เรียนคุณ ปิงปอง...... เสาร์อาทิตย์นี้  ได้ดูรายการ Dog Whisperer ทาง ยูบีซี ช่อง 61 หลายตอน  แต่ละตอน ดูแล้วนึกถึงกระทู้ต่างๆในเวบนี้  อยากให้คนรักบางแก้ว และกำลังเลี้ยงอยู่  ได้ดูกันทุกคน  เพราะหลายกรณีศึกษาที่ตรงกับปัญหาที่เล่ากันมาในเวบบอร์ดนี้จริงๆ  และสามารถแก้ไขได้ทุกปัญหา

ผู้บำบัด  ได้อธิบายสาเหตุ วิธีแก้ไข และสาธิตให้ดูว่า   เจ้าของ ต้องทำท่าทาง ทำเสียง  มีการแสดงออก  และปรับอารมณ์ และความคิดของตัวเองอย่างไรในขณะที่ปรับพฤติกรรมหมาแต่ละตัว  และทุกปัญหาแก้ไขได้ผลชัดเจนในทันทีที่ทำตามการแนะนำนั้น  

ได้พูดซ้ำพูดซากเรื่องรายการนี้มาหลายครั้งหลายท่านคงจะเบื่อ    แต่เพราะเห็นว่าไม่มีการตอบรับ  ไม่ทราบว่า  เพราะไม่สนใจ  หรือเพราะสาเหตุอื่น   แต่ตัวเองจะติดตามดูทุกครั้งถ้าสามารถทำได้  ไม่เคยพลาด   จึงได้เห็นมากมายหลายกรณีศึกษาที่   น่าจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อคนรักบางแก้วได้ดีจริง  

การพูดคุย แนะนำ  ปรึกษาหารือกันผ่านเวบบอร์ดนั้น   ไม่สามารถมองเห็น ท่าทาง การแสดงออก  น้ำเสียง  กิริยาอาการต่างๆ   ตลอดจนการแสดงออกทางอารมณ์ของทั้งหมาและเจ้าของ    คนอ่านแต่ละคนก็วิเคราะห์(เดา)ไปตามจินตนาการของตัวเอง    จึงไม่สามารถหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา ที่จะแก้ไขได้ตรงจุด  (นอกจากบังเอิญเดาถูก)

ได้พยายามติดตามอัดรายการนี้ลงแผ่นดีวีดีเอาไว้  ทั้งภาคภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เท่าที่เวลาจะอำนวย  ด้วยความหวังว่า  อาจจะได้มีโอกาสเผยแพร่ให้แก่ผู้รักบางแก้วที่สนใจจะลองชมรายการนี้บ้าง

จึงเรียนยังคุณปิงปอง ในฐานะเป็นผู้อำนวยการฝ่ายเผยแพร่ข้อมูลความรู้ ของเวบแห่งนี้  ว่า  มีข้อมูลรายการนี้อยู่หลายตอนค่ะ     

ได้ดูรายการ Dog Whisperer เมื่อคืนเวลา 20.00 น และ เมื่อเช้า เวลา 08.00 น

มีเรื่องหมาไม่อยากกินอาหารพอดีเลย  

ผู้บำบัด(Cesar Millan)  ซึ่งเป็นนักแก้ไขปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสัตว์โดยวิธีธรรมชาติ     บอกว่า  โดยธรรมชาติ  หมาต้องทำงาน(ออกไล่ล่าเหยื่อ)จึงจะได้กินอาหาร    เขาจึงใช้การให้หมาออกกำลังกายจนร่างกายเกิดการเผาผลาญ  จนถึงระดับที่ระบบในร่างกายต้องการอาหารขึ้นมาเองตามธรรมชาติ  แล้วจึงนำหมามาพัก  แช่น้ำเล่นให้ร่างกายเย็นลง  โดยวางชามอาหารไว้ในบริเวณใกล้ๆกันนั้น  เพื่อให้หมาได้กลิ่นอาหาร    ซึ่งจะไปช่วยกระตุ้นความอยากอาหารให้มากขึ้น ขณะที่ระบบในร่างกาย กำลังต้องการอาหารพอดี 

เมื่อดูอาการว่า หมาทำท่าว่าได้กลิ่นและกำลังมองหาอาหาร    ก็หยิบอาหารขึ้นมาถือไว้เฉยๆ  ในระดับที่หมาต้องยืดตัวขึ้นสูงสุด หรือกระโดดงับ จึงจะได้กิน  แต่ไม่ได้เรียกหรือยื่นอาหารไปจนถึงปาก(แบบที่เรามักจะทำกันเวลาจะอ้อนวอนให้หมากินอาหาร)   หมาจะพยายามยืดตัวขึ้นมาดมหาอาหารและกระโดดขึ้นมางับอาหารเอง  (อันเป็นจิตวิทยาพื้นฐานทั่วไป)   ตามสัญชาติญาณธรรมชาติของเขา

ตอนนี้ หมาตัวนี้ วิ่งไปหาชามอาหารเองได้แล้ว

ขออนุญาตสรุปปัญหาของซันมัย ค่ะ.....

-- เมื่อก่อนกลัวอาหารเม็ด ตอนนี้เบื่ออาหารที่ปรุงให้...

-- ซันมัยอาจแพ้ผงชูรสในอาหารหรือไขมันหมูในหมูพะโล้ก็ได้ ...

-- อาหารเม็ดเจ้าซันมัยไม่แพ้ครับใช้ต่อเนื่องมานานeukanuba,proplan,royan canin,nutra gold, สลับกันไปมาครับ แต่สงสารเจ้าซันมัยครับ มันกินด้วยความขมขื่น....

สรุปได้ว่า   การแพ้อาหารนั้น แก้ไขได้แล้ว เพราะซันมัย หายดี ดูขนและผิวหนังสมบูรณ์สวยงามแล้ว   แต่...ซันมัย  เบื่ออาหาร ทั้งแบบเม็ด  และแบบปรุงเอง 

ถ้าเป็นแบบนี้  ไม่ว่าจะให้กินอาหารอะไร  ซันมัยก็คงเกิดอาการเบื่อเข้าสักวันอีกจนได้

ดังนั้น  อยากให้พิจารณา เรื่อง พฤติกรรม(การให้อาหารหมา)ของเจ้าของด้วยค่ะ   

ส่วนใหญ่...หรือเกือบทั้งหมด..เจ้าของ มักจะยอมแพ้หมา  (เหมือนพ่อ-แม่ ที่มักยอมแพ้ลูก)ที่ขี้อ้อน ขี้ประจบ น่าเอ็นดู ถ้าหมาเมิน  ก็จะต้องไปสรรหาอย่างอื่นมาให้ไปเรื่อยๆ  ฟังดูเป็นเรื่องค่อนข้างยุ่งยากวุ่นวาย ซับซ้อนมากมาย  อย่างไม่น่าเชื่อ  แต่ก็ต้องเชื่อ

ตัวเองแทบไม่เคยมีปัญหาหมาเบื่ออาหาร   แม้สมัยที่ยังเลี้ยงหมาด้วยอาหารเม็ด   เมื่อถึงเวลาอาหาร  ก็วางอาหารไว้แล้วไปทำธุระอื่น  กะเวลาประมาณ 30-40 นาที กลับมาดู ตัวไหนไม่กิน  ก็เก็บชามอาหารออก  วางเฉพาะชามน้ำไว้ให้  สภาพร่างกายของหมา  ในภาวะปกติที่ไม่มีอาการป่วย   จะสามารถอดอาหารได้หลายวันโดยไม่อ่อนเพลีย   แต่ต้องได้กินน้ำในปริมาณพอสมควรตลอดเวลา  

สำหรับตัวเองจะจำกัดเวลาให้หมาปรับตัวปรับใจแค่ สามวัน   คือ ถ้าไม่กินก็เก็บ ครบสามวันแล้วยังไม่ยอมกิน  จะเริ่มกระบวนการบังคับ  โดยป้อนอาหารเม็ด(ที่แช่น้ำให้นิ่ม)ปั้นให้เป็นก้อน  ควรจะมีรูปร่างยาวเล็กน้อยให้ไหลลงคอได้ง่าย  ไม่ติดคอ   กะปริมาณอาหารเม็ดให้เหมาะสม  แช่น้ำซุป (เช่นน้ำต้มกระดูกหมู วัว ไก่..ห้ามปรุงรส)ให้นิ่มพอปั้นได้   ปั้นเตรียมไว้ให้พอ 1 มื้อ  ตอกไข่แดงใส่ชามไว้  จุ่มอาหารเม็ดที่ปั้นไว้ในไข่แดงแล้วยัดเข้าไปในคอหมา  โดยวิธีเดียวกับการป้อนยาเม็ด    ใช้นิ้วดันต่อไปจนสุด  แล้วจับปากหุบไว้ในท่าแหงนขึ้น   เกาคอ(บริเวณกระเดือก)หมาเบาๆ  จะกลืนเข้าไปอย่างเร็ว    เมื่อสังเกตว่าหมากลืนแล้วก็รีบป้อนต่อเนื่องไป จนหมดส่วนที่เตรียมไว้    

