วันนี้แป้งเพิ่งกลับมาจากพิจิตรค่ะ แวะไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ที่นั่น เลยไปพักที่พิษณุโลก ตอนแรกแป้งว่าจะไปเยี่ยมคอกชุมแสงสงคราม แต่เวลาไม่พอ เพราะออกเดินทางสายไปถึงทางโน้นห้าโมงเย็นค่ะ (เดินทางไปสามคนพ่อแม่แล้วก็แป้ง) เลยไปไหว้พระพุทธชินราชที่วัดใหญ่ และไปไหว้อีกทีตอนเช้าก็ต้องเดินทางไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ที่พิจิต ตอนแรกแม่ของแป้งบอกว่าจะแวะ แต่พอรู้ว่าพี่ชายและครอบครัวที่ให้เขาช่วยดูแลบ้านจะไม่อยู่ ทำให้ต้องรีบเดินทางกลับ และอีกเหตุผลหนึ่งคือการที่ได้ไปคุยกับญาติผู้ใหญ่ แป้งเลยชักสับสนปนความไม่เห็นด้วย ก็แม่ของแป้งเริ่มแปรพักต์เสียแล้วด้วยเหตุผลที่ว่าสายพันธ์บางแก้วยังไม่นิ่ง ก้าวร้าว ไม่เหมาะสำหรับบ้านที่มีเด็ก และได้รับคำแนะนำมาให้เลี้ยงเยอรมันเชฟเฟอด แป้งก็บอกว่าไม่เหมาะเพราะตัวเขาใหญ่ พ่อแม่แก่แล้ว แป้งเอาเขาไปหาหมอลำบากโดยเฉพาะคนเดียว (อย่างที่เคยเจอมาแล้วอะ ไม่มีคนอยู่บ้าน เขาป่วยหนัก ) ท่านเลยแนะนำดัชชุน แป้งก็เลยไม่รู้จะพูดอย่างไร แต่ใจมันชอบไปแล้วนี่ เราก็เถียงในใจหมาพันธุ์อะไรมันก็กัดทั้งนั้นแหละ เยอรมันเชฟเฟอดที่ท่านเคยให้แป้งมาจนกลายเป็นของแม่ก็เคยขยำแป้งมาแล้ว รอยเขี้ยวก็ยังอยู่ที่ขาเลย แล้วหมาที่เคยคิดว่าไม่กัดมันก็กัด ทำให้แป้งคิดว่าจริงหรือว่าหมาพันธุ์ไหนกัดพันธุ์ไหนไม่กัด(ท่านเลี้ยงมาเยอะค่ะ เคยมีคนจะเอาบางแก้วมาให้ท่านเหมือนกันท่านไม่เอาท่านว่ามันดื้อ) และอีกเหตุผล คือ ระหว่างทางที่เดินทางไปนั้นเปิดวิทยุรายการสัตว์เลี้ยงที่มีสัตวแพทย์มาตอบ มีรายหนึ่งโทรไปปรึกษาปัญหาว่าเขาเลี้ยงบางแก้วอายุแป้งจำไม่ได้ แต่มีนิสัยขี้ระแวงมากๆ คือไม่สามรถเข้าทางด้านหลัง หรือไม่ส่งเสียงให้เขารู้ตัวไม่ได้ เขาจะแว้งกัด และเจ้าของยังบอกอีกว่าตอนหลังบางแก้วตัวนี้ถูกตีทำให้เขาระแวงหนักขึ้นอีก ซึ่งสัตว์แพทย์ก็แนะนำให้เจ้าของและสมาชิกในบ้านส่งเสียงบอกเขาทุกครั้งที่เข้าหา และจำกัดพื้นที่เพราะกลัวบุคคลอื่นถูกกัด แต่ดีอย่างค่ะที่เจ้าของเขาไม่ทิ้งซึ่งในอนาคตเราก็ไม่รู้ว่าบางแก้วตัวนี้จะเป็นอย่างไร เจ้าของสามารถแก้ปัญหาได้ไหม ทางสัตวแพทย์ก็แนะนำเพิ่มเติมเรื่องการเลือกซื้อลูกหมา แป้งปวดหัวอะ รอมาตั้งสามปีแย้วนะ อยากเลี้ยงบางแก้ว แล้ววันนี้ขากลับทางประตูน้ำพระอินทร์ก็ชนท้ายรถคันข้างหน้าไปสองคัน ทางเราก็ลงไปรับผิดชอบ ยินดีจ่ายค่าเสียหาย คันแรกที่อยู่ตรงกลางตกลงกันได้ เขาว่าเขาจะเอาเข้าอู่ที่สิงห์บุรีเพราะว่าถูกกว่าเข้าอู่ของเรา ส่วนอีกคันผู้หญิงคนเดียวอยู่อ่างทองจะเรียกประกันให้ไป ทั้งที่บอกว่าเอาบัตรประชาชนไป จะซ่อมเองแล้วมาเก็บ หรือจะไปอู่ที่ทางบ้านใช้อยู่ก็ได้ไม่ยอมจะรอเรียกประกัน รอๆๆๆๆๆๆ แป้งขอบอกว่าหงุดหงิดมากๆๆๆๆเลย จนสุดท้ายก็ยอม เสียเวลาตั้งนานคอยๆๆๆอย่างเดี๋ยวให้เขาติดต่อประกัน พี่ๆอ่านแล้วอย่างเพิ่งหงุดหงิดอะ (ขออนุญาติให้แป้งระบายหน่อยนะค่ะ) แต่รถที่บ้านเสียหายหนักกว่าสองคันนั้นอะเพราะกระจังหน้ายุบ แอร์ไม่ทำงาน วิ่งมาจนขึ้นโทล์เวย์ฮีทเตอร์ขึ้น เพราะสายพานไดชาทร์ขาด มีกลิ่นไหม้ จนสุดท้ายต้องจอดบนทางด่วนให้รถลากของทางด่วนมาช่วยลากอะ แป้งนั่งแท็กซี่กลับบ้านกับพ่อ เพื่อมาเอารถอีกคันไปรับแม่เพื่อไปอู่ซ่อมรถและจะได้เอาของในรถกลับบ้าน ตอนนี้แป้งเฝ้าบ้านอะ มีหมาไม่มีหมาแป้งก็ต้องเฝ้าอะเป็นห่วงบ้าน และแป้งก็ได้ข่าวจากแม่เพิ่มว่ารายที่อยู่สิงห์บุรีจะเอารถเข้าศูนย์ (สงสัยจะเอาเต็มที่เลยนะนี่เพราะรถเก่าแล้วด้วย) สงสัยแป้งต้องบอกแม่ให้ขอใบเสร็จมาด้วย หรือไม่ก็ส่งคนรู้จักไปประเมินราคาและจ่ายเท่านั้นเพราะเอาเข้าศูนย์ต้องแพงกว่าซ้อมอู่อยู่แล้ว (อันนี้แป้งไม่รู้ว่าได้หรือเปล่าเพราะไม่มีประสบการณ์ แป้งว่าพี่ๆคงงงว่าแป้งปรึกษาอะไร เพราะอ่านแล้วก็เจอแต่ความโชคร้ายของแป้งอะ ( แต่ก่อนกลับก็ทำบุญแล้วนะ ไม่รู้ว่าถ้าไม่ทำจะโชคร้ายกว่านี้หรือเปล่า) สงสัยโครงการเลี้ยงบางแก้วของแป้งจะต้องแขวนไว้จนกว่าจะมีโอกาสงามๆ ไหนๆก็รอมาตั้งสามปีแล้วรอต่ออีกหน่อยก็คงไม่เป็นไร แต่เราจะทำอย่างไรดีค่ะในเมื่อภาพพจน์บางแก้วในสายตาของคนส่วนใหญ่ต่อบางแก้วไม่ดีเลย ซึ่งเสียงอาจจะมาทั้งประสบการณ์ตรงและทางอ้อม คือประสบกับตัวหรือไม่ก็ฟังๆมา ท่าทางไม่ดีเสียแล้วอะ และหลายคนก็คงซื้อไปเลี้ยงแบบไม่มีข้อมูลไม่ได้ศึกษา เวลามีปัญหาก็ไม่รู้จะถามใครนอกจากสัตวแพทย์ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเขาเคยเลี้ยงหมาบางแก้วหรือเปล่า จนหลายครั้งแป้งรู้สึกว่าแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ยิ่งคิดยิ่งปวดหัวอะ แต่ไปพิษณุโลกหนนี้ประทับใจคนที่นั้นมากๆเลยค่ะ (วิ่งหาวัดใหญ่อยู่นาน โดยการกางแผนที่ทางหลวง เมื่อแวะถาม...เขาบอกทางผิดอะ เขาบอกว่าไฟแดงข้างหน้าเลี้ยวขวาอะ แต่วัดอยู่ทางซ้ายมืออะ ) แต่จะมาขอข้อมูลโรงแรม ของกินและคอกบางแก้วค่ะ ต้องถามเจ้าของถิ่นใช่ไหมค่ะถ้าไปหนหน้าจะได้รู้ว่าไปพักที่ไร กินอะไร คอกบางแก้วอยู่ตรงไหนบ้าง |