รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Friday, 3 February 2006, 07:27PM
 

การเลี้ยงลูกบางแก้วของแม่กี๋ เข้าข่ายครูพักลักจำ ฟังผู้รู้ สู้ปัญหา ควบคู่ไปกับธรรมชาตินิสัยและความต้องการของลูก หากขัดกับการหลักวิชาการใดๆ โปรดท้วงติง เพิ่มเติม มาเสริมความรู้ให้แก่กัน... เกล็ดความรู้จากทุกบ้าน มีคุณค่าควรแก่การนำมาศึกษา  ปัญหาเดียวกันมีทางออกหลายวิธี แต่ละทางน่ารักน่าลุ้น น่าลองเอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เรื่องขำๆที่รอการเปิดเผย..อ่านแล้วอย่าเลยไป ขุดกรุความทรงจำดีๆ เข้ามาร่วมให้ความสุขกันในบ้านหลังนี้


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Friday, 3 February 2006, 07:32PM
 

ประเดิมเรื่องแรก...คนโบราณเค้าว่าถ้าให้น้องหมากินของหวานมากๆจะยิ่งดุ อ่านเรื่องเล่าของพี่พายุ อาโกวให้พี่พายุกินน้ำแดง หวานจ๋อยเย็นเจี๊ยบ พี่พายุว่ามีผลหรือป่าว? เป็นจอมยุทธ์ก็ต้อง

ดุนะสินะ ปู่หัวโตกับเต๋าเต้ยก็ชอบของหวานเหมือนกัน แม่กี๋ให้อาหารว่างเช่น ทองหยด โรตี ขนมโตเกียวไส้สังขยาและไส้กรอก ขนมเค็ก แล้วแต่พ่อจ๋าจะซื้อหิ้วกลับมาฝาก 

หลังสุดที่เพิ่งค้นพบ นมอัดเม็ดรสหวานของสวนดุสิต สุดยอดเคี้ยวเพลินกันดี แม่กี๋ชอบใจที่หลอกให้กินนมได้ ของหวานจะให้กินวันละหนึ่งมื้อหรือวันที่เบื่ออาหาร หมอแนะ

นำให้กินบ้างเพื่อบำรุงตับ ตอนนี้เลยพากันตัวโตเกินขนาด แปลงร่างเป็นยักษ์เล็กกะยักษ์ใหญ่ พ่อจ๋าต้องพาออกกำลังกายวันละสามเวลา เพื่อให้เต๋าเต้ยเพรียวลมสมชาย

และหวังให้ปู่มีพลังเตะปีบดัง..ปังๆ อายุยืนนาน  การออกกำลังกายคือการจูงออกเดินวิ่ง ไปรอบๆบริเวณนอกบ้าน หยุดทำธุระส่วนตัวตามอัธยาศัย ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง

ขอร้องเรียน..ปู่อ้วนแต่ชอบอู้ หนีกลับบ้านก่อนทุกที หอบแฮ่กๆนอนรอหน้าประตู พ่อจ๋าต้องโฉบมาตามเป็นรอบที่สอง แต่ที่แท้ปู่ชอบให้แม่กี๋ไปวิ่งด้วย ทุกครั้งที่จะออกจาก

บ้าน จะหันไปมองหน้าแม่กี๋ ยืนนิ่งจนแม่กี๋ต้องบอกให้ไปเถอะแม่ไม่ไป วันไหนที่แม่กี๋ไปด้วยปู่จะอารมณ์ดี คึกคักเป็นพิเศษ วิ่งส่ายสะโพกสุดฤทธิ์ คงอยากโชว์ว่าวิ่งได้เร็วจี๋

ฟิตเหมือนหนุ่มๆแบบเต๋าเต้ย แม่กี๋เคยพาปู่ไปเดินเที่ยวตลาดนัด พ่อค้าแม่ค้าทักกันเกรียวกราว เด็กๆลูบหลัง บางคนชมว่า อื้อฮื้อหมาใคร น่าฟัดจัง บางคนสงสัยทำไมบาง

แก้วถึงตัวใหญ่แน่ใจหรือว่าใช่บางแก้ว? แต่ที่บาดหูบาดใจคือมีคนหนึ่ง ตระโกนเสียงดังลั่นตลาด..หมาหรือหมูพี่? พอปู่กลับบ้าน ไม่ยอมกินข้าวไปสองวัน ที่จริงเป็นเรื่อง

ปกติของหมาแก่ ถ้าวันใดเจริญอาหารกินมาก วันต่อมาจะเมินอาหาร อาจเป็นที่ระบบย่อย ที่ทำงานช้าลงกว่าตอนหนุ่มๆ  อาหารที่กินเข้าไปเยอะ จึงต้องไปเข้าแถวรอ ทะยอ

ยกันย่อยค่อยๆนำไปเลี้ยงร่างกาย ดีจังกินมื้อเดียวอยู่ได้หลายวัน ถึงแบบนั้นก็เถอะ!! มันก็ทำให้แม่กี๋ทุกข์ใจ แม่กี๋ต้องแก้ข่าวปลอบขวัญ " ใครว่าโตอ้วน แม่เถียงขาดใจเลย

โตอย่าไปเชื่อนะ " จนปู่ทนเสียงรบเร้าไม่ไหว ลุกขึ้นมากินข้าว กินขนมตามแรงเชียร์ของแม่กี๋ ไปฉีดยาครั้งที่แล้วหมอทักว่าขนสวยและตัวโตกว่าตอนมานอนป่วยทีคลีนิค

เมื่อต้นปีก่อน ดังนั้นน้ำหนักที่ขึ้นชั่งได้ในวันนั้น...ยี่สิบกว่าๆๆเอ็งงง!!! แต่ขนที่ฟูฟ่องก็ช่วยทำให้ดูตัวใหญ่และหนาขึ้น ขนงามนี้ได้แต่ไรมา?


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Friday, 3 February 2006, 07:34PM
 

ย้อนหลังไปเมื่อหกเดือน เมื่อครั้งที่เกิดอาการขนร่วงและมีจุดแดงๆบนผิวบริเวณทั้งขาหน้าขาหลัง และท้อง วันๆไม่เป็นอันทำอะไร ทั้งเกาทั้งเลียยิกๆๆ  หมอฉีดยารักษา

จำพวกถ่ายพยาธิทั่วไป ป้องกันเห็บหมัดขี้เรื้อน รวมถึงหนอนพยาธิหัวใจ และพาไปฉีดครั้งต่อไปตามกำหนดอย่างเคร่งครัด ได้ผลชงักหยุดคันหยุดเกาหยุดร่วง จากนั้นแม่กี๋

อาบน้ำให้ทุกอาทิตย์  หมั่นแปรงขนบ่อยๆ  ขนที่ร่วงจากการผลัดขน  ติดแปรงเป็นกระจุกใหญ่ท่วมแปรง แม่กี๋ต้องทำใจรับมือกับขนร่วงปีละสองครั้ง การแปรงช่วยกระตุ้น

ผิวหนังให้ผลิตน้ำมันมาหล่อเลี้ยงรากขนให้แข็งแรง และไม่ปลิวฟุ้งไปทั่วบ้าน ประมาณว่าอย่างหลุดให้รีบหลุด หวีให้ติดแปรงจะมากจะน้อยก็ช่าง จนวันหนึ่งก็ค่อยหายไปเอง

รอขนรุ่นใหม่ที่ขึ้นหนาฟูฟ่องสวยงาม จะให้รวดเร็วและได้ผลทันใจ เมื่อรักษาตามขั้นตอนแล้ว ต้องแต่งซิ่งจึงจะวิ่งฉิว แม่กี๋รีบปรึกษาคุณหมอ มาสวยด้วยแพทย์กันเถอะ!!
 


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Friday, 3 February 2006, 07:36PM
 

แม่กี๋ได้อาหารเสริม แร่ธาตุและวิตามินชื่อ Mega-fur  ป้อนวันละหนึ่งเม็ดก่อนอาหารเช้าทุกวัน กิจวัตรประจำวันอันดับแรกที่แม่กี๋กำหนดไว้เองกันตัวเองลืม  และแต่ละ

เดือนให้กินยาถ่ายพยาธิ ชื่อ IVERMEC ป้องกันหนอนพยาธิหัวใจ รักษาขี้เรื้อน ถ่ายพยาธิตัวกลม ป้องกันกำจัดเห็บหมัด   ซึ่งแม่กี๋กำหนดให้เป็นวันที่ 20ของทุกเดือน  จัด

แจงซื้อจากคลีนิคเตรียมไว้ล่วงหน้า คุณสมบัติเช่นเดียวกับยาฉีด  ไม่อยากกลับไปเริ่มรักษากันใหม่  ที่สำคัญไม่ต้องยกกองกำลังไปฉีดยากันบ่อยๆ จะมีบ้างสำหรับปู่หัวโตที่

มักเลียขนที่ขาตัวเองจนขนร่วงเป็นแผลแหวะ ลามเป็นทางยาว ปู่แกเล่นเลียกัดแทะจนเลือดไหลซิบๆ   แม่กี๋ต้องใช้ยาม่วง ไพแร็ต-ไวโอเล็ต ที่ใช้ป้ายลิ้นเด็ก แก้ปากเป็น

แผลและเชื้อรา อยากเลียก็ตามใจ รสแย่แถมยังสีน่ากลั๊วน่ากลัว เลิกเลียแผลและยังช่วยรักษาแผลก่อนจะลุกลาม ......


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Friday, 3 February 2006, 09:56PM
 

เรื่องที่สอง....ความสัมพันธ์เริ่มแรกระหว่างแม่กี๋กับปู่หัวโต...ภาพเมื่อวันวานยังคงชัดเจนเหมือนเพิ่งผ่านมาได้ไม่นาน หัวใจพองโตเมื่อนึกถึงวันแห่งความสุข...แต่หัวโตไม่ใช่หมาโชคดีที่จะมีมโนภาพดีๆอย่างนั้น ชีวิตโทรมๆที่ไร้ค่า 

ชีวิตหนึ่งที่ถูกทอดทิ้งเร่ร่อนไร้หัวนอนปลายเท้ามานานนับสิบปี  อดีตร้าวรานที่หมายังต้องเบือนหน้าหนี เมื่อคิดถึงความทุกข์ยาก อดยาก โรคร้ายรุมเร้า ถูกทารุณกรรมด้วย

มือเท้ามนุษย์และล้อรถยนต์ การดิ้นรนต่อสู้กับศัตรูรอบข้างเพื่อความอยู่รอด สำหรับหัวโตแล้วชีวิตช่วงเวลานั้นมันนานชั่วกัลป์ มีลมหายใจอยู่เพื่อรอวันสิ้นสุดเท่านั้น                         

.........การเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ได้เริ่มขึ้น คนแปลกหน้าที่คิดแผนการแปลงร่างอสูรกายเฒ่า อย่างแรก..จัดเตรียมอุปกรณ์สำคัญคือโซ่และที่รัดปาก ตามด้วยถุงมือยาง แชมพูอาบน้ำสุนัข เข็ม

ฉีดยาสองเข็ม ที่บรรจุยารักษาขี้เรื้อนและวัคซีนจากคลีนิครักษาสัตว์ ที่ต้องทั้งล่ามโซ่และรัดปากเพื่อสกัดกั้นการขัดขืน การต่อสู้และการจู่โจมที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกขณะ เนื่อง

จากเวลาที่ทำความรู้จักกัน สร้างความคุ้นเคยกันมันสั้นนัก ไม่อาจสร้างความมั่นใจได้ว่า หัวโตจะเชื่อใจและยอมปฏิบัติตามแต่โดยดี โดยเฉพาะเรื่องเก่าๆที่ไม่ได้เล่ามานาน

หลายปี....เช่น การถูกล่ามโซ่ การถูกรัดปาก การอาบน้ำและการถูกฉีดยา เรื่องแย่ๆที่หมาไม่ชอบทั้งนั้น เริ่มต้นที่ใส่ถุงมือยางป้องกันขี้เรื้อน ล่ามโซ่กับรั้ว ซึ่งติดกับก๊อกน้ำใส่สาย

ยางพร้อมหัวฉีดน้ำระยะไกล และร่ายคาถา " หัวโตแม่จะอาบน้ำให้ลูก แม่จะรัดปากลูก ไม่เจ็บหรอก ไม่เจ็บจริงๆ อย่ากัดแม่นะ นะ นะ..โม " ทำใจสู้หมา ชูที่รัดปาก ค่อยๆ

ใส่มันที่ปากและอ้อมไปใส่ล๊อคที่คอ หัวโตมองตามไม่แสดงอาการขัดขืน แต่พอหันหลังเดินมาหยิบสายยาง หัวโตใช้ขาหน้าตระกุยที่รัดปากและเอาออกจนได้ พอเอาออกได้

ก็นั่งนิ่งมองหน้า มีคำถามมากมายในสายตาคู่นั้น ไม่รัดก็ไม่รัดแต่ต้องอาบน้ำ ถ้าจะอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน จับหัวฉีดน้ำยิงระยะไกล น้ำเป็นฝอยกระจายไปที่ทั่วทั้งตัว...โอ้ง..

โอ้ง..โอ้ง..โอ๊ง!!!!  เสียงหัวโตร้องเสียงหลง ดังโหยหวนไปทั่วบริเวณ  หันมองไปรอบๆตัว เห็นชาวแฟรตบ้านใกล้แต่ละชั้น ออกมายืนออกันที่ระเบียง เพื่อมองหาเจ้าของต้นเสียง

ตายแล้วแม่เจ้า..เรื่องฉาวเสียแล้ว อุตสาห์ซุ่มทำเงียบๆแล้วเชียว ปิดน้ำเดินเข้าไปหาหัวโต ไม่สนใจสายตานับสิบคู่ที่จ้องมองลงมาอย่างฉงนใจแกมสมเพช  " แม่อาบน้ำให้

นะ ไม่ต้องร้อง " ร่ายคาถาสำทับอีกครั้ง หัวโตหยุดร้องนั่งนิ่ง ยอมให้ใส่แชมพู อาบน้ำและเช็ดตัวจนแห้ง ขนที่มีประปรายหยาบกระด้างฟูขึ้นเล็กน้อย   หัวโตสะบัดขนหลาย

ครั้งอย่างแช่มชื่น ดวงตามีประกายแห่งความสุขกว่าทุกวัน ลำดับต่อไปเป็นเรื่องของการรักษา หยิบเข็มฉีดยาตรวจเช็คดูว่ายาพุ่งออกจากปลายเข็ม พร้อมทำท่าทางทะมัด

ทะแมงเลียนแบบคุณหมอ แต่แท้ที่จริงลังเลที่จะจิ้มเข็มเข้าไปในเนื้อสิ่งมีชีวิต เป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย  สัตว์แพทย์สอนให้ดึงหนังที่คอด้านหลังขึ้น และแทงเข็ม

ค่อยๆปล่อยยา ส่วนวัคซีนต้องฉีดเข้าที่กล้ามเนื้อบริเวณขาหลัง หัวโตร้องเบาๆแต่ให้ความร่วมมือไม่ดิ้นแม้นแต่น้อย หัวโตมีหนังที่หนามากคล้ายหนังหมูป่า ต้องกดแรงๆ

กว่าจะผ่านเข้าหนังชั้นนอก  ต่อจากนั้นเรานั่งเล่นและคุยกันพักใหญ่ หัวโตได้รับคำชมไปหลายกระบุง หัวโตเข้ามาคลอเคลียใกล้ๆอย่างที่ไม่เคยทำมากก่อน                          

                                                                 ......... สื่สัปดาห์หลังจากอาบน้ำและฉีดยารักษาขี้เรื้อน หัวโตเลื่อนชั้น เปลี่ยนจากเศษอาหารมากินอาหารเม็ดคลุก

ปีกไก่ย่างของโปรด ร้านรถเข็นเจ้าประจำที่เคยไปนั่งขอกินฟรีเลี้ยงชีพมาหลายปี สลับกับไส้กรอกรมควัน  อุ่นร้อนๆหอมกรุ่นจากเตาไมรโครเวฟ ช่วงบ่ายมีอาหารว่างเป็น

ไส้กรอกชุบแป้งทอด  หัวโตอร่อยกับการกินทุกอย่าง ชอบนอนให้แปรงขน ใส่อาหารขนจนนุ่มฟู  แม่ค้าที่ตลาดจำหัวโตไม่ได้ ต้องย้อนอดีตแต่หนหลัง ว่าหัวโตเคยเป็นลูกค้าเจ้า

ประจำ ที่มานั่งน้ำลายยืดขอกินฟรีบ่อยๆ เวลาเดินซื้อของในตลาด จะนั่งรออยู่ห่างๆ หากช้าจะส่งเสียงเรียกร้องความสนใจ เพราะในตลาดมีแม่หมี หมาตัวเมียสีดำตัวล่ำบึก

คุมพื้นที่ เป็นเกาเหลาไม่กินเส้นกันชอบออกมาขู่ไล่ เมื่อเป็นถิ่นเค้าเราต้องยอมความ หัวโตยอมล่าถอยกลับบ้าน อาการหวงเจ้าของเห็นชัดขึ้นทุกวัน แขกมาบ้านหรือยืนคุย

กับใคร หัวโตแสดงความไม่พอใจ ทั้งเห่าทั้งขู่จนแขกต่างยอมลากลับ ผลของการรักษายอดเยี่ยม อาการที่ผิวหนังดีขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว นึกขอบคุณคุณหมอมาจนทุกวันนี้

เพราะขนที่ขึ้นใหม่สีขาวแซมลายน้ำตาลทองหนาสองชั้น  หางเป็นพวงสีขาวล้วน โน้มมาจรดหลัง ขาหน้ามีขนขึ้นเป็นแนว ขาหลังที่ก้นสองข้างมีขนสีขาวยาวฟู ที่คอมีขน

เป็นแผงเหมือนสิงโต หูเล็กมีขนทั้งที่รูหูและหลังใบหู  ขาหน้าใหญ่แข็งแรง....... !! ..........." ป๊า..สงสัยหัวโตเป็นหมาบางแก้ว "  ดูเหมือนจะเป็นการปลื้มแต่เพียงผู้เดียว

เป็นสมมุติฐานที่เลื่อนลอย ต้องหาแหล่งข้อมูลเพื่อใช้อ้างอิง เดินร้านหนังสือหลายแห่ง เลือกหนังสือชื่อ  " บางแก้ว "  เริ่มศึกษาประวัติความเป็นมา ลักษณะเฉพาะตัวที่

สังเกตได้ บุคคลิคเด่นอย่างหนึ่งคือ บางแก้วชอบเล่นน้ำ และเอาเท้าลงไปแหย่ในน้ำก่อนกิน หรือลงไปลุยตระกุยน้ำเล่น  แอบเข้าเหลี่ยมมุมสังเกตพฤติกรรมหัวโต ใช่แล้วหัว

