ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ | |
รูปของผมถ่ายวันนี้ครับ |
ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ | |
สงสัยรูปใหญ่ไปเลยไม่ติด อย่าให้เกินร้อยเคครับ เห็นด้วยกับข้อเสนอทั้ง ๒ ช่วยเล่าตลาดบางแก้วที่จตุจักรให้ฟังหน่อยครับ ผมไม่ได้ไปนานแล้ว ทราบแต่ว่า มีพ่อค้าคนกลางไปกว้านซื้อบางแก้วมาจากชาวบ้านถูกๆ แล้วนำมาหลอกขายแพงๆ โดยไม่มีการดูแลลูกสุนัขดีเท่าที่ควร และ ใบเพ็ดก็ชื่อถือไม่ได้อยู่แล้วครับ ฟังมาว่า บางคนก็ขายจนรวย ซื้อรถให้เมียน้อยได้หลายคน ใครอยากได้ลูกสุนัขดีๆ แนะนำให้ไปดูที่ฟาร์ม แม้ราคาจะแพงหน่อย แต่ก็ไม่ต้องมาเสียใจในภายหลัง เจ้าฮัชเป็น บางแก้วแท้แน่นอนครับ มันยังโชคดีที่ได้นายดี คอยดูแลรักษา ไม่ทอดทิ้งมัน ลองทำสระน้ำขนาดเล็กที่บ้านให้มันออกกำลังกายดูนะครับ ใช้เชือกยางรัดแทนปั๊มน้ำหมุนวนก็ได้ ดูที่ http://www.bangkaew.com/elearning/mod/forum/discuss.php?d=961 |
ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ | |
ขอบคุณมากคะ คุณปิงปอง สำหรับคำแนะนำนะคะ ไม่รู้ว่าจะตอบว่าอย่างไร เกี่ยวกับตลาดจตุจักรนะคะ เพราะตอนไปซี้อนะคะ ไม่ได้ตั้งใจ แต่ในใจอย่างได้บางแก้ว เพราะเข้าใจว่าหมาไทยเรานี้แหละแข็งแรงแน่ๆ ไม่ต้องห่วงมากเรื่องโรคภัย เพราะตัวเองนะคะเลี้ยงมาตั้งแต่ตัวเองจำความได้ส่วนมากเป็นหมาพันธุ์ผสมนะคะ เพราะเราเป็นบ้านเล็ก ทาว์นเฮ้าส์ ไม่มีทางเลือกมากนัก เคยเลี้ยงหมาพันธุ์แท้นะคะ แต่เห็นเขาจากเราไปเร็วไม่ได้คะ ก็เลยหันมาสนใจหมาไทย เท่าที่เห็นตอนนี้มาคนเอาบางแก้วมาขายเยอะมากทั้เจ้าจองฟาร์มเอง พ่อค้าคนกลาง พ่อค้าสมัครเล่น ขายหมาบ้าน มีบางแก้วให้เลือกเยอะมาก ราคาก็มีตั้งแต่1500บาทจนถึง 15000 บาท พ่อค้าคนกลางจะขายอยู่ประมาณ 2,500-5000 บาท พ่อค้าสมัครเล่น ก็ไม่แน่นอน ทั้งสองพ่อค้านี้จะต่อรองได้จนน่าแปลงใจ และปล่อยให้คนซื้อจับอุ้มน้องหมาได้เต็มที่ ส่วนถ้าเป็นเจ้าของฟาร์มมาเองก็จะไม่ยอมให้จับ ราคาก็จะแพงกว่า น้องฮัชได้มาจากพ่อค้าคนกลางคะ ราคาตั้งไว้ ที่ 4,500 แต่ซื้อมาได้ในราคา 2,500 ปกติเป็นคนที่ซื้ออะไรยากนะคะ แต่น้องฮัช เขาน่ารักมากนะคะ และก็ดูถูกชะตามากๆ นะคะ เลยไม่คิดอะไรเลยอุ้มกลับบ้านมาเลยคะ นี่ก็คงเป็นการรายงานตลาดสุนัขบางแก้วในระยะนี้ ช่วงงานเกษตรแฟร์ที่ผ่านมานี้นะคะ มีแต่บางแก้วมาขายนะคะ ช่วงนี้บางแก้วเป็นดาวเด่นที่สุดคะ รู้สึกดีกับที่บางแก้วหมาไทยมีความนิยมมากขี้นนะคะ แต่สำหรับสระน้ำที่จะทำเอง ขนาดเท่าไรคะ ฮัชสูงประมาณ 60 เซนติเมตรคะ และบ้านของเราก็เล็ก ไม่มีที่มากขนาดนั้น ถ้าได้ขนาดมาก็จะลองคิดดู สนใจ ที่สมาคม Triz แนะนำคะไม่ทราบว่าจะจ้างผลิตได้หรือไม่คะ คือเป็นผู้หญิงที่ไม่ถนัดเลยเรื่องต้องติดตั้งหรือต่อเติมอะไรนะคะ ขอคำแนะนำมากๆ หน่อยนะคะ จะขอติดต่อทางโทรศัพท์ได้หรือไม่คะ หรือจะส่งหมายเลขติดต่อมาได้ที่ email pareenap@kiasia.org ได้หรือไม่คะ อย่างหาทางออกให้น้องฮัชให้เร็วที่สุดคะ เพราะเมื่อเช้าพาเขาไปเดินแล้วอยากจะร้องไห้ ขาหลังเขาก้าวออกที่ละเก้าลำบากมากคะ เห็นใช้วิธีเดินแบบหย่องขาคู่ แล้วก็ลุกนั่งลำบากดูแล้วน่าสงสารมากคะ ขอความช่วยเหลือนะคะ ตอนนี้น้องไม่ค่อยยอมกินข้าวด้วยคะ ขอบพระคุณคะ |
ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ | |
มีแต่ไอเดียไว้ขาย แต่ไม่รู้ว่ามีใครซื้อไอเดียไปลองทำดูหรือยัง พยายามเอาอ่างปลามาให้ด็อตคอมใช้เป็นสระว่ายน้ำส่วนตัว แต่ก็ดูตื้นไป
คงต้องใช้อ่างที่ลึกและกว้างกว่านี้ ไม่ให้มันเหยียบถึงพื้นและไต่ถึงขอบ อาจลองซื้อสระว่ายน้ำพลาสติกของเด็กมาลองทำดูก็ได้ แต่ต้องระวังมันกัดหรือตะกุยขาด เอาไม้ค้ำไว้ให้มันว่ายน้ำอยู่กับที่ หรือถ้าเมื่อยมือ ก็หาเชือกโยงจากขื่อหรือราวตากผ้าข้างบน อย่าลืมซื้อชูชีพมาให้มันใส่ด้วย ได้ผลเป็นไง ช่วยถ่ายรูปมาให้ดูกันบ้าง ที่สำคัญ ต้องไปให้หมอผ่าตัดยัดข้อเข้าเบ้าและพักพื้นสักระยะหนึ่งก่อน รวมทั้งหาอะไรลองพื้น อย่าให้ลื่น เดี๋ยวหกล้ม ข้อหลุดจากเบ้าอีก ดูจากรูปข้างบน จะเห็นว่า เจ้าบิ๊กว่ายน้ำอยู่กับที่ ไม่จำเป็นต้องใช้สระใหญ่เลย |
ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ | |
อ่านจากที่เจ้าของ ฮัช เล่ามาว่า...." กระดูกด้านที่ส่วนเชิงกรานของลำตัวนั้น แสดงให้เห็นว่าไม่ห่อหุ้มกระดูกหัวข้อสะโพก หน้าตาจะเป็นรูปป้าน "....แสดงว่า ไม่มีส่วนของเบ้ากระดูก สำหรับหุ้มหัวกระดูกขาท่อนบน อาการแบบนี้ ไม่สามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัด เพราะปัญหาไม่ได้อยู่ที่หัวกระดูก ตามที่เล่ามาว่า.." หัวกระดูกบริเวณ ต้นขานั้นค่อนข้างสมบูรณ์ " แต่ปัญหาอยู่ที่กระดูกเชิงกรานซึ่งไม่สามารถคว้านให้เป็นเบ้าได้ วิธีบรรเทาอาการ คือ เสริมสร้าง เส้นเอ็น หรือเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ที่อยู่โดยรอบบริเวณข้อตะโพกที่มีปัญหา ให้แข็งแรงที่สุด เพื่อช่วยยึด และพยุง ให้ข้อต่อส่วนที่มีปัญหา อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม และช่วยรองรับน้ำหนักตัว โดยไม่ทำให้ข้อกระดูกเคลื่อนผิดรูปมากเกินไป จนเกิดการเสียดสี ทำให้หมาเจ็บและไม่อยากเดิน การรักษาโดยทั่วไป หมอมักจะให้ยา Rimadyl (Carprofen) เพื่อลดอาการเจ็บจากการอักเสบบริเวณข้อ ร่วมกับยาบำรุงตับ Lipochol ให้กินติดต่อกันประมาณ 7-10 หรือ15 วันตามอาการ และให้อาหารเสริมบำรุงประเภท ที่มีสาร ไกลโคซามีโนไกลแคน , คอนดรอยติน ซัลเฟต , กรดไขมันโอเมก้า 3 , และกลูโคซามีน ฯลฯ ซึ่งช่วยลดการอักเสบและฟื้นฟูสภาพกระดูกอ่อน เนื้อเยื่อ เส้นเอ็น โดยรอบข้อตะโพก ให้แข็งแรงขึ้น เมื่อหมาทุเลาอาการเจ็บ สามารถเคลื่อนไหวได้ดีขึ้นแล้ว จึงค่อยเริ่มทำกายภาพบำบัด หรือออกกำลังกายเบาๆ ที่ไม่ต้องให้ข้อตะโพกรับน้ำหนักมากนัก ที่สำคัญ จำเป็นต้องจำกัดอาหาร ให้กินแต่อาหารที่มีคุณค่าทางอาหารสูงในปริมาณเหมาะสม อย่าให้กินของขบเคี้ยว หรืออาหารกินเล่นที่ไม่มีคุณค่าทางอาหาร และอาจทำให้อ้วน หากต้องการให้หมาได้มีของขบเคี้ยวแทะเล่น ควรให้กระดูก(จริง)ดิบๆ จะดีสำหรับหมาที่สุด โดยเฉพาะกระดูกท่อนขาวัว ที่จะมีไขกระดูกในโพรงช่องกระดูกที่มีคุณค่าทางอาหารสูง ถ้าเป็นไปได้ ควรเลี้ยงด้วยอาหารสดดิบ ซึ่งเป็นอาหารตามธรรมชาติของหมา ที่มีสารอาหารครบถ้วนสำหรับหมาและไม่ทำให้อ้วน ศึกษาดูได้ที่ http://www.pantown.com/group.php?id=560 |
ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ | |||
ตอบคุณกนต์ธร เรื่องวิ่งนี่ ต้องรอผู้เชี่ยวชาญการวิ่งมาคุยให้ฟัง วันก่อนพี่ท่านขับ F16 ไปฝึกซ้อมรบ หลุดจากจอเรดาร์ไปหลายวันแล้ว ไม่ทราบเครื่องไปตกอยู่แถวไหน ลองไปศึกษาดูที่นี่ก่อนละกัน เป็นเอกสารเผยแพร่ของชมรมไทยบางแก้ว พี่ท่านอนุญาตให้เอามาแปะให้ดูกัน ลองเอามือจับขาหลัง โยกขึ้นโยกลงดู ถ้ามันไม่เจ็บไม่ร้อง ก็คงยังไม่หลุด แต่ต้องคอยหมั่นสังเกตุ
|
ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ | |
ถามป้าวิ ปกติให้ด็อตคอมกินโครงไก่สดเป็นอาหารหลักเมื้อเย็นทุกวัน ขนฟูพองไม่ร่วง แต่ไม่ค่อยเป็นมันเงา http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/J2420793/J2420793-19.jpg http://www.bangkaew.com/yingyai/ เช้านี้ เลยไปหาซื้อกระดูกท่อนขาวัว กะว่าจะให้มันแทะเล่น เผื่อจะหล่อเหมือนยิ่งใหญ่บ้าง แต่แฟนห้ามเอาเนื้อและกระดูกสัตว์ใหญ่เข้าบ้าน เลยซื้อเป็นกระดูกหมูที่เขาเอาไว้ต้มซุปเข้าใจว่าเป็นซี่โครง เห็นมีไขเยอะดี ราคาก็ไม่แพง แมโครโลละ 25 บาท โครงไก่เดี๋ยวนี้ ก็ 20-22 บาทแล้ว จะซื้อข้อขาหมู ก็กลัวมันแทะไม่แตก เสียดายของ ปรากฏว่า กระดูกหมูที่เขาเอาไว้ต้มซุปชิ้นใหญ่ๆนี้ เอาให้ โบ ปิงปอง และ ด็อตคอม เคี้ยวกันสนุกไปเลย ไม่เหลือซาก ไม่รู้เอามาแทนกระดูกขาวัวได้ไหม |
ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ | ||||||||
ไปเจอคนหาซื้ออ่างในพันทิป เลยเอามาแปะไว้เป็นข้อมูล
|
ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ | |
แตงโมก็มีปัญหาเรื่องขาเหมือนกัน พ่อเป็นคนสังเกตุเห็นว่าเวลาเดินบางทีเขาจะยกขาหลังข้างขวาขึ้น เหมือนขาเจ็บ บางทีก็เดินได้ปกติ พอดีอายุครบ 1 ปี ก็เลยพาไปฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าที่คลินิคแถวบ้าน ก็พาเดินไปจากบ้าน(ไกลเหมือนกันแหละ) พอไปถึงหมอก็วัดไข้ ปรากฎว่ามีไข้หมอก็ไม่ฉีดวัคซีนให้ ก็ให้ยามากิน ตอนนั้นเค้าก็ขนร่วงแล้วก็ไม่ค่อยกินอาหาร ก็คิดว่าเค้าผลัดขน เบื่ออาหาร แล้วขนเค้าก็ไม่สวยเลย หยาบ แห้ง แล้วอาทิตย์ถัดไปก็ไปหาหมออีกโดยวิธีเดิม (เดินไป แดดร้อนด้วย) พอไปถึงก็มีไข้อีก ก็ไม่ได้ฉีดยาอีก พ่อแตงโมก็เลยบอกหมอว่าเห็นเค้าเดินขากระเผลกหมอก็เลยคลำ ๆ ดู แล้วก็บอกว่าเหมือนกระดูกสะบ้าเคลื่อนแล้วก็บอกว่าถ้าเป็นมากก็ต้องผ่าตัด หมอบอกว่าที่คลินิคไม่รับผ่าต้องส่งไปโรงพยาบาลสัตว์เล็กจุฬา ก็ให้ยาบำรุงมากิน พอกลับมาบ้าน รู้สึกว่าแตงโมอาการหนักขึ้น คือเค้าไม่สามารถขึ้นบันไดบ้านเองได้ (ที่บ้านเลี้ยงปล่อยไม่ได้ขังกรง พื้นบ้านเป็นปาเก้) ต้องให้อุ้มขึ้น แล้วเค้าก็ผอมมากไม่ยอมกินอาหารเลย (มาทราบทีหลังว่าเค้าคงเจ็บมากเลยไม่อยากกิน) ก็เลยตัดสินใจพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลสัตว์เล็กจุฬา หมอก็คลำ ๆ ดูแล้วก็บอกว่ากระดูกสะบ้าหลุด ก็ส่งต่อไปแผนกศัลยกรรม เค้าก็คลำ ๆ ดู แล้วก็ให้ไปเอ็กซ์เรย์ ปรากฎว่ากระดูกสะบ้าหลุด แต่เกิดจากเบ้ากระดูกตื้น ไม่ได้เกิดจากสะโพก เป็นทั้งสองข้าง แต่ข้างขวาหลุดแล้ว หมอก็นัดผ่าตัดวันที่ 29 มีนาคม 2549 (วันผ่าตัดชั่งน้ำหนักก่อนให้ยาสลบ หนัก 14.6 กิโลกรัม)ผ่าเสร็จหมอบอกว่า หมอคว้านเบ้ากระดูกให้ลึกขึ้นแล้วก็เอาเอ็นเทียมยึดกระดูกสะบ้าไว้ แล้วก็เย็บแผลปิดพลาสเตอร์ ฉีดยาแก้ปวดให้แล้วมีฤทธิ์ 24 ชั่วโมง แล้วก็ฉีดยาแก้อักเสบให้แล้วให้กลับบ้านได้ วันรุ่งขึ้นก็นัดมาดูแผลอีกที แล้วนัดอีกที แล้วนัดตัดไหมใช้เวลาประมาณ 10 วัน(ตั้งแต่ผ่าถึงวันตัดไหม) จนถึงวันนี้ แตงโมก็กินอาหารได้มากขึ้น ขนกลับมาสวยงามนุ่มเป็นมัน แต่ก็ไม่ยอมอ้วน น้ำหนักประมาณ 16-17 กิโลกรัม เวลาลงบันไดบ้านก็จะกระโดดสามขาลงมา (ยกขาข้างที่เจ็บขึ้น) ส่วนขาอีกข้างหมอบอกว่าก็เริ่ม ๆ เป็นแล้วนะ แต่ตอนนี้ยังไม่มีอาการอะไร ก็ยังไม่ทำอะไร สงสารเค้ามากเลยตอนช่วงผ่า เค้าคงเจ็บมา คงรำคาญคอร่าด้วย ดูเค้าหงุดหงิด แล้วก็เข็ดขยาดการกินยามากเลย ตอนนี้พอเห็นหยิบถุงก็จะมองดู ถุงยาหรือเปล่า ถ้าเห็นเป็นถุงยาจะมุดเข้าใต้เก้าอี้ทันทีเลย ตอนนี้กำลังเป็นฮีทด้วย บ่งบอกว่าเค้าสุขภาพดีหรือเปล่าคะ (แตงโมเป็นฮีทครั้งแรกตอนอายุประมาณ 6 เดือน แล้วก็มาเป็นครั้งที่สองตอนนี้แหละค่ะ) ได้แตงโมมาจากเพื่อนค่ะ ไม่ได้ซื้อ |
ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ | |
เรื่องของแตงโม น่าสงสารมากค่ะ แต่ยังดี ที่สามารถผ่าตัดแก้ไขได้ หมาที่บ้านตัวหนึ่ง เกิดมาไม่มีกระดูกสะบ้าทั้งสองข้างเลย ตอนเป็นลูกหมาเล็กๆขาหลังจะเหยียดตรง ไม่สามารถงอได้เวลานั่งหรือเดิน หมอเคยแนะนำให้ปล่อยเขาหลับไปเสียเถอะ เพราะต้องพิการตลอดไปแน่นอน แต่เห็นว่าเขาแข็งแรง ร่าเริงดี ไม่เห็นทุกข์ร้อนอะไร ก็เลยเลี้ยงเขาต่อมาเรื่อยๆ พอโตขึ้น ขาที่เหยียดๆถูกเอ็นดึงให้งอเข้ามาจนชิดตัว เหยียดไม่ได้เลย แต่ก็สามารถปรับตัว พยายามเคลื่อนไหวได้เองอย่างคล่องแคล่ว จนอายุเกือบสิบปีแล้วตอนนี้ แข็งแรงดีมาก ทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่แสดงท่าว่ารู้ตัวเองเลยว่าพิการ เฝ้าบ้านดีมาก คนแปลกหน้าเข้ามา วิ่งไล่กัดเลย โดยใช้ขาหน้าและช่วงตัว เกร็งยกขาหลังที่งอหงิกขยับพ้นพื้นเหมือนการก้าวขาตามปกติ เรื่องที่แตงโมมีไข้ทุกที ตอนเดินไปหาหมอ(ระยะทางไกลเหมือนกัน) แล้วก็ไม่ได้ฉีดวัคซีนสักที ตามที่เล่ามา คงเป็นเพราะอุณภูมิร่างกายที่สูงขึ้นในช่วงที่ใช้พลังงานในการเดิน(ไกลเหมือนกัน) พอไปถึงร้านหมอ จึงวัดอุณหภูมิว่ามีไข้ ความจริงควรต้องนั่งพักในที่เย็นๆ สัก 15-20 นาทีก่อนค่ะ หมาที่บ้านอีกตัวหนึ่งเป็นโรคข้อตะโพกนี้ แบบเบ้าตื้น คุณหมอไม่ผ่าดัดคว้านเบ้ากระดูกให้ โดยได้ให้เราดูฟิล์มเอ็กซเรย์ ว่าเบ้าตื้นเกือบแบนเป็นจาน(ไม่ใช่ ชาม แบบที่คุณจรัญบอก) ลักษณะแบบนี้หมอไม่แนะนำให้ผ่าตัดแก้ไขตรงส่วนนั้น เพราะเนื้อกระดูกเชิงกรานไม่พอ แต่มีการผ่าตัดตกแต่งกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็น(ไม่แน่ใจ) ด้านในต้นขาทั้งสองข้าง ไม่ให้ดึงยึดข้อขาหลังเข้าหากันมากเกินไป จนทำให้หัวกระดูกต้นขามีแนวโน้มเอียงออกด้านนอกเสี่ยงต่อการหลุดจากกระดูกเชิงกรานมากเกินไป ต้อง ให้กินยาลดปวดเป็นช่วงๆที่เขามีอาการปวดจนซึมไปกว่าปกติ และให้ยาบำรุง ซ่อมแซมเนื้อเยื่อเกี่ยวพันรอบข้อกระดูก , ดูแลควบคุมน้ำหนัก ไม่ให้เขาอ้วน