ถ้าจำไม่ผิด เมื่อปีที่แล้วคือ 2547 มีกระแสผู้เลี้ยงสุนัขจำนวนมากออกมาเรียกร้องค่าเสียหายจากสุนัขที่เลี้ยงตายเนื่องจากไตวาย กับผู้ผลิตอาหารสุนัขรายหนึ่ง และเมื่อต้นปีนี้ก็เกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกัน แต่เป็นกับผู้ผลิตอาหารสุนัขอีกรายหนึ่ง ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์นี้คืออาการไตวายกับสุนัขที่เลี้ยงด้วยอาหารสำเร็จรูป แต่ที่บ้านผมเลี้ยงไว้ทั้งหมด 3 ตัว ให้อาหารวันละ 1 มื้อ คือมื้อเย็น อาหารสำเร็จรูปเป็นเพียงการเสริมหรือสำรองไว้เผื่อวันไหนกลับบ้านมืด หรือวันที่จำเป็นจริง ๆ ไม่มีเวลาในการปรุง อาหารหลักที่เลี้ยงเป็นอาหารแบบที่คนกินนี่ละครับ คนกินอย่างไร หมาก็กินแบบนั้น หรือหมากินอย่างไรคนก็กินแบบนั้น ได้อารมณ์ได้บรรยากาศที่ต่างกันมากเลยครับ ถ้าลองนึกถึงกระบวนการในการเตรียมและปรุงอาหารให้บรรดา สี่ขาตาดำ ๆ เปรียบเทียบกับการตักอาหารเม็ดจากกระป๋องแล้วเทใส่กะละมัง ซึ่งใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที กับบรรยาการในการปรุงอาหารหรือการเตรียมอาหารในครัวของบ้านเรา และมี สี่ขาตาดำ ๆ 3 ตัวนอนหมอบรอ (เรียกว่ารายการพ่อลูกเข้าครัว) ในขณะที่เรากำลังจัดการกับอาหาร ทั้งกลิ่นอาหาร ทั้งเสียงกะทะ กะละมัง เสียงมีด เสียงครก ยั่วยวนและท้าทายว่ารสชาดที่ทำออกมาแล้ว หมาจะรัปทานหรือเปล่า ระหว่างที่แกะเนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อปลา เราก็หยิบใส่กะละมังหมาบ้าง บางทีก็ใส่ปากเราบ้าง เอาไปยื่นใกล้ ๆ จมูกของบรรดาสี่ขาตาดำ ๆ เป็นการยั่วยวนให้น้ำลายไหลบ้าง สนุกจริง ๆ เลยครับรับรองได้ พอเตรียมเสร็จ ยกกะละมังเดินจากหลังบ้านมาหน้าบ้าน ก็จะมีเสียงร้อง และเสียงวิ่งตามเป็นพรวน สุมหัวกินกัน 3 ตัวในกะละมังเดียวกัน แผล็บเดียวเหลือแต่กะละมังที่สะอาดเป็นเงา เราเองก็รู้สึกโล่งอกว่าทำแล้วหมากินหมด รายการต่อไปก็เป็นของหวาน เช่นทองหยอด ฝอยทอง ทองหยิบ นมหวาน หรือ ชาเขียว ไอติม บ้างตามโอกาส เมื่ออิ่มหมีพีมันแล้วทั้งแก๊งก็จะวิ่งไปหลังบ้าน ทำการเอาของเก่าออก เป็นอันว่า เสร็จเรียบร้อย ก็วิ่งกลับมาให้เราเช็ดตัว เป็นอันจบกิจวัตร สำหรับผมแล้ว สรุปว่า เลี้ยงหมาด้วยอาหารหลักแบบคนกินด้วยหมากินด้วย แข็งแรงทั้งหมาและคน เลยครับ |