โตคือบางแก้ว...นอกจากจะชอบเล่นน้ำแล้ว ยังหวงของ หวงเจ้าของ หวงบ้าน ไม่ชอบคนแปลกหน้า ซุกซ่อนของกิน  ท้ายที่สุด...คือการประเมินจากสายตาของคนอื่นที่เข้า

มาทักทาย " พี่ๆ พี่เลี้ยงบางแก้วนี่ครับ บางแก้วแก่แล้วนะพี่ " ดูยังไงถึงรู้ว่าหมาแก่ ไม่ยากเลย...เปิดปากดูฟัน แถวบนและแถวล่างนั้น เหงือกจ๋าฟันลาก่อน ส่วนเขี้ยวบิ่น

และหักชำรุด ตาด้านขวาขุ่นมัว ซึ่งพอพาไปตรวจที่คลีนิค หมอยืนยันว่าตาข้างซ้ายบอดสนิท  ข้างขวาเห็นเลือนลาง   สภาพทั่วไปอายุไม่ต่ำกว่าสิบปี ต้ดสินใจว่าจะร่วมหัวจม

ท้ายกัน ต้องมีการเช็คประวัติกันเสียหน่อย สวมบทแม่มดร่ายมนต์คาถา แปลงร่างเจ้าอสูรกายเฒ่า จนกลายเป็นบางแก้วขนาดจัมโบ้ บทต่อไปขอก้าวหน้าเป็นสายลับนักสืบ

สาวไส้ที่ไปที่มาของหมาบางแก้วแก่ผู้อาภัพ......ที่ถูกเจ้านายคนแรกของมันทอดทิ้ง...                                                                                                  

ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Friday, 3 February 2006, 10:16PM
 

บทความข้างต้น คัดมาจากบทที่สามของ เรื่องหัวโต..บางแก้วหมาแก่ค่ะ

ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Saturday, 4 February 2006, 12:03PM
 

เรื่องที่สาม..ประสบการณ์ของแม่กี๋กับทารกน้อยเต๋าเต้ย

ประสบการณ์ของแม่กี๋ออกจะพิลึกสักนิด ที่เลี้ยงบางแก้วตัวแรก เริ่มต้นที่บางแก้ววัยชรา เหมือนใช้โปรแกรมสำเร็จรูป  ไม่ต้องสอน ไม่ต้องดุ

หัวโตรู้เรื่องกฏกติกามารยาท แทบไม่มีที่ติ เวลาเข้าบ้านจะหมอบนิ่ง อยู่ในมุมหนึ่งของห้องรับแขก  การใช้ชีวิตอยู่นอกบ้าน ก็เป็นเรื่องหมูๆไม่มีหมาหรือคนไหนๆกล้าข้องแวะ เพราะตอนนี้ตัวโข่งใหญ่คับซอย มีปลอกคอเป็นเกราะคุ้มครอง..จะเตะหมาต้องดูเจ้าของเสียแล้ว ไปทำธุระส่วนตัวไกลลิบ

บ้านจึงสะอาดไร้กลิ่น เวลาพาไปคลีนิคสงบเสงี่ยม เดินขึ้นชั่งน้ำหนัก ฉีดยากี่เข็มไม่เคยปฏิเสธ เป็นที่รักของหมอและคุณแม่หมอ  บางแก้วไม่ดุ เชื่อง..ช้า  ขนปุกปุยน่ารัก แต่เสือย่อมไม่ทิ้งลาย ห้วโตเฝ้าบ้านตามหน้าที่ได้ดีเยี่ยม หากมีใครมาหน้าบ้าน หัวโตจะพุ่งตัวเข้าไปขวางแยกเขี้ยว บางทีก็งับเข้าให้ แค่ขู่ให้ตกใจเพราะกัดไม่เข้า มีแต่น้ำลายเปียกขากางเกงชาวบ้าน ถึงกระนั้นก็ไม่มีใครกล้าเข้าบ้าน ขณะที่แม่กี๋ไม่อยู่บ้าน ตอนนั้นแม่กี๋แอบปลื้ม คิดว่าตัวเองสามารถเลี้ยงหมาพันธุ์ดุที่สุดตัวหนึ่ง เป็นเสมือนมือปราบบางแก้ว เชอะ..เลี้ยงง่ายจัง..แสนรู้ รักเจ้าของ ดุพองาม ไม่ดื้อ เอาบางแก้วเสียอยู่หมัด เก่งเหมือนกันนะเรา...

ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย น้อยหน่า ('.' ) - Saturday, 4 February 2006, 05:28PM
  ขอคาราวะคุณกี๋เรื่องหมาแก่หัวโต ไม่รู้จะพูดไงนะชื่นชมจากใจจริง อ่านแล้วบอกได้ว่า ยิ้ม เศร้า ดีใจแทนหมาโตนะ

"หัวโตเคยเป็นลูกค้าเจ้าประจำ ที่มานั่งน้ำลายยืดขอกินฟรีบ่อยๆ เวลาเดินซื้อของในตลาด จะนั่งรออยู่ห่างๆ หากช้าจะส่งเสียงเรียกร้องความสนใจ เพราะในตลาดมีแม่หมีหมาตัวเมียสีดำตัวล่ำบึกคุมพื้นที่ เป็นเกาเหลาไม่กินเส้นกันชอบออกมาขู่ไล่ เมื่อเป็นถิ่นเค้าเราต้องยอมความ หัวโตยอมล่าถอยกลับบ้าน"

เค้าคงไม่ต้องหลบหมาเจ้าถิ่นเวลาขออาหาร อิ่มมื้อกินมื้อ(บางมื้อที่ได้กินก็ไม่รู้ว่าอิ่มหรือเปล่า) วัยที่ร่วงโรยสายตาที่บอดและเลือนลาง ถ้าไม่ได้รับความเมตตาของเจ้านายผู้ใจดีทั้งสอง หมาแก่หัวโตก็คงแก่ตายที่ใดที่หนึ่งของตลาดแห่งนั้น สับสน

เหลือเวลาไม่นานแล้วนะคุณกี๋ที่จะเห็นแวตาทเลือนลางของหมาโตที่เห็นเพียงข้างเดียว มันก็ดับลง เก็บเวลาที่มีค่าให้แกมากที่สุด เวลาที่หายไปที่เจ้าของเก่าไมไ่ด้ให้เค้าเลย เราจะร่วมเดินส่งเค้าให้ถึงปลายทางอย่างมีความสุข

คนเลี้ยงบางแก้วบางคน และคนที่ไม่ได้เลี้ยงบางแก้ว มักจะไม่เข้าใจหมาพันธุ์นี้ เค้าน่าสงสารอย่างบอกไม่ถูก บางคนก็เลี้ยงหมาเหมือนหมาจริงๆ ไม่เข้าใจความรู้สึก ไม่เข้าใจอารมณ์ของเค้า ปัญหาก็จบด้วยการทิ้ง(ตามเคย) ถ้าเรารวยกว่านี้เราอยากจะออกจากงานมาเลี้ยงหมาจัง แววตาที่ฝากชีวิตไว้กับเรามัน(เจ้าหมาน๊โอ)เศร้าจัง

โชคดีมากเจ้าหมาโต บั้นปลายชีวิตของเค้าก็ไม่ได้อาภัพจนหาที่พึ่งไม่ได้ สับสน
ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Saturday, 4 February 2006, 06:11PM
 

ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ..ในบทของบางแก้ววัยชรานาม " หัวโตหมาแก่ " บางแก้วตัวแรกของแม่กี๋ และเป็นผู้จุดชนวนให้ก้าวเดิน เข้าสู่เส้นทางของคนๆหนึ่งที่รักบางแก้วสุดหัวใจ

...วัยที่ร่วงโรยสายตาที่บอดและฟ่าฟาง.....เหลือเวลาไม่นาน...มันก็ดับลง...มันเป็นความจริงที่ยอมรับได้ยากเหลือเกินนะคะ...คุณน้อยหน่า  ความผูกพันธ์ที่เพิ่มพูนขึ้นทุกวัน เมื่อเทียบกับวันเวลาที่ถดถอย เหลือน้อยลงทุกนาที มันสวนทางกันโดยสิ้นเชิง บางครั้งอดคิดไม่ได้ว่า ช่วงวันวานที่แสนทุกข์ทน หัวโตอดทนเพื่อรอวันที่จะได้มาพบกัน..เพื่อให้แม่กี๋ได้ดูแลหัวโตในช่วงสุดท้ายของชีวิต บุญที่นำให้เรามาพบกัน..แม่กี๋เชื่ออย่างนั้นค่ะ


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Saturday, 4 February 2006, 07:52PM
 

แล้ววันหนึ่งแม่กี๋ก็ต้องพบกับประสบการณ์หน้าใหม่ของการเลี้ยงบางแก้ว “แม่ๆ มีคนเค้าได้ลูกบางแก้วจากฟาร์มแถวเนี่ย อยากได้มั๊ย เขาจะให้เรา เห็นเราชอบเลี้ยงบางแก้ว “เหมือนไปกระตุ้นกิเลสที่ฝังลึกอยู่ลับๆมาช้านาน ลูกหมาเป็นสุดยอดปรารถนาของคนรักหมา มีหรือจะปฏิเสธ ปัญหามีไว้แก้ รู้ทั้งรู้ว่าเลี้ยงลูกหมาตัวเล็กต้องดูแลอย่างใกล้ชิด แต่คำตอบที่ผุดขึ้นมาในสมองก็คือ มันอยากอ่ะ!!  “เอาสิพ่อ” เป็นคำตอบสุดท้ายในวันนั้น หลังจากนั้นแม่กี๋เฝ้ารอ  แต่พ่อจ๋ายุ่งอยู่กับงาน ถามแล้วก็ลืมไม่พูดถึงอีกเลย แบบนี้เขาเรียกว่ายั่วให้อยากแล้วจากไป!!  แม่กี๋ยังแอบรอเงียบๆ

จนกระทั่งเช้าวันหนึ่ง พ่อจ๋าโทรมาแจ้งข่าวว่า อีกอึดใจจะมีคนเอาหมาบางแก้วมาให้ที่หน้าบ้าน  ตอนนั้นในบ้านไม่มีอุปกรณ์เลี้ยงลูกหมาเลย ยอมรับว่าไม่มีความรู้ใหม่ๆ ในการเลี้ยงหมาอย่างถูกต้องและถูกสุขลักษณะ  เพราะเลิกเลี้ยงหมามานาน..นาน ตั้งแต่ทิ้งเครื่องแบบนักเรียนชั้นมัธยม  เสียงกริ่งดังขึ้น ที่หน้าบ้านเห็นผู้ชายร่างใหญ่ในมือข้างหนึ่งอุ้มลูกหมา พอเดินออกไป เขายื่นเจ้าตัวน้อยมาให้ ไม่มีคำอธิบายใดๆ นอกจากบอกว่าพรรคพวกให้มา เลี้ยงเองไม่ได้ไม่มีบริเวณ อายุไม่ถึง 45วัน ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน แล้วก็เดินจากไป ทิ้งเจ้าตัวน้อยไว้ในอ้อมแขนของแม่กี๋ เจ้าตัวน้อยตัวเบาหวิว ขนฟูหูตูบทั้งสองข้างหางชี้เด่...เพศผู้พันธุ์บางแก้ว


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Saturday, 4 February 2006, 07:59PM
 
ตอนนั้นแม่กี๋ยังไม่ทันยุค ไม่เล่นคอมพิวเตอร์ ไม่มีกล้องดิจิตอล รูปที่เห็นเป็นรูปที่ถ่ายจากรูปอีกที ดูให้ดีเหมือนหมาแม้วบนดอยแม่สะลองเจ้า
ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย จิตรใส สิระชัยนันท์ - Sunday, 5 February 2006, 12:13PM
 

หัวโตมาเจอแม่กี๋  เป็นบั้นปลายของชีวิตที่โชคดีและมีความสุขจริงๆ

ถึงแม้ว่ามันจะไม่ยาวนาน  แถมได้น้องเต๋าเต้ยมาเป็นเพื่อนยามชราน่าจะ

หนุกหนาน  หนุกหนานเนอะ

 

ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย พายุ วงศ์วายุ - Sunday, 5 February 2006, 07:00PM
  พวกโกวๆของพายุฝากพายุมาคารวะคุณแม่กี๋ของน้องเต๋าเต้ย 1 จอกครับ... ก้อตอนนั้นน่ะปู่หัวโตเป็นหมาขี้เรื้อนข้างถนนนะครับนั่น... โหย! ปู่หัวโตโชคดีมากครับที่คุณแม่กี๋รับมาอุปการะและดูแล-รักษาอย่างดีโดยไม่รังเกียจเลย ทำได้ไงอ่ะคับ... มะ-หัด-สะ-จอ-รอ-หัน-การันต์-ยอ (มหัศจรรย์) มากเลยครับ
ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Sunday, 5 February 2006, 08:28PM
 

อาโกวๆและแม่โอ๊ตครับ รวบยอดถึงหลานพายุ..และหลานตัง มาดูรูปปู่เมื่อวันวาน..สิบ+สี่ปีที่แล้ว ปู่ดีใจกับหลานทั้งสอง ที่เกิดมาโชคดีมีทั้งอาโกวและแม่โอ๊ตที่รักและดูแลตั้งแต่หลานจำความได้


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Sunday, 5 February 2006, 08:47PM
 
ทุกวันนี้ปู่ยังสงสัยในโชคชะตา สิบห้าปีที่แล้ว มีสักกี่คนที่ชื่นชม.. สุนัขไทยบางแก้ว แต่ทำไมนายคนนั้นถึงเลือกที่จะเลี้ยง..และทอดทิ้งปู่!! ใช่ว่าจะไม่แยแส นายเค้าทำหมันปู่เรียบร้อย ไร้ร่องรอยของชายชาตรี..ปู่ไม่ใช่หมาจรจัดแต่กำเนิดใช่มั๊ยครับ ?..ปัจจุบันชาวบ้านชาวช่องยกย่องให้เป็น สุนัขประจำชาติ ( ตำแหน่งนี้ได้มาจาก หนังสือ จตุจักร ฉบับพิเศษ โดย: เล็กจ.จ. ขึ้นหน้าปก * เปิดตำนาน* * สุนัขประจำชาติ ไทยหลังอาน- ไทยบางแก้ว) แต่ทำไมบางแก้วหน้าสิงโตอย่างปู่ถึงตกอับนานนับสิบปีหนอ?
ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Sunday, 5 February 2006, 08:56PM
 
วันนี้ของปู่...สดใสไร้รอยต่อ..เตะปีบดัง ปังๆๆ..สมใจพ่อจ๋า
ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Sunday, 5 February 2006, 09:01PM
 

เจ้าตัวน้อยดูสงบนิ่ง ไม่ระริกระรี้ประจบเลียไม้เลียมือ หรือกระดิกหางชวนเล่นหัว เหมือนลูกหมาทื่แม่กี๋เคยเลี้ยงมาในอดีต                                                                       

แม้นจะเริ่มอ่านหนังสือบางแก้วมาบ้าง ตั้งแต่อุปการะหัวโต แต่ใครจะไปรู้ว่ามาดหนึ่งของเจ้าหนูคือ นิ่งและทรนง  โดยเฉพาะ                                                                     

 ดวงตาเอาเรื่องคู่นั้น  กิจกรรมแรกของการต้อนรับสมาชิกตัวใหม่คือ ต้องลดความกังวัลใจของเจ้าหนู ที่เพิ่งถูกพรากจากอกแม่ ซึ่งแม่กี๋มาทราบเอาภายหลัง ว่าการแยกลูก

จากเต้านมแม่หมา ทั้งที่อายุยังไม่ถึง 45วันและยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง มากถึงมากที่สุด..เศร้าจัง..แม่กี๋เอ๋ย
ยังไม่ทันไรแม่กี๋ก็แหกกฏข้อแรกของการนำลูกสุนัขมาเลี้ยง แถมยังไม่เคยศึกษาธรรมชาตินิสัยของสุนัขพันธุ์บางแก้วอย่างจริงจัง...
 การผูกมิตรและสร้างความไว้วางใจ..อาหาร  ลูกหมาย่อมต้องการนม ขนมของกิน เพื่อทำให้รู้ว่าเราเป็นมิตรผู้ให้ รู้สึกอิ่มท้องเหมือนนมจากเต้าของแม่ นอกจากนั้นสัมผัส

ที่อ่อนโยนและอบอุ่น จะช่วยให้ลูกบางแก้วตัวน้อยรู้สึกปลอดภัย ด้วยการอุ้มไว้แนบอกพูดคุยให้เกิดความคุ้นเคยกับเสียงและเคยชินกับกลิ่นกาย ใช้เวลาเคล้าเคลียกัน จน

รู้สึกได้ถึงความเป็นมิตร แต่ที่หวั่นใจก็คือหัวโตจะต้อนรับน้องใหม่หรือไม่? ตอนนั้นหัวโตยังไม่เห็นน้อง คงกำลังนอนหลับสนิทอยู่มุมใดมุมหนึ่งของบ้าน แม่กี๋จึงยังไม่กล้า

ปล่อยไว้ตามลำพัง อีกทั้งตัวเล็กมากจนสามารถมุดออกไปตามช่องของรั้วบ้านได้ทุกทิศทุกทาง  ยืนเก้ๆกังๆหันรีหันขวางมองหาที่ๆเดินหนีไปไหนไม่ได้และพ้นจากสายตา

ของหัวโต แม่กี๋ตัดสินใจวางลงบนโต๊ะหินหน้าบ้าน  แล้วเดินเข้าไปเตรียมถ้วยเล็กๆที่เลือกเอามาจากตู้กับข้าว เทนมกล่อง...เอ็งๆๆๆๆ เสียงแหลมหวีดร้องดังมาจากหน้า

บ้าน ณ.ที่เกิดเหตุแม่กี๋เห็นเจ้าตัวน้อยลงไปอยู่กับพื้น โดยมีหัวโตยืนจ้องมองอย่างงุนงง เจ้าตัวเล็กเดินกะโผลกกะเผลก ปากยังร้องครวญครางเบาๆ  " ต๊ายตาย!!ทำไมกล้า

หาญชาญชัยอย่างนี้ โต๊ะสูงเกือบเมตร  ตัวหนูสูงแค่คืบ กระโดดลงมาได้ยังไง ขาหักหรือเปล่า? นึกโมโหตัวเองที่ไม่เฉลียวใจระวังภัยให้มากกว่านี้ ใจหายวาบรีบอุ้มขึ้นมา

จับที่ขาเบาๆตรวจดูขาแข้ง โชคดีที่ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ตัวที่ผิดปกติคือหัวโต ที่วิ่งต้อนหน้าต้อนหลังพยายามดมเจ้าตัวน้อย แม่กี๋ยื่นเจ้าตัวน้อยให้ดมเพื่อให้ทำความรู้จักกัน

