ชุมชน คนรัก บางแก้ว

เห็นมีข่าวบางแก้วถูกทิ้งกันมากไม่ทราบว่าที่ยังไม่มีใครรับอุปการะต่อนี่ไปอยู่บ้านพักที่ไหนคะ

เผื่อจะได้ไปช่วยบริจาคเงิน อาหาร ขนม ให้น้องๆบ้าง

สำหรับตัวที่ยังหาบ้านไม่ได้ หลังจากส่งรักษาสภาพร่างกายและจิตใจให้ดีขึ้นแล้ว

ทางบ้าน Big One ได้ฝากเลี้ยงไว้ที่ รพส.กรุงเทพ -นนท์ สาขาบางเลน (อยู่ใกล้วัดสวนแก้ว)

ซึ่งขณะนี้ฝากไว้ 2 ตัว ได้แก่ ฟ้าแก้ว และ ฟ้าใหม่

สถานสงเคราะห์สัตว์เทศบาลนครพิษณุโลก

สำหรับสถานสงเคราะห์สัตว์มีการปฏิบัติงานอย่างครบวงจร   คือ    มีการนำสัตว์จรจัดมาผ่าตัดทำหมันทุกตัว  ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า รักษาโรคสัตว์ เก็บข้อมูล แยกกักขังตามชนิดและขนาดสัตว์  เลี้ยงดูจนหมดอายุขัย หรือมอบให้กับผู้รักสัตว์นำไปอุปการะเลี้ยงดู โดยในปัจจุบันมีสุนัขจรจัดและสัตว์ในความดูแลของสถานสงเคราะห์ทั้งหมดจำนวน 220  ตัวมีประชาชนขอรับไปอุปการะแล้วจำนวนหนึ่ง โดยมีการให้อาหารวันละ 1-2 มื้อ ซึ่งค่าใช้จ่ายของสถานสงเคราะห์ในแต่ละวัน คิดเป็น 10 บาท/ตัว/วัน  คิดเป็นค่าใช้จ่ายประมาณ 2,000 บาท/วัน  และคิดเป็น 60,000 บาท/เดือน   

สำหรับฟ้าแก้วกับฟ้าใหม่ ถ้าอยากจะนำอาหารและขนมสำหรับสุนัขไปฝากสามารถให้ได้โดยตรงที่ รพส กรุงเทพ-นนท์ เลยได้หรือไม่คะ

สามารถไปที่ รพส.กรุงเทพ - นนท์ สาขาบางเลน (เดิมชื่อ รพส.สวนนนท์) ได้โดยตรงเลยค่ะ

แผนที่

ต้องขอบอกนะคะว่าโดยส่วนตัวแล้วเห็นด้วยว่าการมีกฎหมายในการควบคุมสุนัขน่าจะเป้นส่วนช่วยในการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุได้ส่วนหนึ่ง แต่ก่อนที่จะก้าวไกลไปถึงจุดนั้นทางผุ้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้คงต้องมีการรวมกลุ่มพุดคุยถึงปัญหาและศึกษาแนวทางความเป็นไปได้สำหรับการออกกฏหมายและการบังคับใช้กฏหมายนี้ในประเทศไทยว่าควรจะเป็นไปในลักษณะใดค่ะ  ซึ่งคิดว่าความร่วมแรงร่วมใจกันในผุ้ที่รักสุนัข ต้องการให้สุนัขอยุ่ร่วมกันกับเราในสังคมอย่างมีความสุขก็มีจำนวนไม่น้อยค่ะ

เรื่องนี้คงต้องมีการรวมกลุ่มพุดคุยถึงปัญหาและศึกษาแนวทางความเป็นไปได้สำหรับการออกกฏหมายและการบังคับใช้กฏหมายนี้ในประเทศไทยว่าควรจะเป็นไปในลักษณะใด

