สุนัขบางแก้วอายุ6เดือน ชื่อ "ขุนเขา" พิการอัมพาตขาหลัง   เมื่ออายุได้2เดือน เข้าใจว่าตกทางระบายน้ำ หลังกระแทกกับแป๊บประปา ส่งรักษา15วัน   หมอบอกว่าคงอัมพาตถาวร รับกลับมาดูแลเอง พยายามค้นข้อมูลจากเวป พบว่ามีบางรายหายได้จากการนวด ได้เริ่มนวดเรื่อยมา แต่ไม่สม่ำเสมอนัก (เนื่องจากที่บ้านเลี้ยงสุนัขไว้ 5ตัว แต่เป็น3ก๊ก จึงต้องแบ่งเวลาให้แต่ละก๊ก)

จากตอนแรกเอาเข็มแทงอุ้งเท้าจนทะลุ เขาก็ไม่รู้สึก ตอนนี้ผ่านมา4เดือน   สามารถจับเขายืนได้ พยายามพาเขาเดิน  โดยเราช่วยประคองเป็น2ขาหลัง แต่ให้เขาใช้สมองสั่งการให้ก้าวขาเอง ทีละก้าวช้าๆ  แต่พอเผลอเขาก็จะเลือกการแถกไปมากกว่า หากจับเขายืน เขาสามารถขุดดินได้โดยขาหลังยันการทรงตัวได้  เวลาให้กินข้าวจะพยายามจับเขายืนกินในกรง ซึ่งก็ยืนกินจนหมด แต่พอเอี้ยวตัวจะขยับเดิน ก็จะล้มลง

สุขภาพโดยรวม ตอนนี้แข็งแรงมาก เป็นบางแก้วที่ดู นิ่ง ดุ ฉลาด และ รักนาย  
จากที่เลี้ยงบางแก้วมาแล้ว 5-6 ตัว หลังอาน 6 ตัว และ พันธุ์อื่นๆอีกประมาณ 6 ตัว ยังไม่เคยเจอปัญหาแบบนี้ อยากรบกวนขอความรู้ ความเห็นจากท่านผู้รู้ในการดูแล แก้ไข ขอบคุณครับ

ขออนุญาตนำข้อมูลจากลิ้งค์ข้างล่าง(เวบบอร์ดชมรมคนรักเยอรมันเชพเพอด)   มาแจ้งข่าวไว้ เผื่อผู้เลี้ยงบางแก้วที่มีประสบการณ์ทำนองเดียวกัน จะได้ช่วยกันแนะนำ หรือให้คำปรึกษาหารือได้ดีกว่า  เพราะเวบบอร์ดของชมรมคนรักเยอรมันเชพเพอด อาจจะให้คำแนะนำเท่าที่จะสามารถทำได้ในระดับหนึ่ง เท่านั้น  เพราะไม่มีประสบการณ์ตรงกับพันธุ์บางแก้ว

http://www.thaigsdclub.org/gsdboard/index.php?topic=1587.msg17086#new

ขอบคุณล่วงหน้าแทน เจ้าของ "ขุนเขา" ด้วยค่ะ

อยากให้เข้าไปดูกระทู้เก่า ๆ ของพี่ปุยฟ้า (ตามที่แนบมาให้นะครับ)

         -  อาหาร  ควรเปลี่ยนเป็น Barf จะช่วยให้เขาได้ฟื้นฟูร่างกายได้เร็วขึ้น

         -  ควรทำกายภาพบำบัดให้เจ้าขุนเขาทุกวัน เพื่อเป็นการกระตุ้นกล้ามเนื้อ
                 -  จิกหรือกดบริเวณผังผืดเท้า ขาหลังทั้งสอง แล้วดูว่าเขาดึงขากลับหรือไม่
                     ถ้าไม่ดึง ให้เปลี่ยนจุดหรือเพิ่มน้ำหนัก จนกว่าเขาจะดึงขากลับ 
                 -  ลูบคลำ บริเวณขาที่มีอาการแล้วดูว่าเขามีการตอบรับทางกายภาพหรือไม่ 
                    ถ้ามีก็ทำอย่างนี้ทุกวัน จะเป็นกระตุ้นกล้ามเนื้อของเขาได้เร็วขึ้น
                 -  การนวด ควรทำทุกวันและสม่ำเสมอ อย่างเจ้าปุยฟ้า พี่บิ๊กนวดทุกวัน เช้า เย็น นวดไปด้วยคุยกะเค้าไปด้วย
                 -  พาเดินสนามหญ้าบ่อย ๆ แต่อย่านานให้เขาได้รับพลังจากธรรมชาติ 
                    แต่ต้องระวังอย่าให้เขาเดินด้วยขาหน้าแล้วลากขาหลังไป (แถกตัว)
                    เพราะจะทำให้เนื้อบริเวณที่ถูกับพื้นเป็นแผล และ อาจเป็นอันตราย
                    ถึงกระทั่งกระดูกแทงออกมาด้านนอกได้

        -  การเลี้ยง ควรกั้นบริเวณให้เขาอยู่ ไม่ควรปล่อยอย่างอิสระ
           เพราะสุนัขป่วยควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ อาทิเช่น ความสะอาด เชื้อโรคต่าง ๆ 
           รวมทั้งโรคแทรกซ้อน 

http://www.bangkaew.com/elearning2/mod/forum/discuss.php?d=5136

http://www.bangkaew.com/elearning2/mod/forum/discuss.php?d=5075

http://www.bangkaew.com/elearning2/mod/forum/discuss.php?d=5063

http://www.bangkaew.com/elearning2/mod/forum/discuss.php?d=4979

http://www.bangkaew.com/elearning2/mod/forum/discuss.php?d=4881

http://www.bangkaew.com/elearning2/mod/forum/discuss.php?d=4960

http://www.bangkaew.com/elearning2/mod/forum/discuss.php?d=4918

http://www.bangkaew.com/elearning2/mod/forum/discuss.php?d=4857

http://www.bangkaew.com/elearning2/mod/forum/discuss.php?d=4834

เป็นกำลังใจให้ทั้งคนทั้งหมาเลยนะครับ
"Big One"

