คุณคมสัน เปิดจดหมายได้ดูด้วยครับ เป็นเรื่องปกติของบางแก้วที่เขาชอบไปคลุกกับสิ่งที่มีกลิ่นทั้งนี้เพื่อพรางตัว ตามสายเลือดของป่า เรื่องจะไม่ให้เขาออกนั้นมีอยู่หลายวิธี แล้วแต่สภาพพื้นที่ของแต่ละบุคคล บางท่านก็ทำรั้วกั้น แต่ถ้าเป็นสถานที่เปิดก็อาจจะลำบาก แต่การแก้ไขที่ดีก็คือต้องมีเวลาในการฝึกให้กับเขาเป็นสำคัญ ผมจะยกตัวอย่างเจ้าไปร์ท ปกติผมจะพาเจ้าไปร์ทออกมาเดินเล่นช่วงสองทุ่มเป็นประจำ และก็จะปลดสายจูงให้เขาวิ่งเล่นเป็นอิสระบริเวณหน้าบ้าน แต่เจ้าไปร์ทชอบวิ่งไปทางซ้ายมือ ซึงมีบางแก้วอยู่สองตัว พอเจ้ไปร์ทเข้าไปใกล้อาณาเขตของเจ้าสองตัว มันก็จะเห่าให้เป็นที่รำคาญ แรกก็วิ่งไล่กวดมัน แต่ผลกลับกลายเป็นว่ามันยุ่งสนุก นึกว่าเล่นด้วย กลายเป็นวิ่งไล่จับ สองขาหรือจะไปสู้สี่ขา ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าถ้าผมวิ่งสี่ขาเหมือนมัน ผมจะวิ่งทันมันหรือเปล่า เมื่อไม่ได้ผล ก็หันกลับมาพิจารณาเรื่องการนำเขาออกจากบ้าน เพราะก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง เขาต้องนั่งรอ จนกว่าจะอนุญาติให้ออกจากบ้าน นั่นคือเราบอกเขาว่าเราไม่ต้องการให้เขาออกก่อนได้รับอนุญาติ การที่หมาออกไปเล่นลักษณะนี้ก็เป็นขอ้ดีส่วนหนึ่งเพราะเขาจะอารมณ์ดี แต่ถ้าเกินขอบเขต ไม่มีการควบคุม เขาก็จะเคยตัว ไม่ต่างไปจากเลี้ยงคน จากเหตุการข้างต้น แทนที่จะวิ่งไล่ เมื่อเห็นว่าเขาจะวิ่งไปทางซ้าย ผมก็ยืนขวาง เป็นการห้าม แรกเขาก็จะพยายามหลอกล่อเรา แต่ก็พยายามดักเขาก่อนให้ได้ บางครั้งเขาก็ทำเป็นเดินแบบไม่รุ้ไม่ชี้ แต่พอเผลอเขาก็วิ่ทันที่ แต่เราต้องรุ้ทันเขา เมื่อเห็นเขาทำท่าเดินจะไป ก็ใช้ขากันไว้บริเวณคอแล้วดันให้เขากลับไปในทิศทางตรงข้ามกับที่เขาจะไป ผมทำทุกวันเป็นประจำ ออกมาเมื่อไรกันทางซ้ายไว้ทันที่ แรกๆก็หลุดบ้าง ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ฟังบ้าง เจ้าเล่ห์บ้าง แต่วันหนึ่งสิ่งที่ผมไม่อยากเชื่อก็คือเขาเล่นกันผมแบบมันเขี้ยว แล้วก็วิ่งวนไปวนมา แต่ไม่เคยเลยจากจุดที่กำหนดไปเลย พอสองสามครั้งผมก็เริ่มสังเกตุ เขาไม่ไปจริงๆ ยกเว้นถ้ามีสิ่งเร้า เช่น แมว ฯลฯ จากนั้นมาก็วางไว้ว่าเขาไม่ไปอีกเลย ด้วยการที่ทำเป็นกิจวัตร เขาจะรับรู้ได้เองว่านี่คือสิ่งที่เราไม่ต้องการให้เขาทำ แต่เวลาและการกระทำที่เป็นกิจวัตร และทำทันที่ที่เห็นเขาทำไม่ถูกต้อง |