เรื่องการเป็นสัดของหมาตัวผู้ ถ้าไม่มีหมาตัวเมียที่เป็นสัดระยะพร้อมผสมอยู่ด้วยในบ้านเดียวกัน หรือไม่ได้กลิ่นหมาตัวเมียที่เป็นสัด ก็ไม่มีปัญหาต่อการดำรงชีวิตตามปกติแต่อย่างใด ไม่มีอะไรต้องกังวล การที่ หมา(ทั้งตัวผู้และตัวเมีย) ทำท่าเหมือนขึ้นคร่อมหมาตัวอื่น (ทั้งตัวผู้หรือตัวเมีย) หรือขึ้นคร่อมขาของคน หรือแม้แต่ข้าวของบางอย่างนั้น บางครั้ง ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ เรื่องการเป็นสัด เสมอไป อาการแบบนี้ เป็นหนึ่งในพฤติกรรมหลายๆอย่าง เพื่อแสดงความเป็นจ่าฝูง และจ่าฝูงไม่จำเป็นต้องเป็นตัวผู้เสมอไป ในฝูงหมาป่า จะมีทั้ง Alpha Male และ Alpha Female หมาที่จะเป็นจ่าฝูง จะมีพฤติกรรมบ่งบอกความเป็นจ่าฝูงมาตั้งแต่เกิด(in-born) พ่อ-แม่หมา มักจะคอยดูแลและสนับสนุนลูกตัวนี้เพื่อดำรงฝูงสืบเผ่าพันธุ์ต่อไป
เมื่อยังอายุน้อย ตัวหมาเองก็ยังไม่ถือเป็นเรื่องจริงจังเท่าไหร่นัก เป็นการเล่นตามประสาเด็ก แต่เมื่อหมาย่างเข้าวัยรุ่น ประมาณ 7-8 เดือนขึ้นไป อันเป็นระยะสับสนและแสวงหา(ลำดับชั้นของตัวเองในฝูง) เขาก็จะเริ่มจริงจังกับ ความหมายที่แท้จริงของพฤติกรรมจ่าฝูงนี้ มากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไม่มีใครมาทำให้เขาเข้าใจเป็นอื่น เขาก็จะเติบโตเป็นหมาใหญ่ ที่(มั่นใจว่าตัวเอง)เป็นจ่าฝูงสืบต่อไป ในหมาป่า พ่อ-แม่จะสนับสนุนให้ลูก(ตัวที่มีพฤติกรรมบ่งบอกมาตั้งแต่เกิด)เติบโตขึ้นมาอย่างจ่าฝูง เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำรงเผ่าพันธุ์ แต่ถ้าเป็นหมาที่เลี้ยงไว้ในบ้าน ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของว่า จะเลี้ยงดูเขาแบบไหน หมาที่ไม่ได้มีความเป็นจ่าฝูงฝังในสายเลือดมาตั้งแต่เกิด การทำท่าทางแบบนั้น ก็อาจเป็นเพียงการแสดงออกสนุกสนานไปตามประสาหมาอารมณ์ดีเท่านั้นเอง ------------------------------------------------------------------------------------------- การทำหมันหมาตัวเมีย ถ้าเอามดลูกออกไปเลย ก็จะไม่มีเลือดอีก หมาจะลดความเสี่ยงจากมดลูกอักเสบด้วย การเอาหมาเข้ากรง มีวิธีง่ายๆหลายวิธี เริ่มด้วย การสร้างทัศนคติทางบวก(ที่มีต่อกรง)ให้หมา คือ ทำให้กรง เป็นที่ๆน่าอยู่สำหรับหมา ให้ได้เสียก่อน เช่น จัดบริเวณกรงให้น่าอยู่ อากาศถ่ายเทได้ดี , ขนาดของกรงเหมาะสมกับตัวหมา(ควรยืนได้เต็มตัวและหมุนกลับตัวได้สบายๆ) , จัดกิจกรรมดีๆ เช่นให้กินขนมในกรง , กินอาหารในกรง , นอนให้เจ้าของเกาพุงในกรง , มีของดีๆที่ชอบแทะเล่นในกรง ฯลฯ ถ้ากรงใหญ่พอ บางครั้งเจ้าของอาจจะเข้าไปนั่งเล่นกับเขาในกรงแล้วงับประตูกรงไว้ ถ้าเขาอยู่ตัวเดียวก็ไม่ต้องปิดประตูกรง ให้หมาเห็นว่า กรงก็เป็นที่เขาจะทำกิจกรรมสนุกๆกับเจ้าของได้ เหมือนกับที่อื่นๆในบ้านนั่นเอง ถ้าจัดกรงเขาได้น่าอยู่พอ แสดงว่าเจ้าของรู้จักหมาดีพอ ไม่นานเขาจะเริ่มรู้สึกสบายใจสบายตัว ที่ได้อยู่ในกรง หมาส่วนมาก ถ้ามีกรงที่ถูกใจ จะแทบไม่อยากออกมาจากกรงด้วยซ้ำไป แรกๆ ควรยกกรงเข้าไปไว้ในบ้าน ถ้าหมาเห่าหอน จะได้กรองเสียงไปได้ส่วนหนึ่ง ข้อควรระวังที่สำคัญคือ *อย่าปล่อยหมาออกจากกรงตอนที่หมากำลังร้องขอเป็นอันขาด เมื่อเห็นว่าเขาเป็นเด็กดี นอนเล่นเงียบๆอยู่ในกรง เราจึงไปเปิดประตูกรงไว้ให้ หรือเข้าไปเล่น หรือเอาขนมให้เขากินในกรง แต่ถ้าหมาร้องอย่าแสดงความสนใจใดๆทั้งสิ้น *จัดตารางเวลาการเอาหมาเข้า-ออกจากกรง และทำให้เป็นประจำสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันปัญหาหมาอึ ฉี่ในกรง และเป็นการสร้างวินัยให้หมาด้วย |