ขอแสดงความนับถือเจ้าของขุนเขามากเลยครับ ที่มีความรัก รับผิดชอบในตัวขุนเขา ที่ไม่ยอมปล่อยทิ้งเขาไป หรือปล่อยไปตามยถากรรม  ขอเป็นกำลังใจและขอพบสิ่งดีๆในการรักษา ขุนเขาน่ะครับ จะเป็นกำลังใจให้ครับ

คำแนะนำจาก

ผู้เลี้ยง GSD คุณแม่วากัสเป็นนักกายภาพบำบัดให้กับนักกีฬาทีมชาติหลายๆ ท่าน

และน่าจะเป็นประโยชน์กับเจ้าขุนเขาไม่มากก็น้อย

รวมทั้งเพื่อนๆ สมาชิกชุมชนคนรักบางแก้วที่จะต้องดูแลสุนัขที่มีอาการในลักษณะนี้นะคะ

http://www.thaigsdclub.org/gsdboard/index.php?topic=1587.msg17105;topicseen#new

สวัสดีค่ะ นี่แม่วากัสนะคะ

จากอาการที่เล่ามา ขุนเขาน่าจะได้รับการกระทบกระเทือนทางระบบประสาทที่เส้นประสาทไขสันหลัง แบบไม่สมบูรณ์

อาจจะมีการหักหรือเคลื่อนของกระดูกไปกดทับเส้นประสาท ทำให้ขุนเขามีกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่ขาทั้งสองข้าง และยังสูญเสียความรู้สึกในการรับสัมผัสอีกด้วย

ในความโชคร้ายของขุนเขาก็ยังมีความโชคดีอยู่ด้วย คือ ข้อแรก ขุนเขายังเป็นลูกหมาอยู่เลย ร่างกายเขายังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ ร่างกายก็จะซ่อมแซมรักษาตัวเองได้

ข้อสอง ไขสันหลังของขุนเขาถูกกระทบกระเทือนแบบไม่สมบูรณ์ คือ ไขสันหลังยังทำงานได้อยู่ ไม่ได้ถูกตัดขาดไป (เหมือนถูกปืนยิงที่กลางหลัง)

เราสามารถฟื้นฟูให้เขากลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม และใช้ชีวิตปกติเหมือนหมาทั่วไปได้แน่นอน ทั้งนี้เจ้าของขุนเขาก็ต้องร่วมมือด้วยนะคะ

อาการปัจจุบันที่เจ้าของเล่ามาว่า ...ขุนเขามีอาการดังนี้ .....

สามารถจับเขายืนได้ พยายามพาเขาเดินโดยเราช่วยประคองเป็น2ขาหลัง แต่ให้เขาใช้สมองสั่งการให้ก้าวขาเอง ทีละก้าวช้าๆ  แต่พอเผลอเขาก็จะเลือกการแถกไปมากกว่า

หากจับเขายืน เขาสามารถขุดดินได้โดยขาหลังยันการทรงตัวได้  เวลาให้กินข้าวจะพยายามจับเขายืนกินในกรง ซึ่งก็ยืนกินจนหมด แต่พอเอี้ยวตัวจะขยับเดิน ก็จะล้มลง

ขุนเขากำลังอยู่ในช่วงที่เส้นประสาทกำลังฟื้นฟู หลังจากที่ช็อคไปจากอุบัติเหตุ กล้ามเนื้อที่อ่อนแรงกำลังฟื้นฟูเช่นกัน แต่ยังไม่แข็งแรงพอที่จะให้เค้าดำรงชีวิตอย่างปกติ

กล้ามเนื้อขาอ่อนแรง กล้ามเนื้อลำตัวก็อ่อนแรง ทำให้ทรงตัวได้ไม่นาน เปลี่ยนท่าทางไม่ได้ พยายามยันตัวเองแต่ไม่สามารถยืนเองได้ กล้ามเนื้อขาไม่แข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักของเค้า


การทำกายภาพบำบัดฟื้นฟูสุนัข

เลือกการออกกำลังกล้ามเนื้อขาและลำตัว เพื่อเพิ่มความแข็งแรง จากที่เจ้าของช่วยเค้ายันตัวขึ้นก็ดีแล้วค่ะ เราช่วยเริ่มการเคลื่อนไหวให้เค้าก่อนให้เค้าทำได้ง่ายขึ้น

อาจจะใช้ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ ทำเป็นตัวประคองคล้องที่ท้องสุนัข เพื่อช่วยพยุงสร้างความมั่นใจให้สุนัขก่อน

เมื่อเค้ายืนขึ้นได้แล้ว จัดการวางขาสุนัขให้อยู่ในแนวปกติ ลงน้ำหนักที่ขาทั้ง 4 ข้างในท่ายืนอยู่กับที่ ประมาณ 5-10 นาทีก่อน เพื่อฝึกการทรงตัว ให้ตัวรับสัมผัสในข้อต่อ ในกล้ามเนื้อได้ถูกกระตุ้น

มีการเริ่มเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ พร้อมทำงานยืนเดินต่อไป กระตุ้นการสร้างกระดูกด้วย จัดรูปร่างของกระดูกไม่ให้ผิดรูป หลังจากไม่ได้ยืนมานาน

