หนิง : ขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับน้องหมาดุค่ะ
โดย ภานี น้อยยิ่ง - Thursday, 3 July 2008, 06:50PM
  หนิง ..ขอความช่วยเหลือหน่อยค่ะ เลี้ยงสุนัขพันธุ์บางแก้วไว้ตัวหนึ่ง เพศเมีย อายุ 2 ปีกว่าแล้ว เคยเป็นสุนัขที่ขี้เล่นน่ารัก อารมณ์ดี แล้วจู่เค้าก็เปลี่ยนไปเป็นโมโหร้าย ไม่ยอมให้จับตัว ไม่พอใจจะส่งเสียงขู่ แล้วเข้ามาหาเรื่องจะกัด เวลาไปขัดใจเค้า ไปโดนตัวเค้า ต้องคอยระวังตลอดเพราะไม่รู้ว่าเค้าอารมณ์ดีหรือเปล่า ตอนแรกคิดว่าเป็นฮีท แต่ตอนนี้ผ่านมากว่า 4 เดือนแล้ว อาการหนักขึ้นทุกวัน อาบน้ำก็ต้องพยายามเอาตะกร้อใส่ปากให้ได้ ไม่อย่างนั้นเจ็บแน่นอน กัดจริงๆ เมื่อก่อนจูงไปไหนๆ ได้ ปัจจุบันจับใส่สายจูงยังไม่ได้เลย แต่ก็พาออกเดินเที่ยวทุกเช้าเย็นโดยไม่ล่าม คอยระวังตลอดเวลา อยากให้เค้ากลับมาเหมือนเดิม ทำอย่างไรดี เหมือนเค้าหวาดระแวงว่าจะไปทำอันตรายเค้า เรื่องมันเริ่มจาก น้องสาวทำเสียงสูงๆ ใส่เค้า แล้วเค้าโมโหเห่าใส่ และโดดกัด เราเลยไปตีเค้า โดยเอาผ้าตี เค้าก็ไม่ยอมแพ้สู้ใหญ่เลย จนเราสงสารเราก็เลยหยุดตี  มันเลยกลายเป็นความระแวงตลอดมา ต่อมาวันหลังเค้าออกไปนอกบ้านแล้วโดนสุนัขแถวนั้นรุมกัด เราออกไปช่วยตอนเค้าถูกรุมอยู่ แต่เค้าก็เจ็บหลายที่จนเค้ากลัว พอวันหลังเวลาสุนัขมาเห่าหน้าบ้าน เค้าจะโมโหแล้ววิ่งมาหาเรื่องเราเหมือนว่าเราไปทำเค้าเจ็บ แต่เราก็ไม่ได้ตีเค้าอีกเลย ก็พยายามหนีหรือหลบเค้า แต่กลายเป็นเค้ายิ่งได้ใจ วันหลังๆ เวลาเค้าโมโหไม่พอใจอะไร เค้าก็จะโทษเจ้าของทุกที โดนไปหลายแผลแล้ว ปกติเมื่อก่อนพาเค้านั่งรถไปหาหมอได้สบาย ตอนเวลาฉีดยาก็ช่วยหมอจับได้ กอดเล่น หาหมัดได้ เป็นสุนัขที่เลี้ยงค่อนข้างตามใจ แล้วเค้าก็เอาแต่ใจด้วย ตอนเด็กๆ นอนกับเรา พอโตขี้นเค้าหนีลงมานอนใต้บันได หรือไม่ก็ในห้องน้ำ  อาหารก็กินดีทุกอย่าง กินเหมือนเรากิน มีอาหารเม็ดใส่ในจานให้ตลอด ตอนเด็กเราพาเค้ามาที่ทำงานทุกวัน จนอายุ 1 ปี เค้าตัวหนักขึ้นเลยไม่ได้พามาอีก เค้าเคยกัดคนอื่นเพราะหวงเจ้าของ ของเล่นและที่อยู่ เค้าจะมีอาการเจ็บขาข้างขวา เนื่องจากเค้าวิ่งแล้วลื่นล้ม ทำให้เส้นเอ็นพลิกเคลื่อนที่ หมอบอกว่าต้องพาไปยิงพุกเพื่อยึดเอ็นไม่ให้เคลื่อนที่ที่มก. แต่ยังไม่ได้พาไป  น้ำหนักตัวประมาณ 20 กิโลกรัม หมอบอกให้ลดน้ำหนัก เพราะขาหลังเค้าเล็กและโกร่งๆ หลังๆ เวลาเค้าจะลุกขึ้นเลยลำบากนิดนึงเพราะที่บ้านจะเป็นพื้นกระเบื้อง ตอนนี้ค่อนข้างลำบากเวลาจะจับเค้าอาบน้ำ ต้องยอมทะเลาะกับเค้าทุกๆ 2 อาทิตย์ (ได้แผลทุกครั้งเลย ปกติอาบน้ำทุกอาทิตย์) เล่นก็ไม่ได้ หาหมัดก็ไม่ได้ ลูบหัวได้อย่างมาก 3 ที เกินจากนี้โมโหเป็นเรื่อง ปรึกษาหมอ หมอก็บอกให้สังเกตว่ามันเกิดจากอะไร ก็สังเกตเห็นว่าอย่าทำอะไรที่เค้าไม่ชอบ แต่บางเรื่องมันก็จำเป็นที่ต้องยุ่งกับตัวเค้า เช่นอาบน้ำ หาหมัด จึงอยากขอความช่วยเหลือจากชาวบางแก้วหน่อยค่ะ ไม่คิดที่จะเอาเค้าไปฝากเลี้ยงหรือปล่อยทิ้งแน่นอน อย่างไงก็จะเลี้ยงกันไป แต่อยากทำให้เค้ามีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น กลับมารักกันเหมือนเดิม
ตอบ: หนิง : ขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับน้องหมาดุค่ะ
โดย เพียงมณี . p l + y - Friday, 4 July 2008, 09:32AM
  ยิ้ม ขอรบกวนพี่ๆ ช่วยตอบหรือให้คำแนะนำหน่อยนะคะ เพราะดูแล้วกรณี คุณหนิง
น่าจะเป็น กรณีศึกษาสำหรับดิฉันและมือใหม่ ๆ บางแก้วทุกท่าน .......... ตาเขียว
ตอบ: หนิง : ขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับน้องหมาดุค่ะ
โดย เจ้าไปร์ท 5518 - Friday, 4 July 2008, 11:30AM
 

