วนใหญ่พอเห็นบางแก้วแยกเขี้ยวก็ถอดใจ ถอยหลังโบกมือลาลับ แต่คนที่ทำได้ก็ใช่ว่าจะหาไม่ได้ในปฐพี
นักการ ผู้มีหน้าทำความสะอาด ประจำพื้นที่ แฟลต บ้านพักและห้องแถว เป็นคนแปลกหน้า ที่จำเป็นต้องเข้านอกออกในบ้านแม่กี๋ทุกวัน เพราะโดยหน้าที่ๆต้องเข้ามา ดูแลเรื่องความสะอาด ตัดหญ้า และรดน้ำต้นไม้รอบๆบริเวณบ้าน เขาจะทำอย่างไรถ้าต้องเผชิญหน้ากับหมาบ้าน...ดุ?
นักการคนแรก... เข้าบ้านกี่รอบๆก็สอบไม่ผ่าน เข้ามาทีไร เจอหัวโตจ้องจู่โจม ไม่ชอบหน้าหน้าเอามากๆ หยิบจับของในบ้านไม่ได้ ตัวเขาเองก็ไม่ใช่ย่อย ชอบเงื้อไม้กวาด ทำท่าไล่และขู่จะตี แม่กี๋ต้องล่ามหัวโตไว้ เวลาเขาเข้ามาทำงาน เจอกันนอกบ้าน หัวโตก็ยังเห่าไม่เลิก เขาทำงานได้ไม่นาน ทางการเชิญออก เพราะทั้งขี้เกียจ และขี้เมา
นักการคนต่อมา ขอเรียกว่า น้านักการ คนนี้ท่าทางมีอายุแล้ว แกขอเข้ามาทดลองงานแบบไม่รับเงิน ขอเพียงได้สัมปทานมุมขยะ ที่แกสามารถ เก็บกระดาษ ขวด กระป๋อง เพื่อเอาไปขายเป็นรายได้เลี้ยงครอบครัว แกเข้ามาเก็บกวาด ตัดหญ้า รดน้ำต้นไม้ โดยไม่สนใจหัวโต ที่วิ่งพุ่งเข้าขู่และเห่าไล่ งับน่องบ้าง เอาปากกระแทกขา พ่นน้ำลายเปียกกางเกง
น้าทำใจเย็น หน้าตายบวกใจสู้ ไม่ตอบโต้ ทำงานของแกไปเรื่อยๆ อย่างมากก็แค่ หันไปถาม
ทำไมเล่า...!! แกไม่เคยดุ ไล่ หรือตีหัวโตเลยสักครั้ง เจอไม้นี้หมาแก่หัวโตงง ถอยไปนอนหมอบมองเฉยๆ แต่ก็อดตามไปตรวจเช็คดูว่า น้าเดินไปทำอะไรตรงไหนในบ้านทุกฝีก้าว หัวโตเริ่มคุ้นเคยกับการที่น้าเข้ามาทำงานในบ้าน
เคล็ดลับของน้าคือ ความเอื้ออาทร แกมีน้ำใจหิ้วกระดูกหมูอันโต ที่แกไปขอมาจากร้านข้าวขาหมู บางวันก็เป็นหัวปลาทอด ที่แกได้มาจากแฟลตและห้องแถว มาฝากหัวโตทุกวัน
ยามที่หัวโตไม่สบาย ได้รับบาดเจ็บ แกจะป้อนยาและล้างแผลใส่ยาให้จนหาย และยังอาบน้ำให้หัวโตทุกอาทิตย์ นอกจากนั้น แกยังรับงานพิเศษ คือเปิดรั้วให้หัวโต ได้เข้าออกไปเที่ยวนอกบ้านทุกเช้า
คงไม่ต้องบอกว่า หัวโตนั้นติดอกติดใจน้าเข้าอย่างจัง ทุกๆเช้าเวลาได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซด์ของน้า มาจอดข้างบ้าน หัวโตจะร้องคร่ำครวญ ขอร้องให้เปิดประตู เฝ้าเดินตามไปทุกหนทุกแห่งที่น้าทำงาน ตั้งแต่พื้นราบไปจนถึงบนแฟลตชั้นสี่ หัวโตยอมรับในไมตรีจิต ด้วยการเปิดหัวใจต้อนรับน้านักการ เข้าไปเก็บไว้ในหัวใจห้องที่ห้า...อย่างถาวร
การเลือกที่รักก็พอจะเข้าใจได้ว่า เมื่อคนทำสิ่งดีๆให้ หมารู้คุณคน ย่อมจะรักตอบ มันก็ไม่เห็นเป็นเรื่องแปลก แต่ที่ไปเกลียดคน ที่เขาไม่เคยทำร้ายหรือแม้นแต่ดุด่านี่สิ มันแปลกดีนะ!!
