Home(บางแก้ว): Update อาการและความคืบหน้าของเจ้ามิ้นท์ บางแก้วที่ช่วยออกมาจากโรงงานพลาสติกย่าน ประชาอุทิศ

สืบเนื่องจากเรื่องราว การให้ความช่วยเหลือสุนัขบางแก้วออกมาจากโรงงานพลาสติก สามารถติดตามได้ที่กระทู้นี้

http://www.bangkaew.com/elearning/mod/forum/discuss.php?d=733#5965

ต่อจากนั้นได้รับตัวเข้าอยู่บ้านนิรมลแล้ว ตรวจเลือดพบว่ามีเชื้อหัดสุนัข จึงขอใช้กระทู้ที่ตั้งใหม่นี้ เป็นการติดตาม Update เรื่องราวความคืบหน้าของการรักษา และการปรับนิสัย ตลอดจนข้อมูลส่วนตัวสุนัขอื่นๆ เช่นใบพันธุ์ประวัติ และ....ผู้ที่จะ Update ความคืบหน้าขอเชิญโพสต์ต่อจากกระทู้นี้ได้เลยนะครับ

	ตอบ: Update อาการและความคืบหน้าของเจ้ามิ้นท์ บางแก้วที่ช่วยออกมาจากโรงงานพลาสติกย่าน ประชาอุทิศ โดย นิวัต เจริญชล - Wednesday, 15 June 2005, 01:38PM
	เอารูปเจ้ามิ้นมาให้ดูอีกรอบ เพื่อไม่ให้ลืมกัน ตอนนี้เพิ่งมาถึงบ้านนิรมล ความเห็นก่อนหน้า

ข้อมูลใบพันธุ์ประวัติ สุนัขตัวนี้ชื่อมิ้นท์ เพศเมียครับ ระบุเป็นขาว-เทา จากคอกวุฒเขื่อนขันย์ เกิดเมื่อ 11 มีนาคม 2546 ครับ พิษณุโลก

ความเห็นก่อนหน้า

เช้า 9 มิถุนายน พี่วินแจ้งว่าผลตรวจเลือดเจ้ามิ้นท์เป็นหัด

"ข่าวร้ายมากเลยครับ วันนี้ช่วงเช้าเข้าสัมนาทั้งเช้า ออกมาจากห้องสัมนา มี miss call เบอร์พี่วิน บ้านนิรมล จึงโทรกลับไป พี่วินบอกว่าเจ้ามินท์ ตรวจเลือดเจอเชื้อหัด ผมอึ้งไปเลย... ลองถามประวัติวัคซีนดู ปรากฎว่าได้ทำวัคซีนเฉพาะที่ฟาร์มทำให้ หลังจากออกมาอยู่ที่บ้านแล้ว ไม่ได้ทำวัคซีนอีกเลย เวรกรรมจริงๆ

ก็เลยโทรแจ้งทางคุณ nongthee ที่ได้ช่วยรอตไวเลอร์อีกตัวนึงไว้ ให้รีบตรวจเลือดโดยด่วน ก่อนให้คนอื่นรับไป ซึ่งตอนนี้รอตไวเลอร์ตัวนั้นก็มีอาการหงุดหงิด ไม่เอาใครเลย ทั้งๆที่เมื่อวานยังดีๆอยู่ ทางกลุ่มผู้เลี้ยงรอตไวเลอร์ก็เสนอตัวเข้ามาช่วย และจะนำไปปรับนิสัยให้เพราะว่าในกลุ่มนั้นมีความเชี่ยวชาญในการเลี้ยงและเข้าใจลักษณะนิสัยของหมาพันธุ์นี้เป็นอย่างดี และมีสถานที่เป็นค่ายฝึกด้วย

ตอนนี้เจ้ามินท์ ได้แยกไปอยู่ในที่ส่วนตัวแล้ว เพื่อไม่ให้ติดต่อไปยังสุนัขตัวอื่นๆ ขอเอาใจช่วยด้วยนะครับ เขาคงแกร่งพอที่จะรอด อย่างน้อยก็ช่วยให้เขารอดมาแล้วครั้งนึง... "

ความเห็นก่อนหน้า

เสาร์, 11 มิถุนายน 2005, 09:49PM ป้าชัชเข้าไปบ้านนิรมล แล้วแจ้งความคืบหน้ามาให้ทราบ :-

