ขอแสดงความยินดี กับลูกสุนัขชุดใหม่ครับพี่พิทักษ์

ขอบคุณครับ ชุดนี้ตั้งใจมากเลยครับ การเก็บสายเพื่อต่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ และนี่ก็คือจิ๊กซอว์อีกตัวจากบางแก้วฮอตสปริงครับ

เจ้า Hotspring V.1 Orion  Beyonce  Bost Wick มาทำความรู้จักพี่พิงค์กี้ครับ

ขอยืมภาพเจ้าฮอลว่ามาโชว์หน่อย ภาพนี้ชอบมาก เป็นลูกเจ้าฮอลลี่กับชีวา จากละโว้บางแก้วลพบุรี

และผมเองกำลังพยามทำสายเลือดของฮอตสปริงเพื่อเข้ากับสายนี้ให้ลงตัว คงต้องใช้เวลา แต่ก็จะพยาม มั่นคง จริงใจและไม่หลอกตัวเอง นั่นคือจุเด่นของนักพัฒนาพันธุ์ ติดตามผลงานกันต่อไปนะครับ

ส่วนตัวนี้ Hotspring v.1 Orion Noree

ผลงานสร้างจากบางแก้วฮอตสปริงครับ ชื่นชอบสใตล์น้องหมาจากบางแก้วฮอตสปริง โทรมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันครับ 081-090-5045

สวยดีนะพี่ เป็นสุนัขจากกลุ่มประเทศแถบอาหรับ

เจ้าตัวนี้เข้าท่าทีเดียวพี่ วางลงกับใครครับ น่าติดตามจริงๆ

   ..............ได้ฟังหมอลักฟันธงว่าปลายปีนี้ ถึงปลายปีหน้าบางแก้วขาว-ดำจะมาแรงและอินเทรนสุดๆจ้าptระนอง.......

ท่าน p.t ระนอง เพิ่มเติมข้อมูลน้องหมาที่ท่านโพสท์มาสีดำ เป็นพันธ์ ซาลูกิ  ต้นกำเนิดอยู่ประเทศอียิป ซึ่งพันธ์สุนัขเก่าแก่พันธ์หนึ่ง ทำหน้าที่ล่าสัตว์  ใช่หรือไม่ครับท่าน ส่วนตัว ขาว-ดำ เพศเมียตัวนี้ ชื่อ นางพิม สนใจหรือเปล่า โทรมาได้จะบอกความลับให้  ก๊อซสิบ..กระซิบ  อายุ ปีกว่าๆ  สูงประมาณ 20 นิ้ว

ก่อนอื่น ขอขอบคุณในคำถามที่เป็นประโยชน์มากต่อผู้เลี้ยงสุนัข

เข้าใจว่าพี่ไตรสิทธิ์ มองที่สีของสุนัขเป็นปฐมเหตุ

ขอตอบและอธิบายเพื่อเป็นแนวทางดังนี้ครับ

คำถามแรก บางแก้วมาร์คหลุดที่เหลือเฉพาะหน้ากากมักจะถูกจำหน่ายออกจากคอกไปเหมือนปิงปองในรูปที่แนบมา   ไม่มีการเก็บไว้ทำพันธุ์ต่อ

นั่นไม่ใช่หลักในการพิจารณาของนักผสมพันธุ์หรือบรีดเดอร์ครับ

คราวนี้มาดูรายละเอียดครับ ทำไม....และมีเหตุผลอย่างไร......

ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจก่อนนะครับ ตัวผมเองเป็นประธานชมรมพัฒนาพันธุ์สุนัขบางแก้วภาคใต้ มีคอกสุนัขและเลี้ยงสุนัขเพื่อการพัฒนาพันธุ์ ที่คอกผมมีพ่อพันธุ์อยู่หลายตัว ผ่านการประกวดในหลายสนามและได้รับรางวัลมาตลอด รวมทั้งผมเองยังจัดงานประกวดสุนัขชิงถ้วยพระราชทานในพื้นที่ภาคใต้มาอย่างสม่ำเสมอ

สายเงินเป็นสุนัขเพศเมียในคอกซึ่งขอแบ่งมาจากคุณหนึ่ง พงษ์ผกา แฮนด์เลอร์และบรีดเดอร์อันดับหนึ่งในพิษณุโลก เป็นเพื่อนผู้มีน้ำใจแบ่งให้มาทำสายพันธุ์และพัฒนาต่อ

ในเมื่อผมอยู่ภาคใต้ จะผสมหมาทั้งทีทำไมต้องลำบากขับรถไปถึงลพบุรี?.??.......มีเหตุผลใด??......ในเมื่อที่คอกตัวเองก็มีพ่อพันธุ์ระดับแถวหน้าอยู่ด้วยเช่นกัน แต่ต้องเดินทางไปกลับกว่า 1500 ก.ม. ทำไม??......ขับรถต้องอดหลับอดนอน เสียงานเสียการ เสียค่าน้ำมันรถ เสียค่าผสมพันธุ์ทำ??....

มาดูเหตุผลครับ การเป็นนักพัฒนาพันธุ์ ทุกคนต้องมีความพยายาม ดิ้นรน ตั้งใจ ใขว่หา อดทนและเสียสละ ทั้งแรงกายแรงใจ ทุนทรัพย์ ทุ่มเทให้กับการนั้นๆจึงจะสำเร็จ

สายเงินเป็นสุนัขเพศเมียที่มีจุดเด่นในเรื่องของ หน้าอกที่ลึกและกว้าง มีลักษณะขนที่ถูกต้องตามมาตรฐานพันธุ์ มีขาหน้าและขาหลังที่ดี โครงสร้างเป็นสุนัขมีกระดูกใหญ่และมีความแข็งแกร่ง