จากนั้นหยิบชามข้าวของหัวโตเทนม และให้ทั้งคู่กินไปพร้อมกัน เพื่อไม่ให้หัวโตเกิดความอิจฉาน้องตั้งแต่แรกพบซึ่งอาจทำให้การอยู่ร่วมกันลำบากยิ่งขึ้น ที่ผ่านมาแค่แม่กี๋

ยืนคุยกับแม่ค้าขายปลาเค็ม นักการภารโรง เพื่อนบ้านที่มาเกาะริมรั้วทักทายกัน รวมถึง "เจ้าไข่ตุ๋น" สุนัขลาบราดอร์ขี้เล่นของเพื่อนบ้านชาวแฟรต ที่ชอบลงมาของขนม

แม่กี๋ทุกวัน  หัวโตยังมีอาการกระฟัดกระเฟียด ส่งเสียงโหวกเวกโวยวายจนคุยกันไม่รู้เรื่อง ไม่ทันต่อรองราคา ต้องพากันแยกย้ายสลายตัวกลับบ้านใครบ้านมัน...
หลังจากอิ่มหนำสำราญ แม่หมามือใหม่คว้าเจ้าตัวน้อยเข้าห้องน้ำ เปิดน้ำอุ่นอาบน้ำให้อย่างรวดเร็ว ใช้ไดร์เป่าจนแห้งสนิท มารู้ภายหลัง(อีกแล้ว) ว่าทำผิดเป็นครั้งที่สอง ใคร

เค้าอาบน้ำลูกหมาวัยนี้กัน อาจทำให้เป็นไข้และตามด้วยปอดบวมอันตรายถึงตาย ช่วงนี้หนูมีภูมิคุ้มกันแค่น้อยนิดนะตัวเอง!! ที่ควรทำคือใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นพอหมาดๆเช็ดตัว

เป่าให้แห้งโดยเร็ว แม้นจะตกใจที่จู่ๆก็ถูกจุ่มลงไปในน้ำ ปะทะลมจากไดร์เป่าขนและเสียงที่ดังแสบแก้วหู เจ้าตัวน้อยยังคงสดชื่น เริ่มออกเดินสำรวจดมไปรอบๆภายในบ้าน

ด้วยอาการหวาดหวั่นหางตก หันซ้ายแลขวา มองไปรอบๆและลังเลที่จะเดินออกไปไกลจากจุดเริ่มต้น เงยหน้าขึ้นพร้อมกับส่งเสียงร้อง..อิ๋งๆๆๆ( มองหาแม่ แงๆแม่อยู่หน่าย)
เหมือนเด็กน้อยที่กำลังขวัญผวา.. คิดถึงแม่ คิดถึงบ้าน คิดถึงพวกพ้อง มาถึงวันนี้แม่กี๋อยากขอโทษเจ้าตัวน้อยที่ทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์แท้ๆ..แม่ขอโทษ                       

                                                                                                                                                                                                                                                   

หลังจากเดินคร่ำครวญได้ไม่นาน  เจ้าตัวน้อยย่อตัวลงตั้งท่าฉี่...นี่แม่กี๋จะทำอย่างไรดี? มีเรื่องให้ต้องขบคิดอีกแล้ว แม่กี๋เจ้าระเบียบ อยากให้เจ้าตัวน้อยฉี่อึให้เป็นที่เป็นทาง
และต้องเป็นที่ๆแม่กี๋จัดให้ด้วย... ใจร้ายจัง!!ตั้งความหวังไว้สูงเกินไปป่าว!! จะเอาเรื่องเอาราวอะไรกับหมาตัวหน้อยที่ยังไม่ได้ตั้งอย่างผม!!


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Sunday, 5 February 2006, 09:22PM
 

หูผมเพิ่งตั้ง แต่แม่กี๋ยังไม่ได้ตั้งชื่อฮับ


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย พายุ วงศ์วายุ - Monday, 6 February 2006, 12:52PM
 
ที่คุณแม่กี๋ปรารภว่า "โบราณเค้าว่าถ้าให้น้องหมากินของหวานมากๆ จะยิ่งดุ"... และถามว่าที่อาโกวให้พายุกินขนมและน้ำหวานนั้น ทำให้พายุดุรึเปล่า... พายุว่าของหวานไม่เกี่ยวกับความดุของพายุหรอกครับ... อันที่จริงพายุไม่ใช่หมาดุนะครับ แต่ใครๆกลัวพายุไปเองครับ... อาโกวบอกว่าพายุแค่อารมณ์เปลี่ยนเร็ว และเก็บความไม่พอใจไม่ได้ ใครทำให้พายุไม่พอใจ พายุจะตอบโต้ทันที มากบ้างน้อยบ้างตามควรแก่โทสะของพายุ ณ ขณะนั้น... แต่ปกติแล้วพายุเป็นหมาที่ร่าเริง อารมณ์ดี พายุยั่วอาโกวให้หัวหมุนได้ทุกวันเลยครับ

น้องน้ำมนต์ก็กินขนมและน้ำหวานเหมือนพายุ ก็ไม่เห็นน้องน้ำมนต์ดุนี่ครับ... มีอยู่วันนึง อาโกวชวนนายหญิงของน้องนีโอมาดูพายุและน้องน้ำมนต์ที่บ้าน... พายุก็เห่าต้อนรับนายหญิงของน้องนีโอแบบกระโชกหน่อยๆอยู่ในอาณาจักรของพายุ... ส่วนน้องน้ำมนต์ก็เห่า "ฮ่อกๆ - ฮ่อกๆ" ต้อนรับอยู่ที่ลานซักล้าง... อาโกวก็พานายหญิงของน้องนีโอเดินผ่านน้องน้ำมนต์ไปนั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่น... สักพัก น้องน้ำมนต์ก็เลิกเห่า แล้วเดินตามไปสมทบที่ห้องนั่งเล่น... อาโกวกับโกวติ๋มนั่งกันนายหญิงของน้องนีโอไว้... น้องน้ำมนต์เลยเดินอ้อมโต๊ะกระจก แทรกตัวผ่านขาของโกวป้าเข้าไปหานายหญิงของน้องนีโอ และเสนอตัวให้นายหญิงของน้องนีโอลูบหัวเป็นอันดี... คงจะฝากเนื้อฝากตัว หวังจะสมัครเป็นกิ๊กของน้องนีโอแหละครับ... นายหญิงของน้องนีโอเลยใจอ่อน ตกลงปลงใจรับขวัญกิ๊กของลูกชายสุดเลิฟด้วยผ้าพันคอผืนสวย 1 ผืนครับ

รูปนี้พายุช่วยน้องน้ำมนต์กินนมครับ...
กินขนม-น้ำหวานเหมือนกัน... แต่ดุ(และถูกมองว่าดุ)ไม่เหมือนกันครับ

ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Monday, 6 February 2006, 01:20PM
 

แม่กี๋ก็เมินคำเตือนโบราณข้อนี้..เหมือนกันนะคะ  เพราะปู่หัวโตชอบขนมหวานทุกชนิดเป็นชีวิตจิตใจ ส่วนเต๋าเต้ยชอบของคาวมากกว่าเยอะ เต๋าเต้ยกลับถูกมองว่าดุกว่าปู่หลายขุม แต่ทั้งสองตัวทำตัวน่ารักสำหรับแม่กี๋และพ่อจ๋า เด็กๆบ้านนี้จะดุเฉพาะในอาณาจักรของเค้าเช่นเดียวกัน เต๋าเต้ยเคยถูกผูกไว้ที่ลานจอดรถมอเตอร์ไซด์ในตลาดนัด รอคนที่จูงเที่ยวไปซื้อไก่ย่าง แม่กี๋แอบดูห่างๆ..เต๋าเต้ยไม่สนใจคนที่เดินผ่านไปมาหรือ จูงรถเข้าออก  นั่งรอนิ่งๆเฉยๆ ทุกวันนี้แม่กี๋ยังป้อนของหวานเช่นเคย เหตุผลเพราะถ้าเค้าชอบ ไม่มีภัยต้องได้กินสิจ้ะ...ใจตรงกันเลย

ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย น้อยหน่า ('.' ) - Monday, 6 February 2006, 01:59PM
  การให้ของหวานมันทำให้คึกคักกระชุ่มกระชวย 55+ คงไม่เกี่ยวกับดุไม่ดุหรอก(ม้าง) เพราะ ..เราเองก็ให้นีโอกินบ้าง(บางวัน)ก็เห็นเค้าดุอยู่ในเกณฑ์คงที่คงวา 55+ เลี้ยงแบบเข้าใจอย่างคุณกี๋เข้าใจเต๋าเต้ยก็พอแล้ว เค้าจะได้เป็นลูกรักตลอดไป

ส่วนน้องน้ำมนต์ไม่ดุเลยจ้า น่ารักมาก เจ๋อได้ใจมากเลย 55+ เดินมาอ้อนให้ลูบหัวเสียงั้น ทำไมน้องนีโอไม่ได้สักครึ่งของพี่น้ำมนต์น้า .. พี่น้ำมนต์จัดเป็นบางแก้วอีกตัวที่รับแขกได้ดี เดินมารับ-มาส่งแขกแปลกหน้า เห่าพอ(งาม)เป็นพิธี หมอบเฝ้าอ้อนดีจริง ๆ ถ้าอาโกวใจถึงใส่สายจูงพาพายุเข้ามาให้รู้จักกันนอกรั้วก็จะเจ๋งมากเล้ย แต่ว่า...ถ้าพายุหลุดจากสายจูงก็ตัวใครตัว ... แล้วกัน อิอิอิ

ปู่หัวโตหล่อเหมือนกันนี้ไม่น่าเชื่ออายุ 10 กว่าปีแล้วยังดูดีอยู่เลย คุณกี๋กับคุณจ๋าลบคาบหมาโตโดนทิ้งไปเสียชิบ เต๋าเต้ยก็หล่อไม่เบาเหมือนนีโอ(ขอแอบหล่อด้วยตัว)เลย อิอิอิ เค้าทะเลาะกัดกันบ้างมั๊ยค่ะคุณกี๋ ด้วยที่อายุห่างกันมากขนาดนี้คงไม่น่ามีเรื่องให้หนักใจเน๊าะ หรือว่ามีเล่ามาเลย

โชคดีจังหมาโตหมาเต๋าเต้ย / จากหลาน,พี่รำเต้ย(นีโอ) ฮิๆ ฮิๆ

เรื่องยังไม่จบรออ่านต่อนะจ๊ะ
ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย จรัญ กาลตนากูล - Monday, 6 February 2006, 02:48PM
 

วันนี้แม่กี่ร่ายยาวมาเลย เมื่อวันเสาร์ไปเพชรบุรี ว่าจะพาเจ้าไปร์ทไปเล่นน้ำในแม่น้ำซะหน่อยกะจะว่ายทวนน้ำไปเยี่ยมแม่กี๋ที่ท่ายาง แต่ไม่ไหววิญญาณแห่งสายน้ำเพชรบุรีหายไปไหนหมดไม่รู้ น้ำตื้นมีแต่สาหร่าย ได้แต่เดินอยู่แค่ริมตลิ่ง แถวๆปู่เย็น สุดท้ายตัดสินใจกลับบ้าน 

วันอาทิตย์ไปดูประกวดสุนัขที่อาชีวะฯ เลยได้ดูคุณทองม้วนโชว์ เห็นมีบางแก้วเข้าประกวดไม่กี่ตัว เห็นค่ายวังงามไทยบรีด กะ มุมหนึ่งฟาร์ม เพิ่งเห็นเจ้าอาราชิ ตัวเป็นๆก็วันนี้ ส่วนเชพเพอร์ด ของป้าวิ และพิตบลูมากันเพียบ เห็นเจ้าโอเว่นเกือบฟัดกับพิตบลูที่เจ้าของมายืนอยุ่ใกล้ๆกรง เจ้าโอเว่นหลุดมาได้กะลุย ดีที่เจ้าของพิตบลูดึงไว้ ไม่งั้นศึกนี้มีล้างตา

เห็นเจ้าพิตบลูวัย 7 ปี เจอหมาตัวไหนเป็นใส่ลูกเดียว ขนาดเซนต์เบอร์นาดใหญ่กว่า 3 เท่าแถมคนจูงก็ใหญ่มันยังจะลุย ดูแล้วคนจูงกลัวเจ้าพิตบลูมากกว่าหมา 

ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย มัตติกา จอมเพ็ชร์ - Monday, 6 February 2006, 03:51PM
 

อู้ย  ขอปรบมือดัง ๆ ให้คุณแม่กี๋  25 แปะ (มากกว่านี้มันเจ็บมืออ่ะ)  ในข้อหาประคบประหงมเจ้าโตได้งดงามถอดรูปได้ขนาดนี้  ถือว่ามีความอดทน และตั้งใจดีมาก ๆ แถมยังอวบอ้วน (หัวโต อย่างอนนะลูก)  จนฟูฟ่องอีกต่างหาก  ...อยากทำนุบำรุงให้สาวนีโมที่บ้านบ้าง  เพราะเธอบอบบางเสียเหลือเกิน  หนักเพียง 14 กก. เวลาฟัดกับพ่อ  ต้องอาศัยลูกชิ่ง  กับความไว  แย๊ปแล้วถอย  สลับกับฟุตเวิร์คหลอกล่อไปมา... 

แต่นีโมเป็นหมาที่กินยากอย่างไม่น่าเชื่อ  จากตอนเด็ก ๆ ที่กินได้ทุกอย่าง  เลี้ยงด้วยอาหารเม็ด  เสริมด้วยขนม  ผลไม้ตามฤดูกาล  ไหงพอโตขึ้นมากลับเมินสิ่งเหล่านั้นไปหมดก็ไม่รู้  ร้อนถึงแม่  ต้องสรรหาเอาว่าคุณลูกชมชอบอาหารแบบไหน  สุดท้ายมาลงตัวที่ข้าวคลุกตับ และโครงไก่  แต่ก็ยังไม่วายบางวันเหลือเต็มกาละมัง  ขนาดให้วันละ 1 มื้อยังปฏิเสธ  เคยลองทำตัวเป็นชาวบาร์ฟกับเขา  สาวเจ้าก็ตอบสนองดี  แต่แม่มันมักจะขโมยโครงไก่ไปต้มน้ำแกงซะก่อน (แบ่ง ๆ กันนะยะ) เลยต้องกลับมากินข้าวคลุกเหมือนเดิม  อาหารเสริมไม่ต้อง  เพราะเธอไม่แล...

ขนมกับของหวาน  ไม่ต้องหามาเซ่นเสียให้ยาก  เธอได้แต่ดมแล้วก็เมิน  แม่เคยเอาเค็กแสนอร่อยส่งให้  สาวเจ้าดมอยู่นานสองนาน แล้วก็หันหลังให้อย่างไม่ใยดี  แม่น้ำตาร่วงเผาะ ๆ เสียดายเค็ก  สรุปว่าไม่ว่าจะผลไม้  ขนมไทย  ขนมเทศ  ไอศครีมหวามมัน  ไม่ต้องส่งมา  แต่ถ้าเป็นนมล่ะก็ค่อยว่ากัน  อันนี้ได้ทุกรส  ไม่ว่าจะเป็นพาสเจอร์ไรส์  UHT  นมเปรียว  โยเกิร์ต  แต่ที่โปรดต้องยกให้รสจืด  ถ้าเทให้ช้าเป็นต้องเขี่ยเตือนกันจนเมื่อยมือ 

...พักนี้  ชักจะกินแล้วนอน  เอวเริ่มหายไป  สงสัยจะทำน้ำหนักมาสู้กะพี่น้ำมนต์  เผื่อหนุ่มหล่อลีโอ กะเต๋าเต้ยจะหันมาสนใจเป็นกิ๊ก Hi speed บ้าง...


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Monday, 6 February 2006, 05:42PM
  อ่านแล้วคุณแม่หนูนีโม รักและใส่ใจเรื่องอาหารการกินของลูกดีมากเลย น่าจะเปิดกระทู้เมนูลูกรัก ระดมเมนูทั่วสารทิศที่พลิกแพลงอาหารให้เป็นจานโปรดของลูกๆ กลเม็ดการเพิ่มน้ำหนักภายในเจ็ดวันหรือแบบวัดกันเป็นนิ้วเอาอย่างเดอะบอดี้เชฟ ฉะนั้นหนูอย่าเล่นแง่กับคุณแม่นักเลย คุณแม่ป้อนอะไรหนูกิน ให้เป็นกำลังใจคนปรุงเค้าเถอะนะ แม่กี๋เป็นพวกแฟนคลับหนูโบ..(โบราณค่ะ) ท่านสอนหญิง ให้รักษารูปทรงองค์เอวให้อวบอั๋น มีน้ำมีนวลอยู่เสมอ เพราะจะได้เป็นที่ต้องตาแลหมายปองของหนุ่มๆนะจ้ะ
ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Monday, 6 February 2006, 08:07PM
 
