บางแก้ว เมืองชาละวัน ที่ "นฤภัทรฟาร์ม"
โดย nalupat onchan - Tuesday, 21 October 2008, 07:01PM
 
วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 21 ฉบับที่ 441


เทคโนฯ สัตว์เลี้ยง

อุราณี ทับทอง uranee@matichon.co.th

บางแก้ว เมืองชาละวัน ที่ "นฤภัทรฟาร์ม"

ลูกสิงห์เพชร

ไม่ว่าสุนัขพันธุ์ใดๆ ใครๆ ก็ต่างขนานนามให้กับเจ้าสัตว์เลี้ยงชนิดนี้กันว่า เป็น "เพื่อนผู้ซื่อสัตย์" บางคนกล่าวเต็มปากเต็มคำว่า "มีเพื่อนเป็นหมา ดีกว่ามีเพื่อนหมาๆ ที่เป็นคน"...

หนึ่งในสายสุนัขที่ขึ้นชื่อเรื่องความจงรักภักดีอันดับต้นๆ ก็คือ "บางแก้ว" สุนัขคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดพิษณุโลก ที่มีประวัติอันยาวนาน มีขนยาวฟู หางเป็นพวง และมีแต้มสีเป็นเอกลักษณ์ กลายเป็นเสน่ห์อีกประการที่ทำให้คนไทยหันมาสนใจ เพราะขนที่น่ารักน่ากอดของบางแก้วเป็นธรรมชาติที่เหมาะสมกับสภาพอากาศเมืองร้อนของบ้านเราเป็นอย่างดี สามารถเปลี่ยนใจคนนิยมสุนัขขนยาวพันธุ์นอกให้กลับมาหลงรักเจ้าบางแก้วพันธุ์ไทยมานักต่อนัก



รูปทาโร่



เมื่อหลงรัก "เจ้ายามมีขน"

ครอบครัวอ่อนจันทร์ อยู่บ้านเลขที่ 206/3 ถนนศรีมาลา ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เป็นอีกครอบครัวหนึ่งที่หลงเสน่ห์บางแก้วมานานนับสิบปี เริ่มต้นจากลูกชายคนเดียวในบ้านคือ คุณนฤภัทร อ่อนจันทร์ ต้องการสุนัขสักตัวมาเลี้ยง โดยทั้งครอบครัวเห็นพ้องต้องกันว่า สุนัขพันธุ์บางแก้ว น่าสนใจที่สุด

"เมื่อก่อนนี้ในพิจิตรไม่มีฟาร์มบางแก้วเลยนะ แทบไม่มีใครเลี้ยง แต่ในพิษณุโลกเขาโด่งดังอยู่แล้ว พอดีลูกชายชอบ เราเองก็รู้สึกประทับใจบางแก้วที่ความรักเจ้าของ สามารถเฝ้าทรัพย์สินให้เราได้ ก็เลยไปหาซื้อตัวแรกมาเลี้ยงจากฟาร์มที่พิษณุโลก เป็นตัวเมีย เขาก็เฝ้าของ เฝ้าบ้านได้ เวลาไปไหนมาไหน หรือประชุมที่อื่นหลายๆ วัน ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องทรัพย์สินภายในบ้าน รถราก็ไม่ห่วง บางครั้งมีพวกงูมีพิษเข้ามาในบ้านตอนน้ำท่วม เขาจะเห่าเตือนให้เรารู้ตัวแล้วก็จะกัดสู้ เตือนภัยให้เราได้ อุ่นใจมากที่เลี้ยงไว้ กลายเป็นสุนัขที่เป็นทั้งเพื่อนแล้วก็ใช้ประโยชน์ได้ด้วย" คุณศิริพร อ่อนจันทร์ หรือที่คนแถวนั้นเรียก ครูหน่อย เล่าย้อนให้ฟังถึงจุดเริ่มต้น

หลังจาก ปี 2540 สุนัขบางแก้วเพียงตัวเดียวก็เริ่มออกลูกหลานมาให้เลี้ยงเล่นอีกหลายตัว ครูหน่อยกับลูกชาย พร้อมด้วย ด.ต. อร่าม อ่อนจันทร์ คู่ชีวิตก็ใช้เวลาว่างจากงานประจำช่วยกันดูแลบางแก้วเรื่อยมา สุนัขตัวใดสวยสง่า ลักษณะดีก็ส่งลงสนามประกวดจนเริ่มเป็นที่รู้จัก ในที่สุดก็สามารถขยับขยายก่อเกิดเป็น "นฤภัทรฟาร์ม" ผู้เพาะขยายพันธุ์สุนัขบางแก้วแห่งจังหวัดพิจิตร โทร. (089) 958-7665, (081) 770-7377, (056) 612-112 หรือ www.bangkaewworld.com

