เอา forwarded email ที่สะเทือนในมาให้อ่านกันดูคับ.... _________________________________________________________ ในหลวงตรัส "ชาติใกล้ล่มจมแล้ว" ...ขอบคุณแบงค์ชาติช่วยดูแลการใช้เงิน..........โครงการที่สมัคร อนุมัติใน 7 เดือนที่เป็นนายก.......... โครงการที่หนึ่ง คือโครงการประชานิยมที่ใช้จ่ายเงินงบประมาณถึง 46,000 ล้านบาทไปหว่านละลายแม่น้ำเพื่อหาเสียงทางการเมือง โดยไม่สร้างสรรค์และเกิดประโยชน์ที่ถาวรใดๆ แก่ชาติและประชาชนเลย โครงการที่สอง คือโครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ที่กระเหี้ยนกระหือรือเร่งรัดผลักดันกันโดยที่ยังไม่มีโครงการ ไม่มีแบบแผนการก่อสร้าง และไม่ได้ตั้งงบประมาณเอาไว้เลย แต่กลับเร่งรัดจะเริ่มทำให้ได้ในปีนี้ ด้วยวงเงินงบประมาณถึง 30,000 ล้านบาท ทั้งๆ ที่รัฐสภาเดิมก็มีความสมบูรณ์พร้อม และใช้การได้ดีอยู่แล้ว โครงการที่สาม คือโครงการเช่ารถบัสใช้ก๊าซเอ็นจีวี จำนวน 6,000 คัน ซึ่งใช้เงินงบประมาณถึง 110,000 ล้านบาท ทั้งๆ ที่กำลังมีโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินอยู่ถึง 9 สาย และทั้งๆ ที่ปริมาณรถของ ขสมก. ก็มีมากพออยู่แล้ว หรือหากจะใช้กันจริงๆ ก็สามารถซื้อได้ในราคาเพียง 24,000 ล้านบาทเท่านั้น แต่กลับทำโครงการที่ต้องใช้จ่ายเงินมากกว่าราคาซื้อถึง 86,000 ล้านบาท เป็นการล้างผลาญชาติบ้านเมืองที่หน้าด้านที่สุด โครงการที่สี่ คือโครงการผันน้ำจากเขื่อนน้ำงึมของประเทศลาวผ่านอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำโขง เข้ามายังภาคอีสานของประเทศไทย ด้วยวงเงินถึง 120,000 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ประเทศไทยไม่ได้ขาดแคลนน้ำ หากยังมีภาวะน้ำท่วมที่รุนแรงทุกปี ทั้งภาคอีสาน ภาคกลาง และกรุงเทพฯ ความจำเป็นจริงๆ คือการขุดลอกหรือสร้างแหล่งน้ำเพื่อเก็บน้ำในฤดูฝนให้เพียงพอที่จะใช้สอยในฤดูแล้งต่างหาก ซึ่งใช้เงินราว 20,000 ล้านบาทก็เหลือจะพอ โครงการที่ห้า คือโครงการสร้างทางหลวงพิเศษ ซึ่งวางแผนใช้เงินงบประมาณถึง 170,000 ล้านบาท โดยไม่จำเป็นและแพงเกินจริงมหาศาล และยังเป็นการเพิ่มรายจ่ายด้านพลังงานให้กับประเทศชาติขึ้นอีกมากมาย ทั้งๆ ที่ยังมีโครงการรถไฟรางคู่ซึ่งเคยมีแผนที่จะให้ใช้เป็นเส้นทางคมนาคมหลักทางบกอยู่แล้ว และใช้เงินเพียงไม่เกิน 70,000 ล้านบาท หรืออาจไม่ต้องใช้เงินเลยหากคิดอ่านให้สัมปทานที่เป็นธรรมแก่ชาติบ้านเมือง โครงการที่หก คือโครงการขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟสที่สอง ซึ่งต้องใช้เงินประมาณ 70,000 ล้านบาท ทั้งๆ ที่สนามบินสุวรรณภูมิปัจจุบันก็ยังมีพื้นที่กว้างขวาง เป็นแต่มีการบริหารจัดการที่ห่วยแตก และยังโกงกันไม่เลิก นอกจากนี้ยังมีสนามบินดอนเมืองที่เคยเป็นสนามบินนานาชาติของประเทศซึ่งปล่อยให้ทิ้งร้างว่างเปล่าอยู่ เฉยๆ หากจำเป็นก็สามารถปรับปรุงใช้ได้ โดยใช้เงินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โครงการที่เจ็ด คือโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินที่มีแผนงานจะสร้างถึง 9 สาย และต้องใช้เงินกว่า 400,000 ล้านบาท ขณะนี้ได้ใช้เล่ห์กลหลอกลวงให้ผู้คนไปหลงสาละวนอยู่กับการทะเลาะเบาะแว้งกับกลุ่มพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย แต่แอบผลักดันเรียบร้อยไปแล้ว 1 สายคือสายสีแดง และกำลังจะเร่งรัดผลักดันอีก 3 สายในเร็ววันนี้ ซึ่งเป็นการก่อหนี้มหาศาลโดยมิได้คำนึงถึงฐานะการเงินการคลังของประเทศเลย โครงการที่แปด คือโครงการสารเลวจิปาถะ โดยแฝงไว้ในงบประมาณแผ่นดินเป็นจำนวนเงินกว่า 200,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการซื้อเสียงตามนโยบายประชานิยมที่ไร้แก่นสาร กระทั่งเอาเงินไปแจก ส.ส. คนละ 60 ล้านบาท ภายใต้ชื่อว่างบ ส.ส. ทั้งๆ ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และยังแฝงอยู่ในงบกลางที่นายกรัฐมนตรีมีอำนาจใช้จ่ายเงินโดยไม่มีโครงการใดๆ รองรับอีกด้วย เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2551 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีกระแสพระราชดำรัสกับคณะของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ในโอกาสที่มีการเข้าเฝ้าฯ ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นสถานการณ์เร่งด่วนที่สุดของชาติและคนไทยทั้งประเทศที่ต้องร่วมกันรับสนอง กระแสพระราชดำรัสนั้นอย่างเด็ดเดี่ยว กล้าหาญ และโดยเร็วที่สุด ทรงพระราชทานกระแสพระราชดำรัสว่า ขอให้ท่านทั้งหลายบริหารเงินไม่ให้หมด เพื่อให้ประเทศชาติมีเงินใช้ ขอขอบคุณที่มีความตั้งใจบริหารเงินของชาติไม่ให้หมดไป ให้มีใช้ ขอบใจที่เหน็ดเหนื่อยเรื่องการเงินซึ่งเป็นงานหนัก และสามารถปฏิบัติงานด้านการเงินเป็นที่เรียบร้อย ไม่ให้บ้านเมืองล่มจม แม้ตอนนี้ใกล้ล่มจมแล้ว ซึ่งอาจใช้เงินไม่ระวัง เพราะใช้เงินไม่ระวัง เรารู้ว่าท่านเหน็ดเหนื่อย ลำบากใจ นอกจากเหน็ดเหนื่อยแล้วยังถูกหาว่าทำไม่ได้ดี ทำไม่ถูกต้อง ขอบใจทุกคนที่มาในวันนี้ และยังทำงานอย่างเข้มแข็งเพื่อให้ชาติบ้านเมืองมีเงินใช้ ใครที่บริหารการคลังควรรู้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญของชาติบ้านเมือง /////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////// " กระแสพระราชดำรัสที่ได้อัญเชิญมาข้างต้นนี้มีความชัดเจนถูกตรงกับสถานการณ์บ้านเมืองที่กำลังมี การใช้จ่ายเงินเกินตัว มีการใช้จ่ายเงินโดยไม่ระวังไม่คำนึงถึงการบริหารการคลังซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทรงเตือนอย่างตรงไปตรงมาว่าชาติบ้านเมืองขณะนี้ ใกล้ล่มจมแล้ว ซึ่งอาจใช้เงินไม่ระวัง เพราะใช้เงินไม่ระวัง นี่คือภยันตรายที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาติไทย มีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อคนไทยทั้งประเทศ เป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายยิ่งกว่าการเสียกรุงศรีอยุธยาทั้งสองครั้งรวมกันเสียอีก " |