การเคลื่อนใหวของสายเงินนับว่าดีมาก การย่างก้าวขณะวิ่งมีการสาดเท้าหน้าและหลังกลมกลืน การยืนเป็นการยืนแบบสี่เท้าที่มีความมั่นคงแข็งแรงดั่งหมาต่างประเทศหลายๆสายพันธุ์ การวิ่ง เท้าหลังไม่มีแนบชิดติดกัน วิ่งแบบไซบีเรี่ยนหรือโกลเด้น มีลักษณะการเคลื่อนไหวแบบที่หมาสากลเขาใช้กัน ขณะวิ่งจะดูเหมือนลอยไปเรียบๆ ไม่มีกระดกช่วงก้นให้เห็น

ที่สำคัญเป็นหมาที่มีกล้ามเนื้อในทุกส่วน โดยเฉพาะที่ขาหลังและช่วงของลำตัว ซึ่งหาได้ยากส์ในสุนัขบางแก้วยุคปัจจุบัน

บรรพบุรุษ มาจากสายของวันใหม่และไมเคิล มีเอกลักษณ์ชัดเจน บรรพบุรุษพ่อและแม่ ไม่มีมาร์คหลุด ตัวเขามาร์คหลุด จึงไม่ใช่มาจากกรรมพันธุ์

มาดูสายกาก้าคู่ผสมสายเงินครับครับ กาก้ามีพ่อเป็นฮอลลี่ สุนัขที่เคลื่อนไหวดีที่สุดในประเทศไทยขณะนี้ เป็นแชมป์ตลอดกาลที่ทุกคนยอมรับ มีขาหน้าที่โดดเด่นเหนือกว่าบางแก้วทั่วไป มีแม่คือน้ำหอม สุนัขเพศเมียที่ค่าตัวแพงที่สุดและมีเอกลักษณ์ที่ยังไม่มีสุนัขตัวใดมาเทียบได้ในยุคปัจจุบัน

น้ำหอมมาจากวันใหม่ ฮอลลี่มาจากไมเคิล ตระกูลของทั้งสองเกี่ยวเนื่องกันทั้งสายเงินและกาก้า

เมื่อจุดเด่นของกาก้าคือการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นจุดเดียวกับสายเงิน บวกกับจิตประสาทของทั้งสองที่ดีเยี่ยม สายของกาก้านับว่าเป็นสุนัขบางแก้วสายเดียวในประเทศไทยที่มีกล้ามเนื้อในทุกส่วนที่สวยงามกลมกลืน มีเส้นหลังที่แข็งแกร่ง มีมุมหน้าที่ดีและทุกสัดส่วนของร่างกายคือความสมบูรณ์แบบที่ไม่มีในบางแก้วทั่วไป การเคลื่อนไหวที่เหนือกว่าสุนัขในทุกค่ายของประเทศไทยตอนนี้

จากสายเลือดที่มาจากเหล่าเดียวกัน จากจุดเด่นที่มาจากจุดเดียวกัน และเพื่อการย้ำในจุดเหล่านี้ เพื่อลูกหลานที่ดีที่สุดในวันข้างหน้า นั่นคือคำตอบของบรีดเดอร์อย่างผมครับ....และโปรดคอยติดตามลูกๆของสายเงิน+กาก้าในสนามแข่งขันในอนาคตครับ

 ลูกมาร์คหลุดเยอะแบบนี้ เอาไปต่อยอดกับเหล่าดีแล้วรุ่นต่อไปจะเป็นไงครับ มาร์คแม่มาจากรุ่นก่อนที่เป็นต้นๆตระกูลรึเปล่าครับ คือผมยังไม่ค่อยเข้าใจครับ แล้วถ้าเอากลับเข้าไลน์บรีดฮอลลี่จะออกมาเป็นไงครับ

ขออนุญาตตอบครับ ก่อนอื่นขอบคุณพี่ไตรสิทธิ์ ที่ให้เกียรติ แต่ไม่บังอาจรับได้ครับ

ตัวผมเองก็ยังเป็นอีกผู้หนึ่งที่ต้องศึกษาอีกมากมายเลยทีเดียว มีอะไรพอตอบได้ก็ขอตอบตามประสพการณ์แล้วกันนะครับ

ตอบคุณ  napat suetanuwong  เรื่องมาร์คหลุด มาจากกรรมพันธุ์ก็มีครับ และมาจากการหลุดในสายขาวเทาที่ทำเลือดแน่นเกินกว่าสี่เจ็นเนอเรชั่น ก็มีด้วยเช่นกัน สาเหตุเกิดจากยีนที่ควบคุมสีในสายขาวเทา ถามว่าแล้วทำไมไม่มีเทาทั้งตัวบ้าง.....

ตามความคิดเห็นของผมนะครับ สุนัขบางแก้วดั้งเดิม เป็นสุนัขบ้านที่ผสมกับสุนัขป่าแน่นอน อุปนิสัยสุนัขป่าหรือหมาใน

หมาในเป็นหมาป่าขนาดปานกลาง ตัวผู้หนักประมาณ 15-20 กิโลกรัม ตัวเมีย 10-13 กิโลกรัม ความยาวหัว-ลำตัว 90 เซนติเมตร ความสูงที่หัวไหล่ประมาณ 50 เซนติเมตร ขนหนา แน่น สีน้ำตาลแดงอมส้ม ตัวที่อยู่ทางเหนือของเขตกระจายพันธุ์มักมีสีออกไปทางน้ำตาลหรือสีเหลืองอ่อนและขนยาวกว่า หมาในบางพื้นที่มีคอ ขา และใบหน้าสีขาว แต่หมาในในประเทศไทยมีสีน้ำตาลแดงตลอดทั้งตัวไม่มีสีขาว หางสีดำฟูเป็นพวงยาว 40-45 เซนติเมตร หลังสีเข้ม หูกลมใหญ่ ขนในหูสีขาว ปากสั้น มีกรามและฟันแข็งแรงมาก มีฟันกรามล่างเพียงข้างละสองซี่ ต่างจากหมาประเภทอื่นที่มีฟันกรามล่างข้างละสามซี่ จำนวนฟันทั้งปากจึงมี 40 ซี่ ซึ่งหมาชนิดอื่นมี 42 ซี่