ครูหน่อย บอกต่อว่า เมื่อมีแผนการขยายพันธุ์สุนัขเป็นงานเสริม จึงปรับเปลี่ยนพื้นที่กว้างในตำบลท่าฬ่อ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักไม่ไกลนัก สร้างโรงเรือนเลี้ยงสุนัขให้เป็นสัดส่วน เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นสวนธรรมชาติ อากาศถ่ายเทได้สะดวก และมีพื้นที่กว้างพอให้สุนัขได้วิ่งเล่นออกกำลัง ทั้งยังห่างไกลชุมชนอันเป็นข้อดีของการเลี้ยงบางแก้วจำนวนมาก โดยจัดกรงสำหรับสุนัข ขนาด 2 x 2 เมตร ต่อตัว พร้อมลานกว้างอีกประมาณ 30 ตารางเมตร เพื่อให้สุนัขออกกำลังและขับถ่าย

ปัจจุบัน นฤภัทร์ฟาร์ม มีพ่อแม่พันธุ์สุนัขรวม 10 ตัว โดยพ่อพันธุ์เด่นของฟาร์มก็คือ "ทาโร่" บางแก้วสีขาวน้ำตาลอ่อน วัย 4 ปี "ส้มโอ" บางแก้วสีขาวน้ำตาลเข้ม วัย 3 ปี ส่วนเจ้า "สิงห์เพชร" อดีตพ่อพันธุ์สีขาวน้ำตาลเข้มที่เคยโด่งดัง ปัจจุบันกำลังถูกปลดระวางด้วยวัย 9 ปี แต่ทุกวันนี้ยังเป็นสุดยอดยามเฝ้าบ้านที่ยังสวยสง่าเช่นวัยหนุ่ม



สิ่งแวดล้อมดี ดูแลง่าย

ครูหน่อย บอกว่า ข้อดีของสุนัขบางแก้วอีกเรื่องก็คือ ไม่เป็นโรคง่าย สุขภาพแข็งแรง การเลี้ยงดูบางแก้วนับสิบตัวภายในฟาร์มจึงไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก เพียงฉีดวัคซีนรวมและวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าตามโปรแกรมเป็นประจำทุกปี ส่วนโรคพยาธิหนอนหัวใจที่มักคร่าชีวิตสุนัขนั้นก็ไม่ห่วง เพราะเมื่อถึงเวลาห้าโมงเย็น กรงสุนัขทั้งหมดจะถูกคลุมด้วยผืนมุ้งขนาดใหญ่เพื่อป้องกันยุงซึ่งเป็นพาหะนำโรค

ทุกวันนี้ ด.ต. อร่าม ได้ออกจากราชการมาเลี้ยงดูเจ้าบางแก้วทั้งหลายอย่างเต็มที่ ในแต่ละวันเขาจะปล่อยสุนัขออกจากกรงในช่วงเวลา 09.00 น. เพื่อออกกำลังและขับถ่าย จากนั้นราว 10.00 น.จะให้สุนัขกลับมากินอาหารเม็ดสำเร็จรูปที่กรงของตัวเอง ปริมาณ 3 ขีด ต่อมื้อ ต่อวัน เสริมด้วยเนื้อวัวต้มสุกหั่นชิ้นผสมในอาหารสัปดาห์ละ 2 ครั้ง แต่หากเป็นแม่พันธุ์ต้องเสริมด้วยวิตามินรวมชนิดเม็ดผสมในอาหารตลอดทั้งปี