กฏหมาย ดังกล่าว ได้มีการประชุม ปรึกษาหารือกัน ทั้งอย่างเป็นทางการ และไม่เป็นทางการ จนได้ทำเป็น ฉบับร่าง ขึ้นมาเมื่อหลายปีมาแล้ว   ทางกลุ่มคนช่วยหมา ได้พยายาม ทำในส่วนที่พอจะทำได้เพื่อ สนับสนุนให้มีการนำร่างฯ ฉบับนั้นเข้าสู่กระบวนการ ตามขั้นตอน(ซึ่งพวกเราไม่มีความรู้ทางด้านกฏหมายและขั้นตอนเหล่านั้น) เพื่อผลักดันให้เกิดมีกฏหมายฉบับนั้นขึ้นมา บังคับใช้ในประเทศไทย

โดยทราบมาว่า ต้องมีการรวบรวมรายชื่อผู้สนับสนุนร่างฯ ฉบับนั้น จำนวนหนึ่ง(ถ้าจำไม่ผิด ห้าหมื่นรายชื่อ) นำเสนอต่อคณะทำงานที่เกี่ยวข้อง  จึงจะสามารถนำร่าง กม.ฯ ฉบับนั้นเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาต่อไปได้  

พวกเราก็ได้พยายามเดินทางตระเวนไปทุกหนแห่ง ที่มีการจัดงานเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง   เพื่อรวบรวมรายชื่อ+เอกสารประจำตัว  จัดเตรียมซองติดแสตมป์ จ่าหน้าซองถึงองค์กรพิทักษ์สัตว์  แจกจ่ายแก่ผู้สนใจสนับสนุนร่าง กมฯ ฉบับนั้น

ทำมานานพอสมควร น่าจะมีผู้ส่งรายชื่อไปยังองค์กรที่รวบรวมรายชื่อจำนวนมากอยู่   แต่ข่าวคราวเกี่ยวกับร่าง กมฯ ฉบับนั้น ก็เงียบหายไป  เนื่องจากกลุ่มเราคนช่วยหมา  เป็นคนกลุ่มเล็กๆที่ไม่มีเครือข่ายใดใด  ไม่สามารถติดตามเรื่องราวที่เกี่ยวข้องในระดับประเทศ เช่น การนำเสนอร่าง กมฯ ได้ ก็ได้แต่รอคอยกันอยู่เงียบๆ  ถ้าเกิดมีเหตุการณ์ที่พอจะโยงไปถึงเรื่องนี้ได้  ก็จะถือโอกาสออกมาส่งเสียงเรียกร้องกันบ้างตามที่จะทำได้

แม้จะท้อแท้บ้างเป็นบางเวลา  แต่เราก็ยังมีความหวัง ว่า สักวันหนึ่ง.......ฝันของพวกเราคงจะเป็นจริง

ลิ้งค์กระทู้และภาพเกี่ยวกับการรณรงค์ผลักดันร่าง กมฯ

http://www.bangkaew.com/elearning/mod/forum/discuss.php?d=239

สำหรับเรื่องขั้นตอนทางกฏหมายนี่จริงๆแล้วก็พอที่จะช่วยให้คำแนะนำได้บ้างนะคะ อีกทั้งมีผุู้รู้ในวงการกฎหมายที่รักสุนัขมากๆ(เลี้ยงบางแก้วด้วย)สนใจอยากทำกิจกรรมช่วยเหลือสุนัขอยู่ด้วยค่ะ

พวกเรา กลุ่มคนช่วยหมา ต้องขอขอบคุณ ท่าน p-mahidol เป็นอย่างยิ่ง  ที่กรุณาให้ความสนใจจะช่วยเหลือเกี่ยวกับขั้นตอนทางกฏหมาย เพื่อนำไปสู่การแก้ไขป้องกันปัญหาที่ต้นเหตุค่ะ