หมาในพบตั้งแต่เอเชียตะวันออก อินเดีย จีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลงไปจนถึงเกาะชวา ทางเหนือพบสูงสุดถึงระดับเส้นละติจูด 54 องศา

หมาในปรับตัวเข้ากับพื้นที่ได้หลายประเภท ตั้งแต่ร้อนจัดจนถึงเย็นจัด ชอบอาศัยอยู่ในป่าทึบบนภูเขา ป่าอัลไพน์ ป่าไม้พุ่ม จนถึงป่าเปิดใกล้ทุ่งหญ้า แต่ไม่เคยพบในทะเลทราย อาณาเขตของหมาในกว้างประมาณ 40-84 ตารางกิโลเมตร หมาในทำเครื่องหมายบอกอาณาเขตด้วยเยี่ยวและขี้ แต่ช่วงเวลาที่ฝูงมีสมาชิกตัวน้อย ขนาดของพื้นที่หากินจะเล็กลง

หมาในมีพฤติกรรมหลายอย่างคล้ายหมาในแอฟริกา (African wild dog) ทั้งการหากินและสภาพสังคม หมาในอาศัยอยู่เป็นฝูง ๆ หนึ่งราว 5-12 ตัว บางฝูงอาจใหญ่มากถึงกว่า 25 ตัว ประกอบด้วยสมาชิกครอบครัวเดียวกัน สมาชิกในฝูงมักมีตัวผู้มากกว่าตัวเมียสองเท่า และฝูงส่วนใหญ่ก็มักมีตัวเมียที่เป็นแม่หมาเพียงตัวเดียว การวิวาทหรือรังแกกันในฝูงเกิดน้อยมากเนื่องจากสังคมหมาในถือระบบลำดับชั้นมาก หากินตอนกลางวัน เช้ามืด และพลบค่ำเป็นหลัก หากินตอนกลางคืนบ้างแต่ไม่บ่อยนัก หมาในล่าสัตว์ได้หลายชนิด เช่นกวางดาว กวางป่า ไอเบ็กซ์ แกะภูเขา แกะป่า กวางขนาดเล็ก หนู กระต่าย หมาในล่าสัตว์ใหญ่ด้วยการทำงานเป็นทีม เมื่อจับเหยื่อได้ก็จะเริ่มกินเหยื่อด้วยการกระชากลากไส้ทั้งเป็น ส่วนที่ถูกเลือกกินก่อนมักเป็นหัวใจ ตับ ลูกตา สะโพก และลูกในท้อง บางครั้งก็ล่าเหยื่อโดยลำพังได้ โดยเพราะเมื่อเหยื่อมีขนาดเล็กอย่างกระต่าย หมาในสามารถล่าเหยื่อที่หนักกว่าตัวเองถึง 10 เท่าได้ หมาในเพียงสองสามตัว ก็ล่ากวางที่หนักถึง 50 กิโลได้ภายในเวลาไม่ถึงสองนาที มักต้อนเหยื่อให้ลงน้ำ กินซากเหลือจากเสือบ้างแต่ไม่บ่อยนัก หมาในหวงเหยื่อมาก เคยพบว่าฆ่าเสือโคร่งและหมีได้ อย่างก็ตาม หมาในไม่ค่อยอยากยุ่งเกี่ยวกับคนและมักเลี่ยงคนเสมอ หมาในชอบน้ำมาก มักลงน้ำหลังจากกินอาหาร และมักนั่งแช่น้ำตื้น ๆ ไม่ว่าอากาศจะร้อนหรือเย็น ชอบส่ายหางเมื่อดีใจเช่นเดียวกับหมาบ้าน

หมาในเปล่งเสียงได้หลายแบบ นอกจากเสียงเหมือนผิวปากซึ่งใช้ในการสื่อสารในฝูงเป็นหลักแล้ว ยังทำเสียงเมี้ยวเหมือนลูกแมว เสียงกรีดร้อง เสียงซู่ซี่เบา ๆ หรือแม้แต่เสียงกุ๊ก ๆ ได้ด้วย

หมาในตัวเมียเป็นสัดราวเดือนกันยายนจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ตั้งท้องนานประมาณ 60-62 วัน ออกลูกครั้งละ 4-10 ตัว เคยพบมากที่สุดถึง 12 ตัว มักออกลูกในรังของสัตว์อื่นที่ทิ้งไปแล้ว เช่นรังเม่น แม่หมาในมีสัมพันธ์ระหว่างแม่หมาด้วยกันอย่างใกล้ชิด เคยพบว่ามีการใช้รังร่วมกันด้วย สมาชิกทุกตัวในฝูงจะช่วยกันดูแลเด็กและป้อนอาหารให้ หมาในผู้ใหญ่จะนำอาหารมาสู่เด็กด้วยการขย้อนออกมาให้เด็ก ๆ กิน สมาชิกผู้ใหญ่บางตัวอาจผู้เฝ้ารังเพื่อดูแลเด็ก ๆ ขณะที่ตัวอื่นออกไปเหยื่อด้วย ลูกหมาในโตเร็วมาก ลูกหมาจะเริ่มออกจากบริเวณรังเมื่ออายุได้ 10 สัปดาห์ ระหว่างที่ลูกหมาเติบโต จะมีการประลองกำลังกันเพื่อจัดลำดับชั้นในฝูง การต่อสู้เพื่อจัดอันดับนี้จะสิ้นสุดลงเมื่ออายุได้ราว 7 เดือน ซึ่งเป็นวัยที่เริ่มออกไปล่าเหยื่อร่วมกับฝูงได้ หมาในเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวเมื่ออายุได้ 1 ปี ซึ่งหลังจากนั้นอาจแยกตัวออกไปหรืออาจยังอยู่กับฝูงก็ได้ หมาในสาวในแหล่งเพาะเลี้ยงจะเริ่มให้กำเนิดลูกได้เมื่ออายุได้ 2 ปี แต่ในธรรมชาติต้องรอให้ถึงปีที่ 3 จึงจะให้กำเนิดลูกได้