โดยปกติแล้วสุนัขทั่วไปมักจะผสมพันธุ์แค่ปีละครั้งเท่านั้น แต่พ่อแม่พันธุ์ที่นี่ผสมพันธุ์ได้ปีละ 2 ครั้ง ครูหน่อย บอกว่า ยังไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอะไร คาดว่าเป็นเพราะปัจจัยหลายอย่าง เช่น สิ่งแวดล้อมที่มีอากาศถ่ายเทดี สุนัขตัวผู้และตัวเมียมีกรงที่ใกล้กัน และสุนัขมีการบำรุงอยู่ตลอดเวลา จึงอาจเป็นปัจจัยเสริมกระตุ้นให้สุนัขต้องการผสมพันธุ์ แต่เมื่อสัตว์ต้องการเธอก็ไม่ห้าม จะปล่อยให้สุนัขผสมกันโดยไม่คิดกังวลว่าจะติดลูกสุนัขหรือไม่ แต่การจับคู่ผสมพันธุ์นั้น ต้องคำนึงถึงลักษณะสุนัขที่สามารถแก้ข้อด้อยของอีกฝ่ายได้ด้วย เช่น เรื่องสี และลักษณะโครงสร้าง เพื่อให้ได้ลูกสุนัขบางแก้วที่ใกล้เคียงกับมาตรฐานของชมรมผู้อนุรักษ์และพัฒนาสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วพิษณุโลกแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นลักษณะสายพันธุ์แบบดั้งเดิม อาทิ กะโหลกใหญ่ คอหนา หลังตรง หางเป็นพวง หูตั้ง มีแข้งสิงห์ จมูกดำ และคงความยาวของขนปานกลาง ไม่ให้มีขนยาวมากเหมือนบางแก้วสายพันธุ์ใหม่ที่เริ่มมีการผสมพันธุ์ให้บางแก้วมีขนยาวขึ้นและมีความดุน้อยลง

ส่วนลูกสุนัขบางแก้วที่คลอดออกมีจำนวนเฉลี่ย 4-9 ตัว จะเริ่มฝึกให้กินอาหารเองเมื่ออายุ 20 วัน โดยเริ่มจากค่อยๆ ป้อนให้สุนัขกินกล้วยบด สักพักจึงเริ่มผสมไข่ต้ม ผสมนม และให้อาหารกระป๋องสำหรับลูกสุนัข เมื่อสุนัขอายุ 40 วัน ขึ้นไป จึงจะสามารถออกจำหน่ายไปยังเจ้าของรายใหม่ได้ สำหรับสุนัขที่วัยล่วงเลยมาถึง 7-8 ปี ก็จะถูกปลดระวางจากการเป็นพ่อแม่พันธุ์ แต่ก็ได้รับการเลี้ยงดูอย่างตามใจต่อไป



เน้นสาย "พันธุ์ดุ!!"

ต้องเลี้ยงดูอย่างใส่ใจ


ระหว่างพูดคุยกับครูหน่อย มีคนพิจิตรด้วยกันจูงบางแก้วเข้ามาผสมพันธุ์ที่ฟาร์มพอดี เมื่อลองพูดคุยสอบถาม พวกเขาบอกว่าสุนัขที่นี่มีเอกลักษณ์ในเรื่องของความดุ!!

"บางแก้วที่นี่บอกเลยว่าดุ แต่ดุในที่นี้ก็คือ ดุแบบหวงของ ดุกับคนแปลกหน้า กับสัตว์อื่น เพราะสายพันธุ์ดั้งเดิมของบางแก้วเป็นสุนัขดุอยู่แล้ว ในความคิดเห็นส่วนตัวเลยคิดว่าบางแก้วก็น่าจะดุบ้าง เพราะอย่างน้อยเอกลักษณ์ที่เป็นนิสัยเฉพาะสายพันธุ์บางแก้วก็คือ จะต้องหวงของหวงแหนทรัพย์สิน หวงเจ้าของ ถ้าสุนัขที่ไม่ดุใครจะเข้าบ้านจะมาทำอะไรก็ได้ แต่ถ้าเป็นบางแก้วเขาจะต้องไม่ยอม จะต้องเอาเรื่อง แต่บางแก้วเป็นสุนัขที่รักเจ้าของมากนะ ถึงจะดุอย่างไร กับเจ้าของจะรักมากๆ เราเลยมองว่าถ้าสุนัขบางแก้วไม่ดุก็รู้สึกเหมือนกับไม่ถูกเอกลักษณ์ บางแก้วของที่นี่จึงดุเป็นส่วนใหญ่ แต่บางคนก็ไม่ชอบ นั่นแล้วแต่ความต้องการของคนเลี้ยง" ครูหน่อย ยอมรับ