(ส่งกระแสประสาทกลับไปที่สมองและไขสันหลัง ให้สั่งการไปที่ส่วนต่างๆ ของร่างกายสุนัขว่า เค้าจะเริ่มยืนและเดินแล้ว ทั้งระบบร่างกายจะช่วยกันทำงานเตรียมพร้อมให้เค้า)
 

การฝึกทรงตัว ให้เริ่มจากการยืนตรงๆ ลงน้ำหนักที่ขาทั้ง 4 ข้างก่อน แล้วเจ้าของค่อยๆ ให้แรงที่ผ้าคล้อง ให้สุนัขเอนตัวถ่ายน้ำหนักไปทางด้านหน้าเล็กน้อย ให้เค้าพยายามทรงตัว

ลองสังเกตุอาการของสุนัขว่าเค้าเป็นอย่างไร เช่น เกร็งตัว ชันตัวขึ้นหรือ เริ่มก้าวไปข้างหน้า ทำซ้ำในท่านี้ (ถ่ายน้ำหนักไปที่ด้านหน้า) จนสุนัขเริ่มชิน และเรียนรู้ที่จะทรงตัวก่อน แล้วจึงค่อยเปลี่ยนท่าเป็น

ด้านหลัง ด้านซ้าย ด้านขวา ด้านเฉียง จำไว้ว่าต้องเริ่มจากทีละอย่างก่อน เมื่อเค้าเข้าใจค่อยสลับและปนกันได้

จำนวนครั้งและระยะเวลา ลองสังเกตุจากตัวสุนัขเองว่าเค้ามีอาการเมื่อยล้า ย่อลงนั่งไหม นั่นคือเค้าไม่ไหว เราต้องพักก่อน ประมาณ 1-2 นาทีแล้วค่อยเริ่มฝึกกันใหม่

ยังมีการออกกำลังกายที่ได้ผลเร็วมากสำหรับการฟื้นฟู คือการว่ายน้ำ การเดินในน้ำ การตีขาในน้ำ

ในน้ำมีแรงพยุงช่วยรับน้ำหนักตัวของสุนัขให้เค้าเดิน และเคลื่อนไหวในท่าต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ยิ่งน้ำสูงมากเท่าไหร่แรงพยุงก็จะมากขึ้นด้วย แต่เราก็ต้องมีตัวช่วยพยุงสุนัขด้วยเพื่อความปลอดภัย

เราอาจจะหาอ่างหรือถังใบใหญ่ใส่น้ำ ให้สุนัขใส่สายจูงคล้องอกบุด้วยผ้าคล้องเหมือนตอนช่วยยืน หย่อยเค้าลงในอ่างให้ระดับน้ำอยู่ประมาณอก กระตุ้นให้สุนัขตีขาในน้ำอยู่กับที่

ทำนานเท่าไหร่ยิ่งดีค่ะ หาของเล่นที่เค้าชอบ เราต้องใส่ใจและคอยอยู่กับสุนัขด้วยตลอดเวลา สุนัขต้องไม่เหนื่อยมากเกินไปนะคะ เริ่มจาก 10-20-30-60 นาที

แต่ถ้ามีแหล่งน้ำใกล้บ้านยิ่งดีใหญ่ หาเวลาไปปิคนิกเอาหมาไปเที่ยวด้วยเลยค่ะ


เรื่องสำคัญอีกเรื่องที่ไม่เตือนไม่ได้เลย คือ ขุนเขาชอบแถกขาไปทางด้านหลัง ด้านหน้า จากภาพที่คุณถ่ายมาให้ดู ขุนเขามีแผลที่ขาด้วย

ควรดูแลเรื่องแผลให้ดีนะคะ เดี๋ยวจะติดเชื้อ ขอแนะนำว่า หากเราไม่ค่อยอยู่บ้านแล้วหมาชอบแถกเวลาเราไม่อยู่ ดูแลไม่ทั่วถึง

ให้หาผ้านุ่ม ผ้าอ้อมเด็กพันรองที่ขาไว้ในส่วนที่เค้าชอบเอาไปแถกจนเป็นแผล แถกจนถึงกระดูก เดี่ยวขาผิดรูปจะเดินไม่ได้ทั้งๆ ที่กล้ามเนื้อกำลังจะแข็งแรงพร้อมเดิน

เราควรจะทำกายภาพบำบัดขุนเขาทุกวัน อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพราะกล้ามเนื้อต้องออกกำลัง ฟื้นฟูทุกวันไม่งั้นจะไม่แข็งแรง โอกาสที่เค้าจะกลับมาใช้ชีวิตปกติก็น้อยลง

อาจต้องใช้เครื่องช่วยเหมือนหมาพิการตัวอื่นๆ ไม่ได้ขู่นะคะ พูดความจริง....

ยังไงสู้ๆ นะคะ ขุนเขามีทางหายแน่นอน ขุนเขาต้องร่วมกับเจ้าของสู้ไปด้วยกัน เป็นกำลังใจให้นะคะ

ยังไงว่างๆ มาอัพเดทอาการขุนเขาบ่อยๆ นะคะ

      สวัสดีครับป้าวิ คุณหนึ่งและเพื่อนทุกคน และทุกตัว ไปร์ทละชักสับสน ไม่รู้ว่าจะทักแบบคนหรือหมาดี 555  .... ช่วงนี้ไปร์ทไม่ค่อยว่าง เลยไม่ค่อยได้ไปก่อกวนชาวบ้านร้านช่อง...แต่ก็เข้ามาอ่านผ่านๆเป็นประจำ