ในธรรมชาติ หมาในมีอายุขัยประมาณ 10 ปี ในแหล่งเพาะเลี้ยงอาจอยู่ได้นานถึง 16 ปี

หมาในถูกคุกคามจากการที่สัตว์เหยื่อลดจำนวนลง ถิ่นที่อยู่อาศัยถูกทำลายและจากการล่า ในอดีตก็เคยมีการฆ่าเพื่อเอาหนัง หมาในมักถูกกับดัก วางยาเบื่อ ถูกยิง หรือแม้แต่รังเลี้ยงลูกก็ถูกทำลาย การที่มนุษย์บุกรุกเข้าไปตั้งถิ่นฐานในป่าและนำหมาบ้านเข้าไปเลี้ยงด้วย ก็อาจทำให้โรคติดต่อบางอย่างแพร่ไปยังประชากรหมาในได้ เช่นในอินเดีย โรคจำพวกหัดหมาและโรคพิษสุนัขบ้าได้กวาดล้างประชากรหมาในไปเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันหมาในได้รับการคุ้มครองในหลายประเทศ แต่ประชากรหมาในก็ยังน้อยตลอดเขตกระจายพันธุ์ คาดว่าเหลืออยู่ 2,500 ตัว

ไอยูซีเอ็นประเมินสถานภาพของหมาในว่าอยู่ในระดับใกล้สูญพันธุ์ (EN) C2a(i) ไซเตสจัดอยู่ในบัญชีหมายเลข 2 ไทยจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง

ทราบหรือไม่?

• ชื่อสกุล Cuon มาจากภาษากรีก แปลว่า หมา

• alpinus มาจากภาษาละติน แปลว่า ภูเขาอัลไพน์

• หมาในกระโดดได้ถึง 2.1 เมตร

• หมาในรวมฝูงสามารถล่าสัตว์ที่หนักกว่าตัวมันเองถึงสิบเท่าได้ ไล่ได้แม้กระทั่งเสือโคร่ง

• เคยมีการพบฝูงหมาในที่มีมากถึง 40 ตัว

• เคยมีการพบหมาในยืนเยี่ยวโดยยืนด้วยขาหน้าสองขาเท่านั้น

• ในอินเดียเคยมีรายงานว่าฆ่าลูกช้างต่อหน้าแม่ช้างได้ แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตของหมาในในฝูงไปหลายตัว

ถ้าดูรายละเอียด ท่านจะเห็นว่าหมาในชอบน้ำ ลักษณะเช่นนี้เป็นแบบเดียวกับบางแก้ว ซึ่งไม่มีในสุนัขสายพันธุ์อื่นที่ไม่ผ่านสายเลือดมาจากหมาใน 

การล่าเหยื่อแบบชาญฉลาด โดยการไล่ต้อนลูกกวางลงน้ำ การทำงานแบบเป็นทีม มีการจับภาพได้โดยบังเอิญขณะหมาในต้อนกวางลงน้ำที่ป่าภูเขียว ลองค้นข้อมูลในเว็บดูนะครับ

อุปนิสัยเหล่านี้มีในบางแก้วด้วยเช่นกัน และไหวพริบในการจับงูหรือสัตว์ป่าบางชนิด เป็นพันธุกรรมที่มาจากสุนัขป่าล้วนๆครับ

มาดูอีกสายเลือดที่เป็นต้นตระกูลของบางแก้วด้วยเช่นกัน

หมาจิ้งจอก

หมาจิ้งจอก มีขนาดใกล้เคียงกับหมาไทยทั่วไป มักสีเหลืองทองทั่วทั้งตัว บางตัวอาจค่อนไปทางน้ำตาล ขนหยาบสั้น บริเวณแผ่นหลังปลายขนสีดำหรือสีเทา ความยาวหัว-ลำตัว 60-106 เซนติเมตร หางฟูเป็นพวง ยาว 20-30 เซนติเมตร ปลายหางดำ หูยาวตั้ง ความสูงหัวไหล่ 38-50 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 7-15 กิโลกรัม ตัวเมียมีหัวนม 5 คู่

หมาจิ้งจอกมีเขตกระจายพันธุ์กว้างขวางมาก พบตั้งแต่ทวีปแอฟริกาตอนเหนือทั้งหมดตั้งแต่โมรอกโกจนถึงอียิปต์ทางใต้แพร่ไปจนถึงเคนยา ในยุโรปพบในคาบสมุทรบอลข่าน ตะวันออกกลาง เอเชียใต้ พม่า มาจนถึงประเทศไทย ลาว กัมพูชาตอนบน และเวียดนาม ในบางพื้นที่ของแอฟริกาพบว่าเขตกระจายพันธุ์ยังคงแผ่ขยายออกไป เมื่อไม่นานมานี้ก็มีการพบที่อุทยานแห่งชาติ Bale Mountains ของเอธิโอเปียที่ระดับความสูงถึง 3,800 เมตร นอกจากนี้ยังพบที่ป่า Harenna และในอิตาลีตะวันออกอีกด้วย

หมาจิ้งจอกชอบอาศัยอยู่ตามป่าโปร่งที่มีทั้งต้นไม้ ไม้พุ่ม หญ้า ไม้แคระ พบได้สูงถึง 2,000 เมตร (เคยพบได้ถึง 3,800 เมตร) นอกจากนี้ยังพบอยู่ตามโอเอซีส และชุมชนมนุษย์