ดังนั้น ลูกค้าที่มาซื้อสุนัขที่นฤภัทรฟาร์ม จึงมักมีความแน่ชัดว่าต้องการสุนัขดุ เพื่อใช้ในการเฝ้าบ้าน เฝ้าสวน แต่ครูหน่อยจะพูดคุยกับลูกค้าเสมอว่า ยอมรับสุนัขดุได้มากน้อยแค่ไหน เพราะผู้เลี้ยงบางรายทำใจยอมรับ หรือควบคุมสุนัขไม่ได้ แล้วตัดปัญหาโดยการฆ่าสุนัขทิ้ง คนเลี้ยงบางแก้วจึงควรเป็นผู้ที่รักสุนัขจริงๆ และมีประสบการณ์ในการเลี้ยงสุนัขมาก่อน

"สุนัขพวกนี้ต้องสอนเหมือนกับสอนเด็กดื้อๆ แนะนำให้เลี้ยงตั้งแต่เล็ก เลี้ยงด้วยใจและเลี้ยงด้วยความเมตตา เราต้องสอนเหมือนเด็ก สอนเหมือนลูก ศึกษาพฤติกรรม อันไหนที่ทำไม่ดีต้องรีบเปลี่ยน เช่น ในเวลาที่กินอาหารแล้วเราไปเข้าใกล้ แล้วสุนัขทำอาการดุใส่ ต้องฝึกให้สุนัขไว้ใจ โดยให้สุนัขกินอาหารจากมือเราบ้าง เพื่อให้เขารู้สึกว่าเราไม่ได้มาแย่งอาหาร เพราะเขามีสัญชาตญาณของการเป็นสัตว์ป่าอยู่ เวลากินก็ค่อย ๆ เอาอาหารไปเพิ่มให้เขาในถาดได้ ค่อยๆ หยิบจาน ให้สุนัขเกิดความไว้ใจ เพราะพวกนี้เวลากินจะหวง หรือเวลาทำผิดก็ต้องตีขณะนั้นเลย โดยการตีด้วยม้วนหนังสือพิมพ์ที่ดั้งจมูกไม่ได้แรงมาก ให้ได้ยินเสียง แล้วต้องบอก ต้องดุว่า แต่พวกนี้เขาฉลาดบางทีทำผิดมาก็จะรู้ตัวเอง ก็จะทำหลบๆ เราก็ต้องเรียกมาจัดการสั่งสอนให้ได้"

หรือเป็นเพราะเอกลักษณ์ด้านโครงสร้างสายพันธุ์ดั้งเดิมที่ยังแฝงความดุ สุนัขบางแก้วของนฤภัทรฟาร์มจึงยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดมานานนับสิบปี อีกทั้งราคาจำหน่ายก็ไม่เคยลดลงหรือเพิ่มขึ้นตามกระแสขาขึ้นขาลงของสุนัข โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ตัวละ 3,500-4,000 บาท มีเพียงบางตัวที่มีความด้อยเรื่องสีอ่อนเท่านั้น จะมีราคาต่ำกว่า อยู่ที่ตัวละ 2,500 บาท ครูหน่อย บอกว่า ขายสุนัขราคานี้ตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบัน

"ถ้าเลี้ยงใหม่ๆ ต้องเลือกเลี้ยงสุนัขที่ไม่ดุมาก เพราะอาจจะทำให้กลัวบางแก้วไปเลย ทั้งที่จริงๆ บางแก้วไม่ใช่สุนัขที่น่ากลัว แต่เป็นสุนัขที่มีเสน่ห์มาก ขี้ประจบ จะเหมาะมากถ้าเลี้ยงในบ้านที่มีรั้ว เพราะเขาต้องการอาณาเขต ไม่เหมาะเลี้ยงในชุมชน ส่วนเด็กเล็กเราก็อย่าเพิ่งไว้ใจ เพราะสุนัขยังไม่สามารถแยกแยะออกได้ว่าเด็กตัวเล็กๆ เป็นสัตว์ที่เป็นศัตรูหรือเปล่า เพราะบางครั้งเด็กน้อยก็มักจะยกมือทำท่าทางเด็กไปตามประสา แต่สุนัขคาดเดาไม่ได้ ก็คิดว่าจะเข้ามาทำร้าย เขาก็จะป้องกันตัวไปตามสัญชาตญาณ ผู้ปกครองก็ไม่ควรไว้ใจมากเกินไป" ครูหน่อย กล่าวทิ้งท้าย

หน้า 83

ตอบ: บางแก้ว เมืองชาละวัน ที่ "นฤภัทรฟาร์ม"
โดย เจ้าไปร์ท 5518 - Thursday, 23 October 2008, 12:21PM
 

เน้นสาย "พันธุ์ดุ!!"