    เรื่องนี้น่าสนใจและไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก แล้วไม่อยากให้ผุ้เลี้ยงท้อใจ ตามใดที่ยังมีความหวัง....อย่างกรณีปุยฟ้าเป็นตัวอย่างที่ครั้งแรกที่เห็นเขา ขาหน้าเหยียดตึงเช่นกัน ลองจับดูมันแข็งทื่อ สภาพดูเหมือนว่าไม่น่าจะเดินได้ แต่เมื่อความหวังยังมีก็ทำเท่าที่จะทำได้....สุดท้ายปาฏิหารก็มีจริงโดยไม่ต้องรอฟ้าลิขิต

    จากภาพ 2 ภาพที่เห็นขาหลังเหยียดตึง  การให้เขาอยู่บนรถเข็นก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะช่วยให้เขาช่วยตัวเองได้แต่ค่าใช้จ่ายค่อนข้างแพง ซึ่งจะลดภาระในการดูแลได้ไม่น้อย โดยให้เขาพยายามช่วยตัวเองด้วยขาหลัง แต่นั่นต้องวินิจฉัยว่าขาหลังเขานั้นยังพอมีโอกาสที่จะใช้ได้ บางครั้งการวินิจฉัยของหมอเพียงคนเดียวก็ใช่ว่าจะถูกต้องเสมอไป แต่เรื่องสำคัญที่ต้องทำก็คือการกายภาพบำบัด ไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่งตามความเหมาะสม การว่ายน้ำก็น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

     ข้าวกล้อง ข้างปุ้น เขียนไว้ชัดเจน แต่เท่าที่อยากจะรู้ก็คือขาหลังเขางอได้หรือไม่ ยังพอมีความรู้สึกหรือไม่ อย่าสิ้นหวัง...จงมีความหวังต่อไป...ทำวันนี้ให้ดีที่สุด..แล้ววันหนึ่งเราจะรู้ว่า...คิดไม่ผิด

ขอให้โชคดีครับ

ดีใจที่ได้ทราบข่าว ความคืบหน้าของขุนเขา ค่ะ ถ้ากินอาหารดิบได้ดี และกินยาม้าให้สม่ำเสมอ เขาจะฟื้นตัวเร็ว แผลที่ขาก็จะหายเร็ว  คอยระวังอย่าให้เป็นแผลใหม่ก็แล้วกันค่ะ

ลิ้งค์ข้างล่าง  เป็นแบบบ่อว่ายน้ำ สำหรับฟื้นฟูหมาที่ขาหลังไม่ปกติ  เจ้าของออกแบบไว้ดีมาก  และได้มาโพสไว้ให้เพื่อนๆดู ในเวบเชพเพอด(เก่า) เมื่อ 2-3 ปีก่อน  ลองเอาแนวคิด ไปดัดแปลงทำให้ขุนเขาและเพื่อนๆ เอาไว้ว่ายน้ำออกกำลังกาย  ทำเองได้ไม่ยาก   ยิ่งถ้าทำขนาดเล็กๆ ก็น่าจะทำได้ง่ายๆ  ตัวบ่อ ไม่ต้องกว้างมาก แต่อาจจะทำให้ยาวหน่อย  

ใช้พลาสติกหนา(แบบที่ปูรองก่อนเทพื้นปูน) หรือผ้าใบ ปูรอง แทนการเทปูน   ส่วนรั้วด้านข้าง ถ้าทำเป็นแผงไม้ไผ่สานแทนเหล็กตะแกรงก็น่าจะใช้แทนกันได้ดี  โดยขุดพื้นดินลงไปส่วนหนึ่ง หรือถ้าสามารถขุดดินให้ลึกได้เท่าที่ต้องการเลย ก็ไม่ต้องทำรั้วด้านข้าง  ทำแบบภูมิปัญญาชาวบ้านค่ะ

http://www.pantown.com/board.php?id=322&area=4&name=board1&topic=1882&action=view

เพื่อนๆ สมาชิกท่านใดที่จะต้องดูแลสุนัขที่มีอาการเช่นนี้

อยากจะแนะนำให้เข้าไปดูที่

http://www.thaigsdclub.org/gsdboard/index.php?topic=1587.15

มีคำแนะนำ และคำอธิบายพร้อมภาพประกอบ ที่ดีมากทีเดียวเชียวค่ะ

ปล.เจ้าขุนเขาสู้ๆ นะลูกนะ ทุกคนอยากให้หนูหายไวๆ นะจ๊ะ

ครอบครัว "Big One"

     ต้องขอบอกว่านี่เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลเท่านั้น ไม่ใช่หมอ ไม่ใช่ผู้รู้ แต่โดยส่วนตัวมักจะใช้ความรู้ที่มีอยู่มาประยุกต์ใช้กับเหตุการณ์นั้นๆ ในยามที่ต้องถือตนเองเป็นที่พึ่ง

    คงไม่ใช่เรื่องดีที่จะให้เขาวิ่งเร็วแล้วลากขาหลังเพราะจะทำจนเป็นนิสัย จนใช้แต่ขาหน้า ต้องใจเย็นค่อยๆเป็นค่อยๆไป จุดประสงค์ที่เราต้องการก็คือให้เขาฝึกใช้ขาหลังให้มากที่สุด ไม่ว่าข้อเท้า เข่า สะโพก  การที่เขายันพื้นได้ถือเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งต้องใช้เวลาในการบำบัด  หากเขาทำผิดให้เริ่มต้นใหม่ ทำซ้ำๆ จนเขาเคยชินในการใช้ขาหลัง เริ่มแรกจะช้าแต่เมื่อทุกอย่างเข้าที่เราจะเหนื่อย การว่ายน้ำน่าจะเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับกรณีเช่นนี้ เพราะหมาจำเป็นต้องให้ขาหลังช่วยพยุ่งในการว่ายน้ำ จึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงการใช้ขาหลังได้ เท่าที่ดูจากอาการผมมั่นใจว่าถ้ามีการกายภาพบำบัดที่ดีเขาน่าจะมีโอกาสที่จะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่นั้นมีมากทีเดียว

