ตอนที่ ๑๐ เปลี่ยนแปลงที่จะเรียนรู้ .......... เจ้าตัวยุ่งอายุ ฟันเริ่มขึ้นเป็นระเบียบสวยมาก แต่ยังมีปัญหาเรื่องเขี้ยว 4 เขี้ยวอยู่ ตอนนี้เขี้ยวล่างซ้ายรู้สึกว่าจะเสีย ฐานฟันนั้นมีสีคล้ำ ฟันเป็นสีขุ่นๆคล้ำๆ ไม่รู้ไปกัดแทะอะไรมา ซึ่งตอนนั้นเราสงสัยอย่างมากว่าฟันมันเป็นอะไรกลัวเค้าไม่หล่อ(อิอิ) เจ้านายก็มักจะบอกว่าเดี่ยวมันก็หลุดเองแหละ แต่จนแล้วจนรอดมันก็ไม่มีวี่แววว่าจะหลุด ซึ่งเป็นฟันที่มีปัญหาทำให้เจ้าตัวยุ่งหงุดหงิด ไม่อารมณ์ดีอย่างที่ควรจะเป็น มีขู่บ่อยมากจนบางทีไร้เหตุผลต้องหาวิธีแก้ปัญหากันต่อไป ซึ่งช่วงนั้นเจ้านายต้องเดินไกลอีกครั้ง เป็นช่วงที่เราทุกข์ใจเป็นที่สุด -เหนื่อยที่สุด เพราะเจ้าตัวยุ่งเค้ามีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหลายอย่าง ทั้งทางร่างกาย อารมณ์ ซึ่งบางที่เราไม่รู้เรื่อง ได้แต่ดูแล้วเก็บความสงสัยไว้ คงได้แต่พูดได้คำเดียวว่า รอ รอจนกว่าเจ้านายจะกลับ เราคนเดียวไม่สามารถพาเจ้าตัวยุ่งไปหาหมอได้ เมื่อเจ้านายกลับมา สิ่งที่เราต้องแก้ปัญหาให้เจ้าตัวยุ่งตอนนั้นคือ การพาไปถอนเขี้ยวที่มีปัญหานั้นออกไป เพราะเขี้ยว(ฟันแท้) มันแทงขึ้นมายาวพอสมควรแล้ว แต่ของเก่าที่มีซึ่งเป็นฟันเสียกับไม่หลุด พอโดน(เวลาเล่น) ก็หงุดหงิด อารมณ์ไม่ดีบ่อยครั้ง เวลาพาไปหาหมอ(ที่คลีนิกเดิม) เจ้าตัวยุ่งจะเริ่มกังวลแล้ว ทางที่ไม่คุ้นเคย ไม่ใช่ทางกลับบ้าน หางเริ่มตก นั่งไม่เป็นสุข มองซ้ายมองขวา คงคิดว่านายจะเอาผมไปปล่อยที่ไหนเนี่ย (ต้องมองทางและจำทางให้แม่นอย่างงัยเสีย จะได้กลับเองได้ อิ อิ) บางที่ก็มานั่งบนตัวเรา หนักจะตายหายใจแทบไม่ออก พอถึงโรงหมอคราวนี้ละ พี่แกจะไม่ยอมท่าเดียว ตอนแรกๆเค้าก็เงียบดีน่ะ แต่ครั้งนั้นมีผู้ชายวัย 40 เห็นจะได้เค้าเอาหมาที่รับเลี้ยงไว้มาทำแผล ช่วงรอเค้าเห็นเจ้าตัวยุ่งก็เดินเข้ามาทักทาย เหมือนไม่กลัว เพราะเจ้าตัวยุ่งนั่งเงียบ ลิ้นห้อย แววตามีวิตกบ้าง พอเค้าเดินเข้ามาพูดคุยกับเรา โดยเอาแต่มองหมา มันคงสงสัยเหมือนเรา ว่า "ผมมีอะไรประหลาด(ว่ะ)ถึงได้จ้องเอาๆ" ปากก็พูดไป ตาก็จ้องหมา ผมเลยเห่าเค้าซะขวัญผวาเลย และเราก็ได้ยินคำพูดต่อมาจากปากเค้าว่า ดุนี่ (อ้าว .. แล้วชั้นไปบอกเหรอว่าไม่ดุ) บางแก้วดุ เอาเรื่องเลยนี่เจ้าตัวนี่ (อะไรว้า..) ผมว่าจะเลี้ยงสักตัว แต่กลัวมันกัดเจ้าของ นี่เค้าเคยกัดใครยัง เฮ้อ.."