ต้องเลี้ยงดูอย่างใส่ใจ

ระหว่างพูดคุยกับครูหน่อย มีคนพิจิตรด้วยกันจูงบางแก้วเข้ามาผสมพันธุ์ที่ฟาร์มพอดี เมื่อลองพูดคุยสอบถาม พวกเขาบอกว่าสุนัขที่นี่มีเอกลักษณ์ในเรื่องของความดุ!!

"บางแก้วที่นี่บอกเลยว่าดุ แต่ดุในที่นี้ก็คือ ดุแบบหวงของ ดุกับคนแปลกหน้า กับสัตว์อื่น เพราะสายพันธุ์ดั้งเดิมของบางแก้วเป็นสุนัขดุอยู่แล้ว ในความคิดเห็นส่วนตัวเลยคิดว่าบางแก้วก็น่าจะดุบ้าง เพราะอย่างน้อยเอกลักษณ์ที่เป็นนิสัยเฉพาะสายพันธุ์บางแก้วก็คือ จะต้องหวงของหวงแหนทรัพย์สิน หวงเจ้าของ ถ้าสุนัขที่ไม่ดุใครจะเข้าบ้านจะมาทำอะไรก็ได้ แต่ถ้าเป็นบางแก้วเขาจะต้องไม่ยอม จะต้องเอาเรื่อง แต่บางแก้วเป็นสุนัขที่รักเจ้าของมากนะ ถึงจะดุอย่างไร กับเจ้าของจะรักมากๆ เราเลยมองว่าถ้าสุนัขบางแก้วไม่ดุก็รู้สึกเหมือนกับไม่ถูกเอกลักษณ์ บางแก้วของที่นี่จึงดุเป็นส่วนใหญ่ แต่บางคนก็ไม่ชอบ นั่นแล้วแต่ความต้องการของคนเลี้ยง" ครูหน่อย ยอมรับ

ดังนั้น ลูกค้าที่มาซื้อสุนัขที่นฤภัทรฟาร์ม จึงมักมีความแน่ชัดว่าต้องการสุนัขดุ เพื่อใช้ในการเฝ้าบ้าน เฝ้าสวน แต่ครูหน่อยจะพูดคุยกับลูกค้าเสมอว่า ยอมรับสุนัขดุได้มากน้อยแค่ไหน เพราะผู้เลี้ยงบางรายทำใจยอมรับ หรือควบคุมสุนัขไม่ได้ แล้วตัดปัญหาโดยการฆ่าสุนัขทิ้ง คนเลี้ยงบางแก้วจึงควรเป็นผู้ที่รักสุนัขจริงๆ และมีประสบการณ์ในการเลี้ยงสุนัขมาก่อน

"สุนัขพวกนี้ต้องสอนเหมือนกับสอนเด็กดื้อๆ แนะนำให้เลี้ยงตั้งแต่เล็ก เลี้ยงด้วยใจและเลี้ยงด้วยความเมตตา เราต้องสอนเหมือนเด็ก สอนเหมือนลูก ศึกษาพฤติกรรม อันไหนที่ทำไม่ดีต้องรีบเปลี่ยน เช่น ในเวลาที่กินอาหารแล้วเราไปเข้าใกล้ แล้วสุนัขทำอาการดุใส่ ต้องฝึกให้สุนัขไว้ใจ โดยให้สุนัขกินอาหารจากมือเราบ้าง เพื่อให้เขารู้สึกว่าเราไม่ได้มาแย่งอาหาร เพราะเขามีสัญชาตญาณของการเป็นสัตว์ป่าอยู่ เวลากินก็ค่อย ๆ เอาอาหารไปเพิ่มให้เขาในถาดได้ ค่อยๆ หยิบจาน ให้สุนัขเกิดความไว้ใจ เพราะพวกนี้เวลากินจะหวง หรือเวลาทำผิดก็ต้องตีขณะนั้นเลย โดยการตีด้วยม้วนหนังสือพิมพ์ที่ดั้งจมูกไม่ได้แรงมาก ให้ได้ยินเสียง แล้วต้องบอก ต้องดุว่า แต่พวกนี้เขาฉลาดบางทีทำผิดมาก็จะรู้ตัวเอง ก็จะทำหลบๆ เราก็ต้องเรียกมาจัดการสั่งสอนให้ได้"