    บังเอิญมีคุณตาเป็นหมอนวดแผนโบราณ ซึ่งสมัยที่เป็นเด็กก็สัมผัสกับท่านน้อยมากแต่ก็มีหลายครั้งที่ได้ใช้บริการของคุณตา แต่เท่าที่สัมผัสได้ก็คือการนวดต้องค่อยๆนวด และไล่เส้นไปเรื่อยๆ ไม่ใช่การเค้นหรือนวดเป็นที่ๆ เฉพาะจุด เพราะการเค้นซึ่งหลายๆคนคิดว่าจะเป็นการทำให้เส้นคลาย แต่ในความเป็นจริงอาจเกิดอาการเจ็บปวดได้มากกว่า

   วันนี้เห็นบ่อน้ำหลายๆรูปแบบ ในหลายๆครั้งอีกเช่นกันเพื่อเป็นประหยัดเงิน และเป็นการที่ใช้ชั่วคราว เราสามารถประยุกต์ใช้วัสดุที่มีอยู่เช่น ไม้ไผ่ ไม้รวก มาสร้างเป็นบ่อได้เช่นกัน หรืออาจผสมดินเหนียวเช่นบ้านดิน แต่ความสุงเหนือดินตอ้งไม่มากจนเกินไป หากเหนือดินมีความสูงมากต้องมีการค้ำยัน   แต่ถ้าให้สะดวกท่อซีเมนต์ใหญ่ ที่มีความสุงเพียงพอเพื่อให้เขาหัดพยุงตัวในน้ำและใช้ขาหลังให้มากก็น่าจะเพียงพอในยามที่หลายๆสิ่งหลายๆอย่างไม่เอื้ออำนวย

ขอให้โชคดี...หวังว่าเราคงได้เห็นเขาเดินได้สี่ขาในเร็วนี้ แม้ว่ามันจะไม่เหมือนเดิมก็ตาม ขอเพียงให้เขาช่วยตัวเองได้มากว่าเท่าที่เป็นอยู่...ไปร์ทก็ขอดีใจด้วยคน

สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ได้นำเจ้าขุนเขาลงไปว่ายน้ำในบ่อที่เพิ่งทำเสร็จ  (โดยนวดเค้าก่อนตามวิธีที่ได้รับแนะนำมา 20นาที)  ตอนแรกระดับน้ำคงจะสูงไป เพราะดูแววตาเค้าจะกังวลว่า เจ้านายกำลังจะนำเค้าไปจัดการ  โดยการ"....ถ่วงน้ำ"    หลังจากได้ลดระดับน้ำลงให้เหลือประมาณเหนืออกเล็กน้อย  เค้าจึงหายเกร็ง และมั่นใจว่า เจ้านายคงยังจะเลี้ยงเค้าอยู่

ตอนแรกพยุงด้วยผ้า แต่ตอนหลังปล่อยเค้าอิสระ พยายามมองดูขาหลัง ยังไม่เห็นการก้าวเดิน หรือตะกายน้ำชัดเจน ดูจะลอยๆไปมากกว่า แต่ก็หวังว่าครั้งต่อไป คงจะดีขึ้น ให้ว่ายประมาณ 30 นาที  อุ้มมาเช็ดตัว แล้วใช้ผ้าประคองเดินเล่นอีก 20นาที จึงนำเข้ากรง ให้อาหารที่เค้ากินเหลือจากตอนเช้า
โดยปรุงใหม่ เพิ่มไข่ดิบและหมูหยอง  จับเค้ายืน เค้าคงหิว เลยซัดเรียบ แต่พอหมุนตัว ก็ล้มลงนั่งเอกเขนกท่าเดิม!!!! หมดท่าเลย

อ้อ มีคำถามเพิ่มครับ ได้นวดท่ายืดเอ็นร้อยหวาย ตามที่"คุณแม่วากัส" แนะนำมา พบว่าไม่สามารถงอพับได้ท่าที่ควร ได้แค่ประมาณ 30-40% เท่านั้น (ปํญหานี้พบตั้งแต่นวดตอนสมัยแรกๆ) ส่วนท่าอื่นๆทำได้ครับ

เพิ่มรูปขุนเขา

ขอเพิ่มอีกรูป ตอน(ถูกจับ) ยืน เพื่อกินอาหาร หลังไปfitness มา ก่อนจะล้มลงนั่งอย่างหมดท่าในรูปแรก

สวัสดีคับ น้องขุนเขา พี่ไมโลอายุ 10 เดือนคับ อยากให้กำลังใจน้องขุนเขา สู้ๆ และหายไวๆ นะคับ ขุนเขาโชคดีมากที่มีคุณพ่อน่ารัก เอาใจใส่ดูแลอย่างเต็มที่ แม่บอกว่าเห็นรูปขุนเขาแล้วสงสารจัง ได้แต่เอาใจช่วย เพราะประสบการณ์น้อย เป็นมือใหม่หัดเลี้ยงบางแก้วเหมือนกัน แต่แม่บอกว่า ชีวิตย่อมพบหนทางของมันเสมอ เป็นกำลังใจให้นะคับทั้งน้องขุนเขาและคุณพ่อ  

ตอนนี้มีหมาเลี้ยงอยู่ตัวหนึ่ง มีลักษณะขาหลังเหมือน ขุนเขา เปี๊ยบเลย ไปแซะมาจากถนนหน้าวัดแห่งหนึ่งในกทม.  นอนอยู่ตรงนั้นมากี่วันแล้วไม่รู้ มีคนใจดีคอยเอาอาหารมาให้กิน และไปตามคุณหมอแถวนั้นมาทำแผล และฉีดยาให้  แต่เขาไม่ยอมไปไหน เหมือนจะนอนรอให้เจ้าของมารับ  คนใจดีที่คอยดูแลอยู่ กลัวว่าวันหนึ่งคงโดนเหยียบแบนทั้งตัวเป็นแน่แท้  เลยโทรมาตามให้ไปช่วยรับเอาตัวมาดูแลหน่อย.....