เรื่องราวลักษณะนี้พบเห็นได้บ่อยกับผู้เลี้ยงบางแก้ว ในเวปพันธ์ทิปก็มีก็รายหนึ่งซึ่งถูกกัดบริเวณใบหน้าเย็บไปหลายเข็ม  ดูเหมือนว่าสาเหตุเริ่มต้นคล้ายๆกัน แต่รายนั้นเกิดจากการเหยียบขณะเขานอน จากนั้นก็เริ่มกลัวเช่นกัน จนเขาได้ใจ แสดงอาการข่มขู่มากขึ้น จนเข้าสู่กระบวนการแบบนี้เช่นกัน 

การเลี้ยงแบบตามใจ มีส่วนอย่างสูงในการสะสมพฤติกรรมการเป็นจ่าฝูงแบบค่อยเป็นค่อยไป ด้วยความฉลาดของเขาเองหลายๆครั้งเท่าที่สังเกตุเขามักจะมีพฤติกรรมหลายๆอย่างทดสอบเราเสมอๆ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะตามทันเขาแค่ไหนและจัดการกับพฤติกรรมเหล่านั้นอย่างไร ถ้าเราตามเขาไม่ทันหรือเห็นพฤติกรรมเหล่านั้นเป็นเรื่องแปลกๆหรือเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อย เช่น การเริ่มหวงสิ่งของ หวงตัว หวงพื้นที่ ด้วยการขู่เล็กๆ หรือการแสดงอาการไม่พอใจ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ผู้เลี้ยงต้องจัดการทันที่ แต่ถ้าไม่จัดการหรือปล่อยปละละเลย   เมื่อถึงเงื่อนเวลาหนึ่งที่คิดว่าเขาพร้อม เขาก็จะแสดงอาการก้าวร้าวออกมาให้เห็นในพฤติกรรมใดพฤติกรรมหนึ่ง 