สมพงศ์ ผู้มีหน้าที่ดูแล ให้อาหาร เจ้าแซมและเจ้าบอส หมาเชพพอดสองพ่อลูกบ้านตรงกันข้าม คู่พิฆาตที่เป็นศัตรูคู่แค้นเจ้าเก่า สมพงศ์ถูกหัวโตเหมาให้อยู่ในฝูงของหมาเชพพอด และตกเป็นจำเลยโดยไม่รู้ตัว หัวโตวิ่งไล่เห่าสมพงศ์ทุกครั้งที่เห็นเดินหรือขับรถผ่านหน้าบ้าน
ตลอดทั้งวันหัวโตจะเอียงหู คอยฟังเสียงเดิน เสียงรถ ที่แม้นจะอยู่ในระยะไกล ก็ไม่อาจพ้นรัศมีการได้ยิน เพราะเวลานอน หัวโตจะแนบหูข้างหนึ่งลงกับพื้น เหมือนวิธีของนายพรานป่า ที่ช่วยให้การได้ยินเสียงในระยะไกลมีประสิทธิภาพมากขึ้น เหตุการณ์นี้เล่นเอาสมพงศ์ยิ้มอย่าเอียงอายทุกครั้งที่เดินผ่าน ทำหน้าทำนองว่า ผม..นายสมพงศ์...โดนเหมาเป็นศัตรูของหมาแบบยกฝูง เสียแล้วครับ
การมีนายเพียงคนเดียวของบางแก้วหัวโต จึงไม่ได้ปิดกั้นการมีความสัมพันธ์อันดีกับคนอื่นๆ หากแต่การเลือกยอมรับมิตรใหม่หรือตั้งตนเป็นศัตรูกับใคร หัวโตขอสงวนไว้เป็นเรื่องของความพึงพอใจส่วนตัว
ดังนั้นหากคนที่คิดจะคบหมาเป็นเพื่อน การทำความรู้จักและผูกมิตร โดยเฉพาะการแนะนำตัว ควรคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ที่อาจเป็นตัวช่วย ให้การเริ่มต้นของมิตรภาพ ให้เป็นไปอย่างราบรื่น
ปัจจัยข้อที่หนึ่ง: ลักษณะนิสัยหมา หมาบางตัวขี้อายและไม่ค่อยไว้ใจใคร เจอคนวิ่งหนีสุดชีวิตหรือบางทีฉี่ราด ตื่นเต้นหรือหวาดกลัว ตัวสั่นงันงกแตะเนื้อต้องตัวไม่ได้ ถ้าไม่กัดตอบ ก็ร้องราวกับโดนทุบหัว เจ้าหมาพวกนี้มักผ่านการถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังตั้งแต่เด็ก ตลอดทั้งวัน ไม่ได้พบปะใครเลยนอกจากเจ้าของ
เจ้าแจ๊ค เป็นลูกติดท้องของ มิเกิลหมาท้องแก่ ที่พี่หล้าพี่เลี้ยงปลาทู เก็บเอามาเลี้ยงไว้ มิเกิลออกลูกมาห้าตัว สวยเนี๊ยบทุกตัว ขนปุยสีขาวสลับน้ำตาลอ่อน พันธุ์เตี้ย พี่หล้าแจกจ่ายเพื่อนๆคนงานที่รักหมาเหมือนกัน ให้เอาไปช่วยเลี้ยง บางคนส่งกลับไปอยู่บ้านนอก บางคนเลี้ยงอยู่ไว้ในห้องพัก
เจ้าแจ๊ค ได้ชื่อตามพระเอกหนังเรื่องไททานิค เจ้าของเป็นแม่บ้านที่โรงงาน แต่งงานแล้วหลายปีไม่มีลูก เธอจึงเลี้ยงเจ้าแจ๊คเหมือนลูกแท้ๆ เลี้ยงไว้ในห้องพัก นอนบนเตียงด้วยกัน อาหารการกินจัดเตรียมให้อย่างดี เจ้าแจ๊คอาบน้ำบ่อย จนตัวขาวสะอาดน่าอุ้ม