โดยให้กินอาหารตามธรรมชาติของสัตว์กินเนื้อ คืออาหารสดดิบ เขาเป็นหมาที่ซนมาก เคลื่อนไหวรวดเร็วมีความคล่องตัวสูง เป็นหมานักล่าตัวจริง(ผิดพวกพ้อง) ชอบไล่กัด นก ไก่ แมว และสัตว์อื่นๆ ถ้าเขามีน้ำหนักมาก เขาจะเคลื่อนไหวลำบาก ไม่คล่องตัวตามนิสัยของเขา จะทำให้เขาไม่มีความสุข ทุกวันนี้หมาตัวนั้น ยังมีชีวิตอยู่อย่างปกติเช่นเดียวกับตัวอื่นๆในบ้าน แม้ข้อตะโพกจะพิการมากขนาดนั้นทั้งสองข้าง จนบางครั้งเวลาวิ่งเร็วๆ ข้อขาหลังจะเกี่ยวกันจนหกล้ม เขาก็สามารถลุกขึ้นวิ่งต่อได้อย่างรวดเร็ว อายุเกินสิบปีแล้ว แต่ยังวิ่งไล่จับนก จับจิ้งเหลน , กิ้งก่า สารพัดสัตว์ ฯลฯ ได้อยู่ อย่างมีความสุขตามประสาหมา(ที่ไม่รู้ว่าตัวเอง)พิการ (เหมือนตัวแรกที่ไม่มีลูกสะบ้า) รูป หมาตัวที่ข้อตะโพกพิการ เบ้าตื้น ชื่อ บัว |
ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ - อาหารดิบ!!!!! | |
ขอบพระคุณมากนะคะ สำหรับคำอธิบาย กำลังใจ และ ข้อคิดเห็นต่างๆ คะ สองสามวัน พาเขาไปว่ายน้ำ มาสองวันแล้วคะ และ ทำพี้นสนามหญ้าประมาณ 1 ตารางเมตรให้น้องฮัชนอนเล่นแล้ว ดูเขามีความสุขขึ้นนะคะ อยากสอบถามคะ ในเรื่องของอาหารดิบ คือเนื่องจาก น้องฮัชต้องอยู่ร่วมกับคนในซอยไปจนตลอดชีวิตของเขา ก็พยายามฝึกให้เขาไว้ใจคนเท่าที่จะทำได้ เพราะ ที่เข้าใจว่าสุนัขพันธุ์บางแก้วนั้น เขามีพี้นฐานที่ไม่ไว้ใจคน จึงแสดงออกด้วยอาการดุ ในช่วงที่น้องฮัชมาอยู่ที่บ้านใหม่ๆ ดิฉันพาเขาเข้าสังคมตลอด จนน้องฮัชเป็นที่รู้จักกันทั้งซอยในความน่ารัก และก็ไม่ดุ แล้วเขาก็ขึ้อ้อนทุกคนที่เขารู้จัก จนอยู่มาวันหนึ่ง ตอนเขาอายุได้ประมาณ 5 เดือน เขาถูกรุ่นพี่พันธุ์บางแก้วในซอย ที่ไม่เคยถูกปล่อยออกมาจากบ้าน แต่วันนั้นเขาหนึออกมา พอดีกับน้องฮัช และดิฉันไปเดินเล่นกัน แต่ความที่น้องฮัชเป็นหมาประชาสัมพันธ์ประจำซอย และยังเด็กอยู่ ก็วิ่งเข้าไปหาเพื่อแนะนำตัวเอง และแสดงความคาราวะด้วยการลงนอนใต้เท้ารุ่นพี่ตัวนั้น (ฮัชขอบทำแบบนี้กับหมาทุกตัวที่เขารู้จักครั้งแรกในซอย) แต่แทนที่รุ่นพี่ตัวนี้ จะแสดงมิตรไมตรีโต้ตอบ กับทำร้ายฮัช ด้วยการกัดน้องฮัช ที่ห้วไหล่และ ลากน้องฮัชเข้าบ้านต้วเอง ไม่มีใครกล้าทำอะไร และปล่อยให้เขาปล่อย ฮัชเอง ผลก็คือ น้องฮัชโดนกัดไปสี่แผล และก็ร้องไห้สุดแรงเท่าที่ดิฉันเคยได้ยินมา ตั้งแต่นั้นมา น้องฮัช เริ่มเห่าเป็น เริ่มก้าวร้าว และ เห่าและวิ่งเข้าไปหาคนที่น้องไม่เคยเห็นมาก่อน แต่น้องฮัชในยามอารมณ์ดี น้องฮัชก็ยังเป็นหมาประชาสัมพันธ์ประจำซอยที่เป็นที่รักของเพื่อนในซอย แต่เพี่ยงแต่ไม่เป็นมิตรกับคนหน้าใหม่ๆ เท่านั้นเองเนื่องจากน้องฮัชยังต้องอาศัยพี้นที่ในซอยเป็นที่เดินเล่น ดิฉันก็ยังปารถนาให้น้องฮัชไม่ดุ และใจดีเหมือนก่อนที่จะโดยรุ่นพี่ทำร้ายเมื่อเดือนที่แล้ว จึงขอเรียนถามว่า ถ้าให้กินของดิบแล้ว ความเป็นสัตว์ป่าจะกลับเข้ามาอีกหรือไม่คะ และให้กินของดิบ จะไม่เสี่ยงต่อพวกพยาธินานาชนิด และความสะอาดหรือ เพราะน้องฮัช ก็กินอาหารสะอาดมาตั้งแต่เกิดหรือคะ มีทางเลือกอื่นไม๊คะ ขอบพระคุณคะ น้องฮัชคะ ปล. อ้อ!เกือบลืมไปนะคะ ดิฉันให้น้องฮัชฟังเพลง Classic ตั้งแต่เล็กๆ และพาเขาไปใส่บาตร ไปพบพระบ้างบางครั้ง และฝึกให้เขาอ่อนโยนกับพระที่เราใส่บาตรทุกครั้ง และดูเหมือนเขาจะทำตัวน่ารักและเชื่อฟังมากๆเลยคะ |
ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ - อาหารดิบ!!!!! | ||||||||
เรื่องอาหารสดดิบให้ด็อตคอมกินตั้งแต่เด็ก มันติดใจ ไม่รู้เบื่อ มันก็เป็นหมารับแขก คอยทักทายคนในซอยไปทั่ว แต่กับหมาไม่ได้ จะต้องมีการข่มกันหน่อย เรื่องบาร์ฟนั้น ศึกษาดูได้ที่ http://thai-barf-club.pantown.com/ หรือที่ Bangkaew and BARF เรื่องสระว่ายน้ำพลาสติกถอดประกอบได้ ที่พันทิปมีคนเอามาให้ดู แต่รู้สึกจะแพงไปหน่อย
|
ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ - อาหารดิบ!!!!! | |
**....ขอเรียนถามว่า ถ้าให้กินของดิบแล้ว ความเป็นสัตว์ป่าจะกลับเข้ามาอีกหรือไม่คะ และให้กินของดิบ จะไม่เสี่ยงต่อพวกพยาธินานาชนิด และความสะอาดหรือ...** ความจริง คือ การกินของดิบ กับนิสัยที่ดุร้ายนั้นไม่เกี่ยวกันค่ะ หมาที่บ้าน 30กว่าตัว กินอาหารสดดิบทุกตัวมานานหลายปีแล้ว ต้องถามคนที่เคยพบหมาที่เลี้ยงไว้ทุกตัว (ยกเว้นบางแก้วสองตัวที่รับมาเลี้ยงตอนโต และมีวีรกรรมมาก่อนแล้ว) แม้จะมีบางตัวผ่านการฝึกอารักขา แบบสั่งให้กัดได้ มาแล้ว ก็ไม่มีนิสัยดุร้ายแม้แต่ตัวเดียว ทุกตัว มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีมาก แทบไม่เคยป่วยประเภทติดเชื้อหรือภูมิแพ้ และไม่เคยพบว่ามีพยาธิ จึงไม่เคยต้องถ่ายพยาธิอีกเลย ตั้งแต่เปลี่ยนมากินอาหารสดดิบ ระบบย่อยของหมา สร้างขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับย่อยอาหารประเภทนี้เป็นปกติตามธรรมชาติอยู่แล้ว น้ำย่อยของหมา ที่มีความเป็นกรดที่เหมาะสม สามารถย่อยกระดูก เส้นเอ็น พังผืด ฯลฯ ที่อยู่ในสภาพเดิมตามธรรมชาติ(คือดิบๆ)ได้อย่างดี และสามารถควบคุมการแพร่พันธุ์ของพยาธิต่างๆได้ แม้จะกินไข่พยาธิที่ติดอยู่ตามพื้นดิน ใบไม้ใบหญ้าเข้าไปบ้าง แต่สภาพภายในระบบย่อยดั้งเดิมของหมา ก็ไม่เอื้ออำนวยที่พยาธิจะฟักออกมาเป็นตัว ลองเข้าไปอ่านบทความ ในเวบ http://thai-barf-club.pantown.com/ ตามที่คุณไตรสิทธิ์แนะนำ ดูก่อนก็ได้ค่ะ ค่อยๆอ่านบทความทุกบท ให้เข้าใจ จะมีรายละเอียดที่น่าสนใจและคำตอบให้กับคำถามทุกคำถามค่ะ |
ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ - อาหารดิบ!!!!! | |||||||||
|
ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ - อาหารดิบ!!!!! | |
ขอขอบพระคุณในความกรุณาที่ให้ข้อมูลที่มีค่ามากมายนะคะ ตอนนี้ น้องฮัช มีความสุขมากขึ้น แต่ก็เหนื่อยจากการไปว่ายน้าทุกวัน จนกลายเป็นสุนัขขี้เกียจมากๆ เลย แต่จะปล่อยไปก่อน ค่อยสอนอีกที่พอเขารู้สึกว่าต้วเองดีขี้นกว่านี้ มีคำถามเล็กน้อยคะ ต้วยาRymadlyn นั้น ควรให้กินนานไม่เกินกี่วันคะ หมอบอกว่าให้เขากิน สักสองวันแล้วหยุดสองวัน แต่เวลาเขากิน จะOK แต่พอไม่กินนะก็นอนตลอดเลยคะ ขอบพระคุณมากนะคะ |
ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ - อาหารดิบ!!!!! | |
