เลี้ยงหมา(ขนาดใหญ่ 30-40 ตัว)ด้วยอาหารสดดิบ(BARF) มาเกือบสิบปีแล้ว ไม่เคยมีปัญหา หรืออาการป่วยอันเกิดจากอาหารเลยแม้แต่ครั้งเดียว อาหารหลักที่กินประจำวัน สำหรับหมาปกติทั่วไป คือโครงไก่ สับหยาบชิ้นใหญ่ๆ ใส่น้ำมันพืช เช่น น้ำมันงา , น้ำมันดอกทานตะวัน , น้ำมันมะกอก(Extra Virgin) ฯลฯ....(อย่างใดอย่างหนึ่ง) เหยาะ น้ำส้มหมักแอปเปิ้ลไซเดอร์(Apple Cider Vinegar with The Mother) ลงไปด้วย 2-3 เหยาะ (บางครั้ง ถ้าหมักน้ำส้มผลไม้เอง ใช้ได้ทันเวลา ก็ใช้น้ำส้มหมักเองแทน) , บริวเวอร์ยีสต์ และวิตามินซี ตัวไหนที่มีปัญหาเรื่องข้อกระดูก เช่น หมาข้อตะโพกพิการ หรือที่ถูกรถชนขาเดี้ยง (เก็บมาจากข้างถนน) ก็จะโรยยาผง บำรุงเส้นเอ็นและน้ำรอบข้อ , และวิตามินบีคอมเพล็กซ์ เสริมลงไปด้วย พวกหมาแก่ที่ยังแข็งแรงดี ก็เสริมด้วย น้ำมันปลา(Fish Oil) และ น้ำมันพริมโรส และให้อาหารครึ่งหนึ่งเป็นเนื้อขี้เลื่อย เพื่อจะได้ไม่ต้องใช้แรงเคี้ยวมาก และอาจจะเพิ่มน้ำมันขึ้นนิดหน่อยเพื่อให้ถ่ายง่ายขึ้น มีมื้อพิเศษ เสริมด้วยเนื้อวัว , เนื้อติดกระดูกซี่โครงวัว , ปีกไก่เต็ม , หัวปลาแซลมอนดิบ(ซื้อจากซุปเป้อร์มาเก็ตราคาไม่แพง), ปลาไข่ , ปลาซาบะ ฯลฯ สัก อาทิตย์ละ 1-2 มื้อ ไม่แน่นอน เก็บผักต่างๆจากในบ้าน ปั่นใส่กับน้ำเลือด(จากโครงไก่ , บางทีก็ขอจากร้านขายเนื้อวัว) เติมน้ำพอให้ปั่นได้ง่าย ใส่ถาดน้ำแข็ง เก็บไว้ เวลาจะให้กิน แกะออกมาใส่ในชามให้กินพร้อมอาหาร ครั้งละ 1-2 ก้อน สัก อาทิตย์ละ 1-2 มื้อ ไข่ดิบ อาทิตย์ละ 1-2-3 ฟอง แล้วแต่สภาพหมา บางตัวก็ชอบกินเปลือกด้วย สาหร่ายทะเลแผ่นๆที่มีขายเป็นห่อใหญ่ๆ ก็ชอบกินกันมาก เวลาให้กิน ฉีกๆๆเป็นชิ้นเล็กๆ สัก 1/3 แผ่นใส่คลุกลงในชามอาหาร สาหร่ายจะนิ่มลงเอง และมีกลิ่นคาวที่หมาชอบ ว่างๆ ก็ทำโยเกิร์ทให้เขากินกันบ้าง วิธีทำง่ายๆ ดูจากลิ้งค์เวบBARF
หมาที่เลี้ยงด้วยอาหารสดดิบ มีหลักง่ายๆอยู่ว่า ต้องให้ในมื้ออาหาร ประกอบด้วย กระดูก ต่อ เนื้อ เป็นสัดส่วนประมาณ 40/60 หรือ 50/50 หมาจะได้รับแคลเซี่ยมจากกระดูกอยู่แล้ว ไม่ต้องเสริมแคลเซี่ยมอีก การได้รับแคลเซี่ยมมากเกินไป จะทำให้มีผลเสียมากกว่าผลดี วิตามิน อาหารเสริมบำรุงต่างๆ ให้ตามความจำเป็นที่เจ้าของจะใช้หมา เช่นหมาที่ต้องฝึก เพื่อทำงาน , ประกวด , แข่งขันกีฬา ฯลฯ ก็จะมีการเสริมวิตามินสารอาหารเฉพาะทาง เช่น เพิ่มพลังงาน เพิ่มความแข็งแรงของข้อกระดูก เพิ่มความสวยงามของขน ฯลฯ เนื่องจาก อาหารสดดิบ เป็นอาหารตามธรรมชาติของสัตว์ประเภทหมา การให้กินอาหารแบบนี้ ทำให้น้ำย่อยของหมาปรับเข้าสู่สภาพปกติตามธรรมชาติของเขา คือน้ำย่อยมีความเข้มข้นสูง ที่สามารถย่อยกระดูก เส้นเอ็น หนัง ฯลฯ ของเหยื่อ หรืออาหารตามธรรมชาติของเขาได้ดี ทำไม หมาที่กินอาหารสดดิบ จึงไม่ปรากฏว่ามีพยาธิเลย ??...... ตามที่บอกไว้ข้างบน ว่าน้ำย่อยของหมา มีความเข้มข้นสูงตามธรรมชาติ ซึ่งไม่เอื้ออำนวยให้พยาธิสามารถเจริญเติบโตมีชีวิตอยู่ได้ // พยาธิ ไม่ได้อยู่ในเนื้อสัตว์ดิบๆเท่านั้น แต่ไข่พยาธิ มีอยู่ทั่วไปในสิ่งแวดล้อม บนพื้นดิน ตามใบไม้ใบหญ้า แต่หมาที่กินอาหารสดดิบจะมีสภาพความเข้มข้นของน้ำย่อยตามสภาพเดิมๆ คือมีความเข้มข้นสูง เมื่อกินเอาไข่พยาธิเข้าไป ไข่ก็ไม่สามารถฟักตัวและเจริญเติบโตได้ ทำไม หมาที่กินอาหารเม็ด หรืออาหารปรุงสุก จึงจำเป็นต้องถ่ายพยาธิ ทุก1-2 เดือน ??.... เพราะ หมาที่กินอาหารเม็ด โดยเฉพาะที่โฆษณาว่า ย่อยง่าย นั้น น้ำย่อยของมัน ได้ปรับสภาพตามความจำเป็นในการใช้งานไปแล้ว เพราะไม่จำเป็นย่อยสลายซาก/กระดูก/หนัง/ไขมันสัตว์อีกต่อไป ไข่พยาธิที่อยู่ในสภาพแวดล้อมทั่วไปตามปกติ เมื่อเข้าสู่ร่างกาย ก็สามารถฟักตัว และเจริญเติบโตอยู่ในระบบในร่างกาย เป็นพยาธิตัวเต็มวัย สามารถออกไข่...ฟักตัวได้อีก.... เรื่องไข่ดิบ ไข่สุก ก็เล่าสู่กันฟังไปตามประสบการณ์ ที่เลี้ยงหมาด้วยเนื้อดิบ กระดูกดิบ ไข่ดิบ ผักดิบ มานานเกือบสิบปี ได้เรียนรู้ และพิสูจน์แล้ว จากประสบการณ์จริง เรื่องของการค้นคว้าทางวิชาการ ก็เป็นอีกแง่มุมหนึ่งที่ต้องการการพิสูจน์ ว่า สารที่ว่ามีอยู่ในไข่ดิบนั้น มีผลต่อระบบย่อยจนถึงขั้นอันตราย จริงหรือไม่ อย่างไร ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดเจน จากอาหารสดดิบ เปรียบเทียบกับอาหารสำเร็จรูปคือ หมาจะฟื้นตัวจาก การวางยาสลบเพื่อผ่าตัด อย่างรวดเร็วมาก และแผลจากการผ่าตัด หรือแผลทั่วไป จะหายเร็ว และแทบไม่ปรากฏการอักเสบ นอกจากนี้ ผลการตรวจเลือดทุกครั้ง ค่าตับ ไต ค่าความเข้มข้นของเลือด ฯลฯ จะอยู่ในขั้นดีมาก เคยพาหมาไปบริจาคเลือด หมอยังออกปากว่า นานแล้ว ที่ไม่เคยเห็นผลเลือดคุณภาพดีแบบนี้ จากหมาที่มาบริจาค |