“น้องสาวทำเสียงสูงๆ ใส่เค้า แล้วเค้าโมโหเห่าใส่ และโดดกัด เราเลยไปตีเค้า โดยเอาผ้าตี เค้าก็ไม่ยอมแพ้สู้ใหญ่เลย จนเราสงสารเราก็เลยหยุดตี  มันเลยกลายเป็นความระแวงตลอดมา ต่อมาวันหลังเค้าออกไปนอกบ้านแล้วโดนสุนัขแถวนั้นรุมกัด เราออกไปช่วยตอนเค้าถูกรุมอยู่ แต่เค้าก็เจ็บหลายที่จนเค้ากลัว พอวันหลังเวลาสุนัขมาเห่าหน้าบ้าน เค้าจะโมโหแล้ววิ่งมาหาเรื่องเราเหมือนว่าเราไปทำเค้าเจ็บ แต่เราก็ไม่ได้ตีเค้าอีกเลย ก็พยายามหนีหรือหลบเค้า แต่กลายเป็นเค้ายิ่งได้ใจ วันหลังๆ เวลาเค้าโมโหไม่พอใจอะไร เค้าก็จะโทษเจ้าของทุกที โดนไปหลายแผลแล้ว”

            ข้อความตรงนี้น่าสนใจ ผมไม่ทราบว่าก่อนหน้าที่จะมีปัญหาน้องสาวคุณใกล้ชิดและควบคุมเขาได้แค่ไหนและมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับเขามากน้อยเพียงใด  แต่เพียงไปทำเสียงขู่ใส่ แล้วเค้าโมโห จนเขาโดดกัด มันตอบได้ว่าหมามีอำนาจเหนือคนมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเป็น  และกระทำในขณะที่เขามีอาการเจ็บปวด เกิดอาการเครียด เขาก็จะระบายออกแบบนี้ได้ทันทีเหมือนกัน 

ผมจะเทียบเคียงพฤติกรรมหนึ่งที่ว่ามองสบตาหมาแล้ว หมาถือว่าท้าทาย วันหนึ่งผมตื่นสายๆแล้วลงมาจากชั้นบน พอลงบันไดมาถึงข้างล่างผมก็หยุดยืนนิ่ง  ด้วยความอยากลอง ผมมองไปที่เจ้าไปร์ทด้วยการจ้องแบบตามไม่กระพริบด้วยสายตามที่กร้าว จ้องการสักพัก เริ่มจากที่เขามองผมแบบปกติ แล้วเริ่มแสดงอาการสงสัย แล้วก็เริ่มมีปฏิกริยาไม่ไว้วางใจ ตื่นตัว ระแวง และดูเหมือนเขาพร้อมที่จะป้องกันตัวทันที่ จากที่นอนมอง เริ่มหมอบ และเตรียมจะลุกขึ้นแต่สายตาเขาไม่ละไปจากผมเลยแม้แต่วินาทีเดียว ถึงตรงนี้ผมรู้สึกว่ามันตรึงเครียดจนเกินไป จึงตะโกนด้วยเสียงที่หนักแน่  “ไอ้..ไปร์ท”  ดีกรีมันลดวูบอย่างเห็นได้ชัด เริ่มกระดิกหาง นี่เป็นเพราะพฤติกรรมของผมเปลี่ยนไป เพราะปกติทุกเช้าผมลงมาก็จะเดินไปหาและเล่นกับเขา แต่วันนี้พฤติกรรมผมเปลี่ยนไป ผมไม่แน่ใจว่าถ้าผมทำต่อเขาจะเป็นเช่นไร แต่ไม่ต้องการทำอะไรให้หมารู้สึกว่าถูกกดดันมากเกินไป  สิ่งเหล่านี้บางครั้งผู้เลี้ยงอาจจะทำอะไรไปโดยที่เราไม่รู้ว่านี่เป็นสิ่งที่คนเข้าใจอย่างหนึ่ง หมาเข้าใจอย่างหนึ่ง เพราะคนอาจคิดไม่ถึงว่าแค่มองตาหมาในสถานะที่ไม่ปกติ และยังเป็นหมาตนเองเลี้ยงมาแต่เล็กๆ แล้วอาจเกิดปัญหาขึ้นได้