เดากันว่า คงถูกรถชนจนขาหลังหัก  มาหลายวันแล้ว  และกลายเป็นหมาพิการที่เจ้าของไม่ต้องการแล้ว   ก็เลยแอบเอาใส่รถมาทิ้งในวัด  แต่คงถูกหมาเจ้าถิ่นขับไล่ จนต้องวิ่งลากขาหลัง หนีเตลิดออกมาจากวัด จนขาเป็นแผลเปิดเหวอะหวะขนาดนั้น

ตอนที่ได้มา ก็นอนแบนติดถนนอยู่ ขยับตัวลากขาหลังไปได้บ้างนิดหน่อย  แต่ก็เป็นแผลเหวอะหวะจนเห็นกระดูกเท้าหลัง   เอามารักษาแผลจนหายดี   ให้อยู่ตรงพื้นกระเบื้องที่ไม่ขรุขระ  พอจะลากขาไปมาได้บ้าง   ทำถุงเท้าให้ใส่คลุมเท้าเอาไว้ทั้งสองข้าง 

ได้ให้อาหารสดดิบ กินยาม้า กินวิตามินบีคอมเพล็กซ์ นวดด้วยยาน้ำมันโอสถทิพย์  ทำกายภาพบำบัด  และปล่อยลงสนามหญ้าทุกวัน วันละหลายชั่วโมง   แต่ขาหลังทั้งสองข้างแข็งติดกันเป็นท่อนไม้ไปแล้ว  ตรงข้อต่อเข่าไม่สามารถงอเข้าได้เลยแม้แต่นิดเดียว 

หมอบอกว่า ถ้าจะผ่าตัดรักษา คงเป็นเรื่องใหญ่ และยุ่งยากมาก  แล้วก็ไม่รัยรองว่าจะประสบความสำเร็จระดับไหน   ประกอบกับหมาก็ยังป่วยเป็นพยาธิเม็ดเลือด ร่างกายยังอ่อนแอมาก   จึงตัดเรื่องการผ่าตัดออกไป   และได้เอาไปรักษาโดยการฝังเข็ม   หลายครั้ง   เพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทส่วนท้ายของเขา

เขาไม่ได้รู้สึกว่าตัวเขาพิการ หรือทำตัวน่าเวทนาสงสาร เป็นหมาอารมณ์ดี ร่าเริง แจ่มใส เขาทำทุกอย่างไปตามธรรมชาติของหมา  เช่นการ เดิน วิ่ง ว่ายน้ำ เล่น หาอาหารกิน  ได้ดีเป็นปกติเหมือนหมาตัวอื่นในบ้าน  เฝ้าบ้านได้ดีเยี่ยม  สามารถวิ่งไล่กัดคนแปลกหน้าที่ไม่น่าไว้ใจ ได้อย่างรวดเร็วไม่น่าเชื่อ

6/7/2552

ขอบคุณครับกับอีกด้านหนึ่ง ที่เป็นไปได้ของขุนเขา ผมเองต้องขอสารภาพว่า ในสมัยก่อนหน้านี้ การเลี้ยงสุนัขของผม จะเน้นแนวทาง "ตายฝัง ยังเลี้ยง"  จึงจะเลือกเลี้ยงสุนัขไทย เพราะเชื่อในความทรหด และความเป็นสัตว์พื้นถิ่น ซึ่งน่าจะเอาตัวรอดได้ โดยไม่เปราะบางนัก

อีกประการหนึ่งที่หยุดเลี้ยงสุนัขพันธุ์ต่างประเทศทั้งหมด เพราะอยากให้สุนัขไทยได้มีโอกาสได้รับการดูแลและเลี้ยงดูในมาตรฐานเดียวกัน ( มาตรฐานของผมนะครับ อาจจะดูแย่หากเทียบกับผู้เลี้ยงอื่นๆ)

เจ้าขุนเขาเป็นสุนัขตัวแรก ที่ทำให้ผมยอมยกเว้นแนวทาง(ที่ดูค่อนข้างโหดร้าย)ของผม

เหตุผลน่าจะมาจาก

1) จากตัวสุนัขเองที่ยังเล็กมาก เมื่อต้องพิการ ประเมินได้ว่า " คงต้องฝัง คอนเฟริ์ม!!!!"

2) สายตาของลูกสาวและลูกชายที่มองผม และค่อนข้างรู้กติกาของผมดี

3)อายุของผมเองที่มากขึ้น(53) เลยมีโอกาสเข้าวัดเข้าวามากขึ้น ทำให้เชื่อในเรื่องบุญกรรมมากขึ้น (ก้อกลัวเจ้าขุนเขามาล้างแค้นชาติหน้านั่นแหละ!!!!)