น้องมินท์ในกรงเดิมของพี่แก้วค่ะ น้องมินท์อาจกินข้าวได้น้อยลง แต่ไม่มีอาการทางประสาท (หัวสั่น) ทำให้อาจไม่ใช่โรคหัด โชคดีจัง สำหรับพี่แก้วเข้าไปอยู่ในกรงข้างในแล้ว แทนเสี่ยใช้ ส่วนเสี่ยใช้สามารถออกมาเดินเล่นร่วมกับเพื่อนบางแก้วคัวอื่น ๆ ได้แล้ว

ความเห็นก่อนหน้า

	ตอบ: Update อาการและความคืบหน้าของเจ้ามิ้นท์ บางแก้วที่ช่วยออกมาจากโรงงานพลาสติกย่าน ประชาอุทิศ โดย นิวัต เจริญชล - Wednesday, 15 June 2005, 04:03PM
	ป้าชัช update มาให้ครับ :- น้องมินท์อีกรูปค่ะ ความเห็นก่อนหน้า

Update โดยป้าชัช :-
และอีกรูปจั๊บ (ขออภัยฝีมือถ่ายรูปไม่ได้เรื่องเลย) ดูแล้วน้องมินท์น่าสงสารมากเลยนะ ใครเมตตาช่วยมินท์ด้วยครับ มินท์เหงาและต้องการความรักจั๊บ

ความเห็นก่อนหน้า

มีข่าวดีตอนเช้ามาแจ้งสมาชิกครับ วันนี้พี่วิน หรือ TDH โทรมาแจ้งผลตรวจเลือดของเจ้ามิ้นท์ ที่ไปตรวจออกมาแล้วครับ ปรากฏว่าผลเลือดของน้องมิ้นท์ไม่พบเชื้อหัดแล้วครับ พี่วินบอกว่าหายสนิทเลย เป็นปกติแล้วครับ

ส่วนตัวผมเองดีใจมากๆกับข่าวดีของเช้าวันนี้ ทำให้โล่งหัวไปเยอะเลย ขอบคุณพี่ TDH ที่ทุ่มเทเวลา กาย และใจ ในการรักษาเจ้ามิ้นท์ให้หายเป็นปกติ แม้ว่าจะโดนกัด ที่ป้อนยาก็โดนเคี้ยวแหลกละเอียดไปหลายอัน

ต้องเสี่ยงกับการบาดเจ็บ เพราะต้องสังเกตุอาการอย่างใกล้ชิด ในขณะที่สุนัขเป็นสุนัขขี้ระแวง พร้อมที่จะออกอาการดุได้ทุกเมื่อ เมื่อเขาคิดว่าจะมีภัยมาถึงตัว

ขอบคุณกับความอดทน และใจที่มีให้กับสุนัขตัวนี้ และการทุ่มเทรักษาชีวิตเขาไว้อย่างไม่เคยย่อท้อ และท้อถอย ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงสุนัขที่เจ้าของไม่ต้องการก็ตาม

ขอบคุณครับ ขอบคุณจริงๆ ทั้งพี่ TDH, ทีมงาน และบ้านนิรมล เพื่อสุนัขบางแก้วจรจัด

สำหรับขั้นตอนต่อไป ก็คือการเข้าโรงเรียนฝึกนิสัย (ดัดสันดาน) ให้เชื่องเหมือนลูกแมว เพื่อที่จะสามารถพร้อมกลับเข้ามาอยู่ร่วมสังคมกับผู้ที่รักและอยากเลี้ยงบางแก้ว ได้อีกครั้ง เพี้ยง ขอให้ได้บ้านใหม่เร็วๆทีเถอะ ใครสนใจบางแก้ว ตัวเมีย ที่นิสัยกำลังจะดี แจ้งความจำนงค์ได้เลยนะครับ อย่าช้าล่ะมีอยู่ตัวเดียวนี่แหละ ที่ภูมิใจนำเสนอ (มาก...มาก)

ความเห็นก่อนหน้า

ดีใจด้วยครับ
แต่เคยได้ยินใครโพสต์ไว้ว่า ถ้าเป็นโรคหัดจริง ส่วนใหญ่มักจะไม่รอด
เลยไม่แน่ใจว่าโรคหัดมีกี่ประเภท
แบบหายได้กับหายไม่ได้
แบบหายทันทีและแบบยืดเยื้อยาวนานอย่างน้องน้ำมนต์ http://nammon.bangkaew.com
คุณเพื่อนบางแก้ว หรือ ใครพอรู้ ช่วยบอกให้หายข้องใจหน่อยครับ

