วัตถุประสงค์ของกระทู้นี้เพื่อให้เพื่อน ๆ ที่รักบางแก้ว ช่วยกันอุปถัมภ์บางแก้วถูกทิ้ง และต้องการให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้าใจผิด ๆ บางประการ เกี่ยวกับบางแก้วครับ โดยขอเล่าประสบการณ์ส่วนตัวให้ฟัง เผื่ออาจจะชักชวนเพื่อน ๆ ให้หันมาอุปถัมภ์บางแก้วถูกทิ้งกันมากขึ้นครับ เมื่อประมาณเดือนกันยายนหรือตุลาคม 48 มีผู้เอาบางแก้ว (ขอเรียกว่า เจ้าอ้วน) มาปล่อยที่หมาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช ภรรยาผมได้พยายามเลี้ยงดูทุกวัน แต่พบว่าระยะหลังสุขภาพแย่มาก เพราะขนล่วงและเป็นแผลเต็มตัว โดยเฉพาะตามแผ่นหลังและด้านหลังในหู จนทำให้หูพับไปข้างหนึ่ง ดูไปดูมาก็ใกล้เยงกับหมาขี้เรื้อนมาก จนเกิดความสงสารและได้โทรไปยังมูลนิธิหรือศูนย์พิทักษ์สัตว์ อยู่แถว ๆ พ้นจากนิด้าไปพอประมาณ เพื่อให้มาจับไปรักษาอยู่ประมาณ 2 เดือน เสียค่าใช้จ่ายประมาณไม่กี่พันบาท แต่เนื่องจากทางโน้นไม่มีนโยบายเลี้ยงหมาถูกทิ้ง จึงต้องปรึกษากันว่าจะนำไปปล่อยที่ไหน แต่ก็ทำใจไม่ได้จึงนำมาเลี้ยงเอาไว้ที่บ้าน แต่ปัญหาที่ตามมาก็คือ ที่บ้านมีบางแก้วอายุ 2 ปีและหลังอานอายุ 4 ปีอยู่แล้ว โดยสัตวแพทย์ประมาณว่าเจ้าอ้วนน่าจะมีอายุประมาณ 5 ปี จึงต้องคิดแก้ปัญหากันต่อไปครับ ผมใช้วิธีการแยกหมาของผมไปไว้อีกบ้าน ส่วนเจ้าอ้วนได้รับอภิสิทธิ์ให้อยู่ในบริเวณบ้านของผม จากประสบกาณืส่วนตัวที่เคยเลี้ยงบางแก้วมากว่า 2 ปี และการรับอุปถัมภ์ขจ้าอ้วน พบว่า ข้อความที่มักปรากฏในตำราเกี่ยวกับหมาบางแก้วบางประการ ไม่เป็นความจริงถ้าหากเรามีวิธีเลี้ยงที่ดี คือ 1. บางแก้วเมื่อโตจะเชื่องกับคนไม่เกิน 2 คือ เจ้าของและคนให้อาหาร 2. การเอาบางแก้วเมื่อโตจะทำให้เชื่องต่อเจ้าของยาก และมักกัดเจ้าของหรือผู้อาศัยในบ้าน จากการเลี้ยงหมาบางแก้วของผม (เจ้าบิ๊ก) และเจ้าอ้วน พบว่า มันกระดิกหางใส่ทุกคนเมื่อกลับจากที่ทำงาน (บ้านผมมีสมาชิกกว่า 10 คน) ไม่เคยกันใครแม้กระทั่งคนใช้มาใหม่ จนเจ้าของน้อยใจว่าใคร้เป็นเจ้าของแกกันแน่ว่ะ ส่วนเจ้าอ้วนหลังจากนำมาเลี้ยงภายในบ้าน ถึงแม้ยังไม่สามารถเข้ากับเจ้าบิ๊กและหมาหลังอานก็ตาม แต่หลังจากที่ได้ดูแลกันกว่า1 เดือน เขาเปลี่ยนจากหมาที่ระแวงผู้คนมาเป็นหมาที่เชื่องสุด ๆ มันกระดิกหางใส่ทุกคนเมื่อกลับจากที่ทำงานเช่นกัน และทุกครั้งที่ถูกผมดุหรือตีมันจะหมอบโดยไม่สู้ และเมื่อเราเดินจากไปมันพยายามเข้ามาเลียคล้าย ๆ กับการเข้าขอโทษน่ะ ผมพบว่าการที่บางแก้วไม่ดุร้าย เพราะผมไม่เคยขังกรงหมาเลยตั้งแต่เลี้ยงมา และผมให้เวลาหลังเลิกงานกับมันพอสมควร ดังนั้น ถ้าหากใครที่ต้องการเลี้ยงบางแก้วขอแนะนำเลยว่า อย่าขังกรง เพราะจะทำให้มันหงุดหงิด ระแวงและพัฒนามาเป็นหมาที่ดุและขาดสติครับ และอีกประการอย่าพยายามตีบางแก้วโดยขาดเห็นผล ผมคิดว่าการที่เราพูดด้วยน้ำเสียงดุ ๆ และจองตาเขาตลอดเวลา เท่านี้บางแก้วก็ยอมเจ้าของแล้วครับ ไม่จำเป็นต้องตีเลยจริง ๆ ผมทดลองมากว่า 2 ปี ได้ผลจริง ๆ ครับ สุดท้ายอยากฝากข้อคิดแก้ผู้ที่ต้องการเลี้ยงบางแก้วว่า อย่าเลี้ยงเพียงเพราะอยากเลี้ยง แต่ต้องประเมินตัวเองว่ามีความพร้อมทั้งตนเอง คนรอบข้างและทุนทรัพย์ เพราะเขาอยู่กับเราไม่น้อยกว่า 12 ปี ซึ่งแต่ละปีผมคาดว่าต้องเสียค่าอาหาร ค่าแชมพู ค่ายาและวัคซีน ไม่น้อยกว่า 20,000 บาท ถ้าคุณคิดว่าคุณเสียดายเงินจำนวนนี้หรือมีรายได้ไม่เพียงพอที่จะนำเงินจำนวนนี้มาใช้สำหรับบางแก้ว ก็อย่าเลี้ยงเลยครับ เพราะจะเป็นการสร้างบาปกรรมต่อบางแก้วเปล่า ๆ (เวรกรรมมีจริงน่ะครับ) และสำหรับผู้ที่มีความพร้อมและรักบางแก้วจริง ๆ อยากให้ช่วยกันอุปการบางแก้ตกยาก ท่านละ 1 ตัวก็ยังดีครับ และอย่าเชื่อคำว่าเลี้ยงบางแก้วที่โตจะไม่เชื่อง เพราะผมผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว ถ้าไม่ขังและไม่ตีโดยไม่จำเป็นรับรองเชื่องสุด ๆ ครับ และที่สำคัญบางแก้วมีความกตัญญูต่อเจ้าของสูงมาก ๆ เพราะเจ้าอ้วนยังคงแสดงความรักอย่างสุด ๆ ต่อภรรยาผมอย่าต่อเนื่องทุกวัน แสดงว่าเขาจำคนที่ให้อาหารเมื่อเขาตกยากได้น่ะครับ
|