การแก้ปัญหาด้วยการเอาผ้าไปตีเขา บวกความสงสาร นั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ผิดและเป็นตัวกระตุ้นให้เขาก้าวร้าวมากขึ้นและระแวงคุณหลังจากนั้นมาตลอด แล้วที่ผิดซ้ำสองคือคุณแสดงอาการหวั่นกลัวให้เขารับทราบ เขาจึงได้ใจคิดว่าเขาควบคุมทุกอย่างได้เบ็ดเสร็จในฐานะจ่าฝูง  ต่อมาเมื่อถูกหมาข้างนอกรุมกัดคุณเข้าไปช่วย ตรงนี้คุณคงเป็นแค่ผู้ช่วยเขาเท่านั้น ไม่ใช่ผู้ที่ไปช่วยหรือผู้ที่มีบารมีพอที่จะปกป้องเขาได้ (แต่คุณกลับคิดว่าคุณเป็นผู้มีพระคุณที่ไปช่วยเหลือเขา) จากนั้นเขากลับใส่อารมณ์กับคุณจากการที่เขาโดนกัด นี่เป็นคำตอบที่ชัดว่าเขาเป็นจ่าฝูงตัวจริง เสียงจริง เพราะจ่าฝุงสามารถกระทำอะไรกับลูกฝูงก็ได้ จ่าฝูงมีสิทธิ์เหนือลูกฝูงทุกกรณี  ซึ่งลูกฝูงต้องยอมสถานะเดียว ยกเว้น ลูกฝูงตัวนั้นคิดจะเป็นจ่าฝูงเสียเอง  ต่อมาสิ่งที่คุณกระทำด้วยการใช้วิธีหนี หลบ นี่คือพฤติกรรมของลูกฝูงที่แท้จริงเช่นกัน

การตีสุนัขที่ก้าวร้าวในลักษณะนี้ ถ้าจะตีที่ตัวเขาต้องตีทีเดียวให้อยู่และต้องใช้ไม้ในการตี ไม่ใช่ผ้า แต่ส่วนใหญ่ผมไม่แนะนำให้ตีที่ตัวเขาโดยตรงเพราะถ้าใจออ่นแล้วตีเขาไม่อยู่ เขาก็จะเกิดอาการระแวงขึ้นทันที่ และจะแก้ปัญหาในอนาคตได้ยากขึ้น หรือตีด้วยความรุนแรงแล้วบางที่ถ้าเกิดความผิดพลาดเขาอาจจะได้รับบาดเจ็บได้ การตีไม่จำเป็นต้องตีที่ตัวเขาเสมอไปเพียงเราใช้ไม้ไผ่แบนๆหรือวัสดุอื่นใดที่ตีลงกับพื้นแล้วเกิดเสียงดัง เขาจะกลัวไปเอง ซึ่งทั้งนี้ อารมณ์  ท่าที น้ำเสียง ที่คุณใช้ต้องหนักแน่น สั้น ชนิดทำครั้งเดียวแล้วทุกอย่างต้องจบ อย่างทำพร่ำเพรื่อ เสียงที่ใช้ก็เช่นกันควรใช้เสียงให้น้อยและสั้น แต่หนักแน่น มากที่สุด

สิ่งที่พอจะแนะนำได้ตอนนี้สำหรับคุณก็คือ เริ่มทุกคนในบ้านเลิกให้ความสนใจเขา ทำเป็นนิ่งเฉย ต่างคนต่างอยู่  เลิกแสดงอาการกลัว ทั้งกายและจิตใจ เพราะบางคนทำเป็นเหมือนไม่กลัว แต่ในใจยังแสดงอาการ ซึ่งหมาสามารถรับรู้ได้ …… ทำให้ตัวเองหลุดพ้นจากการควบคุมของเขา  ซึ่งตรงนี้เมื่อเขาเห็นพฤติกรรมของเราเปลี่ยนไป เขาจะเริ่มมีการสงสัย ลังเล ในการที่จะทำอะไรอย่างใดอย่างหนึ่ง