• การเรียนรู้เรื่องสำคัญในชีวิตอันดับต้นๆของคนหรือสัตว์คือการรู้จักชื่อของตัวเอง แม่กี๋ช๊อบ ชอบชื่อของลูกเต้าชาวบ้าน โกลเด้นหมาใจดีเพศผู้ที่ชื่อ "หม้อแกง" พุดเดิ้ลทอยเพศเมียตัวกลมขี้อ้อนที่ชื่อ "น้องคำหล้า" บางแก้วรูปหล่อมีชื่อทรงพลังว่า "พายุ" เจ้า "เต้าหู้" เจ้าแห่งรอยยิ้มพิมพ์นิยมพันธุ์เฟรนบลูด๊อก "สินสมุทร" ..ขุนศึกแห่งลุ่มแม่น้ำท่าจีน พันธุ์ปักกิ่ง จะเห็นว่าทั้งห้าชื่อสามารถดึงดูดความสนใจได้ไม่น้อย กิ๊บเก๋น่ารัก ขำๆ มีพลัง เสริมสง่าราศี ชื่อไทยๆที่จำง่ายทั้งหมาและเจ้าของอย่างเช่น ดำ แดง ด่าง มอม ฯลฯ จางหายไปจากสังคมหมา อาจเป็นเพราะเรียกหากันทีไร อายทั้งคนอายทั้งหมา ถูกกล่าวหาว่าตกยุคไม่อินเทรน ที่จริงการตั้งชื่อสิ่งใดๆไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อเริ่มคิดชื่อที่หนึ่งชื่อที่สองที่สามจะตามมาโดยอัตโนมัติ ให้มันขัดกันเองในสมองเสียงั้น!! ส่วนใหญ่คนที่ตั้งชื่อสัตว์เลี้ยง จะเริ่มจากสิ่งที่ตัวเองชอบ ใจจะเอนเอียงคิดชื่อที่เกี่ยวพันกับเรื่องนั้นๆ เช่นชอบเครื่องดื่ม..โอเลี้ยง เก็กฮวย แฟนต้า คาปูชิโน ลิโพ โกโก้.. ชอบขนมไทย ข้าวตัง ข้าวเม่า ตะโก้ โมจิ ขนมครก บ้าบิ่น ขนมชั้น เปียกปูน.. ขนมชาติอื่นๆ..มัฟฟิ่น คุกกี้ โดนัท ซาลาเปา ข้าวจี่.. • ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่สามารถเอามาตั้งเป็นชื่อสุนัข แต่ชื่อที่ยังอยู่ในความนิยมทุกยุคทุกสมัยคือชื่อภาษาอังกฤษ..ทอมมี่ แซม โจ บิค ดิกกี้ จูเนียร์ จัมโบ้ฯลฯ จัดว่าเป็นชื่อประเภทพร้อมโกอินเตอร์....วนมาถึงคิวเจ้าตัวน้อยมั่ง ชื่อนั้นสำคัญไฉน? แม่กี๋ต้องการเอาชื่อที่ไม่เหมือนใครเป็นอันดับแรก ข้อที่สองชื่อบอกอะไรเราได้บ้าง ที่สำคัญออกแนวชื่อน่ารัก ....เต๋าเต้ย ชื่อของปลาจาระเม็ดขนาดเขื่อง อาหารแนะนำชั้นดีของชาวมหาชัย ใครไปใครมาแม่กี๋เป็นต้องพาไปชิมลิ้มลอง จนเป็นที่รู้จักกันในหมู่ญาติ ลงตัวที่ความแตกต่างของชื่อ ชื่อนี้บอกถิ่นบ้านเกิดของเจ้าตัวน้อย และอดีตที่กาลครั้งหนึ่งแม่กี๋เคยมาใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขที่มหาชัย ชื่อต้ว ต. สองพยางค์เวลาออกเสียงน่ารักดี "เต๋าเต้ย...เต๋าเต้ย..เต๋าเต้ย.." เรียกทั้งวันจนรำคาญตัวเอง เต๋าเต้ยไม่กระดิกหูเลยสักนิด เดินต้วมเตี้ยมหาที่ฉี่ทั่วบ้าน เลียนมจากชามได้เอง แต่ไม่เข้ามาเคล้าเคลีย พออิ่มหาที่นอนหลับปุ๋ย....พ่อจ๋ากลับบ้านแล้ว!!! ต้องขอบอกก่อนว่าแม่กี๋เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องหมาแต่เพียงผู้เดียวในบ้านคืออยากก็ต้องรับจัดการไปเอง ที่ผ่านมาหัวโตเดินเที่ยวเองได้ไม่ต้องจูงไม่ต้องขัง แหมเคยอยู่ย่านนั้นมานมนาน ไม่ต้องมีกรงไม่มีโซ่ กินง่ายถ่ายเอง บางทีก็ไปขอของกินฟรีที่แม่ค้าเจ้าเก่า ดังนั้นการเลี้ยงหัวโตจึงไม่มีเรื่องใหม่ให้กังวลใจใดๆ วันไหนใส่โซ่จูงชาวบ้านมองงงๆ จะจูงทำไมเห็นมันวิ่งหัวหกก้นขวิด ล่ามโซ่กลัวหมาจะหนีไปไหนหรือยะหล่อน..เว่อจริงๆ!! เออ..เป็นงั้นไปก็แม่กี๋อยากเท่มั่งอ่ะ ซื้อแบบรัดอกอีกต่างหาก!! ครั้งแรกที่พ่อจ๋าเห็นเต๋าเต้ย "เฮ้ย? ตัวเล็กแค่นี้เองเหรอ นึกว่าโตแล้ว" คือพ่อจ๋าไม่เคยเลี้ยงหมามาเลยตั้งแต่เกิด "ใครเค้าจะให้หมาโตมาเลี้ยง หมารักและจำเจ้าของคนแรกเท่านั้นนะพ่อ"......
ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย จรัญ กาลตนากูล - Tuesday, 7 February 2006, 08:55AM
 

เรื่องของหวาน เขาว่าให้หมากินแล้วจะดุ เท็จจริงอย่างไรไม่รู้ แต่ที่สงสัยขนมหวานเมืองเพชรฯ มันเยอะ ไม่รู้ว่า คนกิน หมากิน แล้วใครจะดุกว่ากัน สงสัยแม่กี๋จะดุกว่าเต๋าเต้ย

ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Tuesday, 7 February 2006, 10:56PM
 

·                    เรื่องลูกคนใหม่เป็นปัญหาที่พ่อแม่ต้องเร่งปลูกฝังความรู้สึกดีๆให้ลูกๆในครอบครัว ให้เกิดความชื่นชมยินดีต้อนรับสมาชิกคนใหม่ของบ้าน คุณหมอส่วนใหญ่แนะนำให้พูดคุยกับลูกผู้พี่เพื่อสร้างทัศนคติที่ดี ตั้งแต่คุณแม่เริ่มตั้งครรภ์ลูกคนใหม่...ให้พี่มีส่วนร่วมในการรับรู้ การเจริญเติบโตของน้องในครรภ์คุณแม่  ไปจนถึงกำหนดวันคลอด วันที่พี่จะมีน้องมาอยู่เป็นเพื่อนเล่นกัน จะได้รักและไม่อิจฉาน้อง เป็นการตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลม

·                    แต่จนใจที่แม่กี๋ไม่ได้อุ้มท้องเต๋าเต้ย  หัวโตจึงรู้เอาเมื่อเห็นสมาชิกใหม่เข้ามาวิ่งเล่นป๋ออยู่ในบ้านเสียแล้ว การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้อยู่ก่อน..หัวโต กับผู้มาใหม่..เต๋าเต้ย จึงเริ่มตั้งแต่วันแรกที่เต๋าเต้ยเข้ามาปรากฏตัว การให้กินนมพร้อมกันเมื่อตอนบ่ายอธิบายความเสมอภาค  ทำอะไรต้องทำให้เหมือนกัน  ให้ของอะไรต้องให้เหมือนกัน เมื่อลูบหัวตัวหนึ่งต้องหันไปลูบหัวอีกตัวหนึ่ง   ใช้ความยุติธรรมสยบความอิจฉาตาร้อน อย่างไรก็ตามการดูแลอย่างใกล้ชิด โอบกอดและปกป้องเต๋าเต้ยในช่วงวัยเด็กเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ อาจไปกระตุ้นให้หมาขี้อิจฉาอย่างหัวโตขุ่นใจ ก่อเกิดอคติและความชิงชัง เรื่องหมั่นไส้ต้องมีกันบ้าง ห้ามยากอ่ะ!!  แม่กี๋ต้องการเลี้ยงลูกให้รักกันแบบพี่น้อง ดังนั้นจึงเลือกที่จะใช้ “ระบบอาวุโส” ที่รุ่นน้องควรเกรงใจรุ่นพี่  เสียดายที่ตอนนั้น แม่กี๋ยังไม่รู้จักเว็ปแห่งนี้ ไม่มีความรู้เรื่อง "จ่าฝูง"  รู้อยู่อย่างหนึ่งว่า การเลี้ยงหมา หากเลี้ยง แบบดูแลเอาใจใส่ใกล้ชิด อาบน้ำแปรงขนให้อาหาร ป้อนยายามป่วยไข้ พูดคุยและให้ความรักอย่างเสมอต้นเสมอปลาย สั่งสอนและทำโทษบ้างตามสมควร หมาดีย่อมจะรู้คุณคนให้ข้าวให้น้ำ หากแต่การรู้คุณของหมาอาจต้องใช้เวลานานสักนิดกว่าจะพิชิตใจกัน เมื่อถึงวันนั้นความเชื่อฟังคำสั่งจะค่อยๆตามมาภายหลัง

·                    เย็นวันนั้นหัวโตถูกเชิญเข้ามาอยู่ในบ้านเหมือนทุกวัน เต๋าเต้ยที่กำลังนอนหลับลืมตามองและลุกเดินเข้าไปหาอย่างดีใจ เดินพันแข้งพันขาและใช้ปากซุกไซ้หาเต้านมที่ท้องเหี่ยวๆหย่อนๆของหัวโต เจอแบบนี้หัวโตเดินหนีพร้อมกับขู่ในลำคอเบาๆ  เต๋าเต้ยตัวน้อยคิดถึงแม่หมา จนตาฟางเห็นหัวโตเป็นแม่ไปชั่วขณะ แม่กี๋รีบแนะนำตัวเต๋าเต้ย ก่อนที่หัวโตจะหงุดหงิดที่ถูกคิดว่ามีเต้า  "เต๋าเต้ย นะโต น้องมาอยู่กับเรา รักกันๆนะ” หัวโตยืนจ้องหน้าแสดงการรับรู้ ส่งแววตาขอความเห็นว่าควรทำอย่างไรกับเจ้าตัวจิ๋ว? แล้วเดินเลี่ยงหลบไปนอนที่มุมส่วนตัว ขณะที่เต๋าเต้ยยังคงพยายามมุดหานมจากเต้า พอไม่เจอก็เปลี่ยนเป็นชวนเล่น กระโดดเข้าหาและไต่ข้ามตัวพี่ชายไปมาอย่างสนุกสนาน

·                    แม่กี๋ถือว่าโชคดีที่หัวโตเป็นลูกผู้ชายตัวจริง ระดับกระทิงแดง บวก เอ็ม-150 หัวโตจะตั้งแง่ราวีเฉพาะหมาหนุ่มหมาแก่ ที่เจอในรัศมีมองเห็นจะปรี่เข้าไปท้าประลอง ขับไล่..... แบบฉบับนักเลงพันธุ์แท้ ไม่เคยสักครั้งที่จะเห็นหัวโตข้องแวะกับหมาเด็ก มีแต่หมาเด็กขนปุยตัวหนึ่งที่ชอบตามมาขอเล่นกับหัวโตถึงบ้าน ร้อนถึงแม่กี๋ต้องโทรฯเรียกเจ้าของให้มารับกลับบ้านหลายหน สองพี่น้องเริ่มผูกมิตรเล่นหยอกล้อกัน เหงือกนุ่มๆของหัวโตงับตามตัวของเต๋าเต้ยจนน้ำลายเปียกไปทั่ว พอเหนื่อยก็พากันนอน  เต๋าเต้ยชอบซุกตัวนอนใกล้ๆ ขอไออุ่นจากพี่ชายคนใหม่แทนอกแม่หมา...


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Tuesday, 7 February 2006, 11:09PM
 

แต่มุมนี้... สัญญาณอันตราย "รุ่นน้องหัวแข็ง"


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Wednesday, 8 February 2006, 11:05PM
 

ใครๆก็รู้ว่ายุงนั้นร้ายกว่าหมา เพราะมันมีพยาธิตัวอ่อนในน้ำลายที่กลายเป็นระเบิดเวลา สาเหตุของโรคพยาธิหัวใจ ยิ่งยุงทะเลแถวมหาชัยยิ่งร้ายกาจทั้งตัวใหญ่กัดเจ็บและชอบมากันเป็นฝูง ขนาดของมันพอคร่าวๆ ลองนึกถึงยุงฟรีเซ็นเตอร์  บนป้ายที่รณรงค์ประชาชนให้ช่วยกันกำจัดยุงลาย นั่นแหละต้นตระกูลยุง ช่วงค่ำถึงย่ำรุ่งมันจะยกพวกมาบุกทั้งคนทั้งหมาบริเวณบ้านที่พักอาศัยไม่เว้นสักหลัง และยังรั้วบ้านมหาชัยมีช่องกว้างที่หมาขนาดเล็กสามารถวิ่งเข้าออกได้สบายๆ   แมว หมาจรจัดแถวนั้น เข้ามาแอบกินข้าวในชามของหัวโตทุกวัน  สงสัยรั้วนี้มีไว้แค่กันมอเตอร์ไซด์วิ่งผ่านบ้านล่ะกระมัง!! หากเต๋าเต้ยมุดออกไปได้  แล้วข้ามไปเที่ยวบ้านตรงข้ามมีหวังถูกคู่อริของหัวโต เจ้า "แซม" และเจ้า "บอส" สองตัวพ่อลูกพันธุ์เยอรมัน เชพเพอด ขย้ำเละเป็นโจ๊กหมาสับแน่ๆ!!เพราะลูกพี่ไปก่อคดีไว้หลายคดี อาฆาตกันไม่มากไม่น้อยเท่าไร แค่วันนั้นเจ้าสองตัวมันหลุดออกมาจากบ้าน  เป้าหมายแรกของมันคือบ้านแม่กี๋  มันวิ่งตรงดิ่งเข้าบ้าน วิ่งรอบบ้านอย่างละเอียดหาร่องรอยกลิ่นหัวโต เข้าหลังบ้านมุดดูใต้ท้องรถ แหม!!มันทำยังกะแมวล่าหนู   ลืมบอกว่าเจ้าสองตัวนี้พันธุ์แท้ หมายักษ์ขนาดโอเว่อไซส์  XXXXL    คล้ายหมาในหนังสงครามสมัยฮิตเล่อร์  แม่กี๋ต้องแบกหัวโตเข้าบ้าน ลงกลอนแน่นหนา เพราะแผลเก่า..รูเขี้ยวที่โคนหางหัวโตขนยังไม่ตกสะเก็ดเลย  ของฝากที่ได้มาเมื่อคราววิ่งไปหาเรื่องเห่าท้าตีสองพ่อลูกริมรั้วบ้านเขา เอาปากแหย่เข้าไปชนปาก ชนิดเม้าท์ทูเม้าท์แยกเขี้ยวยั่วน้ำลาย เพราะรู้ว่ายังไงๆเจ้าสองตัวก็ออกมาไม่ได้  แต่ไม่รู้ไปพลาดอีท่าไหนหางดันหลุดเข้าไปอยู่ในปากเจ้าแซม  หัวโตอยู่นอกรั้วเจ้าแซมอยู่ในรั้ว เจ้าบอสแหกปากเชียร์พ่อ  ร้องกันดังลั่นเจ้าของต้องตื่นลงมาง้างหางออกจากปากเจ้าแซม เป็นเรื่องเสียฟอร์มและเสียเชิงนักรบเฒ่าอย่างแรง ข่าวเล่าขานกระพือไปถึงแฟรตเพื่อนบ้านชั้นสี่  เรื่องไม่เท่เช่นนี้หัวโตชอบขอแม่กี๋ให้เหยียบไว้เป็นความลับ .แต่คนกันเองรู้แล้วเหยียบต่อก็แล้วกัน...แม่กี๋ยังงงไม่หายว่าหางพวงนั้นมันรอดรั้วเข้าไปได้อย่างไรกัน?..

            ด้วยเหตุผลของสภาพแวดล้อมที่ไม่อำนวย เต๋าเต้ยจึงต้องถูกเลี้ยงอยู่ในบ้านจนกว่าจะโตพอรู้เรื่อง ประกอบกับไม่มีความรู้เรื่องวิธีการเลี้ยงในกรงที่ถูกต้อง ตอนนั้นได้ฟังมาว่าเลี้ยงหมาแบบล่ามโซ่หรืองขัง..อาจทำให้หมาดุ   แม่กี๋คิดเองนะว่าที่ดุเพราะถูกกันออกจากสังคม แล้วจะให้รู้เรื่องการผูกสัมพันธ์ได้อย่างไรหนอ?  เรื่องกรงจึงถูกตัดออกไปตั้งแต่แรก ถึงจะไม่ได้เลี้ยงหมามานาน แต่แม่กี๋ยังชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องหมาๆ เวลามีไปสวนจตุจักรฯ กทม. สวนบวกหาดฯ เชียงใหม่ ตลาดนัดวันหยุด บริเวณวงเวียนน้ำพุที่มหาชัย ..  ต้องไปเมียงๆมองๆที่มุมขายลูกหมาเพื่อชื่นชมความน่ารัก บางครั้งยังได้ความรู้ที่ผู้ขายแนะนำเกี่ยวกับการเลี้ยงแก่ผู้ซื้อ ชอบดูรายการทีวี อ่านหนังสือที่ผู้เลี้ยงพากันเล่าเรื่องหมาของตัวเอง หนึ่งในนั้นคือการเลี้ยงหมาภายในบ้านและบนคอนโดฯ การควบคุมให้หมาขับถ่ายให้เป็นที่เป็นทาง เจ้าของหมาใช้หนังสือพิมพ์เป็นอุปกรณ์   แม่กี๋แอบลักจำมาใช้กับเต๋าเต้ย รวบรวมหนังสือพิมพ์เก่า  เอาหนังสือพิมพ์ใล่ตามเต๋าเต้ยเมื่อเห็นอาการย่อตัวหรือเริ่มหมุนตัวไปรอบๆ นึกชอบใจหมาที่สร้างท่าให้คนได้สังเกตพฤติกรรม เป็นท่ามาตรฐานที่เชื่อถือได้ พอฉี่หรืออึรีบเอาหนังสือพิมพ์รองรับไว้หรือซับฉี่แล้วทำความสะอาดกำจัดกลิ่นฉี่ตรงนั้นทันที  ยกถาดสังกะสีอันใหญ่ให้หนึ่งถาดวางกระดาษที่ซับฉี่ไว้บนถาดปูทับอีกที ต่อจากนั้นคอยสังเกตและกะระยะเวลาที่เต๋าเต้ยใกล้เวลาฉี่อีกหนอุ้มไปวางที่ถาด  ธรรมชาติของหมาได้กลิ่นฉี่ตัวเองจะฉี่ทับรอยเดิม  เวลาเปลี่ยนกระดาษก็เอาที่มีกลิ่นฉี่ไว้ข้างล่าง คืนแรกแม่กี๋ล่ามเต๋าเต้ยไว้ที่ขาโต๊ะใกล้ๆมุมส่วนตัวที่หัวโตนอนทุกคืนและเปิดไฟสลัวให้เต๋าเต้ย มองเห็นรอบๆตัว อย่างน้อยเห็นพี่นอนเป็นเพื่อนจะได้อุ่นใจ ช่วงหัวค่ำนอนเงียบดีมาตื่นเอาตอนใกล้รุ่ง ได้ยินเสียงเล็กๆ หอนเป็นระยะ เดินลงมาดูเห็นนั่งกระดิกหางท่าทางอยากเล่น จ้องมองหัวโตที่กำลังงัวเงียเพราะความง่วง ดูที่ถาดมีทั้งฉี่ทั้งอึและบนกระดาษที่ปูไว้ นี่ถ้ารู้วิธีการเลี้ยงในกรงแต่แรกคงง่ายกว่านี้เยอะ เช้าวันนั้นเริ่มเอาออกมาล่ามไว้ที่เก้าอี้หินหน้าประตูนอกบ้านและวางถาดหนังสือพิมพ์ไว้ใกล้ๆ เผื่อแม่กี๋ต้องออกไปนอกบ้านจะได้อยู่เองได้ นอนเงียบไม่มีงอแงแอบดูเห็นเข้าไปยืนฉี่ในถาด กลางวันถ้าอยู่บ้านจะปล่อยอิสระในบ้าน พาออกไปขับถ่ายนอกบ้านเป็นเวลา กลางคืนเข้ามาอยู่ในบ้านทำเหมือนเดิมทุกวัน เต๋าเต้ยเก่งขึ้นเรื่อยๆวิ่งไปฉี่ที่ถาด พอทำดีแม่กี๋ลูบหัวชมทุกครั้ง แต่บางทีเล่นเพลินเลยไปฉี่ที่ผ้าเช็ดเท้าก็ยังดีไม่ฉี่บนพื้น   จนถึงทุกวันนี้แม่กี๋ย้ายมาท่ายาง เก้าอี้หินยังจัดให้วางไว้ที่จุดเดิมและยังเป็นที่นอนประจำของเต๋าเต้ย...ต่างกันตรงที่กลางวันนอนใต้เก้าอี้แต่กลางคืนขึ้นไปยึดครองนอนบนโต๊ะ พ่อจ๋าบอกว่าเป็นจุดตรวจการณ์เวรดึกเพราะเห็นวิวข้างนอกชัดดี  ช่วงวัยทารกของเต๋าเต้ยเริ่มต้นที่มหาชัย แต่เพียงสามอาทิตย์ก็ต้องแยกจากพี่หัวโตไปอยู่ที่เชียงใหม่นานถึงสองเดือน ที่นั่นเต้าเต้ยพบกับสิ่งใหม่ๆมากมาย.....โดยเฉพาะเพื่อนชิห์สุรุ่นราวคราวเดียวกัน 