ทำแบบนี้ทุกวัน เป็นเวลา  ไปเรื่อยๆ   ร่างกายหมาจะปรับระบบการย่อย  มีน้ำย่อยออกมารอ  ทำให้ให้รู้สึกหิวเมื่อถึงเวลาอาหาร    ทำไปจนกว่า หมาจะเริ่มยอมกินอาหารเอง    อาจจะใช้เวลาเป็นเดือน  แต่เคยทำมาแล้วได้ผลจริง    ข้อสำคัญคือ  อย่าให้หมากินจุบกินจิบ กินขนม หรืออาหารว่างอื่นๆ

นำเสนอไว้เป็นทางเลือก(ที่อาจจะทำใจไม่ได้อีก)ค่ะ

ตามที่ หนูน้อยหน่าบอก ถูกต้องแล้วค่ะ

ส่วนเรื่องผสมน้ำกิน  ความจริงน้ำสกัดชีวภาพที่ขายทั่วไป   ถ้าไม่มีส่วนผสมสมุนไพรกำจัดแมลง(เขาจะระบุไว้ที่ขวด)  ก็ผสมน้ำกินได้ค่ะ  อัตราส่วนเจือจางพอให้หมาทนกินได้  ถ้ามากไปหมาบางตัวจะ(ทำเป็น)เหม็น    ประมาณ 1 ช้อนชา ต่อน้ำ 1 ลิตร  หรือเจือจางกว่านี้ก็ได้  แต่ไม่ควรเข้มข้นมาก   ถ้าใช้น้ำส้มแอปเปิลไซเดอร์ อย่างหนูน้อยหน่าได้  ก็จะยิ่งดีค่ะ

ปกติ  ถ้าเป็นสูตรที่  ตั้งใจจะทำเอาไว้กิน(สำหรับคนกิน แน่นอน หมาย่อมกินได้ด้วย)  จะใช้ผลไม้ หมักกับน้ำตาลทรายแดงหรือน้ำตาลธรรมดา  เพราะจะให้ความรู้สึกสะอาด  หอม น่ากินกว่า    น้ำสกัดชีวภาพที่ใช้ภายนอกทั่วไปจะใช้พืชสดอวบน้ำ เช่นหยวกกล้วย ผักตบชวา ผักกะเฉด เปลือกสัปรด ฯลฯ ...นำมาหมักกับ กากน้ำตาล หรือโมลาส  ซึ่งจะมีสีสัน และกลิ่น ไม่สวยงาม หอมหวน ชวนกินค่ะ

แผลเปื่อยของหมา ใช้เบทาดีนเช็ดให้ทั่วแผลและโดยรอบแผลเป็นบริเวณกว้างพอสมควร  เพื่อฆ่าเชื้อ   ความจริง ถ้าเป็นแผลเล็กๆขนาดที่เล่ามา(ไม่ใช่แผลลึกเปิด)  แค่ทำความสะอาดด้วยเบทาดีน เช้า- เย็น ไม่กี่วันก็หาย

การทำแผลให้หมา  ก่อนลงมือทำ  อย่าตั้งท่าให้ออกนอกหน้า  จนหมารู้ตัวและเตรียมสร้างพฤติกรรมต่อต้าน    ต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม   แล้วเข้ามาเล่นกับหมาตามปกติ  เมื่อได้จังหวะ    ก็จับขาเขาไว้ให้มั่นคง  (ไม่ใช่กำขาเขาจนแน่นเกินไป...แต่หมายถึง  ท่าทางที่มั่นคงไม่ว่อกแว่ก , ยึกๆยักๆ) 

จับตรงเหนือแผล(ระหว่างต้นขากับแผล)  แล้วเช็ดสำลีชุบยา(ที่เตรียมไว้แล้ว)ไปบนแผลให้ทั่ว อย่างรวดเร็ว  ไม่ต้องตี หรือดุเขา  ไม่ต้องสนใจว่าเขาจะดิ้นรนขัดขืน   ไม่ต้องพูด หรือทำเสียงอะไรทั้งสิ้น    ใช้ความสงบ สยบความเคลื่อนไหว

ความจริงแล้ว  ทั้งหมดจะใช้เวลาแปร้บเดียวเท่านั้น   ถ้าตั้งใจทำรวดเดียวให้จบ   เสร็จแล้วควรจะเล่นกับเขาอย่างสนุกสนานต่อเนื่องไป  ให้เขารู้สึกเหมือนกับ การทำแผล เป็นส่วนที่แทรกแว๊บเข้ามาระหว่างเล่นเท่านั้น  ไม่ใช่เรื่อง(ที่ถูกเน้นจนเห็นความ)สำคัญ   อย่ามัวไปกอด  หรือโอ๋หมา หลังทำแผล 

ตอบ คุณ พิสูจน์ โอวาทเภสัชช์....

ไม่เป็นไรค่ะ  ตอนมาโพสบอกเรื่องอาหารดิบ  ก็คาดหวังไว้แล้วว่าจะเป็นแบบนี้ค่ะ  ถึงได้ไม่อธิบายให้มากความ  ใช้วิธีลิ้งค์มาแปะให้ดูเอง(ซึ่งก็เสียเวลานานอยู่เหมือนกัน) เผื่อจะสนใจรับฟังไว้ เป็นทางเลือกค่ะ  

ด้วยความที่  ตัวเองรู้สึกเหมือนเป็นหน้าที่ ในฐานะคนรักหมา   ที่จะต้องพยายาม ให้ข้อมูล  ที่จะทำให้หมาทั้งหลาย(แม้จะไม่ใช่หมาของตัวเอง)  มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด  ตามที่เขาควรจะมี ควรจะเป็น ในทุกๆด้าน  จึงพยายามเข้าไปมีส่วนร่วมในการนำเสนอข้อมูล  และความคิดเห็น  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน  การเลี้ยงดู  การดูแลสุขภาพ ตลอดจนการปรับพฤติกรรมหมาและคน(ส่วนใหญ่จะเป็นที่ เจ้าของ)ให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ และมีความสุข ในสังคมเดียวกัน

วันนี้ พาหมาสองตัว ไปบริจาคเลือด ที่ธนาคารเลือด ม.เกษตร เพราะเมื่อวาน ไปที่โรงพยาบาลแล้วพบว่า มีหมาที่ต้องการเลือดด่วนแต่ยังหาเลือดไม่ได้  กำลังนอนรอเลือดอยู่   แต่กว่าจะกลับถึงบ้านก็ดึกแล้ว ตอนเช้าจึงรีบออกจากบ้านสิงห์บุรีแต่เช้ามืด  เพื่อรีบพาหมาไปให้เลือดได้ทันเวลา    นัดน้องที่รู้จักกันที่อยู่ในกทม. พาหมาตัวใหญ่ของเขามาด้วย  จะได้มีเลือดให้เลือกหลายกลุ่ม

ผลตรวจเลือดก่อนรับบริจาค   ปรากฏว่า ผลเลือดหมาของน้องเขา(กินอาหารเม็ดเกรดพรีเมี่ยมหนึ่งในหลายยี่ห้อที่เอ่ยถึงข้างบน)  ยังไม่สมบูรณ์เต็มที่เท่าหมาสองตัวของเรา(ที่กินอาหารดิบ)   แม้จะดูภายนอกแข็งแรง ดูดีมากพอๆกัน    หมอออกปากว่า  ไม่ค่อยเคยเจอหมาที่มาบริจาคเลือด   ที่ผลเลือดสมบูรณ์มากขนาดนี้    ส่วนใหญ่จะมีปัญหาอย่างน้อยๆก็ เกี่ยวกับค่าตับ ไต และเม็ดเลือดแดง

ก็มาเล่าสู่กันฟังเฉยๆ...... และขอเชิญชวนกันว่า....ใครมีหมาที่สุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์ดี  ไปช่วยกันบริจาคเลือด  ไว้สำหรับช่วยเหลือหมาป่วยยามฉุกเฉินค่ะ 

พรุ่งนี้ จะพาไปอีกสองตัว  เพราะเห็นหมอบอกว่า กำลังต้องการเลือดจำนวนมาก และ  หลายกลุ่มเลือด    

***....จากการที่ได้อ่านมาหลายกระทู้แล้วผมสังเกตุว่ามีหมาหลายๆตัวที่มี การเลี้ยงดูที่ดี จะค่อนข้างเลือกมากและมีความมั่นใจว่ายังงัยเจ้านายต้องสงสารแล้วเปลี่ยนอาหารให้จนถูกปากถูกใจ ....**** 

การเลี้ยงหมา เหมือนเลี้ยงลูกค่ะ  

การเลี้ยงดูที่ดี   น่าจะหมายความถึง  "..การที่พ่อ แม่ สามารถฝึกให้ลูกรู้จักกินอาหารที่ดี มีประโยชน์  กินง่าย อยู่ง่าย รู้จักเชื่อฟัง อยู่ในโอวาทพ่อ แม่..."  มากกว่าหรือเปล่าคะ