**การรักษาโดยทั่วไป หมอมักจะให้ยา Rimadyl (Carprofen) เพื่อลดอาการเจ็บจากการอักเสบบริเวณข้อ ร่วมกับยาบำรุงตับ Lipochol ให้กินติดต่อกันประมาณ 7-10 หรือ15 วันตามอาการ และให้อาหารเสริมบำรุงประเภท ที่มีสาร ไกลโคซามีโนไกลแคน , คอนดรอยติน ซัลเฟต , กรดไขมันโอเมก้า 3 , และกลูโคซามีน ฯลฯ ซึ่งช่วยลดการอักเสบและฟื้นฟูสภาพกระดูกอ่อน เนื้อเยื่อ เส้นเอ็น โดยรอบข้อตะโพก ให้แข็งแรงขึ้น** ตามข้อความที่ก้อปมาให้ ข้างบนนี้เลยค่ะ ซื้อยาเองได้จากร้านขายยาสำหรับสัตว์ทั่วไป ยาประเภทนี้ ถ้ารับจากสัตวแพทย์จะราคาค่อนข้างราคาสูง สามารถซื้อเองได้ในราคาถูกกว่าร้านทั่วไป และสัตวแพทย์ ที่ร้าน วิทูรเภสัช ถนนประดิพัทธ์ ใกล้ธ.กรุงเทพฯ สาขาสะพานควาย กทม. อ่านรายละเอียดในฉลากยาให้เข้าใจก่อนใช้ด้วยค่ะ |
ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ - อาหารดิบ!!!!! | |
ขอบคุณมากๆ คะ คุณThe Alpha Wolf สำหรับคำตอบ และขอโทษนะคะ ที่อ่านไม่ละเอียด แต่ขอถามต่ออีกสักนิดนะคะ เท่าที่สังเกต เวลาให้กิน Rimadyl แล้ว เจ้าฮัชจะรู้สึกดี และไม่ถนอมตัว จะวิ่งเล่นอย่างกับตัวเองไม่เป็นอะไร ตามประสาคิดว่าตัวเองเป็นเด็ก แต่พอยาหมดฤทธิ์ คือประมาณบ่ายๆ ของแต่ละวันก็จะหมดแรง พอไปจับขาเขาให้ นะคะ ก็ร้อง หรือไม่ก็จะกัดเรา ไม่รู้ว่าจะเหมือนคนหรือเปล่านะที่เมื่อปวดข้อ ก็กินยาแก้ปวด เพื่อให้รู้สึกดี แต่ไม่ได้แก้ปัญหาอะไร ถ้าจะไม่ให้เขากิน จะดีกว่าหรือไม่คะ พอดีคุณหมดให้กิน 4 มื้อเช้าเย็น 2วัน เว้น 3 วัน นะคะ ในระหว่างทางก็พาเขาไปว่ายน้ำ คิดว่าใน Case ของ น้อง ฮัช ไม่ให้กินยาแก้ปวดตัวนี้เลย จะดีหรือไม่คะ แต่หันไปกินยาบำรุงแทนอย่างเดียว และออกกำลังกายคะ ขอบคุณมากๆ อีกครั้งนะคะ |
ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ - อาหารดิบ!!!!! | |
**เมื่อหมาทุเลาอาการเจ็บ สามารถเคลื่อนไหวได้ดีขึ้นแล้ว จึงค่อยเริ่มทำกายภาพบำบัด หรือออกกำลังกายเบาๆ ** ที่ก้อปมาข้างบนนี้ ก็เป็นข้อความสำคัญอีกประโยคหนึ่งที่อาจจะไม่ทันสังเกต(แต่ก็ได้ทำตัวหนาไว้ให้แล้ว).......ว่า การรักษาในขั้นตอนต่อไป ต้องทำภายหลังจากที่หมา หายปวดและอักเสบแล้ว การออกกำลังกายตอนที่ยังไม่หายจากการอักเสบ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนล้าอาจจะทำให้ปวดและอักเสบมากขึ้น และมาให้ยาแก้ปวดระยะสั้นๆพอทุเลาอาการ แล้วก็กลับไปออกกำลังกายอีก แบบนั้น ไม่ใช่วิธีรักษาแบบยั่งยืน และอาจเป็นอันตรายต่อหมาด้วย ตอนแรก ว่าจะถามเหมือนกัน ถึงการว่ายน้ำ ว่า ทำตามคำแนะนำของคุณหมอ หรือว่าพาไปเอง เพราะความจริงต้องพิจารณาถึงสภาพร่างกายของหมาด้วย ต้องรักษาอาการเจ็บปวดและอักเสบให้หายแน่นอนก่อน จึงค่อยรักษาในขั้นตอนต่อไป เช่น ทำกายภาพบำบัด และว่ายน้ำซึ่งก็ต้องเริ่มด้วยการอุ้มหรือประคองตัวหมาอยู่ในน้ำ ให้หมาขยับขาเองนิดหน่อย วันละ5-10 นาที และค่อยๆเพิ่มเวลา และดูอาการไปด้วย ว่าเขาพร้อมสำหรับการออกกำลังกายในระดับที่หนักขึ้นหรือยัง จึงค่อยปล่อยให้เขาว่ายเอง แม้จะมีเสื้อชูชีพก็จริงอยู่ แต่หมาก็ต้องใช้กำลังขาของตัวเองเต็มที่ ขณะที่ลอยอย่างอิสระอยู่ในน้ำ ตัวเองไม่ใช่หมอค่ะ เพียงแต่มาบอกเล่าประสบการณ์ให้ฟัง ที่เคยเลี้ยงหมาพิการมามากมายเป็นเวลานานแล้วและยังคงเลี้ยงอยู่ในปัจจุบัน มีหลายระดับอาการและลักษณะพิการหลายประเภท ส่วนใหญ่เป็นหมาที่เจ้าของไม่เลี้ยง(ทิ้ง) ทำให้ได้รับข้อมูล