ตอบ: ความแตกต่างของพวกผสมพันธุ์สุนัขกับนักเพาะพันธุ์สุนัข | |
จะต้องแยกขังแยกปล่อยเป็นเวลา |
ตอบ: ความแตกต่างของพวกผสมพันธุ์สุนัขกับนักเพาะพันธุ์สุนัข | |
และหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการผสมระหว่างพ่อแม่กับลูก หรือกับพี่น้องร่วมพ่อแม่เดียวกัน เพราะอาจทำให้ยีนด้อยปรากฏเด่นชัดออกมาในรุ่นหลาน |
ตอบ: ความแตกต่างของพวกผสมพันธุ์สุนัขกับนักเพาะพันธุ์สุนัข | |
บรีดเดอร์ที่ดี จะต้องไม่หวังเพียงผลกำไรในทางธุรกิจ แต่จะต้องสามารถแนะนำผู้ที่ต้องการผสมพันธุ์สุนัขได้ว่า จะเลือกพ่อพันธุ์หรือแม่พันธุ์อย่างไร จึงจะเหมาะสม อย่างเจ้าราโอของคุณอุเทนตัวข้างล่างนี้ ชอบที่มันมาร์คเข้ม หล่อเหลา โครงสร้างดี เล็งไว้ว่าจะขอมาเป็นแฟนด็อตเน็ตตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เนื่องจากมีสายเลือดที่ชิดกันมากเกินไป คุณอุเทน เกรงว่าจะเป็นการย้ำข้อด้อยบางอย่างที่เคยสังเกตุพบมาแล้ว จึงไม่แนะนำ แม้ว่า ค่าผสมของราโอจะเป็นหลักหมื่นขึ้นไป จากกระทู้ อัพเดทสมาชิกบ้านรักษ์บางแก้วในฤดูติดสัด 2555 http://www.bangkaew.com/elearning3/mod/forum/discuss.php?d=1464 |
ตอบ: ความแตกต่างของพวกผสมพันธุ์สุนัขกับนักเพาะพันธุ์สุนัข | |
ความจริง การเป็นบรีดเดอร์ที่ดี คงมีอะไรมากกว่าที่เขียนมา แต่เนื่องจากความรู้และประสบการณ์ยังมีไม่มาก จึงขออนุญาตนำข้อเขียนที่ค้นเจอบนอินเทอร์เน็ตมาแลกเปลี่ยนความรู้กัน คุณเป็นบรีดเดอร์ขั้นไหนแว้า « on: September 29, 2011, 05:01:29 PM » คุณเป็นผู้เพาะพันธ์สุนัขขั้นไหนแล้ว ขั้นที่ 1 ขั้นเริ่มต้น: ทำอะไรผิดพลาดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นซื้อพ่อพันธ์แม่พันธ์ผิด เลี้ยงดูผิด และก็ผสมพันธ์ผิดๆ ขั้นที่ 2 ขั้นอนุบาล: คุณอาจจะเริ่มต้นผิดๆ เรียนรู้ผิดๆ แต่ก็พยามที่จะเรียนรู้สิ่งที่ถูกต้องแต่ยัง ไม่ชำนาญ ขั้นที่ 3 ขั้นประถม: คุณแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาดได้แล้ว เริ่มต้นก้าวแรกที่จะทำหรือรู้ว่าผู้เพาะพันธ์ มืออาชีพเค้าทำยังไร แต่ก็ยังไม่ชำนาญเท่าไรนัก ขั้นที่ 4 ขั้นมัธยม: คุณเริ่มเป็นที่รู้จักของผู้ซื้อหาสุนัขหรือผู้เพาะพันธ์แล้ว สุนัขที่คุณผสมก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เริ่มที่จะทำเป็นจริงเป็นจังมากขึ้น ขั้นที่ 