4) ข้อนี้สำคัญมาก คือได้เข้ามาสัมผัสกับwebของกลุ่มบุคคลหลากหลาย ที่ล้วนมีใจเมตตา กรุณา กับสุนัขที่มีปํญหา (ทั้งๆที่บางกรณีเป็นสุนัขข้างถนน แถมยังถูกเจ้าของเดิมทอดทิ้ง ทั้งที่พิการ )

อีกทั้งมีน้ำใจที่จะช่วยเหลือผู้อื่นที่ประสบปัญหา โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ทำให้ซาบซึ้ง ปลื้มใจและมีความวาดหวังกับสังคมไทยๆมากขึ้น (โอ้โห! ใจดีขนาดไม่ถามด้วยซ้ำว่า " สีอะไร แดง เหลือง น้ำเงิน ขาว ")

5) ตอนนี้ เจ้าขุนเขา แข็งแรงขึ้นมาก คงเพราะ" ยาบำรุงกล้ามเนื้อม้า" ของป้าวิ ที่คุณหนึ่งส่งมาให้ อีกทั้งมีอาการ "ติดนวด" เหมือน เจ้าคุณ คุณพระ ในสมัยก่อน อันนี้คงเป็นผลมาจากการนวดตามที่                 "คุณแม่วากัส" แนะนำมา  สงสัยท่านวดคงจะ"โดนใจ"

6) อาการตอนนี้ กร่างมาก คิดว่าตัวเองเป็น "จ่าฝูง" ชอบแอบแถกไป ยั่ว ที่กรง" เจ้าขุนทัพ" บางแก้วอายุ 5 ปี จ่าฝูงตัวจริง เสียงจริง กัดก็แผลลึกจริงๆด้วย

ซึ่งประเมินดูแล้ว หากเจ้าขุนทัพแหกกรงออกม่ได้ ฟันธงได้ว่า เจ้าขุนเขาจะมีชะตาแบบ... กลับไปดูคำตอบในข้อ1

ขอบคุณทุกท่านครับ และขอให้มีความสุขในเทศกาลหยุดยาวววววว

ดีใจมากค่ะ ที่ได้ข่าวคืบหน้า ไปในทางที่ดีของขุนเขา

ที่สำคัญ  คือ กำลังใจ  ของขุนเขา ที่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไป  ถ้าเขารับรู้ถึงความรัก ความเมตตารอบๆตัว  เขาย่อมมีกำลังใจที่จะต่อสู้  เพื่อมีชีวิตอยู่กับคนที่เขารักและรักเขาค่ะ

ขอให้ ขุนเขา และครอบครัวคุณธงชัย  มีสุภาพแข็งแรง ค่ะ

ได้เห็นเจ้าขุนเขามีพัฒนาการที่ดี ก็ดีใจมาก ๆ  แถมยังมีสระว่ายน้ำส่วนตัวซะด้วย
รู้เลยว่าเขาต้องหายไวแน่นอน เพราะใจของคุณธงชัยได้มอบให้เจ้าขุนเขาไปแล้ว

แต่ยังไงก็ลดความกร่างของเจ้าขุนเขาด้วยนะครับ อย่าไปเอาใจมาก การปรับพฤติสุนัขเป็นส่วนสำคัญมากสำหรับสุนัข(บ้าน) บางแก้วอย่างเรา   ๆ 

เป็นกำลังใจให้สู้ต่อไปนะครับ(ทั้งคนทั้งหมาเลยนะครับ)
 พี่ปุยฟ้ารอเจ้าขุนเขาลุกขึ้นมาวิ่งแข็งกันนะครับ

"BIG ONE"

เจ้าขุนเขาน้อย เป็นไงบ้าง เงียบหายไปเลย
พี่ข้าวกล้อง ข้าวปุ้น รอติดตามข่าวอยู่นะ
ยาหมดหรือยังครับ ส่งข่าวด้วยนะครับ

"Big One"

27/7/2552

ต้องขออภัยที่เงียบหายไป คือตั้งใจไว้ว่า จะส่งข่าวเมื่อมีความคืบหน้าที่ชัดเจน แต่พอดี คุณ”Big one” ได้กรุณาถามถึงอาการ จึงรีบแจ้งมา

1)    อาการโดยทั่วไปยังปกติ แข็งแรง ร่าเริงดี ไม่มีอาการจะติดหวัด2009ตามเทรนด์

2)    ตัวโต และขนยาวกว่าเพื่อนเพศเมีย(ถ้วยฟู)มาก สงสัยจะเป็นผลจากอาหารเสริมกล้ามเนื้อของ “ป้าวิ”

3)    อาการที่คิดว่าพัฒนาขึ้นคงจะเป็น- การสั่นเกร็ง เมื่อได้ถูกนวดและกดจุดในบางตำแหน่ง

4)    การงอข้อพับเป็นตังVได้มากขึ้น และมีการยืดหยุ่นได้มากขึ้น ตามที่”คุณแม่วากัส” แนะนำมา

5)    เมื่อนวดไปบางขณะ จะสังเกตูเห็นกล้ามเนื้อโคนขา มีการขยับตัวเป็นระลอก แบบที่นักเพาะกายชอบโชว์ เวลาเบ่งกล้าม คิดว่าตาไม่ฝาด เพราะเห็นหลายครั้ง

6)    ปัญหาที่ยังกังวลคือ เวลาพาเดินโดยใช้ผ้าคล้องช่วย  มักจะงุ้มขาแล้วจ้ำไปดื้อๆ ทางผมต้องคอยปรับให้ฝ่าเท้าสัมผัสดินอยู่เสมอๆ แต่ก็มีบางจังหวะที่O.K.บ้าง

7)    แต่ตอนนี้มีปัญหาเร่งด่วนมากแทรก คือ เจ้าของเริ่มเดี้ยงแทน โดยที่ได้ทำการนวดและกดจุดอย่างเอาการเอางาน ปรากฏว่านิ้วโป้งของเจ้าของมีอาการซ้น และข้อศอกมีอาการอักเสบ ทางหมอนวดแผนโบราณ ยังประเมินไม่ได้ว่า  “ คนหรือหมา. จะหายก่อนกัน!!!!!

