ถ้าเป็นของข้า ฯ ล่ะก็ มันไม่สบายอีกแล้ว เข้าไม่ได้มาเกือบอาทิตย์ล่ะท่าน ขออภัยอย่างสูง ว่าจะลองสมัครที่ hotmail อยู่เหมือนกัน(ถ้าสมัครได้แล้วจะรีบส่งไปบอกท่านน่ะ) วันเสาร์ไปดูสถานะการณ์การขายลูกสุนัขบางแก้วที่สวนจตุจักรมาล่ะท่าน(ขออนุญาตปล่อยแมงโม้น่ะพี่ลี้) คือตอนนี้มีสุนัขบางแก้ว(น่าจะเป็นลูกผสม)อยู่ในตะกร้าอยู่หลายเจ้า ดามหูด้วยน่ะ แถมบางเจ้ามีใบเพ็ด ฯด้วย มีผู้สนใจต้องการซื้อกันค่อนข้างมาก มีแม่ค้าคนกลางเดินตามหาซื้อลูกสุนัข(บางแก้ว)ขายด้วยล่ะท่าน บอกว่าคนซื้อกำลังหาอยู่ แต่ตั้งราคาซื้อและขายกันต่ำจัง ขณะเดียวกันพี่ชายข้า ฯ ได้สอบถามคุณจ่า เจ้าของคอกที่นำเจ้าตัวยุ่งมา ปีนี้ก็ขายลูกสุนัขไปจนหมดแล้ว แสดงว่าภาวะการณ์เกี่ยวกับลูกสุนัขบางแก้วปีนี้ ความต้องการของตลาดคงจะดีน่ะท่าน จบข่าว มีอีกเรื่องหนึ่งที่ยังไม่ได้รายงานท่านก็คือ พี่ชายข้าพเจ้าเริ่มเข้าใจสุนัขไทยสายพันธุ์แท้ ๆ มากขึ้น คือว่ายอมรับเค้ามากขึ้นล่ะท่าน มองปัญหาเป็นเรื่องขู่เจ้าของเป็นเรื่องปกติและตลกแล้วล่ะสหายนายน้อย... ไอ้ตัวยุ่งก็ฉลาดเอาตัวรอด น่ารักและน่าสงสารดีมาก คอยแอบมองนายหญิง(อ่านเคมีหรือรังสีจากร่างกาย) อารมณ์ดีเมื่อไหร่หรือเรียกหาเค้าล่ะก็ จะดีใจแบบสุดขีด ถูกตีแบบไม่มีเหตุผลก็ขู่แล้วรีบเดินหนี ไม่จ้องหน้านายหญิง สำหรับลูกพี่ใหญ่แล้วเค้าภักดีสุดหัวใจ ยิ้มให้ตลอดไม่มีคำว่าขู่ มันเก่งล่ะท่าน การจัดลำดับทางสังคม(ครอบครัว)แบบซับซ้อนก็ทำได้ดี สำหรับเจ้าดำ สุนัขไทยจรจัดที่ยึดเอาป้ายรถเมล์และสวนสาธารณะเป็นที่อยู่นั้น ก็อ้วนท้วนและอารมณ์ดี วันก่อนเห็นไปนอนถูตัว อยู่ตัวเดียวในสนามหญ้า ก็เลยไม่ได้เรียกให้มากินปลาทู(อดไป) ภาวนาอยู่ทุกวันว่าอย่าให้มีใครไปทำร้ายเค้า อย่างน้อยได้เห็นกันทุกวันก็ยังดีกว่าไม่ได้เจอหน้ากัน ถ้ามีที่ว่างเหลือเมื่อไหร่ จะอุ้มเข้ามาบ้านแน่ล่ะท่าน แล้วจะเขียนเรื่องพฤติกรรมของเจ้าดำให้ท่านได้อ่านแน่ ๆ สำหรับนางสาวตัวดี(น้ำหวาน) หลังจากที่เคยบอกว่าพฤติกรรมจะเปลี่ยนไป(หลังจากเป็นสัด) ตอนนี้กลับมาเป็นนางสาวตัวดีอารมณ์ปกติแล้วท่าน ไม่ซึมเศร้าแล้ว อาการทางผิวหนังหรือขนร่วงก็หายไป แต่ไอ้อาการดื้อตาใส ๆ ยังคงอยู่ครบ ดุเมื่อไหร่เป็นเถียงหอนอยู่ร่ำไป แอบขึ้นบนบ้าน คราวนี้ฝืนตัวไม่ให้ผู้อาวุโสอุ้มลงแล้ว(หลังจากเธอพลัดตกบันไดลงมา) เธอเลยกลัวและงอนผู้อาวุโส(สงสัยกลัวตกบันไดอีก) อาการหวงเจ้าของ(เวลาออกไปคุยกับเพื่อนบ้าน)ก็ยังไม่จางหายไป พฤติกรรมนี้น่าจะอยู่ใน dna แน่ ๆ ท่าน และที่ข้างบ้านไม่มีใครเข้ามาตอแยด้วยนั้น ก็คงจะเหมือนกันล่ะท่าน เห็นหน้าพวกเค้ามีแต่อยากอยู่ห่าง ๆ กัน ในความคิดของข้า ฯ กลับชอบพฤติกรรมเช่นนี้น่ะท่าน เพราะเป็นพื้นที่ ๆ เค้าต้องดูแลภายในรั้วบ้าน เป็นเรื่องของฝูง(ครอบครัว)ที่มีประชากร พื้นที่และวัฒนธรรมภายในบ้านให้เค้าได้อยู่และเข้าใจ นอกเหนือไปจากนี้ถ้าต้องการให้เค้าเข้าใจมากขึ้น ก็ต้องฝึกกัน หรือเปลี่ยนรูปแบบการเลี้ยงใหม่ คือเลี้ยงแบบไม่มีรั้ว อันนี้ก็น่าทำการวิจัย(เป็นเรื่องเป็นราว) แต่ถ้าเป็นความคิดของข้า ฯ คิดว่าน่าจะเลี้ยงได้ สุนัขปรับตัวได้ดีและมักไม่ค่อยทำร้ายคน โลกใบใหญ่จะมีมือที่มองไม่เห็นคอยดูแลหรือการจัดลำดับให้เค้ามั้งครับ พอดีได้อ่านเรื่องที่ท่านเล่าว่าไปเจอ สุนัขบางแก้วที่อยู่ในกรงในที่แห่งหนึ่ง ข้า ฯ เองกลับเอามาคิดมากมายล่ะท่าน ไปได้หนังสือ "กฎบัตรพุทธบริษัท"เห็นข้อที่ 84 ที่บอกว่า "วัด ต้องเป็นที่พึ่ง แม้ของสัตว์เดรัจฉาน ตามแบบโบราณที่เรียกว่า มฤคทายวัน" นั่งนึกไปเรื่อยเปื่อย เลยท่าน เจ้าดำ(ไม่มีเจ้าของ) หมาวัดหรือสุนัขบางแก้วที่อยู่ในกรง(โดนขับออกจากฝูง) ไม่รู้ตัวไหนจะมีความสุขมากกว่ากัน |