ความเห็นก่อนหน้า

	ตอบ: Update อาการและความคืบหน้าของเจ้ามิ้นท์ บางแก้วที่ช่วยออกมาจากโรงงานพลาสติกย่าน ประชาอุทิศ โดย jai dee - Thursday, 16 June 2005, 12:33PM
	ข้องใจเช่นเดียวกับคุณ pingpong ว่าทำไมน้องมิ้นท์หายได้เร็วนัก เป็นไปได้หรือไม่ว่าครั้งแรกตรวจผิด เป็นงงงงงงงม๊ากมากกกกก ความเห็นก่อนหน้า

ขอตอบแทนพี่ TDH ก่อนแล้วกันและถ้าพี่เขาเข้ามาดูแล้วเพิ่มเติมข้อมูลภายหลังได้เลยนะครับ

ตอนที่ไปถึงบ้านนิรมลนั้น พี่ TDH นำเข้าไปตรวจเลือดเลย ยังไม่ได้มีการแสดงอาการทางกายใดๆ จากผลตรวจเลือดนั้นพบว่ามีเชื้อหัด แต่ถ้ายังไม่ได้แสดงอาการใดๆ เนี่ยแสดงว่าเชื้อยังไม่ได้แพร่กระจาย และตัวสุนัขก็อายุ 2 ปีแล้ว ไม่ใช่สุนัขเด็กๆที่ภูมิไม่แข็ง

โรคหัดสุนัขนั้นได้รับการยืนยันจากหลายๆคน ทั้งเพื่อนๆของเราเอง ทั้งสัตว์แพทย์ และผู้รู้ ก็คือถ้าเชื้อยังไม่แพร่กระจาย และยังไม่มีการซ้ำเติมจากแบคทีเรีย ที่เราเรียกว่าขั้นที่ 1 นั้น เราสามารถที่จะควบคุมโรคได้ด้วยการให้ยา และดูแลให้สุนัขได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ในการที่จะสร้างภูมิมาทำลายปริมาณไวรัสให้อ่อนกำลังลงได้ ถ้าสุนัขซึมไม่กินอาหารก็ต้องให้น้ำเกลือ ให้อาหารอ่อน และให้อาหารเข้าเส้นเลือดเลย ถ้ามีแนวโน้มไข้สูงก็จะต้องคุมไข้ ไม่ให้สูงจนชัก ไม่อย่างนั้นเชื้อจะกระจายสู่สมองเร็วขึ้น ประคองและดูแลทุกวัน จะสามารถทำให้หายได้ครับ

แต่ที่สุนัขทั้งหลายไม่รอดนั้น ปกติจะเป็นสุนัขเด็ก และเจ้าของดูอาการไม่ออก กว่าจะรู้ว่าเป็นหัดก็ออกอาการเกินขั้นที่ 2 ไปแล้ว ซึ่งถึงตรงนี้แล้วคุมยาก เพราะจะได้รับเชื้อแบคทีเรียเข้ามาซ้ำเติมแล้ว การรักษาตั้งแต่ขั้นนี้จึงเป็นการรักษาตามอาการของโรคแทรกซ้อน และภูมิของสุนัขก็จะต่ำมากๆ สุนัขส่วนใหญ่ที่เสียชีวิต ก็เพราะข้อนี้แหละครับ

ความเห็นก่อนหน้า

คุณนิวัติบอกว่า "แต่ที่สุนัขทั้งหลายไม่รอดนั้น ปกติจะเป็นสุนัขเด็ก และเจ้าของดูอาการไม่ออก กว่าจะรู้ว่าเป็นหัดก็ออกอาการเกินขั้นที่ 2 ไปแล้ว"
แต่จากเรื่องของน้องน้ำมนต์ (ไม่ทราบว่าได้อ่านบ้างหรือไม่) น้องเค้าก็ถึงมือหมอตั้งแต่แรกไม่ใช่หรือ สงสัยจัง

ความเห็นก่อนหน้า

ลืมให้ข้อมูลเพิ่มไปครับ ผลตรวจเลือดของเจ้ามิ้นท์นี่จากโรงพยาบาลสัตว์เกษตร กำแพงแสนน่ะครับ