สงสัยว่า อาจจะต้องแอบแบ่งยาที่ป้าวิให้ขุนเขา มาใช้บ้าง..... ล้อเล่นครับ!!!

ธงชัย พะเยา

สวัสดีครับ คุณธงชัย

ขอบคุณสำหรับข่าวสารครับผม
 
ดีใจด้วยครับ กับอาการที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ของเจ้าขุนเขา  สู้ ๆ นะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ
 ที่สำคัญ ใจเย็น ๆ นะครับ พี่ปุยฟ้าอาการหนักกว่าเยอะยังกลับมาเดินได้ ทำอย่างเดิม
 ทุก ๆ วัน แล้ววันที่เขาลุกขึ้นเดินด้วยตัวเองได้ เราจะดีใจจนน้ำตาไหลเลยครับ (ลองมาแล้ว)

 ส่วนยาต่าง ๆ ขาดเหลือตัวไหนบอกนะครับ จะจัดส่งไปให้ครับ ไม่ต้องเกรงใจกันนะครับ

สู้ ๆ ทั้งคนทั้งหมาเลยนะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ
"Big One"

1/8/2552

ขอบคุณมากครับกับความห่วงใยอาการเจ้าขุนเขา เรื่องยานั้น ผมเกรงใจจริงๆครับ แต่คงต้องรบกวนยาเสริมกล้ามเนื้อของป้าวิ เพราะหมดแล้ว คิดว่าได้รับรอบนี้แล้ว คงจะมีอะไรก้าวหน้ามากกว่าเดิม

ส่วนยาเสริมอื่นๆนั้น ผมพอหาได้ตามร้านครับ  แต่ยาเสริมกล้ามเนื้อ คงต้องขอรบกวนป้าวิ และคุณหนึ่งจริงๆครับ   และอยากรบกวนถามว่า น่าจะมียาอะไรที่พอจะใช้แทนได้ ซึ่งเป็นยาที่สามารถหาซื้อตามร้านขายยาทั่วไป ที่ถามเพราะเกรงใจในระยะยาว  หากเจ้าขุนเขาไม่ยอมเดินง่ายๆ

ตอนนี้เจ้าขุนเขาเริ่มแสดงความดุ และหวงสิ่งของมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อวานนี้หนีออกจากกรง ไล่งับช่างก่อสร้างที่มาทำงานในโรงงาน จนช่างต้องขี่มอเตอร์ไซค์หนี!!!! ครับไล่เขาทั้งๆแถกๆไปนี่ละครับ!!!

ธงชัย พะเยา

13/8/2552

เมื่อบ่ายนี้ได้รับพัสดุจากคุณหนึ่ง เปิดดูก็พบว่าเป็นยาที่ขอไปทางเมล์  ต้องขอขอบพระคุณอย่างมากกับ"ป้าวิ" และ คุณหนึ่ง "Big one" ที่ให้ความช่วยเหลือ"ขุนเขา" และผม

อาการของขุนเขาตอนนี้ ยังไม่อะไรรุดหน้ามากนัก จะมีที่สังเกตุได้คือ การนวดสองครั้งล่าสุด เมื่องอข้อพับแรงๆ เขาจะมีแรงต้านยันมือของเรากลับมา

การหัดทรงตัว ผมพยายามใช้วิธีที่ "คุณแม่วากัส" แนะนำมาคือ หัดสมดุลย์น้ำหนักตัว โดยการใช้ผ้าประคอง แต่เจ้าขุนเขาไม่ยอมยืนกับที่ จะเดินท่าเดียว จึงคิดวิธีใหม่โดยให้เขายืน แล้วผมจะใช้ท่อนมือและศอก "ทาบ-กด-โยก-ว้าย-ขวา-หน้า-หลัง" บนบริเวณช่วงขาหลัง โดยพยายามใช้น้ำหนักที่พอดีกับการที่เค้าจะรับได้ ไม่ล้มลง ขณะเดียวกัน ก็ใช้อีกมือหนึ่งคอยกันไม่ให้เค้าเดินหนี

แต่ก็ยอมรับว่า บางครั้ง ก็ทำใจยอมให้เค้ามีโอกาสเคลื่อนที่ แบบ เด้งๆไปบ้าง เหมือนรูปที่"ป้าวิ"ส่งมา เพราะอยากให้เค้ามีอิสระบ้าง แต่ก็ไม่ให้บ่อยไป เพราะเกรงจะทำให้การรักษาแย่ลงไป (ตามที่คุณหนึ่งแนะมา)

ขอบคุณอีกครั้งสำหรับน้ำใจที่ดีงาม

ธงชัย พะเยา

ไม่รู้ว่าจะบอกว่างัย ก็ต้องสู้กันต่อไปครับคุณธงชัย  เหนื่อยบ้าง พักบ้าง แต่ผมว่าคุณธงชัยก็คงไม่มีวันหมดรักขุนเขาเป็นแน่นอน

เอาใจช่วยครับ

สู้ต่อไปเจ้าขุนเขา ขาดเหลือสิ่งไหนบอกนะครับ ช่วย ๆ กันไป

"Big One"

ขอขอบคุณกับทุกความช่วยเหลือ,ความเป็นห่วงและกำลังใจ และในทางกลับกันขอเป็นกำลังใจแก่ทุกท่าน ที่เป็นเจ้าของสุนัขบางแก้ว (ทุกสภาพ) ในการเลี้ยงดูและให้ความรักอย่างเต็มความสามารถ เพื่อดำรงไว้ซึ่ง" ความรักและเมตตาต่อสัตว์โลก" ตลอดไป ผมเชื่อมั่นว่าสิ่งนี้จะช่วยให้สังคมของเราน่าอยู่มากขึ้น

ธงชัย พะเยา