ตอบ: หนูเป็นเหตุ | |
สำรวจบาดแผลของทั้ง 2 ฝ่าย พบแต่คาบน้ำลาย ฤทธิ์เดชของทั้ง 2 คงค่อยๆเสื่อมไปตามกาลเวลา และมันคงไม่ได้จะกัดกันอย่างเอาเป็นเอาตายเหมือนคนโกรธแค้นกัน มันทำไปตามสัญชาตญาณชั่ววูบ จบแล้ว ก็ลืมกันไป กลับมาเล่นกันใหม่ นานๆค่อยมาฟัดออกกำลังกายกันที จนเจ้านายเริ่มจะรู้ว่า ต้องทำยังไงดี แต่บ้านไหนที่หมาฟัดกันไม่เลิกอย่างที่มีคนมาตั้งกระทู้ไว้ ต้องระวังอย่าให้มันฟัดกันนานจนบาดเจ็บสาหัส เดี๋ยวจะต้องเสียค่าหมออีกเยอะ ถ้าอยู่ 2 คน ก็ให้แยกจับขาหลัง ยกลอยหมุนกลางอากาศ ลากออกจากกัน ไปขังกรงหรือแยกบริเวณตามที่คุณนิวัตแนะนำไว้ แต่ถ้าอยู่คนเดียว ก็ลองใช้วิธี ใจเย็นๆ จิบเบียร์เย็นๆสักแก้ว ก่อนไปแยกหมากัดกัน |
ตอบ: หนูเป็นเหตุ | |
สวัสดีค่ะ คุณไตรสิทธิ์ เบญจบุณยสิทธิ์ ปิงปองอ้วนขึ้นจริงๆด้วยนะคะ แต่ก็ยังไว้ลาย ทหารเอก ยอดขุนพล ปู่หัวโตก็ชอบชวนเต๋าเต้ยประลองกำลัง ตะลุมบอนกันสนั่นบ้าน หากใครได้ยินแค่เสียง อาจคิดว่าไม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคงได้เย็บแผลกันมั่งล่ะ ...ปกติจะปล่อยให้กัด จนหายข้องใจกันไปเอง แล้วทั้งคู่จะค่อยๆแยกเข้ามุมของใครของมัน เพราะเคยพยายามห้ามแล้ว กลับกลายเป็นว่ายิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ กัดกันเสียงดังและเพิ่มความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ...คงนึกว่าแม่กำลังส่งเสียงเชียร์อยู่ข้างเวทีมั้ง พอหลังแยกย้ายกัน เต๋าเต้ยมีแต่น้ำลายเปียกขน ส่วนสิงห์เฒ่าอาจเสียขนไป สองสามหย่อม เพราะโดนเต๋าเต้ยจิกหลัง จิกกกหู แต่ทั้งคู่ก็ไร้แผล ไร้เลือด..เฮ้อ!! โล่งใจ นักเลงก็ต้องหมั่นลับเหลี่ยมให้คมอยู่เสมอ มิเช่นนั้นถ้าออกไปเจอคู่ปรับนอกบ้าน อาจลืมชั้นเชิงการต่อสู้ จะเสียฟอร์ม..แพ้...หมดรูปมวย..นะค้า
|