จะติดตามรายละเอียดเท่าที่จะทำได้ และนำส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง โดยเร็วที่สุดค่ะ

http://www.thaiaga.org/AnimalLaw_TH.htm

ลิ้งค์ของเวบไซท์ สมาคมพิทักษ์สัตว์(ไทย)  ที่มีร่างฯ และ ความคืบหน้า เท่าที่ทราบจนถึงวันนี้ค่ะ

http://www.thaispca.org/v2/display/l2.php?item=15&trg=1&id=353&lang=1

ลิ้งค์ของ  สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย  มีความคืบหน้าของ โครงการผลักดันกฏหมายฯ ที่ค่อนข้างละเอียด  แต่เป็นร่างฯคนละฉบับกับของ สมาคมพิทักษ์สัตว์(ไทย) ซึ่งมีความขัดแย้งกันใน แนวคิด และเนื้อหาบางส่วน

สำหรับพวกเรา กลุ่มคนช่วยหมา  ที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับกระบวนการทางกฏหมายใดใดทั้งสิ้น  ได้แต่หวังกันอยู่ว่า  เมื่อมีกฏหมายที่เกี่ยวกับการควบคุมการเลี้ยงสัตว์,การห้ามกระทำทารุณสัตว์เลี้ยง  และบทลงโทษผู้กระทำผิดกฏหมายเหล่านั้น(จะเป็นร่างฯของสมาคมใดใดก็ตาม)  ออกมาบังคับใช้  ,  ปัญหาการทอดทิ้ง และทำทารุณสัตว์เลี้ยง จะลดน้อยลงบ้าง

ป้าวิครับในส่วนของทางบางแก้วเราเอง สมาคมที่มีอยู่กไม่อาจจะไปจัดการเรื่องนี้ได้ แต่ก็ขอชูสองมือสนับสนุนเรื่องกฏหมายที่ว่านี้ และจะหาทางช่วยทางอ้อม พอดีที่ตอนงานประกวดที่ พระองค์ภาฯ ท่านเสด็จ บังเอิญเป็นกรรมการร่วม ได้พูดคุยกับหมอก๊อล์ฟ (ลูกชาย หมอนิสิต เป็นอาจารย์สอนที่ ม.นเรศวร จ. พิษณุโลก)  เรื่องปัญหาการถูกทิ้ง และ หมาที่ไม่ได้คุณภาพ  ท่านก็พูดถึงเรื่องการจัดการอบรมผู้เพาะพันธ์บางแก้วและประชาชนทั่วไป เชิญวิทยากรที่มีความรู้ต่างๆมาให้การฝึกอบรม โดยจะทำโครงการเสนอทางมหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งผมเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ในการช่วยลดน้องหมาที่ ด้อยคุณภาพทั้งเรื่องรูปร่างและอารมณ์ ช่วยให้ประชาชนทั่วไปมีความรู้ ในส่วน ของป้าวิ และ น้องBIGONE น่าจะได้ประสานงานกับหมอก๊อล์ฟ บรรจุเรื่องนี้ลงในการอบรมด้วย เห็นว่าอย่างไรครับ

เรียนคุณจิตติ....งานนี้ คงต้องประสานทางบ้าน Big One เป็นหลักค่ะ ส่วนของการช่วยเหลือหมา และการปรับพฤติกรรมหมาที่เป็นบางแก้ว ป้าวิให้ทางบ้าน Big One ดูแลเพราะมีประสบการณ์ตรงกับบางแก้ว  ป้าวิเป็นเพียงผู้สนับสนุนเรื่องค่าใช้จ่าย และ ให้คำปรึกษาบ้าง  

เรื่องการทำโครงการอบรมให้ข้อมูลความรู้ แก่ประขาชนทั่วไปโดยเฉพาะผู้เลี้ยงและผู้เพาะพันธุ์นั้น   ป้าวิเห็นด้วยอย่างมากค่ะ เพราะได้รณรงค์ที่จะให้เกิดโครงการแบบนี้มานานหลายปีแล้ว   ได้ทราบว่า มีผู้เห็นตรงกัน และจะจัดทำให้เกิดขึ้นจริงก็ยินดีมาก และจะสนับสนุนเท่าที่จะทำได้ค่ะ