แต่นิสัยเจ้าแจ๊คแปลก เจ้านี่กลัวคนแปลกหน้ามาก เวลาเอามาเที่ยวที่โรงงาน ใครทักทาย เจ้าแจ๊คจะนอนตัวสั่น พร้อมกับฉี่ราดเปียกไปทั้งตัว พอเข้าไปใกล้ เจ้าแจ๊คจะขู่และแว้งกัด แม่กี๋ว่า เจ้าแจ๊คเป็นหมามีปัญหาทางจิต ชีวิตปราศจากสังคม เพราะต้องอยู่แต่ในห้องกล่องสี่เหลี่ยมมืดๆทั้งวัน
เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับพี่น้องในคอกเดียวกัน ตัวอื่นๆ ที่พี่หล้าเอาขังรวมไว้ในกรงหน้าบ้าน อยู่กับแม่หมามิเกิลและมีคนแวะเวียนมาทักทายบ่อยๆ พวกนั้นขี้เล่น ร่าเริงและชอบคลุกคลีอยู่กับคนและหมาด้วยกัน
แม่กี๋ขอเรียกญาติพี่น้องเจ้าแจ๊คว่า หมาเจนสังคม เจ้าหมาพวกนี้จะกระดิกหางเชิญชวน หน้าตายิ้มละไมไทยแลนด์ แสดงความสบายใจกับการอยู่ใกล้ชิดกับคนและหมาตัวอื่นมากกว่าเจ้าแจ๊ค
ดังนั้นถ้าตกลงใจแล้วว่า อยากเป็นเพื่อนกับหมาขี้อาย ช่วงของการแนะนำตัว อาจต้องใช้ความสุภาพอ่อนโยน หลีกเลี่ยงการหักหาญน้ำใจ รอให้เพื่อนหมาคลายความกังวล จนหายเครียดเสียก่อน แล้วค่อยจับตัวหรืออุ้ม ไม่ควรอุ้มทั้งๆที่หมากำลังหวาดกลัว เพราะเพื่อนหมาอาจกัดและ ปฏิเสธการสร้างมิตรสัมพันธ์กันตลอดไป
แต่หมาบางตัว ชอบต่อสู้หรือทะเลาะเบาะแว้งกับคนและหมาอื่น มีพฤติกรรมก้าวร้าว ที่มีเหตุผลหลายประการ เช่น เผ่าพันธุ์ การเลี้ยงดูและประสบการณ์การถูกทารุณกรรมตั้งแต่เล็กจนโต
ภาวะใดๆที่กดดัน ให้หมามีความคิดทางด้านลบต่อเจ้าของ บุคคลอื่น สุนัขตัวอื่นหรือสัตว์อื่น จะแสดงอาการต่อต้าน ที่เห็นได้จากพฤติกรรมที่ก้าวร้าว เจ้าหมาพวกนี้จึงมักได้คำต่อท้ายว่าหมา...ดุ
หมาที่ดุจากสายเลือด หรือ ยีน เมื่อเจอคนหรือหมาอื่น หากเจ้าของควบคุมไม่ได้ หรือสุนัขไม่ได้ถูกฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งและ ไม่คุ้นเคย อาจเข้าจู่โจมทำร้าย เกิดอันตรายได้ ดังนั้นควรอยู่ห่างๆเข้าไว้ ไม่ต้องอยากไปทำความรู้จักมักคุ้น หรือหากเจ้าหมาไม่ได้เปิดไฟเขียว ก็อย่าเลี้ยวเข้าใกล้ เป็นอันขาด
