ไปเจอในเว็บข้างล่างนี้นะครับ
http://www.hcc-school.com/itwork/web/karin/nature.html
|
|
| | | หน้าจิ้งจอก | หน้าเสือ | หน้าสิงห์ |
ซึ่งแบบหน้าหมาบางแก้วแบ่งได้ 3 ลักษณะด้วยกันคือ
ลักษณะหน้าเสือ ลักษณะใบหน้าดูคล้ายเสือ มีกะโหลกศีรษะใหญ่ หน้าผากกว้าง หูเล็กแบะออกเล็กน้อย แววตา เซื่องซึม และดูดุร้าย เป็นลักษณะของหมาพันธุ์บางแก้วที่ใหญ่ที่สุด บางตัวที่เคยเห็นมาแล้วมีขนาดเท่ากับ สุนักพันธุ์อัลเซเชี่ยนของต่างประเทศ มีขนที่คอเป็นแผง แต่ไม่รอบคอ ไม่มีเคราใต้คาง รูปร่างอาจใหญ่ หรือขนาดกลางก็ได้ มีหางเป็นพวงและมีเป็นพวง ทั้งหางงอและหางม้วน ขนมีทั้งฟูและไม่ฟู มีแผงคอแต่ไม่รอบคอ ลักษณะหน้าเสือถือว่าเป็นเอกลักษณะของหมาบางแก้วอย่างแท้จริง
ลักษณะหน้าสิงห์โต ถ้าหากได้เลือดสุนัขจิ้งจอกมากจะมีลักษณะหน้าแหลม ขนบริเวณแก้มจะพองออกมาเป็นแผงหรือกระบังหน้าคล้ายคลึงกับหน้าสิงห์โต ลักษณะจะมีแผงใหญ่รอบคอ และมีเคราใต้คางยาวลามไปจรดแผงคอตอนล่าง กะโหลกศีรษะเล็ก หูเล็กตั้งตรงรับกับใบหน้าอย่างสวยงาม เมื่อเรามองจากด้านหน้าจะมีลักษณะคล้ายสิงห์โต ปากไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไป ช่วงตัวตอนหน้าใหญ่ ช่วงท้ายเล็ก ยามปกติแววตาและ ท่าทางจะเซื่องซึม แต่เมื่อเห็นศัตรูหรือคนแปลกหน้า แววตาและท่าทางจะเปลี่ยนเป็นดุร้ายและคล่องแคล่วว่องไวทันที ลักษณะเท้ายาวอูม ขนยาวหุ้มปลายเท้านิดหน่อย มองดูคล้ายเท้าหมี ขนมีทั้งยาวฟู สั้นฟู หางยาวเป็นพวงและไม่เป็นพวง มีทั้งหางม้วนสูงและม้วนต่ำ ลักษณะนี้นับว่าเป็นพันธุ์ดั้งเดิม ถ้ามีแผงคอใหญ่ หูสั้นและหางพวง และมีสีที่ประน้อยมากแล้ว ก็นับว่ามีสายเลือดที่ยังเข้มข้น น่าเก็บเอาไว้ทำพันธุ์ แต่ก็หายากมาก หลายปีจึงจะมีออกมาสักครั้ง มีการซื้อขายกันในราคาที่แพงพอดู
ลักษณะหน้าจิ้งจอก มีใบหน้าแหลม หูใหญ่กว่าทั้งสองชนิดแรก ใบหูไม่ตรงโย้ออกด้านข้าง มองดูเป็นรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า ขนอ่อนยาวเรียบ ขนหางเป็นพวง รูปร่างมีทั้งใหญ่ กลาง และเล็ก นิสัยไม่ค่อยดุร้ายเหมือนสองพวกแรก ซึ่งถือว่าหน้าจิ้งจอกเป็นข้อด้อยกว่า 2 พวกแรก อย่างไรก็ตาม ลักษณะเด่นของหน้าหมาบางแก้วคือที่ปลายปากจะมีสีขาวรอบปาก และสีขาวจากปลายปากมากลางแสกหน้าถึงกะโหลกศีรษะที่เรียกกันว่า "หน้าแบ่ง" หรือ "หน้าแด่น" "ปากคาบแก้ว" หมาบางแก้วจะเดินหรือวิ่งเหยาะ ๆ ท่วงท่าสวยงาม ปกติจะวิ่งซอยเท้าถี่ ๆ สง่างาม บางตัวเวลาเดินเห็นแผงขนบนสันหลังยกขึ้นดูสง่างามเฉกเช่นม้าย่างเท้าสวนสนาม ขึ้นชื่อมากเรื่องความดุ มีความซื่อสัตย์ต่อเจ้าของ รักและหวงเจ้าของ ไม่ชอบคนแปลกหน้า มีความสามารถในการดมกลิ่นเป็นเลิศ จำเสียงได้ แม่นยำ กินอาหารง่าย มีความกล้าหาญ กล้าที่จะสู้กับสุนัขที่ตัวโตกว่า มีประสาทตื่นอยู่เสมอแม้นอนหลับ เป็นสุนัขที่ชอบเล่นน้ำ เมื่อหมอบข้อศอกจะแนบกันพื้นและเท้าหลังจะแบออกทั้งสองข้าง ก่อนจะกินน้ำในอ่าง ชอบเอาเท้าหน้าข้างหนึ่งข้างใดจุ่มลงไปในอ่างก่อน เวลาขู่จะเหยียดขาหน้าพุ่มไปข้างหน้า แล้วผงกหัวและแผงขนหลังตั้งขึ้นพร้อมกับส่งเสียงขู่
ชอบกินเนื้อสัตว์และปลา เนื่องจากหมู่บ้านบางแก้ว อาชีพหลักของชาวบ้านแถบนั้นคือจับปลา ค้าปลาน้ำจืด และเลี้ยงสุนัขไว้บนแพ อาหารที่ได้จึงหลีกไม่พ้นปลา แต่อาหารอื่นก็กินได้เช่นกัน
หัวกะโหลก กะโหลกใหญ่ ปากยาวแหลม คอยาวกว่าหมาไทยทั่วไป กะโหลกศีรษะและปากรับกันเป็นรูปสามเหลี่ยม หูเล็กสั้นตั้งป้องไปข้างหน้า ปลายหูเบนออกข้างเล็กน้อย โคนหูทั้งสองอยู่ห่างกันมากกว่าหมาไทยหลังอาน จึงใช้เป็นจุดเด่นในการสังเกตว่าเป็นหมาบางแก้ว ตาเล็กกลมรี พื้นสีตาเป็นสีเหลืองทองคล้ำ ม่านตาตรงกลางสีดำ มีแววของความไม่เชื่อใจใครง่าย ๆ ขณะโกรธหรือขู่จะขึ้นแววฟ้าใส แววที่เรียกว่า "ตาเขียว" จมูกสีดำ ฟันซี่เล็กขาวคม มีเขี้ยวข้าบน 2 ล่าง 2 ลิ้นเป็นสีชมพู ส่วนมากไม่มีปากดำเหมือนหมาไทยหลังอาน
หู มี 2 ลักษณะ คือ ถ้าหากใบหูใหญ่ปลายหูกลมมน ภายในหูมีขนปกคลุมปิดรูหูเป็นลักษณะของหูสุนัขจิ้งจอก แต่ถ้าหูเล็กสั้นมีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า ตั้งป้องตรงไปข้างหน้า ปลายหูเบนออกไปทางด้านข้างเล็กน้อย จะเป็นลักษณะของหูหมาไน ซึ่งเป็นที่นิยมกันมาก หูของหมาบางแก้วส่วนมากที่ขอบใบหูจะมีลักษณะเป็นสันเล็ก ๆ มีขนอ่อนปกคลุมอยู่ภายในหู และที่กกหูด้านนอกจะมีขนปุยนุ่มปกคลุมมากบ้างน้อยบ้าง
|
| |
|
แต่ก็ไม่รู้ว่าปิงปองถูกจัดเข้าไปอยู่ในประเภทหน้าจิ้งจอกได้อย่างไร
น่าเสียดายที่เซียนบางแก้วอาวุโสในอดีตเขียนอธิบายการแบ่งประเภทหน้าบางแก้วเพียงแค่ตัวหนังสือ ไม่ได้มีรูปตัวอย่างประกอบ ทำให้คนรุ่นหลังตีความเอาตามใจฉัน
อย่างปิงปองนี่ ผมว่า ควรเป็นหน้าเสือนะครับ หน้าจิ้งจอกมันต้องยาวกว่านี้ เช่นตัวนี้
http://www.bangkaew.com/webboard/view.php?No=159