"แต่ที่สุนัขทั้งหลายไม่รอดนั้น ปกติจะเป็นสุนัขเด็ก และเจ้าของดูอาการไม่ออก กว่าจะรู้ว่าเป็นหัดก็ออกอาการเกินขั้นที่ 2 ไปแล้ว" นั้นหมายถึงสุนัขส่วนใหญ่ที่เป็นโรคนี้แล้วเชื้อแพร่กระจาย และมีโรคซ้ำเติมแล้วครับ มีน้อยมากที่รอดมาได้นั้น ก็จะมีอาการทางประสาทปรากฎอยู่ด้วย เช่นหัวกระตุก อาการขาไม่มีแรง...เป็นต้น

การรักษาสุนัขให้หายจากโรคหัด ขึ้นอยู่กับว่าเรารู้ว่าสุนัขนั้นเป็นโรคหัดเร็วแค่ไหน ถ้ารู้ตั้งแต่ติดเชื้อแรกๆ ยังไม่มีการซ้ำเติมจากโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ก็มีโอกาสรอดสูง อีกทั้งยังขึ้นอยู่กับความรุนแรงของเชื้อที่ได้รับ (มีหลายสายพันธุ์), ความเอาใจใส่ของเจ้าของสุนัข ที่ต้องพร้อมที่จะทุ่มเทให้กับสุนัขนั้นจริงๆ (คุณแทบจะต้องออกจากงานมาเฝ้าเลย), ความเอาใจใส่ของหมอที่รับดูแลรักษาอาการของสุนัขเรา, กำลังใจของสุนัข ที่จะอยู่รอด, การดูแลสถานที่พัก อาศัย ทำความสะอาด ฆ่าเชื้อทุกวัน, ป้องกันไม่ให้สุนัขรับเชื้อจากแบคทีเรีย เช่นปอดบวม หลอดลมอักเสบ ท้องเสีย มาซ้ำเติมโรค (ผสมโรง) และที่สำคัญที่สุดคือภูมิคุ้มกันของสุนัขเองครับ เรามีหน้าที่เพียงส่งกำลังสนับสนุนเขา ให้สร้างภูมิขึ้นมาคุ้มกันตัวเอง (ถ้าไม่กิน ก็ต้องป้อน... ถ้าป้อนแล้วอ้วก ก็ต้องให้อาหารอ่อน สารอาหารแทน...ถ้าทรงก็ต้องให้น้ำเกลือ และสารอาหารเข้าเส้นเลือด)

การถึงมือหมอแต่แรก ไม่ใช่จะรับประกันว่าจะรอดเสมอไป มันขึ้นอยู่กับว่าไปถึงมือหมอที่อาการระยะไหนแล้ว และมีโรคแทรกซ้อนหรือยัง ถ้าเป็นอาการระยะที่เชื้อถึงสมองและตรวจพบโรคแทรกซ้อนแล้ว ส่วนใหญ่หมอเขาจะบอกเราเลยว่าให้ทำใจได้เลย เราจะรักษาต่อหรือไม่ ถ้าเรารักษาและรอดมาได้เขาก็จะไม่เหมือนเดิม เพราะระบบประสาทบางส่วนถูกทำลายไปแล้ว แต่โอกาสรอดจะมีน้อยมากๆ ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า คน หรือหมา หรือหมอ จะเต็มร้อยกับการรักษาหรือเปล่าเท่านั้นเองครับ

ไม่ทราบว่าตอบให้หายสงสัยได้ไหม ที่ให้ความเห็นทั้งหมดนั้นได้จากประสบการณ์ระหว่างการรักษาเจ้าหนูจ๋าของผมเอง ซึ่งที่ผ่านมานั้นทำให้ทราบว่าถึงความยากลำบาก การทำใจให้ยอมรับว่าเขาอาจจะต้องตายในวันต่อไป ในขณะที่วันนี้เรากำลังรักษาเขาสุดชีวิต การที่สุนัขจะรอดหรือไม่รอด นั้นมันขึ้นอยู่กับหลายสาเหตุจริงๆครับ คงจะกะเอาแน่นอนไม่ได้ว่า ถ้าอาการนี้ หรืออายุเท่านี้แล้วจะรอดหรือไม่รอด ขึ้นอยู่กับทุกอย่างเลย ตอบลำบากจริงๆ ต่อให้มันโตแค่ไหน ถ้าติดเชื้อแล้วเจ้าของไม่เอาใจใส่ ก็ตายได้ง่ายๆเหมือนกัน

ความเห็นก่อนหน้า