หมาดุจากการเลี้ยงดู เช่น การเลี้ยงแบบขังหรือ ล่ามโซ่ไว้ตลอดเวลา ทำให้เครียด อารมณ์เสีย เพิ่มความโหดมากขึ้น หรือการเลี้ยงแบบไม่ให้เห็นคน พอมีคนมาบ้านก็จับไปขัง กลัวหมาจะทำร้ายแขก เลยกลายเป็นว่า ชีวิตนี้มีแต่หน้าเจ้าของเท่านั้น ไม่เคยพบเห็นคนแปลกหน้า
รวมถึงหมาที่เจ้าของเลี้ยงด้วยลำแข้ง เช้าเตะ เย็นตี สะสมความรุนแรง ไว้ในความทรงจำของหมา หมาสามจำพวกนี้ จะเห่าและอาจกัดคนที่เข้ามาในบ้านเพราะเข้าใจว่า..คนแปลกหน้าคือศัตรู
ถ้าเกิดไปถูกชะตากับหมาดุ อยากคบไว้เป็นมิตรคู่ใจสักตัว การแนะนำตัวอาจต้องพึงพาเทคนิคทางด้านจิตวิทยาหมา ที่ว่าด้วยการเดินเข้าหาหมาดุหรือหมาก้าวร้าว จะต้องเดินเอาด้านข้างของลำตัวเข้าหา ถ้าเอาด้านหน้าหรือเดินเข้าไปตรงๆ หมาจะเข้าใจว่าไปประจันหน้า ท้าทาย และหากไม่แน่ใจว่าเพื่อนหมาจะโจมตี ในนาทีนั้น การยื่นแขนออกไปข้างหนึ่งก็เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของหมาออกจากลำตัวและขาได้
ลักษณะของหมา ที่แม่กี๋ได้เขียนพาดพิงข้างต้น อาจแยกออกได้เป็นสองประเภท ได้แก่หมาไร้สังคมและหมาเจนสังคม ที่มีผลมา_จากธรรมชาตินิสัยของหมาและการเลี้ยงดูของเจ้าของ
ปัจจัยข้อที่สอง: การสื่อสารระหว่างคนกับหมาไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป การเข้าไปความรู้จักกับหมาในครั้งแรก ไม่ควรเริ่มต้นที่การสัมผัสตัว การกอดรัดสิ่งที่เรารักเป็นเรื่องของคน แต่สำหรับหมาการนัวเนียกันเป็นพัลวัน เกิดขึ้นเมื่อกำลังต่อสู้หรือผสมพันธุ์กัน
ดังนั้นส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับกิริยาอาการทักทายอย่างเป็นมิตร ที่หมาชอบทำเพียงแค่ยืน อ้าปาก ยิ้ม และกระดิกหาง ดังนั้นถ้ายังไม่ใช่มิตรกัน อย่าคิดไปจับหัว จับหู จับหาง หรือ ลูบหน้า ลูบหลัง โดยเจ้าหมายังไม่ได้เชื้อเชิญ
อวัยวะสาม ห ที่ทำไม หมาถึงหวง หู หาง หัวนักหนา? ก็เพราะอวัยวะทั้งสามเป็นจุดยุทธ์ศาสตร์สำคัญของหมา ที่ใช้แสดงอารมณ์ต่างๆ กระดิกหางเมื่อดีใจ หางจุกตูดหรือหางห้อยตกอยู่ด้านหลังเมื่อกลัวหรือยอมแพ้ พอสงสัยอะไรบางอย่างก็ทำหางตั้งขึ้น ขยับหูไปมา หรือเอียงหน้า เอียงคอ เมื่อได้ยินเสียงปกติผิด