สิ่งที่พอจะเป็นตัวช่วยในการเริ่มลุกคืบหน้าในการควบคุมก็คือการใช้อาหาร การให้อาหารต่อไปทุกครั้ง ขอให้อาหารอยุ่ในความควบคุมของเรา นั่นคือวางไว้ถ้าเขาจะเขามากินตามปกติ ให้ส่งเสียงห้ามเขาทันที (คำเดียวสั้นๆแต่หนักแน่น) ถ้าเขาไม่ฟังให้เตรียมไม้ไผ่แบนๆ (ไม้ไผ่จะอ่อน เหนียว ความแบนเมื่อตีลงพื้นจะเกิดเสียงดัง หรือถ้าจำเป็นต้องตีที่ตัวเขาก็จะลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่การตีที่ตัวเขาต้องดีให้เต็มเหนี่ยวอย่าสงสาร นึกเสมอครั้งเดียวต้องอยู่ แต่ถ้าไม่จำเป็นผมไม่แนะนำให้ดีที่ตี ) ตีลงพื้นให้เกิดเสียงดังๆเบา เป็นการขู่  เขาจะหยุดมองและแสดงอาการลังเล เหมือนกับจะถามว่า “เอาจริงหรือวะ”  ถ้าเขายังไม่เชื่อฟังให้ตีให้ดังแบบสุดแรงและแสดงสีหน้า อาการ ว่าเราไม่พอใจให้เขาเห็น ถ้าเขาเดินถอยหลังนั่นกำลังแสดงว่าเขาเริ่มหวั่นกลัว เหมือนที่เราเป็นยามที่เขาก้าวร้าวกับเรา ถึงตรงนี้รอดูเขาสักพักถึงจะอนุญาติให้เขาเข้ามากินได้ แต่ถ้าเมื่อใดเขาเดินกระดิกหางเข้ามาหา อย่าสนใจเขาเด็ดขาด ให้รอจนกว่าเขาเดินจากไป สักพักค่อยไปปลอบและเล่นกับเขา   สุนัขที่จิตประสาทปกติส่วนใหญ่ จะเริ่มส่งเสียงขู่ในลำคอ จากนั้นเริ่มเห่า และ เห่ากรรโชก นี่คือการหนามยอกเอาหนามบ่ง เขาทำกับเราอย่างไร เราก็เรียกคืนกับเขาอย่างนั้น

ให้ทุกคนในบ้านทำลักณะนี้ทุกครั้งหรือจะร่วมสามัคคีบาทาก็แล้วแต่ แต่สิ่งหนึ่งก็คือความสม่ำเสมอ ซึ่งเมื่อได้ผลก็เริ่มทวงสิทธิ์ในเรื่องอื่นๆ กลับคืนมา จนแน่ใจว่าเขาอยู่ในการควบคุมของเราโดยสิ้นเชิง  สุนัขที่มีอาการก้าวร้าวในลักษณะนี้ ควรระวังใบหน้าเป็นสำคัญ การกระทำใดๆที่ประเมินแล้วคิดว่าเป็นความเสี่ยงจนเกินเหตุควรหลีกเลี่ยง เช่น รักษาระยะห่างระหว่างหมากับคนให้เหมาะสม หรืออาจต้องมีผู้ช่วยในบางกรณี มีหลายวีธีที่จะกระทำได้ ทั้งนี้ผู้เลี้ยงควรประเมินพฤติกรรม ความเสี่ยง เพราะท่านเป็นผู้ใกล้ชิดเข้าใจพฤติกรรมสุนัขได้ดีว่าใครๆ

สิ่งที่เขียนมานี้ไม่ได้ยึดหลักวิชาการใดๆ แต่เป็นเพียงประสบการณ์ของคนเลี้ยงหมาบางแก้วตัวหนึ่งที่ประทับใจในพฤติกรรมของเขาและได้เรียนรู้จากผู้ที่มีประสบการณ์มาก่อน จึงขอให้ทุกท่านใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจของท่าน แต่ทุกคำแนะนำดังกล่าวข้างต้นส่วนตัวผมจะให้ผู้เลี้ยงระมัดระวังตัวเองเสมอ เพราะ คำว่า “สัตว์” มันไม่มีอะไรแน่นอน โดยเฉพาะสัตว์ที่กำลังแสดงอาการก้าวร้าว  แต่ผมเชื่อว่าน่าจะแก้ปัญหาได้ไม่มากก็น้อย ถ้าผลที่ได้เป็นอย่างไรช่วยนำเสนอเพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้เลี้ยงรุ่นหลังๆ ไว้เป็นแนวทางด้วยก็จะเป็นการดี

 

