ผู้เลี้ยงตามบ้านและผู้เพาะพันธุ์ ควรมีจุดยืนร่วมกัน และมีมุมมองไปในทิศทางเดียวกัน ในเรื่อง การอนุรักษ์และพัฒนาคุณภาพชีวิตของสุนัขสายพันธุ์ที่ตนรัก แต่ละฝ่าย ควรมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับหน้าที่ความรับผิดชอบของตนเอง และทำหน้าที่นั้นๆให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ปัญหาทุกอย่างก็จะลดลง เช่น **ผู้เลี้ยงสุนัข ตามบ้าน ก็พยายามศึกษาหาความรู้ในเรื่องของการเลี้ยง การดูแล รับผิดชอบต่อคุณภาพชีวิตให้กับ สุนัขของตนเองที่มีอยู่แล้ว ให้ดีที่สุดอย่างเสมอต้นเสมอปลาย และรับผิดชอบการฝึกสอน , ปรับพฤติกรรมสุนัขของตนเอง ให้เป็นพลเมืองสุนัขที่ดี ไม่ก่อปัญหาแก่สังคม ทั้งในและนอกบ้าน ผู้เลี้ยง ไม่ควรทำหน้าที่เป็น ผู้เพาะพันธุ์เสียเอง การที่จะเป็นผู้เพาะพันธุ์ที่ดีได้ ต้องมีความรู้อย่างลึกซึ้งพอสมควร เพราะการเพาะพันธุ์สัตว์มีชีวิต ไม่เหมือนการผลิตสินค้า ที่แค่ทำตามข้อกำหนดวิธีการผลิต ก็จะได้สินค้าออกมาตามต้องการ และหากผลผลิตออกมาไม่เป็นไปตามต้องการ ผู้เพาะพันธุ์ก็มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่อชีวิตที่เกิดมานั้นด้วย **ผู้เพาะพันธุ์ ตามคอกฟาร์มต่างๆ ก็ศึกษาหาความรู้พื้นฐานด้านพันธุกรรมศาสตร์โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับสุนัขพันธุ์ที่ตนเองเพาะเลี้ยง ทั้งในเรื่องรูปร่างลักษณะ นิสัยใจคอ อารมณ์ จิตใจ มีการจัดการสภาพในคอกเพาะเลี้ยงให้เหมาะสม มีการเก็บข้อมูลประวัติสายพันธุ์ สุนัขของตัวเอง ที่สามารถนำมาใช้พิจารณาประกอบการจับคู่ผสมพันธุ์ให้เหมาะสม เพื่อสืบสายพันธุ์ และเพาะเลี้ยงลูกสุนัขให้ออกมาอย่างมีคุณภาพดีที่สุด ซึ่งเป็นที่เข้าใจกันดีว่า แม้จะมีการคัดเลือกคู่ผสมอย่างระมัดระวังเพียงใด ก็ยังมีโอกาสที่ลูกสุนัขบางตัวในบางครอกจะได้รับยีนด้อยแฝงในสายเลือด ปรากฏออกมาได้ มีผู้เพาะพันธุ์หลายท่าน ที่มีคุณสมบัติผู้เพาะพันธุ์ที่ดีเยี่ยม ซึ่งต้องขอยกย่องท่านไว้ ณที่นี้ แต่ยังมีผู้ที่อยากผสมพันธุ์สุนัข เพียงเพราะอยากได้ลูกสุนัขน่ารักๆไปขาย หรือแจกจ่ายญาติสนิท มิตรสหาย และบรรดา ผู้ไม่รู้แต่อยากเลี้ยง ซึ่งมีอยู่มากมายในสังคมนี้ นี่เองเป็นที่มาของ ปัญหาสุนัขถูกทอดทิ้ง ถูกทารุณกรรม ถูกนำไปปล่อย ฯลฯ ดังที่พบเห็นเป็นประจำวันตามเวบต่างๆรวมถึงเวบบางแก้วนี้เอง เสนอความคิดเห็นมาด้วยปรารถนาดีต่อสุนัขล้วนๆ |