ขอเพิ่มเกร็ดความรู้ให้หน่อยตามที่ได้เคยหาข้อมูลมาครับ 1. เมื่อถูกงูกัด ถ้าเป็นได้ ต้องจำลักษณะรูปร่าง ขนาด สีสัน ให้ได้ เพราะ เซรุ่ม ใช้เฉพาะกับงูแต่ละชนิดเท่านั้น ไม่มี เซรุ่มรวม ดังนั้น ถ้าบอกว่าเป็นงูพันไหนไม่ได้ หมอต้องรอดูอาการอย่างเดียว ซึ่งก็เท่ากับว่าต้อง รอ รอ รอ อีก 2. ถ้าเป็นคน ตรงไปที่ รพ. ขนาดใหญ่ของรัฐ จึงจะมั่นใจว่าไปไม่เสียเที่ยว รพ.เอกชน ต้องเป็นขนาดใหญ่ จึงจะมี เซรุ่มที่ใช้บ่อยๆ เช่น ผมเช็คที่ ศิครินทร์ ก็มีแค่ งูเขียวหางไหม้ และ งูเห่า เท่านั้น งูแบบอื่น ไม่มีนะคับ ผมแนะนำว่า ใครที่อยู่ในเขตอันตราย โทรถามไว้ก่อนเลย เพราะเมื่อส่ง รพ. จะได้ไม่ต้องไปเก้อ เสียเวลา ผมเอง ต้องเช็คไว้รอบๆ และ ทำแผนที่ ทางไป ที่ สั้นที่สุด เก็บในที่ที่หาได้ง่านด้วย 3. ผมเอง ซื้อ siren สีน้ำเงิน ฉุกเฉิน ติดไว้ในรถเลย บางรุ่นมีเสียงด้วย 4. ถ้าเป็นสุนัข ลืม รพ. สัตว์ใกล้บ้าน หรือ คลีนิคไปเลย ผมเคยเช็คแถวบ้านทั้งหมดแล้ว ทุมที่ ส่งรพ.รัฐ ทั้งหมด ซึ่ง กทม ก็คงเหลือ จุฬา กับ เกษตร เท่านั้น แต่ผมไม่มั่นใจว่า จุฬาจะมี กลางคืน หรือไม่คับ แต่ เกษตรมีแน่นอน 5. รองติดต่อ ร่วมด้วยช่วยกัน เขามี หน่วยจับงูด้วย แต่ไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ กรณีของผมก็ไม่มีคนมาช่วยเหมือนกัน แต่อย่างไร ก็ลอง โทรดู 1677 เท่าที่รู้ มีหน่วยประจำแถวนนทบุรีคับ ผมเคยเอาลูกงูเห่าไปส่งให้ที่ เสาวภา เขาบอกว่าช่วงฝนตก แต่ละวันมีคนเอามาให้ หลายสิบตัว เขามีสอน ให้เอา ท่อ PVC พร้อมเชือก ทำที่จับงู ในกรณีจำเป็นด้วย เป็นเชือกสอดจากปลายท่อด้านหนึ่ง ไปโผล่อีกด้านหนึ่ง และปล่อยปลายด้านที่จะใกล้งูเป็นห่วงกลมๆ เพื่อคล้องสวมคอ งู เมื่อ คล้องได้ก็ดึงจากปลายเชือกด้านที่เราถือเลยแล้วดึงรัดมันไว้ ขอให้ปลอดภัยทุกคนและทุกตัวคับ กันไว้ดีกว่านะคับ เกิดอะไรขึ้นจะคิดไม่ทันและเวลาอาจไม่เหลือให้คิดเลยคับ |