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Sunday, 12 February 2006, 10:08AM
 

เรื่องการผจญของลูกรัก... เมื่อเต๋าเต้ยจำต้องจากมหาชัย เหินฟ้าสู่ถิ่นไทยงามเมืองล้านนา... (- _ -)*

การอยู่ร่วมกันของบางแก้วสองวัยค่อยๆมีเรื่องใหม่ให้ตามเก็บรายละเอียด จนกลายเป็นยายแก่ขี้บ่น ที่คนขายไอศกรีมวอลล์เข็นรถผ่านยังต้องหันมามองซ้ำอีกครั้ง สงสัยคิดว่าคนบ้านนี้ยืนพูดอยู่คนเดียว เห็นมีแต่หมาสองตัวหมอบอยู่บนพื้นหรือจะพูดภาษาหมารู้เรื่อง  แม่กี๋เลยต้องตระโกนบอกว่าเจ้าสองตัวมันพูดภาษาคนรู้เรื่อง ..นะพ่อคุณ

 แม่กี๋ซื้ออาหารสุนัขของหมาเด็กยี่ห้อหนึ่งที่สอดไส้นม ให้อาหารทั้งเช้าและเย็นแถมมีอาหารว่างยามบ่าย แม่กี๋รู้ว่ามันมากเกินไปแต่ก็มีความสุขที่เห็นลูกๆกินอิ่มนอนหลับ นิสัยที่ได้จากการได้อาหารอย่างเต็มที่คือ  มารยาทดี ถ้าให้อาหารพอเพียงต่อความต้องการสองตัวจะไม่ยุ่งวุ่นวายขอกินหรือนั่งมองหน้าที่โต๊ะอาหาร ไม่กินมูมมาม แย่งของกินกันเอง หรือขโมยของกิน ของที่ซื้อมาให้วางไว้บนโต๊ะหน้าบ้าน ถ้าแม่กี๋ยังไม่หยิบออกจากถุงห้ามแตะ ใครเฉียดมาดม แม่กี๋ว้ากทันที  ”.แม่เลี้ยงให้อดยากนักหรือไง  อย่าแม้นแต่จะคิด แค่คิดก็ผิดแล้ว” เวลาคลุกอาหาร ให้นอนรอจนกว่าจะเรียกมากิน เป็นเรื่องปกติที่หัวโตชอบกินของเหลือของน้อง พออิ่มเก็บชามล้างตากแดด แต่ถ้าอาหารว่างเป็นปีกไก่ย่างและขนมไส้กรอกชุบแป้งทอดต้องแบ่งและแยกให้กินคนละมุม ของโปรดที่ไม่มีใครเหลือให้ใคร แม่กี๋จำเป็นต้องจัดระเบียบสังคมบางแก้วเพื่อความสงบสุขในบ้าน อาวุธที่ใช้ก็คือ หน้าตา ท่าทาง ต้องจริงจัง น้ำเสียงดังน่าเกรงขาม ยิ่งตอนทำโทษต้องสมจริงและมักเป็นความผิดที่เห็นต่อหน้า พ่อจ๋าชอบห้ามไม่ให้ดุหรือทำโทษบอกว่าหมามันจะไปรู้อะไร แต่เรื่องนี้คนใกล้ชิดหมาเท่านั้นที่รู้ดีว่ามันไม่จริง..

การอาบน้ำแม่กี๋ให้เต๋าเต้ยดูหัวโตอาบน้ำก่อนทุกครั้งโดยล่ามไว้ใกล้ๆ   หัวโตอาบน้ำง่ายแถมทำหน้ามีความสุขที่ได้รับการสัมผัส..นวด เกา ฟอกสบู่นานมาก นานจนเพลิน อนุญาตให้สะบัดขนบ้างเพื่อลดความกังวลเพราะหมาไม่ชอบให้ตัวเปียกน้ำนานๆ  เวลาอาบน้ำคุยไปด้วย ฮัมเพลงไปด้วย ลูบไปตามตัวนวดเบาๆและบอกว่าแม่กี๋รักมากแค่ไหน  การอาบน้ำลูกเป็นเวลาที่ดีที่จะได้ผูกใจรักกันให้มากขึ้น การเกาไปทั่วๆตัวจะได้รู้ว่าตามผิวหนังของเจ้าสองตัวมีตุ่มมีเม็ดมีก้อนที่ผิดปกติหรือเห็บหมัดที่เกาะอยู่ตามตัว  ดังนั้นตั้งแต่เล็กจนโตเวลาอาบน้ำเต๋าเต้ยจะยืนนิ่งจนกระทั่งอาบเสร็จ   ระหว่างเช็ดตัวอาจมีลูกเล่นแย่งผ้าขนหนูกันบ้างก็ไม่ว่ากัน ดึงชักเย่อผ้ากันจนแม่กี๋หัวสั่นหัวคลอน   หลังจากนั้นจะใส่น้ำมันบำรุงขน ใช้  ซิลกี้ แฮร์โค๊ท ยี่ห้อใดก็ได้ ลูบตามขนเพื่อไม่ให้ขนพันกันและสลวยลื่นมือเงางามก่อนแปรงขน ตามด้วยลูบน้ำหอมชนิดเจลที่ปลอดแอลกอฮอล  ทั้งสองอย่างใส่ที่อุ้งมือสองสามหยดลูบที่ขนชั้นนอก เวลาอาบน้ำเสร็จใหม่ๆเจ้าสองตัวจะเจริญอาหารเป็นพิเศษ วิ่งรอบบ้านอย่างคึกคัก คงรู้สึกสดชื่นสบายตัว พออยู่ได้ไม่นานเต๋าเต้ยเปลี้ยนไป๋!! เห็นครั้งแรกในวันหนึ่งที่แม่กี๋แจกอาหารว่าง เต๋าเต้ยกลายเป็นจอมตะกละ กินมากและกินเร็ว    รีบกินของตัวเองแล้ววิ่งจู๊ดจะไปกินของหัวโต เกิดนิสัยงกหวงของกิน แม้นจะอิ่มแล้วแต่ขอให้ได้คาบเอาไปขุดดินฝังกลบ สิงห์เฒ่ากินช้า เน้นมารยาทงามถ้าอาหารมีไอร้อนจะนอนรอให้เย็นเสียก่อน ของๆใครของใครก็หวงหัวโตแยกเขี้ยวขู่ เต๋าเต้ยตีหน้ายักษ์แว้งเข้าใส่ กระโดดตัวลอยงับที่คอหัวโต โธ่เอ๋ย!! ฟันน้ำนมเพิ่งขึ้นได้ไม่กี่ซี่ซ่าหยดติ๋งๆ น่าวิ่งไปเอากระจกมาให้ส่องดูเงาว่ามันมวยคนละรุ่น กระดูกต่างกันหลาย พ.ศ.  หัวโตเหลือทนงับเข้าให้ที่ลำตัวตัว ร้องเสียงหลงวิ่งไปซุกตัวใต้โต๊ะยอมแพ้ชั่วคราวเพราะน้ำหนักน้อย เรื่องนี้แม่กี๋ต้องดุเต๋าเต้ยเพราะแหกกฎข้อหนึ่งที่ว่าห้ามแย่งของที่ไม่ใช่ของๆตัวเอง โดยเฉพาะของที่แบ่งให้เท่ากันแล้ว แต่เผลอไม่ได้ชอบลองของต่อกรกับหัวโตอยู่เนื่องๆ จบตรงที่แม่กี๋ต้องล่ามโซ่ทั้งสองตัวเวลาให้อาหารและให้เพิ่มจนแน่ใจว่าอิ่มจนเซ็งอาหารตรงหน้า ลองยกชามสลับกันบางทีก็กินกันต่อเพราะความงกที่ได้กลิ่นน้ำลายของฝ่ายตรงข้าม ความดุส่อแววอีกครั้งเมื่อมีคนเดินเข้าบ้าน เต๋าเต้ยตั้งท่าทั้งเห่าทั้งขู่ไม่ยอมให้คนแปลกหน้าเข้าใกล้หรือจับต้องตัว แม้นแต่เด็กผู้ชายข้างบ้านที่เคยขอเอาไปนอนเล่นที่บ้านยังเข้าหน้าไม่ติดหาย จนหลังๆหายหน้าหายตาไปเลย เรื่องนี้แม่กี๋คิดว่าเต๋าเต้ยขาดสังคมกับคนนอกบ้าน  ในบ้านมีเพียงพ่อจ๋ากับแม่กี๋และหัวโต อีกสองคนเข้าออกเป็นบางวันจนจำได้เต๋าเต้ยก็เป็นมิตรที่ดีกับเขา

สิ่งที่เห็น ไม่ใช่อย่างที่คิด เต๋าแต้ยตัวกลมขนปุยน่าตาน่ารักน่าชังใครๆเห็นก็อยากอุ้มตอนนี้ไม่เป็นมิตรกับคนแปลกหน้าเอาเสียเลย แม่กี๋ต้องยอมรับว่าเต๋าเต้ยวัยเด็กหัวดื้อ ไม่เชื่อฟังคำสั่งประมาณว่าดื้อตาใส เวลาดุจะขู่ตอบตีไม่ได้แค่เงื้อมือก็ตั้งท่าสู้ไม่ถอย ทำหน้าจองหองเดินหนีไปอยู่หลังบ้าน   แม่กี๋รู้ว่าหัวโตก็แสนจะเอือมระอา หนักเข้าไม่ยอมเล่นด้วยอีกเลย นับว่าเป็นจุดหักเหของความสัมพันธ์...หัวโตเปลี่ยนทีท่าเป็นข่มเต๋าเต้ยแทนการเป็นเพื่อนเล่น

 ถ้าเป็นคนต้องเรียกว่าตะคอกทุกคำไม่เคยพูดดีด้วยตั้งแต่วันที่แย่งอาหารกัน  แม่กี๋ไม่ได้ห้ามปรามเพราะเห็นแค่ขู่เสียงดังแต่ไม่เคยกัดจนเลือดตก  เต๋าเต้ยส่อแววดุดันขนาดนี้ถ้าเข้าข้างจะได้ใจ นานไปจะเสียหมา พอโตขึ้นมาจะข่มเหงหัวโตที่แก่ตัวลงทุกวัน ปล่อยให้ปกครองกันเองตามธรรมชาติหมา  นี่คือความสัมพันธ์ระหว่างหัวโต และตัวตนของเต๋าเต้ยครั้งสุดท้าย ก่อนลาลมทะเลไปสัมผัสลมหนาวที่เมืองเชียงใหม่ ในราวเดือนมกราคม 2547  


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย Pingpong \(-_-)/ - Sunday, 12 February 2006, 11:20AM
 
ขออนุญาตนำเป็นเพิ่มเป็นรายวิชาหนึ่งให้คนได้อ่านกันที่ 
ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Monday, 13 February 2006, 08:29PM
 

คุณปิงปองคะ..ยินดีค่ะที่เรื่องราวจะถูกบันทึกไว้ในหัวข้อรายวิชาของชุมชนฯ ขอเป็นเรื่องเล่ารายวันให้สมาชิกอ่านกันเพลินๆ เขียนไปบ่นไปหากยังมีผู้อ่านตามติด ต้นฉบับอาจส่งช้าไปนิดเพราะต้องคิดทบทวนย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ในอดีตเมื่อสองปีก่อน ขอขอบคุณที่เว็ปนี้เป็นแรงบันดาลใจให้บันทึกความทรงจำดีๆที่อยากเก็บไว้ตลอดไป


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย พายุ วงศ์วายุ - Monday, 13 February 2006, 09:35PM
 
พวกโกวๆของพายุและน้องน้ำมนต์ทั้งติดตามและตามติด เรื่องราวของน้องเต๋าเต้ยและปู่ห้วโตทุกวันครับ... อาโกวอ่านเรื่องที่คุณแม่กี๋ "เขียนไปบ่นไป" ให้พายุฟัง พายุว่ายังหนุกกว่าที่พายุเคยดูและเคยฟังรายการ "ชิมไปบ่นไป" เยอะเลยครับ

ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย จรรยา แม่ตูบน้อย - Monday, 13 February 2006, 10:37PM
 

สวัสดีค่ะแม่กี๋...

เข้ามาอ่านเรื่องราวของปู่หัวโต และพี่เต๋าเต้ย ทุกวันค่ะยักคิ้ว

ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย วงศกร อารยวัฒน์ - Tuesday, 14 February 2006, 12:12PM
 

สวัสดีครับแม่กี๋ตอนนี้ขนมต้มก็กำลังโดนป๋าโด๊บซะอ้วนพีเหมียมกัลล์เนี่ยกะลังซาบาย


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Tuesday, 14 February 2006, 03:49PM
 

สวัสดีค่ะอาโกวๆที่รักของพี่พายุและน้องน้ำมนต์ และยินดีที่ได้รู้จักคุณจรรยา แม่ตูบน้อยกะป๋าน้องขนมต้ม.. หมูตุ้ย สมาชิกในครอบครัวที่อบอุ่นในบ้านหลังน้อยแห่งนี้ หากมีเวลาว่างแม่กี๋ขอเชิญชวนให้ส่งเรื่องราวของลูกๆ เข้ามาช่วยกันแต้มแต่งสีสันให้บ้านของเราน่าอยู่ และอบอวลไปด้วยความรักนะคะ

ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Tuesday, 14 February 2006, 04:08PM
 