ปัจจัยข้อที่สาม: สถานการณ์และสภาพแวดล้อม เช่น อากาศที่ร้อนจัด หนาวเย็น หรือ ลมเย็น ชุ่มฉ่ำหลังฝนซา มีผลต่ออารมณ์แปรปวนของคนและหมา ปัจจัยภายนอกที่สามารถ ส่งผลดีและผลเสียต่อมิตรภาพ ในการพบปะกันเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอากาศร้อนอบอ้าว และอึดอัด หมาจะหงุดหงิดและ ฉุนเฉียวได้ง่าย เคยมีข่าวขึ้นหน้าหนึ่งเรื่องหมาทำร้ายสิ่งมีชีวิตร่วมบ้านปางตาย มานักต่อนัก
หมาบาดเจ็บ ป่วย หมาแม่ลูกอ่อน ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ หมาจะดุและหวาดระแวง บางตัวกัดได้แม้นกระทั่งเจ้าของและ คนเลี้ยง หมาในอารมณ์นี้ ไม่เหมาะกับการทักทายหรือเริ่มทำความรู้จักกัน
จากประสบการณ์วัยเด็กของแม่กี๋ ที่บ้านมีหมาไม่มีเจ้าของชอบมาป้วนเปี้ยนหลายตัว มีทั้งดุมากไปจนถึงเชื่องเหมือนแมว อยู่มาวันหนึ่งเจ้าตัวเมียสองตัว อุ้มท้องพร้อมกัน แถมยังยังนัดกัน เข้ามาหาทำเลออกลูกในบ้าน เจ้าตัวดุและนังหนูตัวเชื่องออกลูกอ้วนจ่ำม้ำหลายตัว
ปกติแม่กี๋จะเป็นมิตรกับเจ้าตัวดุได้ดี จึงเข้าดูเด็กๆได้ใกล้ๆ แต่ไม่กล้าจับ ส่วนลูกนังหนูตัวเชื่องเข้าไปอุ้มได้สบาย ครองใจทั้งสองแม่หมาได้เพราะแอบเอาข้าวไปให้บ่อยๆ แต่คนอื่นๆเฉียดเข้าไปใกล้ แม้นจะโดยบังเอิญก็ตาม ได้รอยเขี้ยวหรือไม่ก็ช้ำเลือดทุกราย
มีอยู่วันหนึ่งแม่กี๋ดันอุตริเอาถุงสวมหัว แล้วย่างสามขุม เข้าไปหาหมาแม่ลูกอ่อน เจ้าตัวดุกระโจนงับเข้าให้ที่น่องทันที และมีนังหนูตัวเชื่องจดๆจ้องๆ กำลังจะเข้ามาร่วมวงขย้ำ แต่พอเอาถุงออก ก็พากันถอยห่างออกไป
แม้นเรื่องจะเกิดขึ้นมานาน แต่แม่กี๋ยังจำภาพได้ชัดเจน เพราะมันเป็นบทเรียนราคาแพง ที่ทำให้แม่กี๋ต้องโดนเข็มจิ้มจนระบมแล้วระบมอีก ดังนั้นหากรู้ตัวว่าหน้าไม่คุ้น อย่าเข้าไปจุ้นกับหมาแม่ลูกอ่อนที่ไม่รู้จักเป็นอันขาด
แม่กี๋ลองหาสาเหตุของความโหดที่ร่ำลือของหัวโต สาเหตุอาจเกิดจากการเคยถูกทำร้ายโดยคนและหมา เมื่อถูกทำร้าย ให้เจ็บตัว ก็ต้องต่อสู้ป้องกันตัว ไม่ยอมปล่อยให้ใครมาข่มเหง แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าไม่มีใครมาตอแยหาเรื่อง หัวโตไม่เคยวิ่งเข้าไปจู่โจมคนหรือหมาอื่น ที่อยู่นอกอาณาเขตเลย....หัวโตดุ..และโหดจริงหรือ?
