เมื่อ 1 อาทิตย์ก่อน ฉันซึ่งเป็นแม่และพ่อ(แฟน) เกือบใจสลายเมื่อเห็นลูกเป็นแบบนั้นเห็นลูกทรมาน มันเริ่มจากสังเกตเห็นออมสินไม่สบายเริ่มจากท้องเสียเป็นวุ้นเล็กน้อยแต่ยังร่าเริงดีวิ่งเล่นปกติ แต่! แค่เสี่ยววินาทีในเวลาไม่ถึงชั่วโมงออมสินเดินออกมาจากที่นอนแล้วก็พยายามเข้ามาหาฉันและก็ล้มในอ้อมเขนฉัน ทำอะไรไม่ถูกในนาทีนั้นมันตื้อแต่แฟนบอกต้องตั้งสตินะ หันมองหน้ากันแล้วแฟนถามออมสินตัวร้อนหรือปล่าว(ลองเอามือวางไว้บนท้องปรากฏว่าร้องมาก)เพราะไม่มีปรอทเลยใช้มือ หลังจากนั้นฉันพูดว่าต้องหาหมอ เราสองคนพาเจ้าตัวเล็กไปคลีนิคระหว่างทางออมสินมองแม่และพ่อตลอดเหมือนอยากจะบอกว่าพ่อแม่อย่าทิ้งหนูนะเค้ามองเราตลอดไม่ละสายไปจากเราเลย เมื่อถึงหมอตรวจบอกน้องท้องเสียมีไข้ 102 องศา จะฉีดยาปฏิชีวนะให้แต่ยังไม่ทันฉีดน้องก็ถ่ายออกมา หมอบอกดีเลยจะได้ตรวจซะ และสิ่งที่หมอบอกเราก็ทำให้เราแทบช็อคเมื่อหมอบอกกับเราทั้งสองว่า น้องเป็นลำไส้อักเสบเป็นเชื้อพาโวไวรัส เท่านั้นล่ะฉันทรุดเกือบทรงตัวไม่อยู่ ถามหมอต้องทำไงหมอบอกต้องประคองอาการไปเรื่อยๆ 5-7 วัน ถ้าน้องอึดก็คือรอดถ้าไม่ก็.... วันนั้นหมอให้น้ำเกลือแล้วกลับบ้านพรุ้งนี้มาใหม่และให้งดน้ำงดอาหาร วันรุ่งขึ้นนำน้องไปหาหมอคนเดิมวัดไข้แล้ว 104 หมอแนะนำให้เจาะน้ำเกลือเข้าเส้นเลือดแต่หมอดูตลอดไม่ได้ เลยแนะนำให้ไปอีกที่ซึ่งเป็นเพื่อนของหมอดูได้ตั้งแต่ 9.00-21.00น (ลืมบอกหมอไม่คิดค่ายาเลยในวันที่สองทั้งที่ฉีดไปแล้ว) บอกตามตรงฉันไม่อยากให้ลูกห่างตัวอยากเฝ้าเองแต่คงไม่ได้เพราะต้องทำงาน เลยจำใจต้องฝาก ไปถึงให้น้ำเกลือเลย วันที่ 1-2 วันน้องไม่ดีขึ้นกลับยิ่งเป็นหนักกว่าเดิมอีกตอนแรกเห็นแล้วแทบยืนไม่อยู่พยายามเรียกเค้าตลอดเค้ามองมาที่เราอยากมาหาเราแต่ไม่มีแรงอาเจียนและถ่ายตลอด แต่เราไปดูทุกวันระหว่างพักเที่ยงถึงแม้ว่าจะไปเยี่ยมแต่ฉันแอบโทรจิกหมอถามอาการอยู่ตลอดทุกๆ 2 ชั่วโมง วันที่ 3 น้องอาการแย่มากๆ ถึงมากอาเจียนและถ่ายตลอด เครียดเลยยอมรับว่าแทบเป็นลมทำใจไม่ได้ แต่แล้ววันที่ 4 เหมือนปฏิหารมีจริงน้องเริ่มทานน้ำได้และทานอาหารได้แต่นิดหน่อยและยังอาเจียนและถ่ายอยู่บ้าง เราพาไข่ต้มพี่ออมสินไปเยี่ยมออมสินด้วย สองพี่น้องเอาเท้าเขี่ยกันทั้งๆที่ออมสินไม่มีแรง น้ำตาเราไหลเลย วันที่ 5 น้องดีขึ้นหมอถอดน้ำเกลือแล้วแต่ยังไม่วิ่งเล่นมีอาเจียนตอนเช้าอยู่เจ็บทั้งตัวเมื่อเราเอื้อมมือไปจับตัวเค้า เค้ากลัวมากและเจ็บมาก วันที่ 6 เราไปเยี่ยมไปถึงหมอบอกคุณแม่มาออมสินแล้วก็เปิดกรง ออมสินวิ่งมาอย่างดีใจตอนนั้นเราแทบร้องให้เมื่อเห็นออมสินดีขึ้นเข้ามาจูบและอ้อนเหมือนทุกครั้ง เราถามหมอกลับบ้านได้ยังค่ะหมอ หมอบอกต้องดูอีก 2 วันค่ะเพราะยังอาเจียนอยู่และยังมีน้ำมูกไหลตลอดเวลา วันที่ 7 กริ้งๆๆ ตั้งแต่ 9.00น. หมอน้องออมสินเป็นไงบ้างค่ะ หมอ: อาการดีขึ้นค่ะ แม่ออมสิน:หมอรับกลับได้ยังค่ะ หมอ: ได้แล้วค่ะแต่ต้องกินยาต่อนะค่ะ แม่ออมสิน: ค่ะ เมื่อถึงคลีนิคเปิดประตูเข้าไป หมอ: ออมสินใครมา หมอเปิดกรงออมสินวิ่งไม่คิดชีวิตออกมา แม่ออมสิน: ออมสิน....คิดถึงแม่ไหม กลับบ้านกันนะออมสินโผเข้าหาแม่ทีพ่อทีอย่างดีใจ และแล้วออมสินก็ได้กลับบ้าน ถึงแม้เราจะหมดเงินไป ร่วมหมื่นต้นๆแต่ก็คุ้มนะเราว่าแลกกับเค้าได้อยู่กะเราต่อ ปล. อยากเตือนสติพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ทุกๆคนว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับหมาที่แสนรัก ขอให้ตั้งสติกก่อนอันอับแรกอย่าสติแตกเหมือนเราถ้าไม่มีคุณแฟนที่แสยน่ารักเตือนก็คงแย่ |