ความจริง ป้าวิได้ ได้เคยคุยกับกลุ่มคนเลี้ยงบางแก้ว รวมทั้งบ้าน Big One เรื่องการทำสื่อ  เพื่อใช้ในการเผยแพร่ ข้อมูลความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงและการปรับพฤติกรรมบางแก้ว เช่น ถ่ายทำคลิปวีดีโอ  จัดทำแผ่นบอร์ด แสดงภาพ ขั้นตอนการเลี้ยงดู และการฝึก  และแม้แต่อัดแผ่นซีดีแจก(ฟรี)เพื่อเผยแพร่แก่ผู้สนใจ 

ได้เริ่มปรึกษาหารือกัน  ตั้งแต่ครั้งที่เริ่มมีการนัดพบปะกันของผู้เลี้ยงบางแก้ว ที่กระทรวงสาธาณะสุข  ซึ่งมีกลุ่มผู้มีประสบการณ์กับบางแก้ว ไปช่วยให้คำแนะนำกับเจ้าของบางแก้วที่มีปัญหา   โดยได้จัดหาอุปกรณ์ไปให้ เท่าที่จะทำได้ เช่นกล้องถ่ายวีดีโอ  เพื่อเก็บภาพเคลื่อนไหวของปัญหาและวิธีการปรับพฤติกรรม สำหรับเก็บไว้เป็นกรณีศึกษาและเป็นตัวอย่างสำหรับกรณีอื่นๆที่คล้ายกัน

แต่ดูเหมือนว่า ปัจจุบัน กลุ่มที่ไปกระทรวงฯ ไม่ค่อยได้รวมตัวเป็นกลุ่มที่เข้มแข็งเหมือนเดิม  น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง  อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คุณจิตติบอกมา  น่าจะเป็นการจุดประกาย ให้บรรดาผู้มีประสบการกับบางแก้วหลายๆท่าน  ได้กลับมารวมพลังกันอีกครั้ง  เพื่อช่วยให้โครงการดีๆแบบนี้ เกิดขึ้น และมีอยู่ตลอดไปคู่เมืองพิษณุโลกค่ะ

จากประมวลกฎหมายอาญา ภาคลหุโทษ มีบทบัญญัติในเรื่องเกี่ยวกับสัตว์ดังนี้

มาตรา 381 ผู้ใดกระทำการทารุณต่อสัตว์ หรือฆ่าสัตว์โดยให้ได้ รับทุกขเวทนาอันไม่จำเป็น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

แต่จะเห็นได้ว่าการบังคับใช้อาจไม่ได้ผล นอกจากกฎหมายแล้ว การประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้ จะเป้นประโยชน์มากอย่างที่ป้าวิบอกค่ะ

มาตรา 381 ผู้ใดกระทำการทารุณต่อสัตว์ หรือฆ่าสัตว์โดยให้ได้ รับทุกขเวทนาอันไม่จำเป็น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

ระวางโทษ น้อย ไม่สาสมกับความผิดเลยค่ะ

สำหรับเรื่องการบังคับใช้  ถ้ามีระบุชัดเจนในตัวบทกฏหมาย  เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการบังคับใช้กฏหมาย   จะละเลยไม่ปฏิบัติตามกฏหมาย ก็ทำได้ด้วยหรือคะ  ไม่ค่อยเข้าใจกระบวนการตรงนี้  แต่อย่างไรก็ตาม  ถ้าผลักดันให้มีกฏหมายนี้ได้สำเร็จ  เราจะพยายามรณรงค์ สนับสนุนให้มีการบังคับใช้ให้ได้ผล  เท่าที่ศักยภาพจะอำนวย  ในทุกวิถีทาง แน่นอนค่ะ