        ขอตัดข้อความบางส่วนที่น่าสนใจ...สำหรับผู้ที่จะเลี้ยงบางแก้วเพื่อวัตถุประสงค์ในการเฝ้าทรัพย์สิน เฝ้าบ้าน แต่ยังขาดความเข้าใจในพฤติกรรมของบางแก้ว หลายๆคนคำนึ่งถึงเพียงประโยชน์จากสุนัขเท่านั้น จากชื่อเสียงที่ได้ยินได้ฟังว่าบางแก้วดุ รักเจ้าของ หวงของ ฯลฯ  แต่ลืมนึกไปว่านี่คือสิ่งมีชีวิต ที่มีความรู้สึกเฉกเช่นเดียวกับชีวิตหนึ่งอย่างเราๆท่านๆ ไม่มีความเข้าใจในพฤติกรรมของบางแก้วว่าการที่เขาจะรักและเชื่อฟังเจ้าของได้นั้นต้องทำอย่างไร ข้างบนคงเป็นคำตอบและเป็นอุทธาหรณ์ที่ดี

        เพียงประโยชน์ที่ต้องการจากสุนัขทำให้การเลี้ยงของหลายๆ คนผิดไปจากสิ่งที่ควรจะเป็นนั่นคือการเลี้ยงในกรง ถึงเวลาก็ให้อาหาร มืดค่ำก็ปล่อยให้ทำหน้าที่เวรยาม ความรัก ความเข้าใจ ระหว่างคนกับหมาไม่มี ทุกอย่างมีเพียงคำว่าหน้าที่และค่าจ้าง สุดท้ายยามที่เขาเครียด ตกอยุ่ในความกลัวหรือสภาวะโดยธรรมชาติ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตามสิ่งเหล่านี้ไม่เคยถูกเอาใจใส่หรือแก้ไข บทสรุปสุดท้ายก็คือที่มาของบางแก้วกัดเจ้าของ...ก่อนจะให้ใครรัก...ควรรักเขาก่อน บางแก้วก็เช่นกันถ้าเรารักและเข้าใจเขา เขาก็จะรักและเข้าใจเราเช่นกัน แต่ในบางกรณี บางพฤติกรรม คนก็ต้องเข้าใจเขาด้วยเช่นกัน เช่น การติดสัตว์ อาการขี้ระแวงกลัวสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ล้วนเป็นปัญหาทีผู้เลี้ยงต้องเข้าใจ ซึ่งเมื่อเข้าใจทุกอย่างย่อมสามารถแก้ไขได้อยู่ร่วมกันได้ แต่ถ้าผู้เลี้ยงไม่มีความเข้าใจในพฤติกรรมเหล่านี้ทุกเวลาย่อมอยู่กันด้วยความหวาดระแวงและรอเวลาที่ต้องจากกันไปแบบที่มันไม่ควรจะเป็น

         หาบางแก้วมาเลี้ยงไม่ใช่เรื่องยาก แต่เลี้ยงแล้วควบคุมและเข้าใจเขา ปรับนิสัยของเขาให้อยุ่กับเราให้ได้เป็นเรื่องยากกว่า...ก่อนเลี้ยงอยากให้ศึกษาและถามใจตัวเองว่าสิ่งที่เราเลี้ยงอยู่นี้มันเหมาะสมกับเราแค่ไหน ถ้าเกิดปัญหาเราจะแก้ไขอย่างไร จงเตือนตัวเองไว้เสมอว่า บางแก้วไม่ใช่หมาที่ใครๆจะเลี้ยงก็ได้ ถ้าเลี้ยงไม่ดี ไม่ถูกวิธีก็ไม่ต่างจากระเบิดเวลาที่รอเวลาจะระเบิด ขึ้นอยู่กับว่ามันจะระเบิดขึ้นเมื่อไรก็เท่านั้นเอง...ขอทิ้งท้ายด้วยคำว่า "เลี้ยงบางแก้ว ควรรักและเข้าใจบางแก้วให้ดีพอ"

เคยซื้อจากนฤภัทรฟาร์มครับ
โดย Anuwat Thanasodsai - Thursday, 23 October 2008, 07:28PM
 
สวัสดีครับคุณ nalupat onchan ผมดีใจด้วยครับที่ฟาร์มของคุณเริ่มจะมีชื่อเสียงอีกคอกครับ^_^
ตอบ: เคยซื้อจากนฤภัทรฟาร์มครับ
โดย Chaiwat S. - Friday, 24 October 2008, 04:20PM
  ขอเบอร์ติดต่อ นฤภัทรฟาร์ม หน่อยครับ


Bangkaew.net and Bangkaew.org are for sale
See details at https://sedo.com/search/?keyword=bangkaew