5 ขั้นมัธยมปลาย: ส่วนใหญ่บรีดเดอร์ทั่วๆไปจะอยู่ในขั้นนี้ คือ เริ่มมีความน่าเชื่อถือ ไม่ผสม พรุ่ำาเพื่อ มีหลักการและเหตุผลในการเลือกพ่อพันธ์แม่พันธ์ที่จะมาผสม เข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่มของ ชมรมสุนัข พยามที่จะรักษาชื่อเสียงของตนเองไม่มั่วนิ่ม ขั้นที่ 6 ขั้นมหาลัย: ผู้เพาะพันธ์ในระดับนี้จะหายากหน่อยเพราะส่วนใหญ่ก็อยู่ในขึ้นมัธยมปลาย ใน ขั้นนี้ผู้เพาะพันธ์จะพยามศึกษาหาความรู้ของสายพันธ์เพื่อลดความผิดพลาดในการผสม ในขั้นนี้ผู้เพาะ พันธ์จะสามารถบอกหรือรู้ว่าส่วนไหนดีส่วนไหนไม่ดีและเลือกที่แก้ไขเพื่อให้บรีดที่ผสมออกมาดี เช่น หัวไหล่ หัว ขาหน้า ขาหลัง เข้าใจโครงสร้างของสุนัข ในขั้นนี้ผู้เพาะพันธ์จะมีพ่อพันธ์แม่พันธ์ที่ดีใน สต๊อกให้เลือกและเลือกคู่ผสมได้อย่างถูกต้อง ในขั้นนี้ผู้เพาะพันธ์อาจจะพยามหาพ่อพันธ์ดีๆจากภาย นอกมาใส่เพื่อให้เกิดลูกหมาที่มีคุณภาพในคอกของตัวเอง ส่งสุนัขของตนเองเข้าประกวดเพื่อวัดระดับ กว่าจะถึงขั้นนี้ผู้เพาะพันธ์อาจจะต้องใช้เวลาถึงเกือบ 10 ปีหรือมากกว่านี้เพื่อสะสมประสบการณ์และนี้ คือเหตุผลที่ผมบอกว่าทำไม่ในขั้นนี้ถึงหายาก ขั้นสุดท้าย ระดับมืออาชีพ: ในระดับนี้ลูกสุนัขที่เกิดจากผู้เพาะพันธ์ระดับนี้ส่วนใหญ่จะออกมาดีมีคุณภาพ สุนัขทุกตัวที่เกิดจากผู้เพาะพันธ์ระดับนี้จะไม่มีข้อผิดพลาดเลยแม้ว่าบางที่จะไม่ชนะในการประกวดก็ตาม พวกเค้าจะรู้จักสไตล์ของตัวเอง แบบของตัวเอง ลักษณะสุนัขของตัวเองเป็นอย่างดีว่าพวกเค้ากำลังทำ ลูกสุนัขหรือสุนัขแบบไหน สุนัขที่พวกเค้าทำส่วนใหญ่จะได้ตำแหน่งตลอดและเป็นทีู่รู้จักในวงการทั้ง วงการประกวดภายในและภายนอกประเทศ http://www.dogfunpark.com/forum/index.php?topic=1871.0 |
ตอบ: ความแตกต่างของพวกผสมพันธุ์สุนัขกับนักเพาะพันธุ์สุนัข | |
ตอบคุณทชกลษพงศ์ ในการประกวดสุนัขระดับสากล สุนัขจะต้องควบคุมได้ เชื่อฟังเจ้าของ ไม่กัดกรรมการหรือคนอื่นๆ จิตประสาทต้องดี ไม่ขี้ระแวง และแน่นอน มันยังทำหน้าที่เฝ้าบ้านได้อยู่ หากมีผู้แปลกปลอมเข้ามา ต้องเห่า พร้อมอารักขาเจ้าของและทรัพย์สิน แต่เมื่อไหร่ เจ้าของสั่งให้หยุด ต้องหยุด ต้องควบคุมได้ ไม่ใช่ดุร้ายจนคุมไม่อยู่ หรือ เชื่องจนเหมือนหมาแฟนซีไป ลองไปดูที่เว็บของบ้านครีลดาดูนะครับ ที่ http://www.facebook.com/krilada |