เมื่อชีวิตเปลี่ยนไป กลายมาเป็นหมาบ้าน หัวโตมีเหตุผลของความเป็นหมาดุอีกมุมมองหนึ่งมันกลับกลายเป็นเรื่องของนิสัยประจำพันธุ์ของบางแก้ว อาจเรียกได้ว่า นิสัยเหล่านี้เป็นแรงขับให้แสดงความก้าวร้าว ดุดัน
นิสัยขี้หวง หัวโตไม่ชอบให้ใคร เดินเข้ามาในรั้วบ้าน ยืนหน้าบ้าน เกาะรั้วบ้านหรือเอารถมาจอดขวางประตูบ้าน และยิ่งยกของเข้าหรือออกจากบ้าน หัวโตจะวิ่งเห่าต้อนหน้าต้อนหลัง นอนขวางประตูบ้าน หรือนอนทับรองเท้า ไม่ให้ใครเดินผ่าน ส่งเสียงคำรามเตือน ให้รู้ว่าถ้าใครกล้าข้ามต้องได้เห็นดีกัน
ช่างไฟฟ้าที่มาเดินสายไฟในบ้าน มาฟ้องแม่กี๋ว่า หัวโตไปนอนเฝ้ากระเป๋าเครื่องมือของเขา พอจะหยิบ สายไฟ ไขควง ค้อน ตะปู จะโดนงับมือ และยังนอนทับรองเท้าของเขา ไม่ยอมให้หยิบจับเช่นกัน โดนทั้งขึ้น ทั้งล่อง ช่างไฟฟ้ายืนเกาหัว ขำนิสัยขี้หวงของหัวโต
แขกที่มานั่งคุยกับพ่อจ๋าที่โต๊ะหินหน้าบ้านก็เช่นกัน หัวโตแอบมุดใต้โต๊ะเข้าไปงับขากางเกง จนแขกรีบอำลากลับ โกยอ้าวไม่เหลียวหลัง โชคดีที่หัวโตไม่เคยกัดใครเข้าเนื้อเลย น้ำหนักเขี้ยวจะงับเบาๆแล้วปล่อย เหมือนแค่เตือนให้รู้ว่า...อย่านะ!!..ผมเป็นหมา...ดุ นะจะบอกให้...ขอเตือน!!
ส่วนนิสัยอื่นๆเช่น นิสัยขี้อิจฉา หัวโตเป็นหมาขี้หึงเจ้านายมากๆ นิสัยหวงอาหาร หัวโตงกอาหารแบบสุดๆ อิ่มแล้วก็อย่าหวังว่าจะยกกระดูกให้กับหมาหน้าไหน และ นิสัยเลือดนักสู้เพื่ออิสระ หัวโตมีความเป็นจ่าฝูงเกินร้อย มั่นใจในตัวเอง ยอมหัก ไม่ยอมงอ ดื้อหัวชนฝา...ไม่ไว้หน้าหมาหรือคน...แม่กี๋ต้องทำใจยอมรับนิสัยหมาในปกครอง โดยสดุดี
หลังจากนินทาหมาบ้านอื่นมาหลายบ้าน ผนวกกับความเข้มข้นของนิสัยหัวโต ทำให้แม่กี๋ชักเกิดกิเลสพอกพูนเป็นทวีคูณ อยากรู้เสียเหลือเกินว่า นิสัยหัวโตมีที่มาที่ไปอย่างไร? คราวนี้แม่กี๋จะเอาจริง ยอมตากหน้า หาข่าว...จริงๆจังๆเสียที