เบื่อออออ" มากคำนี้ แล้วก็มองด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป เพราะแค่มันเห่าและคิดว่าดุ แล้วอย่างงั้นจะมาทักทำไมว่ะ (เราคิดเอง โมโหแทนหมามัน) เท่าที่ไปหาหมอและสังเกตแต่ละครั้ง เจ้าตัวยุ่งจะไม่เห่ากับทุกคนนะ ถ้าใครเฉย ไม่สนใจ เดินผ่านไปไม่ต้องมาอะไรกับเค้า เค้าก็เฉยๆ พอถึงคิวที่ต้องขึ้นเขียง คราวนี้ละมันส์เจ้าของหมาเหลือเกิน ตื่นไม่ยอมท่าเดียว ก็เลยต้องให้หมอมายืนฉีดยาสลบอย่างอ่อนๆ (หมอเรียกว่า ยาซึม) ให้ที่หน้าประตู ไม่ถึง 5 นาที ยาเริ่มออกฤทธิ์ เจ้าตัวยุ่งเริ่มขาอ่อน ยืนไม่อยู่ พยามเดินเข้ามาที่ตัวเรา หมอบนอนข้างๆ ในตัวเค้าเราก็อยากรู้นะว่ายาที่ฉีดเข้าไปมันทำให้เค้ารู้สึกอย่างงัย เค้าอยู่ไม่สุขเลย ถึงจะเดินไม่ค่อยไหว แต่ก็จะเดิน ขาสั่น ตาเริ่มมีน้ำคลอๆ โอ๊ย.. ตอนนั้นเราแค่เห็น เราสงสารอย่างบอกไม่ถูก แววตาเค้า เค้าถามอะไรเราเยอะแยะ ได้ทำได้แค่ปลอบเค้า หมอเห็นว่ายาออกฤทธิ์เต็มที่แล้ว ก็ให้เราพาหมาขึ้นเตียง ผ้าก็ไม่ปูรองให้ (หมาอื่นที่พันธุ์เล็กๆ ปูให้ทู้กกตัวเลย) พื้นเตียงเย็นหวาบ แค่วางเจ้าตัวยุ่งลงเค้าก็สะดุ้งเฮือกเลย หมอก็ให้เราจับปากหมาอ้า.า หมอจะได้สอดคีมเข้าไปได้เพื่อจะได้ดึงฟันซี่นั้นได้ แต่ด้วยใจนักสู้ หรืออึดของหมาก็ไม่รู้ มันไม่ยอม ผงกหัวดิ้นถึงที่สุด วงแตกทั้งหมอทั้งผู้ช่วย เจ้าของยังสติดีอยู่นะ .. แต่หมอเริ่มไม่มั่นใจแล้ว เลยออกความเห็นว่าต้องฉีดยาสลบอย่างแรง ไม่งั้นถอนไม่ได้ ... อ้าว.. เอาก็เอา(อีกแระ) แต่เราก็ถามหมอต่อว่า ปกติถอนฟันหมาอื่นๆ ต้องวางยาสลบกันม่ะ หมอบอกว่า ไม่หรอก แค่ยาซึมก็พอ แต่เจ้านีโอไม่ยอมเลยต้องขั้นนี้แหละ ตอนจับเค้าเพื่อฉีดยาสลบ เค้าจะฉีดเข้าที่สะโพกขาหลังนะ ช่วงที่ยาเดินหมอบอกว่าต้องเรียกชื่อเค้าตลอด พอยาเดินหมด หมดฤทธิ์เลยนะเอง(ไอ้ตัวยุ่ง) วันนั้นเลยได้จัดการกับตัวเค้าหลายเรื่อง สภาพเหมือนหมาตายจับไปในทิศไหนก็ได้ หายใจรวยริน จนต้องจับลิ้นยื่นมาออกมา ให้มีช่องหายใจบ้าง หมอบอกว่าเดี๋ยวเค้าหายใจไม่ออก หลังจากได้ถอนฟันนั้นไปแล้ว เจ้าตัวยุ่งเปลี่ยนไปทางดีขึ้น ในเรื่องการขู่ของเจ้าตัวยุ่ง แต่ละครั้งจะมีสาเหตุของการขู่ทุกครั้งเท่าที่สังเกตมา เริ่มจากกรณีที่ 1 การหวงอาหาร ตอนนี้ลดลงไปมาก จากเดิมที่เข้าใกล้ไม่ได้ ตอนนี้นั่งอยู่ใกล้ได้เลย หยิบชามข้าว ชามน้ำเค้าได้ แต่ขณะที่กินหยิบไม่ได้ (มีขู่อยู่) นอกจากชามข้าวแล้วถ้าเป็นขนมอื่นที่เราให้จากมือ จะตกลงพื้นหรือว่า เค้าทำตกเอง เวลาเราหยิบก็ไม่มีขู่ สรุปคือว่าหวงชามข้าวขณะที่กิน แต่อยู่ใกล้ได้ นั่งเดินใกล้ๆได้ กรณีที่ 2 การขู่เวลาที่ไม่ซบอารมณ์(ไม่ได้ดั่งใจ) เวลาพาไปเดินเล่น บางครั้งเราต้องกระตุกสายจูงไม่ให้ไปทางอื่น หรือไม่ให้ไปคาบเศษอาหาร ฯลฯ เวลาที่เค้าไม่พอใจเมื่อกลับบ้าน ต้องจับเช็ดเท้า เค้าจะขู่ในลำคอทีนึงก่อน ไม่กัดไม่เห่าไม่แสดงอาการก้าวร้าว คือเราจะรู้ว่าวันนี้เราขัดใจเค้าให้แล้ว ยังไม่หมดพอไปนั่งรับแอร์ ซึ่งเป็นห้องนอนของเรา เราเดินเข้าไปมีขู่อีกครั้ง พอเราไม่สนใจ ไม่เล่นด้วยพักใหญ่ๆ บ่นอะไรของเราไปเรื่อย เค้าก็รู้ตัวเราเลยต้องการให้ตัวยุ่งรู้กติกาการอยู่ร่วมกัน เรารู้ว่าเราแก้นิสัยเค้าไม่ได้ แต่เราลดความถี่ของเค้าได้ เราก็เลยต้องสังเกตเจ้าตัวยุ่งจนได้ประมวลสาเหตุได้ 2 เรื่อง(เวลาที่ขู่ในลำคอ) ในช่วงอายุนี้เราได้รู้มาจากในเว็บว่า เป็นช่วงที่หมาเหมาะที่จะสอน-ฝึกอะไรเค้าได้ ก็ควรจะสอนในช่วงอายุเท่านี้ เราก็เริ่มที่จะสอนคำสั่งพื้นฐานให้เค้าเป็นหมาที่น่ารักประจำบ้าน(ถึงจะไม่น่ารักนอกบ้านเลยก็ตาม) จริงๆแล้วควรจะเป็นเจ้านายสินะที่ควรจะสอนเค้า แต่เค้าก็ไม่เอา เรากลัวเหลือเกิน กลัวหมาเรามีปัญหา กลัวหมาไม่น่ารัก(เพราะคน) เราเลยตัดสินใจที่จะเรียนรู้เข้ามาหาอ่านการฝึกหมา เราไม่ได้ตั้งเป้าว่าหมาต้องเก่ง เริ่ด... เอาแค่เค้ารู้จักคำสั่ง เป็นหมาที่ดีฟังคำสั่งรู้เรื่อง ไม่ใช่เล่นไปวันๆ คำสั่งแรกที่เราสอนเค้าในช่วงอายุเท่านี้คือ สวัสดี เราทำอยู่หลายวันมาก โดยการพูดคำนี้ แล้วจับขาข้างหนึ่งของเค้ายกขึ้น บอกเค้าให้มองหน้า แล้วให้รางวัล ผ่านมา 4-5 วัน เรากำลังเล่นกันอยู่ เราเลยสอดแทรกคำสั่งที่เรากำลังเค้าอยู่ วันนั้นเค้าอารมณ์ดี และเป็นจังหวะที่ดีมาก เค้าสวัสดีได้โดยไม่ต้องจับนำแล้ว แล้วก็เป็นหมาบ้ายอเสียด้วย โดยการทำซ้ำๆ บ่อยค่ะ เจ้าตัวยุ่งทำและเข้าใจคำสั่งเค้าจะดีใจ และทำซ้ำๆอยู่อย่างนั้น (ตลกดี) คนที่ไม่เป็นอย่างเรามันภูมิใจอย่างบอกไม่ถูกเลย ^-^ เค้ายอมรับเรามากขึ้น สนุกเวลาที่ได้เล่นกันมากขึ้น แต่เราไม่ลืมที่จะสอนเค้าไปด้วยเลย พอแน่ใจแล้วว่าเค้ารู้คำสั่งนั้นๆอย่างถูกต้อง เราก็เพิ่มคำสั่งอื่นตามมาเรื่อยๆ เช่น ขอ, หมอบ, รอ (นั่ง, ไม่ สอนมาตั้งแต่วันแรกที่เค้าเข้ามาอยู่ที่บ้าน) |