ก่อนบินเหินเวหาต้องศึกษาข้อมูลจากเจ้าจำปีเสียก่อน จะได้เตรียมตัวให้พร้อมก่อนการเดินทาง  โทรศัพท์ไปสอบถามแจ้งความจำนงว่าต้องการโดยสารลูกสุนัขไปเชียงใหม่ในเที่ยวบินเดียวกัน เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่าสามารถทำได้สามวิธี    วิธีที่หนึ่ง: คือหิ้วขึ้นเครื่องฯพร้อมกับเจ้าของในกรงขนาดเล็กมีถาดรองฉี่อึมิดชิด หรือใส่ในตะกร้าที่เจ้าของอาจใส่ผ้าอ้อมสำเร็จให้น้องหมา อนุญาตให้หัวโผล่ออกมาได้ พนักงานต้อนรับบนเครื่องฯจะนำกรงไปวางไว้ด้านหลังบริเวณหน้าห้องน้ำ แต่จากประสบการณ์ไม่เคยเห็นหมาบนเครื่องฯเลยสักครั้ง แม่กี๋ว่าน่าจะเป็นการรบกวนผู้โดยสาร หากส่งเสียงร้องหรือมีกลิ่นฉี่อึ บางคนที่รังเกียจสัตว์เลี้ยงอาจคิดว่าไม่ถูกสุขลักษณะ ที่นำเอาสัตว์มารวมไว้ในห้องผู้โดยสารเหมือนร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า โรงแรมและอีกหลายแห่งที่มีป้ายห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในบริเวณ  วิธีที่สอง: ใส่กรงโหลดลงใต้เครื่องฯพร้อมกับสัมภาระ  ทั้งสองวิธีต้องแจ้งตั้งแต่ซื้อตั๋วเพราะไม่ว่าจะบนเครื่องฯหรือในห้องสัมภาระใต้เครื่องฯ จำกัดจำนวนผู้โดยสารสัตว์เลี้ยง เนื้อที่สำหรับวางกรงที่จัดเป็นสัดส่วนแยกกับสัมภาระอื่นๆมักจะเต็ม จึงต้องแจ้งเพื่อจองไว้ล่วงหน้า อีกอย่างหนึ่งมีสัตว์หลายประเภทอย่างเช่น   แมว นก กระต่าย และอีกนาๆสัตว์เลี้ยงแสนรักที่เจ้าของชอบพกพาไปไหนมาไหนด้วย   ยุคใหม่นี้หมาแมวมีบุญ เจ้าของเลี้ยงดู ฟูมฟักเหมือนลูก รักษาโรคภัย บำรุงร่างกาย เสริมสวยอาบน้ำตัดขนทำสี เข้าสปานวดตัว  พาไปร้านอาหารร้านขายขนมสำหรับสุนัข โรงแรมใหญ่บางแห่งมีที่พักบริการให้สัตว์เลี้ยงด้วย  ขึ้นรถลงเรือไปเหนือล่องใต้แบบว่านายไปไหนหนูไปด้วย   เจ้าตูบเจ้าเหมียวมีชีวิตเริ่ดหรูกว่าสมัยก่อนแตกต่างกันลิบลับแทบมองไม่เห็นฝุ่น  แม่กี๋เคยอ่านเจอบทความในหนังสือข่าวโลกสัตว์เลี้ยง หมาที่ถูกเลี้ยงตามสมัยนิยมอย่างทุกวันนี้จะกลายเป็นหมาที่เอาแต่ใจตัวเอง เป็นหมาใจแตกหรือหมาแสนงอน บางครั้งก็เป็นหมายาอี  หมาป้อแป้และหมากระแดะ ตามนิสัยส่วนตัวของเจ้าของยุคใหม่ ขาดคุณสมบัติหมาที่ดี แม่กี๋เคยเห็นหมาหยิ่งในเมืองใหญ่น่าจับมาตีก้นเสียให้เข็ด การปลูกฝังนิสัยที่ดีให้แก่หมาจึงเป็นหน้าที่หลักของเจ้าของ  จะรักอย่างไรก็อย่างปล่อยให้สัตว์กลายเป็นเจ้านายโดยเด็ดขาด ซึ่งแม่กี๋ขอรียกว่าเป็นการเลี้ยงแบบหลงทาง  การพาเต๋าเต้ยขึ้นเครื่องฯไม่ได้เป็นไปตามสมัยนิยมแต่เป็นความจำเป็นที่พ่อจ๋าไม่มีเวลาดูแล และไม่อยากฝากใครเลี้ยง เหตุผลคือเต๋าเต้ยกำลังเรียนรู้หากอยู่กับคนใดคนหนึ่งนานๆ เต๋าเต้ยจะรับคนๆนั้นเป็นเจ้านายคนแรกทันที แม่กี๋จะเสียเต๋าเต้ยไปตลอดกาล แม่กี๋คิดว่าการเดินทางครั้งนี้จะทำเพียงสองครั้งคือไปเชียงใหม่และกลับมหาชัยเมื่อเต๋าเต้ยโตพอที่จะอยู่กับพ่อจ๋าและหัวโตได้โดยไม่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด   เคยมีเรื่องโศกนาฏกรรมที่สัตว์เลี้ยงเสียชีวิตขณะอยู่บนเครื่องฯ เจ้าของลมแทบจับเมื่อต้องรับเพียงร่างที่ไร้วิญญาณ ถ้าแม่กี๋จำไม่ผิดเป็นหมาแสนรักของนางเอกสาวชื่อดังคนหนึ่ง เกิดเป็นข่าวหน้าหนึ่งเมื่อสองปีก่อน กรณีนี้หากเกิดจากความบกพร่องของเจ้าจำปีก็ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้เจ้าของ ซึ่งทุกชีวิตบนเครื่องฯจะมีประกันชีวิตให้อยู่แล้ว ตามข่าวดาราสาวยืนยันว่าสุนัขตัวโปรดมีสุขภาพแข็งแรงมากและก่อนขึ้นเครื่องฯมีอาการปกติดี เธอให้ความเห็นว่าอาจเป็นเพราะจุดที่จัดเก็บใต้เครื่องฯเป็นจุดอับ อากาศไม่ถ่ายเท แออัดและร้อนจัดจนทำให้การหายใจติดขัดและสิ้นลมในที่สุด เรื่องลงเอยอย่างไรแม่กี๋ไม่ได้ติดตาม แต่ที่แน่ๆดาราสาวคงระทมทุกข์คิดถึงเจ้าหมาที่รักไปอีกนานโข  แต่ทุกวันนี้ก็ยังมีคนนิยมนำสัตว์เลี้ยงเดินทางทางอากาศอย่างไม่ขาดสาย  ส่วนค่าใช้จ่ายของทั้งสองวิธี หมาไม่ต้องซื้อตั๋วแต่จ่ายค่าโดยสารหรือถ้าภาษารถไฟเรียกว่าค่าระวางชั่งตามน้ำหนักตัวรวมกรงที่เคาร์เตอร์เช็คอิน มีอัตราราคาขั้นต่ำกำหนดไว้ไม่ว่าจะหนักเท่าไรต้องจ่าย......บาทต่อหนึ่งกรง บางกรงมีลูกหมาตัวเล็กใส่รวมกันมาหลายตัว สองปีที่ผ่านมาน้ำมันขึ้นราคาทำให้ค่าโดยสารเครื่องบินขึ้นราคาอีกหลายร้อยบาท ดังนั้นป่านนี้อัตราราคาขั้นต่ำของค่าขนส่งคงเปลี่ยนแปลงไปแล้วเช่นกัน  แม่กี๋เคยเห็นหมาในกรงเลื่อนมาพร้อมกระเป๋าผู้โดยสารบนสายพานสร้างความแตกตื่นแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง แม้นแต่ครอบครัวฝรั่งนักท่องเที่ยวยังหอบหิ้วหมามาเที่ยวด้วยก็มีนับว่าเป็นบุญของเจ้าตูบที่ได้ท่องโลกกว้าง   สองวิธีแรกเหมาะสำหรับสุนัขพันธุ์เล็กน้ำหนักน้อยที่สำคัญต้องไม่สร้างปัญหากับเจ้าหน้าที่โหลดกระเป๋า ผู้โดยสารอื่นๆบนเครื่องฯ  จึงต้องไม่ใช่สุนัขสายพันธุ์ดุ  วิธีสุดท้าย : ไปกับคาร์โก้ ซึ่งหมาต้องอยู่ในกรงที่แข็งแรงมีถาดรองฉี่อึอย่างดี ถ้าจะไปเที่ยวบินเดียวกับเจ้าของต้องไปส่งตัวที่คาร์โก้ก่อนเครื่องฯออกอย่างน้อยสองชั่วโมง วิธีนี้หมาหรือสัตว์เลี้ยงจะใหญ่ขนาดไหนก็ไม่อั้นไปไกลถึงไหนก็ไม่ว่า ชั่งน้ำหนักหมารวมกรงคิดค่าโดยสารไปตามอัตรา ซึ่งมีอัตราราคาขั้นต่ำกำหนดไว้เช่นกัน จำได้ว่าของเต๋าเต้ย ค่าโดยสารกรุงเทพ-เชียงใหม่ อัตราขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณสี่ร้อยกว่าบาท ส่วนเกินคิดเพิ่มตามน้ำหนักสุนัขรวมกรง คงเหมือนการส่งพัสดุไปรษณีย์ที่คำนวณค่าบริการจากน้ำหนัก ขนาดความใหญ่ของของและระยะทางประกอบกัน

แม่กี๋เลือกวิธีที่สามเพื่อเลี่ยงปัญหาที่เต๋าเต้ยจะตื่นตระหนกคนและสถานที่ ถ้าขึ้นเครื่องฯหรือโหลดใต้เครื่องฯจะต้องร้องเสียงดังรบกวนผู้อื่นควบคุมลำบาก การเตรียมตัวเริ่มที่ซื้อกรงขนาดกลางเพื่อเตรียมล่วงหน้าสำหรับขากลับเผื่อเต๋าเต้ยตัวโตขึ้น จัดเตรียมที่กินน้ำแบบขวดที่ยึดติดกับกรงและกระดูกเทียม ของเล่นหนึ่งชิ้น  ขอยานอนหลับหรือยาซึมจากคุณหมอเพราะต้องการให้เต๋าเต้ยหลับระหว่างการเดินทางและลดความเครียด คุณหมอให้ยานอนหลับสองเม็ด โดยให้กินก่อนขึ้นเครื่องฯหนึ่งชั่วโมง แม่กี๋ฝึกให้เต๋าเต้ยรู้จักการกินน้ำจากขวดคือเรียนรู้ว่าเลียปากขวดแล้วมีน้ำไหลออกมาให้กิน วันเดินทางเต๋าเต้ยต้องนั่งรถจากมหาชัยไปดอนเมืองแต่เช้า สรุปแล้ววันนั้นเป็นการเดินทางไกลทั้งทางบกและทางอากาศครั้งแรกของบางแก้วตัวน้อย แค่ทางบกเต๋าเต้ยก็อ้อนพ่อจ๋าขอนั่งตักไปตลอดทาง พอย้ายมานั่งข้างหลังก็ฉี่รดเบาะ เดินทางไกลในรถแม่กี๋จะมีผ้าและกระดาษหนังสือพิมพ์มาด้วยเพื่อใช้เช็ดน้ำลายและซับฉี่

อาคารส่งของทางคาร์โก้อยู่คนละที่กับอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ต้องขับเลยอาคารผู้โดยสารออกไปประมาณร้อยเมตรรีบชิดซ้ายและเลี้ยวเข้าประตูจะเจออาคารส่งของพอดี แม่กี๋เผื่อเวลาเป็นสามชั่วโมง  เพื่อจูงเต๋าเต้ยเดินเล่นรอบๆและป้อนยานอนหลับ หากป้อนเร็วยาหมดฤทธิ์เต๋าเต้ยรู้สึกตัวก่อนเวลาเครื่องฯขึ้น-ลงจะตกใจ  แบบนี้ต้องเรียกว่าคิดเผื่อหมา  แม่กี๋ยังคิดเผื่อไปอีก ด้วยการงดอาหารตั้งแต่ออกจากบ้านมหาชัยเพราะถ้าเมาเครื่องฯเกรงจะคลื่นไส้อาเจียนออกมาหมด  แม่กี๋กรอกแบบฟอร์มส่งของที่ระบุชื่อผู้ส่งและเที่ยวบินที่ต้องการส่งรวมถึงชื่อผู้รับปลายทาง เจ้าหน้าที่ชั่งน้ำหนักรวมกรงแล้วประมาณแปดกิโลกรัมเศษๆ ราคาอยู่ที่แปดร้อยกว่าบาทเป็นราคาบินครั้งเดียว....วันเวย์ทิกเก็ต  แม่กี๋พาไปเดินเล่นให้ฉี่อึสบายอารมณ์แล้วป้อนยานอนหลับ เอากระดูกเทียมและของเล่นใส่ไว้ในกรงให้เล่นคลายเหงา  ส่งตัวเข้ากรงมีเจ้าหน้าที่มารับตัวไปและวางบนรถเข็นเคลื่อนเข้าไปข้างใน แม่กี๋แอบมองเห็นมีกรงอีกสองกรง กรงแรกเป็นลูกหมาตัวเล็กขนปุกปุยถัดไปเป็นเจ้าโกลเด้นวัยสามเดือนตัวใหญ่คับกรง ที่ต้องนั่งก้มหัวท่าทางไม่น่าสบายตัว เต๋าเต้ยมองเจ้าสองตัวอย่างแปลกใจแต่นั่งนิ่งไม่สนใจผูกมิตรกับเพื่อนผู้ร่วมทาง  สอบถามได้ความว่าทั้งสามตัวมีจุดหมายปลายทางคนละจังหวัด..พิษณุโลก...เชียงใหม่และหาดใหญ่  แม่กี๋แสนสงสารที่เจ้าสามตัวต้องรออีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาออกเดินทาง พอถึงที่หมายต้องรอโหลดลงจากเครื่องฯ กว่าเจ้าของจะไปรับได้ต้องหลังจากเครื่องฯลงสู่พื้นดินหนึ่งถึงหนึ่งชั่งโมงครึ่ง ที่ต้องใช้เวลาเพราะว่าแม้นคาร์โก้จะมาลำเดียวกัน แต่คาร์โก้ที่บรรทุกของต้องถูกส่งไปโหลดของออกที่อาคารคลังสินค้า  ใช้เวลาตรวจเช็คของและเอกสารเสียก่อน  รวมเวลาเดินทางที่ตื่นเต้นผจญภัยที่ต้องพบทั้งคนแปลกหน้า สถานที่ พาหนะ หิวข้าวหิวน้ำ คลื่นเหียนวิงเวียน เสียงดังกระหึ่มของเครื่องบิน ตกหลุมอากาศ รวมเวลาทั้งสิ้นหกชั่งโมง...แม่กี๋แยกไปเช็คอินที่อาคารผู้โดยสารอดเป็นห่วงลูกหมาตัวน้อยไม่ได้ที่ต้องไปผจญภัยขวัญกระเจิงแต่เพียงลำพัง

เมื่อถึงเชียงใหม่แม่กี๋ไปรอรับเต๋าเต้ยที่อาคารคลังสินค้าที่มองเห็นอาคารตั้งอยู่ห่างออกไปไกล พอไปถึงพยายาม ชะเง้อมองเข้าไปข้างในและหวังว่าเต๋าเต้ยจะหลับปุ๋ยตลอดการเดินทาง เข้าไปแสดงบัตรประชาชนขอรับของในสำนักงาน เจ้าหน้าที่ออกใบรับของและชี้ให้ไปรับบริเวณด้านข้าง สักครู่เห็นเจ้าหน้าที่เข็นกรงออกมา เต๋าเต้ยยืนกระดิกหางอย่างดีใจเมื่อได้ยินเสียงแม่กี๋เรียกชื่อ ที่จริงแม่กี๋ก็ดีใจไม่แพ้เต๋าเต้ยโล่งอกที่การเดินทางราบรื่นปลอดภัย เจ้าหน้าที่ดูจะสนใจเข้ามาถามไถ่ประวัติความเป็นมาของเต๋าเต้ย  แม่กี๋รีบปล่อยออกจากกรงพาไปเดินที่สนามหญ้าใกล้ๆ เต๋าเต้ยตื่นเต้นมากวิ่งไปรอบๆและทำธุระส่วนตัวเบ็ดเสร็จ  ไม่มีวี่แววว่าจะเมายาหรือเมาเครื่องฯแต่อย่างใด แม่กี๋ว่าเต๋าเต้ยเป็นหมาไฮเปอร์สมาธิสั้นตื่นตัวตลอดเวลา ยิ่งมีเรื่องใหม่ๆให้ตื่นเต้นยานอนหลับเลยเอาไม่อยู่ไม่สามารถกดประสาทให้หลับลงได้  นับว่าเต๋าเต้ยเป็นหมาที่แข็งแรงทรหดอดทนสมกับเป็นลูกหลานหมาไทยบางแก้วจริงๆ

แม่กี๋เลี้ยงต้อนรับเต๋าเต้ยที่ร้านข้าวต้มรอบดึก คลุกข้าวกับขาหมูพะโล้กินจนพุงกางและเล่นกับพี่ๆนักศึกษาที่นั่งโต๊ะถัดไป ดูเหล่าพี่ๆจะปลื้มลูกหมาบางแก้วมากเพราะเขาไม่เคยเห็นมาก่อน “ได้ยินแต่ชื่อเพิ่งเห็นตัวจริงวันนี้เองครับ”   ถามถึงความหมายของชื่อที่ฟังดูแปลกหูสำหรับชาวเชียงใหม่เมืองไกลทะเล จึงไม่เคยได้ยินได้เห็นปลาทะเลที่ชื่อว่าเต๋าเต้ย

 การเริ่มต้นของประสบการณ์ในบ้านหลังใหม่ของเต๋าเต้ยกำลังจะเริ่มขึ้น  จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเต๋าเต้ยต้องอยู่ท่ามกลางคนแปลกหน้าในบ้านที่เป็นโรงงานมีคนงานเดินเข้าออกตลอดทั้งวัน  การพบกันของลูกหมาเพศผู้พันธุ์ชิห์สุวัยสี่สิบห้าวันสมาชิกใหม่ของบ้านที่ยังไม่มีแม้นแต่ชื่อ  การปรับตัวครั้งใหญ่ของเต๋าเต้ยจะทำได้ดีแค่ไหน!!!!..


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย จรัญ กาลตนากูล - Wednesday, 15 February 2006, 09:07AM
 

แม่กี๋ พาเต๋าเต้ยไปซะไกล อยากรู้จังกระหว่างอยู่บนเครื่องเต๋ามันคิดอะไรอยู่ มันคงหลับฝันหวานเพราะฤทธิ์ยานอนหลับ ตอนลงจากเครื่องเจอแม่กี๋มันคงดีใจ หูลู่ หางสั่น ก้นส่าย

"คิดเผื่อหมา" หมาจะได้ไม่ลำบาก เป็นคติสอนใจผู้เลี้ยงได้ดี

ผมขอฝากอีกคำ "คิดก่อนหมา" คนจะได้ไม่ลำบาก โชคดีนะแม่กี๋กะเต๋าเต้ย แอ่วเจียงฮายเพื่อเจ้าไปร์ทด้วย แล้วอย่าลืมหัวโตละแม่กี๋หรือว่าส่งไปดาวอังคารแล้ว

ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Wednesday, 15 February 2006, 10:55AM
 

ถึงพ่อเจ้าไปร์ท..ฮั่นแน่!!!ติดใจผู้ใด๋ตี้เวียงเจียงฮาย แม่กี๋ร้องเพลงเชียงรายรำลึกให้ฟังดีมั๊ยอ่ะ "คิดก่อนหมา" คติข้อนี้โดนใจผู้เลี้ยงสุนัขบางแก้ว หมาที่สืบสายเลือดมาจากจิ้งจอกเจ้าเล่ห์  โถ..เจ้าไปร์ทพ่อเจ้าคิดก่อน..รู้ทันไปเสียหมดทุกอย่าง แล้วจะได้วิ่งออกนอกลู่มั่งมั๊ยเนี่ย

ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย จรัญ กาลตนากูล - Wednesday, 15 February 2006, 11:10AM
 

แม่กี๋ครับ บางแก้วน่ะมันเจ้าเล่ห์ ผมพาเจ้าไปร์ทไปเดินเล่นตอนค่ำๆ ประจำ ส่วนใหญ่แล้วจะให้มันถ่ายในบ้าน ถ้าวันไหนพามันไปเดินเล่น บางทีมันก็จะถ่ายนอกบ้าน กลัวเสียนิสัย พอเห็นมันเดินวนจะห้ามมันถ้ายังไม่ฟังจะดึงแผงคอมัน แต่คราวนี้ มันไม่เดินวน แต่ทำเป็นยืนฉี่รดเสาไฟฟ้า เรื่องฉี่ไม่เป็นไร เผลอแผลบเดียว มันย่อก้นจะอึ แสบจริงๆ จะออกนอกบ้านเก็บของให้หมด ไม่งั้นมันประท้วงต้องหาอะไรมากัด บางทีดุมันว่ามัน มันก็เฉย แต่ยืนฉี่ในบ้านต่อหน้าต่อตา ทั้งที่ปกติไม่เคย

ออ้ กลับมาแม่อย่าลืมเอาบางแก้วสาวๆ ชาวเจียงฮายมาฝากไปร์ทด้วยคับ ปีที่แล้วป๋มน้ำลายยืดมาทั้งฤดูกาล ป้อป๋มไม่ยอมท่าเดียว

ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย พายุ วงศ์วายุ - Wednesday, 15 February 2006, 12:48PM
 
นี่น้องเต๋าเต้ยเปลี่ยน "ปลายทาง" ของการเดินทางจาก "เจียงใหม่" เป็น "เจียงฮาย" ตั้งแต่เมื่อไหร่กันครับ... พี่พายุละอิจฉาน้องเต๋าเต้ยจริงๆเลย ที่แม่กี๋พาขึ้นเครื่องบินไปเที่ยวซะไกลน่ะครับ... พี่พายุน่ะอย่างเก่งก็แค่นั่งรถยนต์ไปฉีดวัคซีนที่ รพ. สัตว์เล็กที่จุฬาฯ... หรือไม่ก็นั่งเก้าอี้โซฟากับนั่งโต๊ะกระจกที่บ้านอาโกวเท่านั้นเองครับ


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Wednesday, 15 February 2006, 02:17PM
 

พี่พายุครับ..ภาพของพี่ภาพนี้ติสต์จังนะครับ เหมือนภาพในแกลลอรี่ แถมท่าที่โพสต์หน้าตานิ่งราวกับจับวาง ยิ่งดวงตาของพี่พายุเหมือนกำลังบอกอะไรบางอย่าง? ต้องยกนิ้วให้กับตากล้องส่วนตัวของพี่พายุนะครับ แม่กี๋เค้าชอบมากเลย....ขอบอก!!

ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Wednesday, 15 February 2006, 07:12PM
 

บ้านตากอากาศของเต๋าเต้ยเป็นบ้านกลางป่าแต่เป็นป่าปูนเพราะอยู่ในอำเภอเมืองเชียงใหม่ ด้านหลังเป็นโรงงานผลิตอาหารและหอพักคนงาน ด้านหน้าติดถนนใหญ่เป็นทั้งร้านค้าและที่พักอาศัย รอบๆบ้านล้อมรั้วคอนกรีตสูง ด้วยเหตุที่เป็นโรงงานผลิตอาหาร จึงไม่เคยนำสัตว์เลี้ยงทุกชนิดมาเลี้ยง จนคุณแม่ของแม่กี๋ที่ขอเรียกท่านว่าคุณยาย  อยากมีหมามาอยู่เป็นเพื่อนยามเหงา   เลยไปซื้อชิห์สุเพศผู้มาจากบ้านคนรักชิห์สุแห่งหนึ่งในจังหวัดลำพูน โดยแม่กี๋อยู่เบื้องหลังความคิดในการริเริ่มเลี้ยงหมาครั้งนี้ ดังนั้นคุณยายจึงรอให้แม่กี๋มาช่วยฝึกเรื่องการขับถ่ายในบ้านและตั้งชื่อให้ด้วย

                        แม่กี๋พาเต๋าเต้ยมาถึงบ้านดึกมากแล้ว เลยเอาล่ามโซ่ไว้ที่ราวบันไดบนบ้าน และปูกระดาษหนังสือพิมพ์ไว้ให้ ส่วนเจ้าชิห์สุอยู่ในกรงข้างบันได แต่มีผ้าคลุมไว้มิดชิดเพื่อกันยุง ได้ยินเสียงร้องเบาๆ แต่เต๋าเต้ยไม่ทันสังเกต ได้แต่ร้องเอะอะโวยวายเพราะแปลกที่แปลกทาง คืนนั้นได้ยินเสียงครวญครางระคนเสียงหอนตลอดทั้งคืน รุ่งขึ้นแม่กี๋ต้องพาไปแนะนำตัวให้รู้จักคนในบ้านเต๋าเต้ยเลือกเป็นมิตรกับลูกๆ หลานและเหล่าน้าป้าของแม่กี๋ ที่ต้องเห็นหน้ากันทุกวัน รวมทั้งแม่บ้านที่ได้รับมอบหมายให้เอาเต๋าเต้ยลงไปชั้นล่าง พร้อมเทนมและต้มไข่ให้กินวันละหนึ่งฟองทุกเช้า ส่วนเจ้าชิห์สุมีพี่เลี้ยงประจำตัวที่จะมาพาไปเช็ดตัว แปรงขนเดินเล่นแต่เช้า

                      การบ้านที่คุณยายให้แม่กี๋ตั้งชื่อชิห์สุ ทำให้ต้องคิดเรื่องชื่ออีกครั้ง แม่กี๋เลือกที่จะให้หมาตัวนี้เป็นปลาไปอีกตัว ช่วงนั้นกำลังฮิตกินปลาทูของอำเภอแม่กลองอันเลื่องชื่อ บ้านพี่อำเภอน้องที่เขตแดนใกล้ชิดติดกัน..สมุทรสาคร...สมุทรสงคราม เจ้าชิห์สุจึงได้ชื่อว่า "ปลาทู” ปลาทูอายุน้อยกว่าเต๋าเต้ยหนึ่งเดือนพอดี แต่กระดูกคนละเบอร์อย่างเห็นได้ชัด ปลาทูตัวเล็กมาก ขาสั้นเวลาเดินท้องแทบติดกับพื้น ส่วนเต๋าเต้ยตัวใหญ่ล่ำบึก ครั้งแรกที่พบกันเต๋าเต้ยปรี่เข้าหาใช้ขาหน้าตระปบปลาทูจนล้มลุกคลุกคลาน ใครจะรู้ว่าปลาทูเข่งเล็กจะฉุนสุดขีด กระโดดเข้าใส่ขู่เสียงดังลั่น ได้ผลเต๋าเต้ยชะงักถอยฉากหลบ ออกไปตั้งหลักทำหน้าทะเล้น แล้วกระโจนกลับเข้าไปยั่วอารมณ์เจ้าปลาทูเข่งเล็กใหม่ เป็นเสียงหยอกล้อที่ได้ยินทุกเช้าเย็น  ถ้าได้ยินเสียงกรี้ดของเต๋าเต้ยแสดงว่าเห็นปลาทู แต่ไม่มีใครปล่อยโซ่ให้ไปเล่นกัน ดังนั้นปลาทูจึงเป็นเพื่อนตัวแรกและตัวเดียวที่ถูกใจเต๋าเต้ยมากที่สุด ไม่เคยทำร้าย รังแก หงุดหงิดหรือขู่แม้นแต่ครั้งเดียว ปลาทูเสียอีกที่ขู่เอาจริงเอาจัง

                           เต๋าเต้ย  ท่าจีน กะ ปลาทู น้ำปิง กลายเป็นเพื่อนเล่นในวัยเด็กที่ถูกเลี้ยงคู่กัน พี่หล้าพี่เลี้ยงของปลาทูรับเต๋าเต้ยอยู่ในความดูแลอีกตัว  8โมงเช้าพี่หล้าจะมารับตัวปลาทูและปล่อยเต๋าเต้ยให้มาอยู่ด้วยกัน ทั้งคู่กินข้าวใกล้ๆกันและจะอร่อยมากถ้ากินชามเดียวกันหรือกินบนมือของพี่หล้า พออิ่มจะกอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน พี่หล้ามาฟ้องแม่กี๋ว่าเต๋าเต้ยอุ้มปลาทูแล้วโยนทิ้ง ท่าที่ดูเหมือนอุ้มคือเต๋าเต้ยใช้ขาหน้าทั้งสองข้างจับตัวปลาทู จนตัวลอยแล้วปล่อยลงพื้นอย่างไม่แยแส แบบนี้ใครบ้างจะไม่ฉุน หลังจากเล่นกันจนเบื่อก็แยกเข้ามุมส่วนตัว  ปลาทูถูกเลี้ยงไว้ในกรง เต๋าเต้ยถูกล่ามไว้ที่บันไดที่อยู่ระหว่าง ทางขึ้นบ้าน หน้าห้องครัว ทางเข้าห้องชั่งเครื่องฯ โรงจอดรถ และทางเข้าโรงงาน เป็นจุดยุทธ์ศาสตร์ที่คนงานต้องเดินผ่านตลอดทั้งวัน

                        เต๋าเต้ยเป็นหมาขาดอารมณ์ขันกับคนแปลกหน้า ดังนั้น แม้นคนงานชายหญิงจะพยายามทักทายทุกเช้า สาย บ่าย  เย็น  ก็ไม่มีใครเอาชนะใจของเต๋าเต้ย  แต่พวกเด็กคนงานก็ให้ความเอ็นดูและเห็นเป็นเรื่องขำ ตั้งสมญานามว่า “เจ้าตัวร้าย” บางคนมีขนมติดมือมาฝากหวังสานสัมพันธ์ แต่พอกินของเขาหมดก็เห่าต่อ เข้าข่ายรับสินบนแต่เบี้ยว แถมเบ่งกินฟรี แต่สำหรับ “ลุงพงศ์.” พนักงานงานประจำห้องชั่งเครื่องฯ แกต้องซื้อขนมมาฝากทุกเช้าก่อนเข้าห้องทำงาน เพราะเวลาเดินผ่านไปทำงาน เต๋าเต้ยยืนที่บันไดใกล้ระยะเผาขน  หน้าแกเฉียดจมูกเต๋าเต้ยแค่คืบเดียว ความพยายามของแกก็สำเร็จในวันหนึ่ง เมื่อเต๋าเต้าติดใจ... ข้าวเหนียวมูลหน้าสังขยา เต๋าเต้ยเปิดรับแกเข้ามานั่งในหัวใจ ด้วยการกระดิกหาง นั่งรอแกมาทำงานทุกเช้า ส่วนคนงานคนอื่นๆไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ เวลาเดินผ่านจะถูกทั้งเห่า แยกเขี้ยว ขู่ทุกอิริยาบถที่มีคำจำกัดความว่าน่ากลัว   จนทุกคนสารภาพกับแม่กี๋ว่าผมกลัวเต๋าเต้ย .....แต้ๆ คร้าบ. .แต้ๆ เจ้า..


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Wednesday, 15 February 2006, 07:17PM
 

ปลาทูไม่ชอบถ่ายรูป พอเห็นกล้องก็วิ่งหนี กลัวแสงแม่กี๋ว่า เพราะตาโตเลยรับแสงเข้าตาเต็มๆ


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Thursday, 16 February 2006, 03:45PM
 

เรื่องอาหารการกินมีเพิ่มเติมจากที่มหาชัย คือแม่กี๋ให้เต๋าเต้ยกินไข่ต้มยางมะตูม ที่ไข่แดงจะต้มไม่สุกกับนมสดกล่องชนิดจืดตอนเช้ามืด เรียกว่ามื้อรุ่งอรุณ เมนูนี้แม่กี๋เคยใช้เลี้ยงลูกตัวเอง ลูกๆอ้วนแข็งแรงสมบรูณ์  แต่ที่จริงแล้วทั้งสองอย่างเป็นอาหารที่พึงระวังในการใช้เลี้ยงสุนัข  ไข่ดิบทำให้หมาผิวแห้งเป็นขุยและขนร่วง เพราะในไข่ดิบมีสาร “อะวิดิน” เมื่อเข้าไปสู่ร่างกายสุนัข จะไปไล่จับยักยอกวิตามิน ชื่อ “ไบโอติน”เก็บกักไว้ ทำให้สุนัขขาดสารไบโอติน วิธีที่ถูกต้องคือต้องต้มให้สุกเสียก่อน จะได้โปรตีนจากไข่ปลอดภัยไร้ไข้หวัดนกอีกด้วย   สำหรับนมวัวควรเป็นนมที่ไม่มีแลคโตส เพราะสุนัขส่วนใหญ่ไม่มีเอนไซม์สำหรับย่อยน้ำตาลในนมหรือแลคโตสนั่นเอง หากลูกกินแล้วท้องเสียและอาเจียน ก็ไม่ควรให้กินนมอีก คงเป็นทั้งโชคดีของแม่กี๋และความแข็งแรงของเจ้าบางแก้วน้อย   เต๋าเต้ยเปิบมื้อรุ่งอรุณหมดเกลี้ยงปราศจากผลข้างเคียง สุขภาพดี ดวงตาสดใส ร่าเริง ฉลาดเต็มวัย

 อย่างไรก็ตามแม่กี๋ก็ได้ข้อคิดจากเรื่องนี้  วิธีการเลี้ยงดูลูกคนไม่ควรนำไปปนกับการเลี้ยงลูกสุนัข ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะอาหารบางอย่างเป็นประโยชน์ต่อคน แต่กลับมีผลตรงข้ามต่อร่างกายและอวัยวะภายในของสุนัข ส่งผลอันตรายถึงชีวิต  ไม่ควรจะเอาชีวิตลูกไปเสี่ยงภัย อย่างที่แม่กี๋ทำผิดพลาดมาแล้ว  แม่กี๋จึงขอกล่าวถึงอาหารเหล่านั้นอีกเล็กน้อย เพื่อแบ่งปันเกร็ดความรู้เล่าสู่กัน

    ช๊อกโกแลตนม.. รสหวานมันที่ไม่ใช่ขนมหวานของหมา มันมีผลต่อหัวใจสุนัข ทำให้เต้นเร็ว  ผิดจังหวะ จนกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด มีหมาลาโลกเพราะกินช๊อกโกแลตเพียงไม่กี่กรัม ดังนั้นอย่าเผลอให้นมช๊อกโกแลต  เค็กช๊อกโกแลตในปริมาณมาก หรือใจดียื่นช๊อกโกแลตนมให้ลูกสุนัข ยิ่งอายุน้อยยิ่งมีผลร้ายแรง  ตับ... อาหารยอดฮิต ที่หาง่ายทั้ง ต้ม ปิ้ง ย่าง ในร้านและรถเข็นขายส้มตำริมทาง แม้นแต่อาหารสุนัขตามท้องตลาดยังต้องผลิตรสตับเพื่อเอาใจลูกค้าสุนัข  แต่ตับกลับมีผลต่อกระดูก สาเหตุของโรคกระดูกบางและกระดูกหักง่าย  จึงไม่ควรให้กินทุกวัน ถ้าจะให้กินตับก็ควรเพิ่มแคลเซียมเสริม  ยังมีอาหารต้องห้ามสำหรับหมาอีกหลายอย่างที่แม่กี๋อ่านพบในหนังสือ อย่างเช่น อาหารแมว อาหารทารกหรืออาหารที่มีส่วนผสมของหัวหอม  เห็ดบางชนิด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่  ก้างปลาและกระดูก ปลาดิบ เนย องุ่นและลูกเกด วิตามินของคน ฯลฯ การศึกษาจากตำราและผู้รู้ เป็นแนวทางที่ถูกต้อง ในการเก็บเกี่ยวความรู้ สามารถนำมาใช้เลี้ยงลูกให้ถูกทาง

เต๋าเต้ยเลี้ยงง่าย กินทุกอย่างที่ขวางหน้า แม้นกระทั่งข้าวเหนียวเปล่าๆก็กินอย่างเอร็ดอร่อย  เป็น “ หมาน้อยลูกข้าวเหนียวนึ่ง” บางวันแม่กี๋อบขนมปังทาเนยเล็กน้อยและหั่นไส้กรอกวางไว้ตรงกลาง แทนไส้กรอกชุบแป้งทอดของว่างที่เคยกินที่มหาชัย หรือข้าวเหนียวหมูปิ้งวางเป็นคำๆ  กินจุมาก  จนกล้ามโตล่ำสันขึ้นทุกวัน และถูกเปลี่ยนสมญานามให้ใหม่จาก...เจ้าตัวร้าย กลายเป็น....เจ้าอ้วนตัวร้าย  ส่วนปลาทูเป็นหมามังสวิรัติ คุณยายไม่ให้กินเนื้อสัตว์ทุกชนิด ให้อาหารเม็ดชนิดฟรี่เมี่ยม  คุณยายบอกว่าไม่อยากให้เป็นพยาธิและง่ายต่อการให้อาหาร ของว่างที่ซื้อติดบ้านเป็นแพ็คคือ เค็กเนยของร้าน S&P และแก้วมังกรแช่งเย็นของโปรดที่สุดในโลกของปลาทู

เรื่องการขับถ่ายเป็นนโยบายของคุณยายที่ห้ามหมาฉี่อึภายในบริเวณโรงงานโดยเด็ดขาด แม่กี๋ให้พี่หล้าดูแลปลาทู สอนบทเรียนแบบที่เคยทำกับเต๋าเต้ย  ปลาทูและเต๋าเต้ยจึงมีส้วมส่วนตัวเป็นถาดปูกระดาษหนังสือพิมพ์  ปลาทูฉี่อึในกรงบ้างแต่ถ้าออกนอกกรง จะจูงไปฉี่ที่ถาดตรงจุดเดิมทุกวัน  เต๋าเต้ยเป็นนักเรียนรุ่นพี่จึงทำได้ดีไร้ที่ติ  แต่แล้วเต๋าเต้ยก็สอบตกเพราะตัวโตล้นถาด เต๋าเต้ยฉี่ทีน้ำนองถาดวิ่งหนีออกมาแทบไม่ทัน ส่วนการอึก็อีกนั่นแหละ!! ตัวเข้าไปยืนโก่งโค้งอย่างดี กระสุนดันหลุดเป้าออกไปอยู่นอกถาด ตอนแรกแม่กี๋โกรธมากโวยวายไร้สติ  ต่อมาพอมานั่งคำนวณพิกัดและวิถีกระสุนแล้ว มันเป็นเหตุสุดวิสัย และแม่กี๋ก็ได้เห็นกับตาว่าเต๋าเต้ยไมได้ขัดคำสั่งแม่กี๋เลย เต๋าเต้ยยืนปฏิบัติกิจอยู่ในถาดเสมอ แต่บั้นท้ายดันโผล่ออกไปนอกขอบ  แม่กี๋ต้องกล่าวคำขอโทษทั้งน้ำตาเชียวนะงานนี้..ทั้งสงสารทั้งขำเจ้าอ้วนตัวร้าย.