ความรู้ และวิธีการรักษา มากมายหลายแบบ จากคุณหมอหลายท่านและหลายสถาบัน ระยะหลังๆ ไม่ค่อยได้ไปหาคุณหมอแล้ว เพราะอยู่ต่างจังหวัด ก็นำข้อมูลที่เคยได้รับ นำมาปรับใช้กับหมาที่เลี้ยงอยู่ ได้ผลเป็นที่น่าพอใจเกือบทุกตัว ยาที่บอกไว้ เป็นยาประจำบ้าน ที่ต้องซื้อติดบ้านไว้ครั้งละขวดใหญ่ เพราะหมาที่เลี้ยงไว้ 80 % เป็นหมาพิการ และมีปัญหาเรื่องข้อกระดูก(จึงถูกเจ้าของทิ้ง) ข้างล่างนี้ รูปของซิสก้า หมาของตัวเองที่เคยได้รางวัลใหญ่ระดับเบสท์อินโชว์ ออลบรีด งานใหญ่มาหลายครั้ง แต่โชคร้ายถูกรถชนจากด้านหลัง จนกระดูกเชิงกรานเคลื่อนออกจากแนวกระดูกสันหลัง เส้นประสาทถูกกดทับ จนขาหลังใช้งานเกือบไม่ได้ ได้พยายามรักษาจนสามารถกลับมาเดินได้อีกครั้ง |
ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ - อาหารดิบ!!!!! | |
บางส่วน ของหมาพิการ และมีปัญหาทางกายภาพ ที่เลี้ยงอยู่ http://www.pantown.com/board.php?id=322&area=&name=board1&topic=1542&action=view |
ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ - อาหารดิบ!!!!! | |
เห็นซิกก้าแล้วน่าสงสารจังเลยคะ ไม่อยากให้น้องฮัชเป็นอย่างนี้ ดูเหมือนว่า การดูแลอาการของฮัชครั้งนี้จะขัดข้องอย่างไรก็ไม่รู้ 1. ไปหาที่โรงพยาบาลสัตว์จุฬา -การให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน บอกแต่ว่าไปหาที่ว่ายน้ำ กินยาอาทิตย์ ให้เราไปหาข้อมูลเกี่ยวกับยาเอง ไม่ให้ฟิลม์มาด้วย กินยาRymadlyแล้ว 1 อาทิตย์ และกินอีกสองตัว คือ leganon กับ Gluco-S 2. มีคนแนะนำไปที่เกษตร เพื่อว่ายน้ำ พอหมอดูบอกว่ายังเด็กเกินไป ไม่แนะนำให้ว่ายที่นี้ แล้วก็ให้กินยาเหมือน กับที่หมอที่ จุฬา และเพื่อนๆ ที่เป็นสัตวแพทย์แนะนำ ก็ทำตามที่คุณหมอแนะนำ หมอแนะนำให้ไปหา สระ Private เพื่อไม่ให้มีเชื่อโรคที่เด็กอยากฮัชจะติดได้ง่าย คราวนี้ กินยาRymadlyมาแล้ว 4 มื้อเว้น 1-2 วัน และกิน 4 มื้อ ตามที่คุณหมอแนะนำ แล้วก็กิน Arthamin วันละ 1 เม็ด 3. ไปหาคลินิคแถววัดเสมียนนารี คุณหมอก็ดูอาการและก็บอก Course และ ขั้นตอน แต่คุณหมอไม่ได้ดูฟิลม์ นะคะ การว่ายน้ำครั้งที่ 1 คุณหมอให้ใส่ชูชีพ และก็มีคนคอยช่วยพยุงให้ 5 นาที 1 ครั้ง แล้วพัก และ อีก ประมาณ 7 นาที ก็เสร็จ การว่ายน้ำครั้งที่ 2 ฮัชว่าย 2 รอบเหมือนเคย คือ 5 นาที พัก และ ต่อ 10 นาที เว้น 1 วัน คะให้พักก่อน การว่ายครั้งที่ 3 ฮัชชอบมากคะ รอบที่ 1 10 นาที และ รอบที่ 2 คราวนี้เพลินไปหน่อย คือ 15 นาที เขาไม่ยอมออกจากสระคะ ต้องบังคับให้ออกนะคะ จะพาฮัชว่ายน้ำตอนเช้าประมาณ 9-10 โมงทุกครั้ง และหลังจากว่ายน้ำนะคะ คือฮัชจะเหนื่อยมาก จะเอาแต่นอน และพอดีกับเป็นเวลานอนปกติของเขา (ฮัชจะนอนช่วยเช้า แต่ตื่นในช่วงบ่ายแก่และ ตอนกลางคืน) |
ตอบ: เรื่องกลุ้มๆ ของผมครับ - อาหารดิบ!!!!! | ||||||||
ผมเคยปวดเข่า กินยาแก้ปวดแล้ว ไปเดินต่อ กลับมาก็ปวดต่อ ไม่หายซะที ยิ่งปวดเข้าไปใหญ่ คราวนี้เลยต้องนอนพักนานเลย อยากให้ทำตามที่ป้าวิแนะนำ คือ กินยาแก้ปวดแล้ว ไม่ใช่ไปออกกำลังกาย ควรนอนพักพื้นให้หายดีก่อน หรือ ออกกำลังกายเบาๆโดยเราประคอง อย่าให้ไปกระโดดโลดเต้น
|