หมาจิ้งจอกเป็นสัตว์ที่ปรับตัวเก่งมาก มีจมูก สายตา และหูดีเยี่ยม มักอยู่กันเป็นคู่ผัวเมีย มีอาณาเขตหากินกว้างประมาณ 0.5-2.5 ตารางกิโลเมตร หากินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ในพื้นที่ที่มีผู้คนอาศัยอยู่มักหากินเวลากลางคืนมากกว่า ในพื้นที่ที่อาหารอุดมสมบูรณ์อาจรวมฝูงกันเป็นฝูงใหญ่ได้ถึง 20 ตัว ชอบหอนในเวลาใกล้ค่ำ และเช้ามืดก่อนฟ้าสาง

หมาจิ้งจอกกินได้ทั้งพืชและสัตว์ สัตว์ที่กินส่วนใหญ่เป็นสัตว์ขนาดเล็ก เช่นกระต่ายป่า หนู ลูกกวาง นก สัตว์เลื้อยคลาน บางครั้งก็กินซาก ส่วนอาหารที่เป็นผลไม้อาจมีมากถึงเกือบครึ่งหนึ่ง ในพื้นที่ใกล้ชุมชนมนุษย์ก็อาจเข้ามารื้อค้นเศษกองขยะหาอาหารกิน

หมาจิ้งจอกเป็นสัตว์ผัวเดียวเมียเดียว ในประเทศไทยจะผสมพันธุ์ในราวเดือนมีนาคม ในถิ่นอื่นอาจต่างกันไป เช่นในรัสเซียเป็นเดือนกุมภาพันธ์-เดือนมีนาคม อิสราเอลอยู่ในช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ ตั้งท้องนาน 63 วัน ออกลูกครั้งละ 1-9 ตัว ส่วนใหญ่มัก 5-6 ตัว เมื่ออายุได้ 3 สัปดาห์ก็จะเริ่มกินอาหารแข็งได้โดยพ่อแม่จะสำรอกอาหารออกมาให้กิน หย่านมได้เมื่ออายุได้ราว 8-10 สัปดาห์ และเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุได้ 11 เดือน หมาจิ้งจอกในธรรมชาติมีอายุยืนได้ถึง 13 ปี ในสถานเพาะเลี้ยงอาจมีอายุได้ถึง 16 ปี

ปัจจุบันสถานภาพประชากรของหมาจิ้งจอกยังอยู่ในระดับปลอดภัย เพราะยังพบได้ทั่วไปในเขตกระจายพันธุ์ ในทุ่งหญ้าเซเรนเกตี คาดว่ามีอยู่ประมาณ 1,600 ตัว ประเทศไทยจัดหมาจิ้งจอกเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง

ทราบหรือไม่?

·         คำว่า jackal มาจากคำภาษาเปอร์เซียว่า shoghal ส่วนชื่อชนิด aureus เป็นภาษาละติน แปลว่า สีทอง

·         หมาพันธุ์บางแก้ว มีต้นกำเนิดมาจากลูกผสมระหว่างหมาบ้านกับหมาจิ้งจอก

·         หมาจิ้งจอกที่มักเป็นที่รู้จักในภาพยนต์หรือการ์ตูนฝรั่งที่มีชื่อภาษาอังกฤษว่า fox เป็นหมาจิ้งจอกอีกชนิดหนึ่ง ไม่มีในเมืองไทย

ลักษณะเจ้าเล่แบบหมาจิ้งจอก รูปร่างหน้าตาและสี ท่านจะพบเห็นได้ในบางแก้วด้วยเช่นกัน

สุนัขทั้งสองชนิดข้างต้น ให้ท่านจำรายละเอียดในเรื่องสีไว้นะครับ เดียวเราจะมาถึงคำตอบเรื่องมาร์คหลุดกันว่ามาอย่างไร.........

บรรพบุรุษอีกตัวของบางแก้วคือสุนัขบ้าน

สุนัขบ้านมีทั้งพันธุ์ขนสั้นและขนยาว การเกิดสุนัขบ้านมีมาแต่โบราณ เกิดการผสมปนเปทั้งขนาดเล็กใหญ่และสีที่ค่อนข้างหลากหลาย แม่สีในยีนเลือดของสัตว์หลายชนิดที่เกิดจากธรรมชาติอันหลากสี สุดท้ายยีนที่เด่นที่สุดและล้างออกยากส์ มักเป็นสีขาว

สุนัขบ้านทุกตัวร้อยละเก้าสิบมีสีขาวอยู่ในสีของพื้นตัว

อันเป็นสิ่งที่ตกทอดมาจากยีนสีที่หลากหลายแต่การปรากฎของยีนสามารถแสดงออกได้ง่ายในยีนที่ทำหน้าที่ควบคุมสี นั่นก็คือสีขาว

แม้ว่าโครโมโซมของสุนัขจะถูกกำหนดให้สามารถจับคู่กับสุนัขด้วยกันทุกสายพันธุ์ก็ตาม แต่ยีนเด่นในสีขาวกลับแสดงออกมาในทุกครั้งที่ผสมข้ามพันธุ์

มีผู้พยามค้นหาความแรงในยีนสีขาวว่ามีจุดเกิดอย่างไร ใช้หลักการผสมข้ามพันธุ์ในสุนัขสีดำ เช่น พันธุ์ลาบราดอสีดำทั้งตัวผสมกับพันธุ์ร็อตไวเลอร์สีดำทั้งตัวเช่นกัน

ผลออกมาลูกสุนัขครอกนั้นเป็นสีดำทั้งหมด แต่....มีจุดด่างขาวที่หน้าอก ขาหนีบและเท้าหลัง

เมื่อการทำซ้ำอีกครั้งได้ผลเป็นสุนัขสีดำแต่กลับมีด่างขาวเป็นดวงเล็กๆทั้งตัว

เมื่อเป็นเช่นนี้เราก็จะพอประมาณได้ว่ายีนสีขาวมีความเด่น พูดภาษาชาวบ้านแบบเข้าใจง่ายๆนะครับ สีขาวที่ถ่ายทอดมาจากไหนผมก็ไม่ทราบได้ รู้แต่ว่ายากส์ที่จะล้างมันออกโดยง่าย คงต้องใช้เวลานานหลายสิบปีในสุนัขที่เป็นสีดำ