บทเรียนที่แม่กี๋เอาไปฝากปลาทูอีกเรื่องหนึ่งคือ การนั่งสองขา ที่แม่กี๋ฝังความคิดไว้ในสมองหมาว่าท่านี้คือ  การไหว้  และท่านี้แหละที่สอนให้หมารู้ว่า นั่งท่านี้เมื่อไรได้หม่ำของอร่อย  กลายเป็นหมาขี้ขอไปแล้วหลายตัว เคล็ดลับการฝึกนี้แม่กี๋ใช้มานมนาน  ตั้งแต่สมัยที่เลี้ยงหมาในวัยเด็ก  หมาในบ้านสามสี่ตัวต้องนั่งไหว้สองขาให้เป็น มิเช่นนั้นอดกินของอร่อยเหมือนเพื่อนๆพี่ๆ บางตัวนั่งไหว้ใกล้ชิด คอยสะกิดที่ขากลัวมองไม่เห็น ส่วนอีกสามตัวกระจายกำลังกันนั่งไหว้ เป็นระยะๆจนถึงหน้าประตูห้อง

 อาวุธที่ใช้หลอกฝึกได้ผลมาตลอดคือ ปลาหมึกเต่าทอง  หมากี่รุ่นของแม่กี๋ติดใจกลิ่นและรสของเจ้าหมึกในถุงชื่อนี้จริงๆ  เริ่มจากการให้ชิม พอติดใจรอให้ลูกหมานั่งลง ยื่นปลาหมึกเส้น ไว้ที่ตำแหน่งเหนือปากจมูกเล็กน้อย อย่าห่างมากจะทำให้หมายืนงับกินง่ายๆ เสียรูปการฝึกหมด ลูกหมาพอเห็นของกินลอยเด่นอยู่แค่จมูก จะยกตัวและขาทั้งสองข้าง พยายามยื่นปากงับ ต้องถือปลาหมึกให้แน่นๆ เท่านี้ลูกหมาก็จะทรงตัวในท่านั่ง  ฝึกทุกวันถ้าเห็นนั่งได้เองแม้นจะเพียงหนึ่งวินาที ให้รีบชมเชยและให้รางวัลชิ้นโต แม่กี๋ให้พี่หล้าพี่เลี้ยงเป็นครูฝึก แม้นจะมือใหม่ไม่เคยทำมาก่อน ไม่กี่วันปลาทูก็นั่งไหว้ได้สำเร็จ “สวัสดีครับ”แข่งกับนักเรียนรุ่นพี่เต๋าเต้ย ที่จบหลักสูตรการไหว้ตั้งแต่อยู่ที่มหาชัย ก่อนท่านใดจะนำไปใช้ฝึกลูกๆ ต้องขอเรียนให้ทราบก่อนว่า การฝึกของแม่กี๋เป็นแบบมวยวัด ไม่ใช่วิธีการฝึกที่ถูกต้องตามตำราครูฝึกมืออาชีพวัตถุประสงค์เพื่อความบันเทิงภายในบ้าน หากแต่ไม่สงวนลิขสิทธิ์ไม่ผิดกฎหมาย ไม่จำ ไม่ปรับ หากจะนำไปใช้เพื่อความบันเทิงสืบต่อไป


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย ยศชัย ชัยพรหมมา - Thursday, 16 February 2006, 04:05PM
 

คุณกี๋ อยู่ตัวเมืองเชียงใหม่แถวไหนครับ ผมจาวเจียงใหม่ หากมีโอกาสอยากไปเยี่ยมเต๋าเต้ยบ้าง แล้วเลยขอความรู้ด้วย

ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Thursday, 16 February 2006, 05:29PM
 

สวัสดีค่ะ..เป็นครั้งที่สองของวันนี้ หวังว่าคุณยศชัยจะได่อ่าน ที่แม่กี๋เข้าไปให้กำลังใจน้องฟ้ามุ่ยแล้วนะคะ ขอตอบว่าเป็นหมู่เฮาจาวเหนือมาแต่กำเนิด บ้านที่เขียนบรรยายในเรื่องอยู่แถวสันป่าข่อย ใกล้สถานีรถไฟ แต่ขณะนี้แม่กี๋ เต๋าเต้ยและหัวโตใช้ชีวิตอยู่ที่ อำเภอท่ายาง เมืองเพชรฯ เพราะเมื่อยี่สิบปีก่อนได้สมัครเข้าชมรมผีตองเหลือง ย้ายถิ่นฐานตามพ่อจ๋าไปหลายจังหวัด กลับไปเยี่ยมคุณยายและลูกๆบ้างเป็นครั้งคราวค่ะ

ขอบคุณนะคะ..ที่อยากมาเยี่ยมเต๋าเต้ย ช้าไปแล้วล่ะ!!! อีกไม่กี่ตอนเต๋าเต้ย ก็จะเหินฟ้ากลับสู่ถิ่นเก่าบ้านเกิด..มหาชัยแร้วว.....

วันนี้น้องฟ้ามุ่ยเป็นอย่างไรบ้าง อย่าลืมส่งข่าวความคืบหน้าด้วยนะค้า..อ้อ..ชอบชื่อ "ฟ้ามุ่ย" จังเลย ไม่ได้ยินใครพูดถึงชื่อนี้มานานแล้ว

ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย ยศชัย ชัยพรหมมา - Friday, 17 February 2006, 09:42AM
 

ชื่อของสุนัขนี่เป็นอะไรที่คิดหนักมากเหมือนกันนะครับยิ่งตั้งใจยิ่งยากวนเวียนอยู่ในสมองเป็น10ๆ ชื่อ
ผมเองหลงเสน่ห์ของดอกกล้วยไม้มาก คงพอๆกับสุนัขบางแก้ว ก็เลยเอาชื่อตามกล้วยไม้เลย ก็เลยได้ชื่อฟ้ามุ่ย
เต๋าเต้ยนั่งไหว้ เห็นรูปตั้งแต่กระทู้อื่นประทับใจมากครับเลยพยายามลองฝึกฟ้ามุ่ยพอมาเห็นกระทู้รักลูกให้ถูกทางวันที่ 3/2/49 ยิ่งตอกย้ำความตั้งใจ ก็ยังไม่สำเร็จ ฝึกได้แต่สั่งให้นั่ง  ฟ้ามุ่ยสมาธิสั่นมากยิ่งมีไมโลเป็นเพื่อนเดี่ยวเดียวก็ไปวิ่งเล่นแล้ว
พอได้อ่านกระทู้ รักลูกให้ถูกทาง วันที่16/2/49 ก็เลยได้เคล็ดเพิ่มเติมมา บางทีเรื่องเล็กๆน้อยๆที่เรามองข้ามก็อาจเป็นจุดเปลี่ยนได้ ขอบคุณ คุณกี๋ที่ช่วยไขปัญหาคาใจ หากฟ้ามุ่ยหายดีแล้วจะเริ่มฝึกไหว้อีกทีหากสำเร็จจะฝากรูปฟ้ามุ่ยมาไหว้ฝากตัวเป็นลูกแม่กี๋อีกตัวนะครับ อีกอย่างที่ผมได้ฟ้ามุ่ยมาเลี้ยงก็มาจากคำแนะนำของคุณกี๋ในเว็บบอร์ดครับ
ส่วนเรื่องอาการป่วยเริ่มดีขึ้นแล้วครับส่วนรายละเอียดจะเล่าในกระทู้ โรคลำใส้ฯ อีกทีนะครับ

ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Friday, 17 February 2006, 10:56AM
 

คุณยศชัยคะ...ดูเหมือนทิศทางเรื่องการตั้งชื่อลูกของจาวเหนือจะคล้ายกัน แม่กี๋ว่าบางท่านอาจไม่เคยเห็นดอกฟ้ามุ่ย พอๆกับปลาเต๋าเต้ย ถ้ามีรูปดอกงามๆ ขอตามมาโพสต์อวดให้ท่านสมาชิกได้ชมดอกเอื้องเหนือ..คู่กับน้องฟ้ามุ่ย..บางแก้วดีมั๊ยคะ

นักเรียนฟ้ามุ่ยกำลังจะลงทะเบียนเรียนวิชา..การไหว้ รุ่นพี่เต๋าเต้ยจะส่งใจไปเชียร์ เด็กบางแก้วก็ซน สมาชิกสั้นแบบนี้แหละค่ะ แม่กี๋ว่าว่าถ้าเด็กๆที่กระตือรือร้น สอนง่ายกว่าเด็กซึมเศร้าเอาแต่นอนนะ ไม่ต้องรอจบหลักสูตรดอกค่ะ แม่กี๋ยินดีรับดอกเอื้องดอยช่อนี้เป็นลูกแม่กี๋อีกหลายๆตัวเลย เต๋าเต้ยเป็นหนุ่มนาเกลือ...แล้วน้องฟ้ามุ่ยเป็นสาวนาข้าวได้ป่าว?


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย ยศชัย ชัยพรหมมา - Friday, 17 February 2006, 11:34AM
 

สวยไหมคะ


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Friday, 17 February 2006, 01:24PM
 

อุ้ย..อุ้ยๆ  น่ารักมากๆ สวยมั่กๆๆ ทั้งน้องฟ้ามุ่ยและดอกฟ้ามุ่ย..ยกให้ทั้งสิบนิ้วเลย สำหรับคุณพ่อคนเก่ง...เจ้าของรูปดอกเอื้องดอย...ทั้งสองช่องาม

แม่กี๋ฝากเรียนแฟนจ๋า..ว่าจะลากระทู้นี้ ไปเปิดท้ายขายปลาเต๋าเต้ย..ที่กระทู้ใหม่ เพราะตลาดนัดแห่งนี้ชักแออัด กว่าจะเดินมาถึงท้ายตลาด เดินนานจนเมื่อยน่อง เดี๋ยวปลาเต๋าเต้ยจะไม่สด หมดอร่อย.. แล้วพบกันนะคะ...บ๊าย..บาย


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย น้ำมนต์ วงศ์มินตรา - Friday, 17 February 2006, 01:50PM
 
บ่าว-สาวเจียงใหม่ อู้เล่นกั๋นส๋องคนม่วนแต้เนอ... สุมาเต๊อะเจ้า... ข้าเจ้าบ่ใจ้สาวเจียงใหม่ ก๊ะว่าจะขอมาอู้เล่นโตยคน จะได้ก่อเจ้า

ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย ยศชัย ชัยพรหมมา - Friday, 17 February 2006, 02:16PM
 

ยินดีจ๊าตนัก ปี่น้ำมนต์คน(สุนัข)เก่ง แข๊งแฮงอดทน จ๋นผ่านป๋นโรคฮ๊าย หัดบ่ดีบ่ก้ำบ่ก๋าย เป๋นขวัญใจ๋ของหมู่เฮาต่อไปแฮ๋มเมินๆเน่อออออ..... ขอมอบดอกเอื้องฟ้ามุ่ยจ้องามจ้อนี้อื้อปี่น้ำน้ำมนต์คน(สุนัข)งาม ยินดีจ๊าดนักกกกก.....

เอ..บ่ใจ้สาวเจียงใหม่ จะไดอู้เมืองเก่งแต้ๆ กะว่าอยู่ตางภาคเหนือ


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Friday, 17 February 2006, 02:26PM
 
ได้ก่าเจ้าน้องน้ำมนต์...สาวหน้อยร้อยชั่ง  ใส่เสื้อสายเดี่ยวโพกผ้าพันคองามล้ำ ทำหน้าเอียงอายชายตามอง เสียดายอาโกวเปิ้นหวง อ้ายบ่าวคนดัง..พี่พายุเปิ้นก่อน่าเกรงขาม บ่าวหน้อยบ่าวใหญ่เลยอดเข้าไปจ่วยเจ๊ดขั้นไดบ้าน วันใดไฟเขียวแม่กี๋จะโตยไปบ้าน สู่ขอมาเป๋นลูก สะ..ไป้เน้อเจ้า
ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย จิตรใส สิระชัยนันท์ - Friday, 17 February 2006, 02:38PM
 

อ่านแล้วสนุกจังเลยครับแม่กี๋  แม่ผมเค้าอ่านจนงานการไม่เป็นอันทำ

เจ้านายจะเชิญออกไปนั่งอ่านที่บ้านแล้วอ่ะครับ  ผมอิจฉาน้องเต๋าเต้ย

จังเลยได้นั่งเครื่องไปถึงเมืองเจียงใหม่ปู๊น  ผมน่ะได้ก็แค่โดนคุณแม่หลอก

นั่งรถไปโดน จึกๆ แค่นั้นแหละ (เอ! เหมือนใครบางคนเลยแฮะ อิอิ ขำที่ถูกหลอกเหมือนกัน)

ผมกะแม่จะรออ่านเรื่องของน้องนะครับ  แล้วผมจะมีโอกาสเห็น

น้องเต๋าเต้ยกะปลาเต๋าเต้ยมั๊ยเนี่ย  แก้มแดง (ฝากไปให้กิ๊กเก่าข้างบนครับ)

 


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย ยศชัย ชัยพรหมมา - Saturday, 18 February 2006, 10:12AM
 

เมนูอร่อย ฝีมือกุ๊กเมืองเหนือ ปลาเต๋าเต้ย(โค..ตา..ระ..จาละเม็ด)นึ่งบ๋วย


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Saturday, 18 February 2006, 11:16AM
 
โอ้ย..ฮูปนี้เจ็บแต้ๆ จับเหล่าน้องหมาบางแก้ว มาร่วมงานปาร์ตี้กันได้ สามัคคีกันดีไม่ทะเลาะกันเลยฮิ แบบนี้ต้องขอใส่กล่องกลับบ้านอีกหนึ่งที่ คิดตังค์ที่พี่พายุ จะเอาไปวางไว้บนหน้าจอคอมฯของแม่กี๋นะ จะได้เขียนไปขำไป ดูน้องหนูอู้กั๋น ม่วนอกม่วนใจ๋เจ้า
ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย น้ำมนต์ วงศ์มินตรา - Saturday, 18 February 2006, 09:12PM
 
ปล๋าเต๋าเต้ยนึ่งบ๊วยฝีมือป้อ(อุ๊ย)ของอี่น้องฟ้ามุ่ย หยังมาลำแต้ลำว่า... ไผเป๋นกุ๊ก คนนั้นตึงต้องเป๋นคนจ่ายซะตังค์... ปี้พายุเปิ้นว่าปี้พายุกั๊บน้องน้ำมนต์ได้ฮับเชิญมากิ๋น... เฮาก่ะมีหน้าที่กิ๋นอย่างเดียวเจ้า... เรี่ยงจ่ายซะตังค์ ปี้พายุเปิ้นว่าเปิ้นบ่ฮู้บ่หันอะหยังตึงนั้นเจ้า... ถ้าไผกิ๋นปล๋าเต้าเต้ยนึ่งบ๊วยยังบ่อิ่ม ปี้พายุเปิ้นข๋อเชิญหื้อไปแท๊ะกระดูกต่อตี้บ้านเปิ้นเจ้า

ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย จิตรใส สิระชัยนันท์ - Saturday, 18 February 2006, 09:19PM
 

แม่>>  ตังจ๋าแม่มารับแล้วลูก  กลับบ้านกันนะ  หนีแม่มาปาร์ตี้ถึงเจียงใหม่เชียวนะ

ตัง>>  ม่ายเอาม่ายกลับ  กะลังหย่อยๆ เลยกั๊บ  สาวๆ น่ารักๆ เต็มไปหมด

แม่>>  เดี๋ยวแม่กลับไปทำให้ทานก็ได้

ตัง>>  ม่ายเอาป๋มว่าฝีมือแม่คงอร่อยสู้คุณพ่อน้องฟ้ามุ่ยม๊ะได้หร๊อก

แม่>>  เอาเข้าปายเจ้าตัง  แล้วที่ทำให้รับทานทู๊กวันนี้น่ะไม่อร่อยใช่ม๊ย

ตัง>>   อร่อยครับแต่มันซ้ำๆ ซากๆ  อีกอย่างผมต้องหม่ำคนเดียว  ที่นี่มีเพื่อนๆ เยอะแยะปายโหม๊ด

แม่>>   งั้นขออนุญาตคุณกุ๊กเมืองเหนือ save  ปลาเต๋าเต้ย(โค..ตา..ระ..จาละเม็ด)นึ่งบ๋วย กลับไปหม่ำที่บ้านด้วยนะคะ 

ตัง>>   กลับบ้านก่อนนะเพื่อนๆ ถ้ามีปาร์ตี้ที่ไหนอีก  อย่าลืมกริ้ง...กริ้งไปตามผมด้วยนะครับ  ตัวตลก

      ทามมายพี่พายุต้องมานั่งขวางน้องน้ำมนต์ด้วยนะ  ช่างคิด

ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย king f. - Sunday, 19 February 2006, 02:15PM
 
สวัสดีค่ะแม่กี๋ แม่ฟูฟูชอบอ่านเรื่องของเต๋าเต้ยมาตั้งนานแล้ว แต่ยังไม่ได้โพลตสักที ชอบเต๋าเต้ยมากเลย ให้ฟูฟูหม่ำปลาเต๋าเต้ย(โค..ตา..ระ..จาละเม็ด)นึ่งบ๋วย ตวยคน(ตัว)เจ้า
ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Sunday, 19 February 2006, 07:12PM
 

คุณแม่ฟูฟูเจ้า น้องฟูฟูนอนน่ารักน่าชัง เหมือนขนมถ้วยฟู ดูเร้าใจน่าหม่ำเน๊อะ...เต๋าเต้ยไม่เคยนอนท่านี้เลย เพราะกลัวแม่กี๋เอาพุงกะทิไปเจี๋ยนน้ำมันหอยลอยฟ้า แม่กี๋กำลังปั่นต้นฉบับรักลูกให้ถูกทาง ภาคต่อ สำหรับคุณแม่ๆคุณพ่อๆที่ชอบอ่านนะคะ ในเรื่องเต๋าเต้ยเพิ่งอายุสามเดือนเศษๆ ตอนนี้สองขวบสามเดือนแล้วค่ะ แม่กี๋ยังมีเรื่องโม้ให้ฟังอีกหลายนาเจ้า โปรดใจเย็นรอแม่กี๋อีกนิด อย่างช้าพรุ่งนี้เช้าแม่กี๋จะมีเรื่องให้อ่านกันต่อเน๊อะ..เจ้า..เน๊อะ


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย ยศชัย ชัยพรหมมา - Monday, 20 February 2006, 01:32PM
 

ม่ายเอาม่ายกลับ  สาวๆ น่ารักๆ เต็มไปหมด

ต้องขอยืมพื้นที่กระทู้ของคุณกี๋ อีกครั้ง เพื่อมาเปิดเผยความจริงของหนุ่มนักรักที่หลังจากจบปาร์ตี้แล้วไม่ยอมกลับบ้านจนแม่ต้องมาตาม จะจริงเท็จอย่างไร ปาปาราซซซซ...ซี่ ฅ.สร้างภาพเราได้เก็บหลักฐานเป็นรูปภาพมานำเสนอแก่สาธารณชนได้รับรู้กัน

ขอบคุณ ดาราน้องหมา(จำเป็น)ทุกตัว ที่เข้าร่วมเป็นแบบให้ คอลัมท์ ของ ฅ.สร้างภาพ


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Monday, 6 February 2006, 05:15PM
 

หน้าตาแบบนี้หรือเปล่า โอเว่นเอ๋ย...ถ้าใช่ปล่อยให้ไปล้างตากับพวกเดียวกันเต๊อะ


ตอบ: รักลูกให้ถูกทาง....เกล็ดความรู้เรื่องลูกรัก
โดย กี๋ ปากอ่าว - Monday, 6 February 2006, 05:21PM
 
ถึงพ่อเจ้าไปร์ท เมื่อวันอาทิตย์แม่กี๋ แห่งท่ายาง ก็ได้เห็นเรือลอยลำของปู่เย็น จากบนสะพานข้ามแม่น้ำเพชรบุรี กำลังเทียบอยู่ริมตลิ่ง แต่มองไม่เห็นปู่นะคะ..ปู่นั่งอยู่นี่เอง..

Click to enter http://www.bangkaew.com/elearning3

Bangkaew.net and Bangkaew.org are for sale
See details at https://sedo.com/search/?keyword=bangkaew