 | นายสัตวแพทย์นิสิต ตั้งตระการพงษ์ ผู้จุดประกายหมาบางแก้ว |
|
ข้อความจากหนังสือเกษตรวันนี้ เมื่อปี 2533 ได้กล่าวถึง คุณหมอนิสิต มาอยู่พิษณุโลกตั้งแต่ปี 2514 ก็ได้ยินเรื่องราวกิตติศัพท์ของหมาบางแก้ว จึงเริ่มติดตามศึกษาและนำหมาบางแก้วมาเลี้ยง ก็พบว่า หมาบางแก้วเป็นหมาที่มีลักษณะพิเศษที่ดีที่น่าเลี้ยงที่สุด แต่ก็พบว่า หมาบางแก้วนั้นเริ่มกลายพันธุ์ไปมากแล้ว มีผู้นำไปเลี้ยงมักจะตาย หรือไม่ก็กลายพันธุ์ หาหมาบางแก้วที่มีลักษณะดีที่แท้จริงได้ยาก จากนั้นมาจนถึงทุกวันนี้เป็นเวลากว่ายี่สิบปีเต็มที่คุณหมอนิสิตได้ทุ่มเทศึกษาและส่งเสริมการเลี้ยงหมาบางแก้วอย่างจริงจังตลอดมา  |
| ตอบ: นายสัตวแพทย์นิสิต ตั้งตระการพงษ์ ผู้จุดประกายหมาบางแก้ว |
|
ข้อความจากหนังสือเกษตรวันนี้ เมื่อปี 2533 ได้กล่าวถึง (ต่อจากข้อความเดิม)  |
| ตอบ: นายสัตวแพทย์นิสิต ตั้งตระการพงษ์ ผู้จุดประกายหมาบางแก้ว |
|
อ้าว...แล้วทำไมเรียกหมาบางแก้วเล่าครับ...ก็ต้องไปฟังคุณหมอนิสิตเล่าให้ฟัง  |
| ตอบ: นายสัตวแพทย์นิสิต ตั้งตระการพงษ์ ผู้จุดประกายหมาบางแก้ว |
|
อย่างไรก็ตามด้วยบางแก้วในเวลาต่อมาเป็นชุมชนที่มีการเข้าออกสะดวกโดยถนนมาถึง หมาต่างถิ่นจึงเข้ามา ผสมผสานกันจนหมาบางแก้วนี้กลายพันธุ์ไปหมด ขณะเดียวกัน ที่ตำบลชุมแสงสงคราม ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำยม ห่างไกลจากถนนใหญ่ไปประมาณ 15 กิโลเมตร มีเพียงถนนลูกรังซึ่งเข้ายากลำบาก โดยเฉพาะเกิดน้ำท่วมอยู่เสมอๆ จึงปลอดจากหมาอื่นๆ ฉะนั้น หมาบางแก้วที่นำไปเลี้ยงที่ชุมแสงสงครามจึงเป็นพันธุ์หมาบางแก้วที่แท้จริง ตรงนี่แหละเราจึงดั้นด้นไปกันถึง จากถนนใหญ่เราลัดเลาะไปตามถนนลูกรังที่อยู่ในสภาพดีพอสมควร ผ่านหมู่บ้านต่างๆ ของตำบลบางแก้วมองๆ ดูก็เห็นหมาทั่วๆไป เหมือนหมาไทยหรือจะแปลกบ้างก็ยังไม่สะดุดตาอะไร 15 กิโลเมตรแรก เราก็ถึงทางแยกไปสู่ตำบลชุมแสงสงคราม เลี้ยวขวาไปตามถนนลูกรังสายเล็กๆ ที่เป็นหลุมเป็นบ่อเพราะฝนตกลงมา (มีต่อ...)  |