ไหนๆเข้ามาตอบแล้วก็ขอต่อไปเรื่อยๆเท่าที่จะทำได้ครับ คำถามยังอยู่นะครับ ติดตามอ่านไปเรื่อยๆก็ถึงคำตอบที่ต้องคิดอีกเช่นกัน แต่ก็ดีกว่าไม่มีใครมาตอบ

สุนัขบ้าน ท่านสามารถพบเห็นได้ทุกสี แต่ประเพทสีเดียวทั้งตัวท่านจะเห็นสีขาวมากที่สุด ตามมาด้วยสีแดงสีน้ำตาลและสีดำ

แปลกแต่จริง สุนัขบ้านทั่วไปมักมีสีขาวล้วนทั้งตัวได้โดยไม่มีสีอื่นมาสอดแทรก ทว่าพวกสีน้ำตาล สีแดง และสีดำ กลับยากส์ยิ่งนักที่จะมีสีเดียวตลอดทั้งตัวโดยไม่มีสีอื่นสอดแทรก (ในสุนัขบ้านนะครับ)

คราวนี้มาดูสีที่มาจากบรรพบุรุษกันบ้าง เริ่มจากสุนัขป่าทั้งสองสายพันธุ์ เราเรียกว่าเป็นสายพันธุ์สัตว์ที่มีเลือดนิ่งแล้ว ถ้าจับสุนัขป่ามาหนึ่งร้อยตัว ความแตกต่างจะไม่มีให้เห็นแบบชัดเจนแน่นอน สุนัขทั้งร้อยตัวจะดูเหมือนกันหมดเลย.......

เหตุผลจากธรรมชาติเป็นผู้คัดเลือก ผมเองเคยสงสัยและคละแคลงใจมากในเรื่องของกฎธรรมชาติเหล่านี้ แต่โดยที่ตัวผมเองอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ซึ่งนับว่ามีป่าอันอุดมสมบูรณ์ และเคยใช้ชีวิตในป่า เกี่ยวข้องกับสัตว์ป่า ได้ดูได้เห็นวิถีชีวิตความเป็นไปของสัตว์ป่า

สุนัขป่า ออกลูกมาก็ไม่น้อย เรียกเป็นครอก ในครอกย่อมมีสุนัขที่อ่อนแอ และแข็งแรง การมีทั้งสองอย่างเกิดขึ้นโดยการคัดเลือกในระบบธรรมชาตินั่นเอง เช่นมีการผสมพันธุ์กันเองภายในครอกเดียวกันหรือหมู่เครือญาติเดียวกัน สุนัขไม่สามารถแยกแยะได้ว่าไหนคือพี่ ไหนคือน้อง ไหนคือพ่อและแม่

เมื่อการผสมในลักษณะนี้เกิดขึ้น ผลที่ได้ ลูกสุนัขจะเกิดการรวมตัวและการจับคู่กันของโครโมโซมในเลือให้แน่นและเข้มข้น จนกระทั่งมีความเหมือนกันได้ในที่สุด การพัฒนาในหลักธรรมชาติ สุนัขตัวที่อ่อนแอจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา และบางตัวก็รอดชีวิตแต่มันอ่อนแอเกินกว่าจะสืบพันธุ์ต่อไปได้

นั่นเป็นการคัดเลือกโดยธรรมชาติ ตัวที่สมบูรณ์สุดและแข็งแกร่ง เกิดจากยีนที่ดีที่สุดมาจับคู่ด้วยกัน ทำให้ได้สุนัขป่าที่แข็งแกร่งและสมบูรณ์เพื่อการสืบพันธุ์ต่อไป ในทางกลับกัน มีการจับคู่เหมือนของยีนด้อย ซึ่งมีลักษณะที่เหมือนกัน ซ้ำซากมานานจนลงล็อค เจอเหมือนกันเมื่อใดการจับคู่ก็รวดเร็วปานนั้น เรียกว่ายีนเด่นหมดสิทธิ์ทันทีที่เห็นเพราะความเหมือนกับเค้ามีน้อย....

หลายคนมักพูดว่าสุนัขที่ผสมกันเองในเครือญาติมักจะเป็นสุนัขที่ด้อย เหตุผลเนื่องจากเลือดชิด และหรือมียีนด้อยที่เหมือนกัน

สำหรับผมกลับคิดว่า สุนัขไม่มีทางที่ยีนในเลือดจะเหมือนกันได้ เพราะถ้าเหมือนกันยีนก็ไม่มีทางจับคู่กันได้ มีเหตุผลว่าสุนัขที่มาจากพ่อแม่เดียวกันย่อมมียีนเลือดไม่เหมือนกัน และถ้าเหมือนกันสุนัขนั้นต้องเป็นฝาแฝดกันเท่านั้น ขอย้ำต้องเป็นฝาแฝดและเพศเดียวกันมีตัวติดกันเท่านั้นจึงจะเรียกว่ามียีนเลือดเหมือนกันทุกประการณ์

และนี่เป็นเหตุผลที่ผมคิดกลับกันกับปรมาจารย์บางแก้วหลายๆท่าน การทำเลือดที่นิ่งมีทางเดียวเท่านั้นคือการทำในลักษณะยีนเดียวกัน เพื่อการคงไว้ของความนิ่งในสายเลือดและใช้เวลาน้อยที่สุด

การสร้างสัตว์ที่เป็นพันธุ์แท้และเลือดนิ่งในหลักธรรมชาติก็ใช้หลักนี้เช่นเดียวกัน ส่วนใครจะมีความเห็นเช่นไรก็เป็นสิทธิ์ที่จะคิดและทำการพัฒนา ซึ่งก็มีอยู่หลายเส้นทาง ส่วนตัวผม มองว่าการที่สัตว์นั้นๆในธรรมชาติมีเลือดนิ่งได้อย่างไร และมันยังปรากฎให้เราเห็นอยู่ในทุกวันนี้