ด้วยความนับถือ

เจ้าไปร์ท-5518

ตอบ: หนิง : ขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับน้องหมาดุค่ะ
โดย Lycan Werewolf - Friday, 4 July 2008, 06:06PM
  ผมเห็นด้วยกับ คุณพี่ไปร์ทนะครับ การเลี้ยงตามใจจะเป็นผลเสียตามมาในภายหลังครับ
ผมมีวิธีในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุนัขนะครับลองเอาไปใช้ดูครับ เริ่มจากการนับ1 ใหม่เลยนะครับต้องพยายามนะครับอย่าใจอ่อน เริ่มจากการที่คุณต้องให้ความเอาใจใส่กับเค้าให้มากๆ(มากขึ้นกว่าเดิมที่เคยทำ)โดยการลูบตัวลูบหัวเค้ามากๆและพูดคุยกับเค้า(ถึงแม้ว่าเค้าจะไม่รู้เรื่องก็ตาม)ชมเค้าเวลาที่เค้าทำดี(เช่นเก่งมาก,ดีมาก)
หรือทำตามคำสั่งของเรา (คำชมจำเป็นมากๆนะครับ)  เวลาอาบน้ำ(ถ้าตอนนี้เค้ากัดก็ให้ใส่ตะกร้อครอบปากไปก่อนนะครับ) ให้ใช้น้ำอุ่นๆอาบน้ำให้เค้าแล้วเวลาอาบน้ำก็ควรชมเค้าบ่อยๆแล้วก็นวดตัว นวดหัวให้เค้าจะทำให้เค้ารู้สึกผ่อนคลาย ค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะครับ  แล้วเรื่องการให้อาหารผมแนะนำว่าไม่ควรให้อาหารเม็ดแล้วทิ้งไว้ทั้งวัน ควรให้เป็นเวลานะครับเมื่อให้อาหารเค้าแล้ว  เค้าไม่ทานก็เก็บขึ้นเลยครับจะได้ทำให้เค้ารู้ว่าเวลากินต้องรีบกิน(เลิกให้อาหารคนแล้วให้อาหารเม็ดแทนจะดีกว่านะครับ)
การฝึกสุนัขก็เป็นอีกเรื่องนึุงที่ช่วยได้มากนะครับลองอ่านดูนะครับ
การเลี้ยงและการสอนโดยวิธีการให้รางวัล
ค่อยๆฝึกครับต้องอาศัยความอดทนนะครับแล้วจะดีขึ้น
ผมฝากไว้อีกอย่างนึงคุณควรมีเวลาเล่นกับเค้าด้วยนะครับอย่างเช่นการโยนลูกบอลแล้วให้เค้าไปวิ่งเก็บมาให้,การเล่นชักเย่อโดยใช้ผ้าให้เค้ากัดแล้วให้เค้าออกแรงดึง
ลองเอาไปใช้ดูครับแล้วถ้ามีปัญหาอะไรก็ลองตั้งกระทู้ถามมาอีกทีละกันนะครับ
ขอให้โชคดีนะครับ
 
ตอบ: หนิง : ขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับน้องหมาดุค่ะ
โดย leo ubon - Sunday, 6 July 2008, 10:08PM
 

เสียใจด้วยที่อารมณ์หมาเปลี่ยนไป

ปกติบางแก้ว หรือคน ก็ไม่ชอบให้ใครด่าว่า ต้องใจเย็น ๆ อย่างยิ่ง ถ้าตีจะระแวงมาก อยู่บ้านใกล้ ๆ กัน แต่พออกนอกบ้านไปว่าให้เค้า ๆ ก็เห่า คล้ายกับ "อย่ามาว่าผมนะ ผสมอยากสนุก คนไม่เกี่ยว" อะไรประมาณนั้น แต่ถูกตาตี เขาก็กลัวนะ ไม่กล้าตอบโต้ "รู้ดีว่าใครเป็นใคร มีความสำคัญอย่างไร " นี่คือหมาดี

    ตัวเมีย "ถ้าฉันเข้ากรงก่อน เข้าบ้านก่อน ฉันกัดแกแน่ ใหญ่แค่ไหน ฉันก็กัดหรือขู่ ถึงแม้ว่ากำลังน้อย แต่ถ้าตัวใหญ่เอาจริง ฉันก็ยอม " เจ้านายห้ามซ้ำเติม แต่คอยส่งสายตาว่าเจ้านายไม่ชอบได้นะ ก็จะรู้สึกเกรงใจ ใครมาใกล้เจ้าของ จะรีบมาขู่ทันที

กับหมอก็ไม่เท่าไรคะ โดยเฉพาะป่วย ถ้ามารักษาที่บ้าน ไม่ขู่สักคำ ยอมให้ฉีดยา แทงเข็มน้ำเกลือแต่โดยดี  

     เลี้ยงบางแก้วแบบปล่อย พาเที่ยวทุกเย็น กัดเป็ด กัดไก่ กัดรองเท้าทุอย่าง

      เป็นประสบการณ์ส่วนตัวเช่นเดียวกับเจ้าไปร์ท



Bangkaew.net and Bangkaew.org are for sale
See details at https://sedo.com/search/?keyword=bangkaew