ทีนี้เราได้คำตอบแล้วว่าสีที่แท้จริงมาจากอะไร ไม่ทราบหลายท่านลืมไปละยัง เกิดจากการซ้ำในยีนเลือดนะครับ สีขาวทั้งตัวมีได้ในธรรมชาติ

เราจะพบเห็นสุนัขทั้งไทยและต่างประเทศ มีสีเดียวทั้งตัวแต่ยีนสีที่อ่อนแรงและแสดงออกทั้งตัว อย่างสีเทา เราจะไม่พบเห็นบ่อยนัก เกิดจากกำลังของยีนควบคุมตามธรรมชาติในสีอ่อน อย่างเดียวกับแม่สีในรุ้งที่มีหลายสี แต่อันไหนชัดสุด นั่นก็คือกฎธรรมชาตินั่นเอง

ทีนี้ เมื่อทุกท่านเห็นแล้วว่า การเกิดของสีสามารถเกิดขึ้นได้ ก็กลับมาดูบรรพบุรุษสุนัขบ้านของบางแก้วอีกที การมีสุนัขสีขาวล้วนของสุนัขบ้าน เมื่อไปผสมกับสุนัขป่า การมีสุนัขบ้านขาว-น้ำตาล เมื่อไปผสมกับสุนัขป่า การมีสุนัขบ้านสีขาว-ดำ เมื่อไปผสมกับสุนัขป่า 

สีที่ออกมาก็หลากหลาย การคัดพันธุ์โดยธรรมชาติ ทำให้สุนัขบางแก้วมีหลายสี แต่ทั้งหมดของทุกสีต้องมีสีขาว เห็นมั้ยครับ ทั้งหมดของทุกสีต้องมีสีขาว

คำถามเริ่มใกล้เข้ามา.........เมื่อเป็นเช่นนี้ มาดูครับ สุนัขสายขาว-เทา ซึ่งนับว่าเป็นสีอ่อน เมื่อมีการย้ำในสายเลือดจนถึงระดับเข้มข้น จะพบเจอลูกสุนัขสีขาวล้วนออกมาแน่นอน

ทำความเข้าใจอีกนิด ในสุนัขขาว-เทา ที่พัฒนาต่อเนื่องในสายขาว-เทา ไม่เกินสี่เจ็นเนอเรชั่น จะพบลูกสุนัขสีขาวล้วนปรากฎในครอกให้เห็น

ถามว่าทำไม และทำไมไม่เจอดำล้วน...แดงล้วน....เทาล้วน....เจอกันแต่ขาวล้วน นั่นก็เป็นเพราะยีนเลือดในบรรพบุรุษสีขาวบางตัวของบางแก้ว ถูกบังคับให้แสดงออกมาในขณะเดียวกับที่ในตัวมียีนสีอ่อน นั่นคือสีเทานั่นเอง คำตอบเริ่มชัดขึ้นนะครับ

มาร์คหลุดมาจากยีนที่ซ่อนอยู่ในเลือดและถูกพยายามทำให้แสดงออกมา ในการทำซ้ำของการพัฒนาพันธุ์นั่นเอง ถามว่า ถ้าไม่มีการทำซ้ำยีนขาวล้วนจะแสดงออกมาได้หรือไม่.....ไม่แสดงออก และจะไม่เห็นในบรรพบุรุษที่ผ่านมา แล้วขาว-น้ำตาล เมื่อผ่านการทำซ้ำ ฉไนจึงไม่มีขาวล้วนออกมา.....ไม่มีเพราะยีนน้ำตาลมีความเข้มเพียงพอที่ยีนสีขาวจะครอบคลุมได้ทั้งหมด และเป็นไปตามสีของธรรมชาติ

ดังนั้น เมื่อพิณาตามยีนในสายเลือด สุนัขขาวล้วนหรือมาร์คหลุด เกิดจากการพัฒนาพันธุ์จนสายเลือดเข้มข้นในระดับหนึ่ง สุนัขมาร์คหลุดผสมกับตัวมาร์คดี จะได้มาร์คดีเพิ่มขึ้นในเจ็นที่หนึ่ง เจ็นที่สองผสมกับสุนัขมาร์คสวยและมีเลือดเข้มข้น จะได้ลูกมาร์คสวยเกือบทั้งหมด

ข้อคิดอีกประเด็น สุนัขที่ได้สีขาวล้วน มาจากบรรพบุรุษที่มีสีขาวล้วนใช่หรือไม่ หรือเป็นสุนัขพันธุ์ต่างประเทศบางสายพันธุ์ที่แอบพัฒนากับบางแก้ว จนส่งผลลับมาสู่รุ่นหลังเมื่อการพัฒนาใกล้สายเลือดดั้งเดิมมากยิ่งขึ้นใช่หรือไม่

ส่วนตัวผมยกเลิกและไม่คิดในประเด็นนี้ เหตุผลเพราะ ป่วยการในการฟื้นฝอยหาตะเข็บ การหาบรรพบุรุษอาจมีประโยชน์ก็จริง แต่ถามว่าได้อะไร ทิศทางจะเป็นอย่างไร วันนี้เรามีมาตรฐานพันธุ์แล้ว จงทำบางแก้วให้เป็นไปตามมาตรฐานพันธุ์ที่กำหนดขึ้น

การพัฒนาต่อไปในอนาคตข้างหน้า จะต้องทำให้ได้สุนัขที่ดียิ่งๆขึ้น นั่นคือสิ่งจำเป็นของนักพัฒนาพันธุ์

อีกข้อหนึ่ง เป็นความเห็นโดยส่วนตัวนะครับ ไม่ได้โต้แย้งใคร มีบางท่านโทรมาปรึกษาผม และบอกว่าเดี๋ยวนี้บางแก้วขนไม่ยาวแล้ว เขารู้สึกไม่สบายใจ ไม่รู้จะไปหาหมาขนยาวได้อย่างไร สุดท้ายคงต้องเลิกเลี้ยงเพราะไม่สวย

ฝากกันสักนิดเถอะครับ ไปดูมาตรฐานพันธุ์อีกทีนะครับ บางแก้วถูกกำหนดให้เป็นสุนัขมีลักษณะขนยาวปานกลาง ท่านต้องทำตามมาตรฐานพันธุ์สิครับ ยาวปานกลางไม่ใช่ยาวรุงรังมันจะผิดมาตรฐานพันธุ์ และนั่นยังหมายถึงสุนัขพันธุ์ไม่แท้อีกต่างหาก

ดูสุนัขที่ได้รับการรับรองแล้วของต่างประเทศนะครับ ไซบีเรี่ยน ขนก็เป็นไซบีเรี่ยนชัดเจน ไม่มีใครทำไซบีเรี่ยนขนรุงรังออกมาหรอกครับ เขาทำและเลี้ยงตามาตรฐานพันธุ์เท่านั้น พุดเดิ้ล ขนก็ยาวแค่นั้นแหละครับ ตามมาตรฐาน ไม่มีใครทำพุดเดิ้ลขนแบบลาซ่าอัปโซ่แน่นอน สุดท้าย มาตรฐานพันธุ์ใครจะตามหรือจะแตกก็ขอได้รับความขอบคุณครับ บางแก้วฮอตสปริง http://www.bangkaewhotsprinf.com  ขอโฆษณาหน่อยนะครับท่าน admin

ขออภัยเกือบลืมตอบคุณ เจริญทรัพย์ ตั้งจรูญไพศาล

ลูกสุนัขเกรดโชว์กับเกรดเลี้ยงเล่น ราคาต่างกันแน่นอน มาดูครับ เราจะได้สุนัขเกรดโชว์ได้อย่างไร ประการที่หนึ่ง สุนัขทั่วไปไม่มีทางจะให้ลูกเป็นสุนัขเกรดโชว์แน่นอน ยกเว้นปาฏิหารจะมีจริง

การทำสุนัขเกรดโชว์ มักออกมาจากคอกหรือฟาร์มที่เขามีพ่อแม่พันธุ์ลักษณะดีอยู่แล้ว การหาพ่อและแม่ลักษณะดีนับว่ายากส์มาก และต้องมีค่าใช้จ่ายสูง การผสมพันธุ์แต่ละครั้งก็ต้องคิดและวางแผนว่าจะต่ออย่างไร ไปอย่างไรจึงจะได้สุนัขเกรดโชว์ตลอด ไม่ตกชั้น เหมือนทีมฟุตบอลพรีเมียลีกต้องพยามไม่ให้ตกชั้นไปอยู่ดิวิชั่นสองประมาณนั้น

การเลี้ยงดูสุนัขเกรดโชว์ เมื่อสุนัขเกรดโชว์มาจากคอกที่ดี การเลี้ยงดูย่อมพิถีพิถัน ทั้งอาหารการกินและการดูแลรักษา ต้นทุนต่างๆย่อมสูงกว่าคนที่ทำให้หมาตั้งท้องแล้วนำลูกสุนัขมาวางขายทั่วไปแน่นอน

เรื่องราคา ไม่มีจุดจบครับ สุนัขบางแก้ววางขายทั่วๆไป 2500 - 5000 บาท ลูกสุนัขเกรดโชว์ ถ้าดีและมีแววมากๆนั่นหมายถึงราคาไปไกลทีเดียว แต่เกรดโชว์ทั่วไปมักเริ่มกันที่ 8000-30000 ในลูกสุนัข ราคายังขึ้นอยู่กับเจ้าของไม่อยากขายเพราะลูกสุนัขสวยโชว์จริงๆ และยังขึ้นอยู่กับผู้ซื้อต้องการนำมาเป็นพ่อแม่พันธุ์หรือประกวด ซึ่งต้องการซื้อจริงๆ ราคาก็คงไม่ต้องบอกนะครับ สำหรับเกรดโชว์ปานกลางและทั่วๆไปมักอยู่ที่ 12000-20000 บาทครับ

ลงชื่อเว็บผิด ขอแก้ไขครับพี่ http://www.bangkaewhotspring.com

ถ้าจะกล่าวถึงมาตรฐานพันธุ์ พอได้ครับพี่ แต่อยากให้ท่านผู้เลี้ยงหรือผู้พัฒนาพันธุ์ทั้งหลาย ได้มาพูดคุยเพื่อเกิดความรู้กันด้วยก็น่าจะดี และก็ขึ้นกระทู้ใหม่ดีกว่า อันนี้มันเข้าดูยากส์แล้วครับ

ขอโชว์ด้วยค่ะ... หนึ่งในผลงานจากคอกระนอง น่าร้าก น่ารัก ชอบเล่นน้ำมาก (เห็นบ่อน้ำไม่ได้) หวงของ ผูกมิตรกับหมาเพื่อนบ้านเก่ง แต่ไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งนั้นถ้าโดนรังแก สู้หลังชนฝาแม้จะสู้ไม่ได้ รักเจ้านายที่สุด อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอค่า เชื่อฟังคำสั่งดีมาก ไม่เคยต้องตีเลย อึ ฉี่ที่ประจำตลอด จนหญ้าหย่อมนั้นตายแล้ว รูปนี้สี่เดือน ไว้จะเอารูปล่าสุดมาลงให้ชมนะคะ

ดีใจกับน้องพลอยสวยด้วยครับ มีผู้ปกครองดีน้องหมาก็มีวินัยที่ดีด้วย ตอนนี้น่าจะถ่ายขนสุดๆ เดือนหน้าน่าจะมาแบบเต็มๆครับ

มีเวลาลองเข้าชมพี่น้องของพลอยสวยครับ   http://hotspring.thde.com/-View.php?N=4