น้อยหน่า ('.' )

หน้า: (หน้าก่อน)  1 ...  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105
โดย น้อยหน่า ('.' ) - Tuesday, 17 August 2004, 03:54PM
 

แงซาย ... นายน้อย อ่านๆ แห่ะๆ เจอคำที่ใช้ซ้ำซ้อนเยอะจัง เอาเป็นว่านายน้อย...จะพยามเรียบเรียงแล้วส่งทะยอยมาให้เลยๆ และดีที่สุดเท่าที่ปัญญานายน้อยจะมีน่ะ .. แล้วค่อยมาพิสูจน์อักษรรอบ 2 กันใหม่ ถ้าเจ้ายังไม่เบื่อที่จะอ่านเรื่องของหญิง(ขรา)คนนี้

นายน้อย ...


โดย น้อยหน่า ('.' ) - Monday, 16 August 2004, 06:23PM
 

ตอนที่ 3 ปีศาจน้อยของฉัน ...........................

ในเดือนแรกที่เค้ามาอยู่กับเรา เค้าอายุได้ 42 วัน อายุก็เข้าเดือนที่ 2 แล้ว ดูอาการเค้านิ่งๆ ไม่ซน ไม่มีพิษสงเลย จะแสดงอาการตื่นตกใจ หรือว่ากลัวก็ไม่รู้นะเมื่อเวลาหมาข้างบ้านเห่า เค้าคงได้กลิ่นสาปหมาด้วยกันละมั่ง เห่าอยู่อย่างนั้น สัก 3-4 วัน เห่ามากจนเรากลัวคนบ้านอื่นจะมาต่อว่าเอาได้ ว่าบ้านเรามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า แต่เราก็ได้ความร่วมมือจากเพื่อนข้างบ้านคนนั้นดีมาก เวลาที่หมาเค้าเห่านานๆ เค้าจะเอาเข้าบ้านเสียเลย พอเค้า 2 ตัวรู้จักกันเค้าก็เลิกเห่าเจ้าตัวยุ่ง จำได้ว่าตั้งแต่เลี้ยงมา เจ้าตัวยุ่งจะไม่เห่าหมาที่มีเจ้าของเลย แต่จะเห่าหมาจรจัดที่ยามหมู่บ้านให้อาหารแล้ววิ่งมาในซอย ... พอวันที่เราต้องไปทำงานกลับมาบ้านเค้าพอมีแรงหลังจากเอาแต่นอนกับนอน กลับบ้านเจอเจ้าตัวยุ่งมายืนร้อง ขูดประตูบ้าน เค้าหลุดจากตาข่ายที่เรากั้นไว้ ดีนะที่ไม่ฉี่ อึ บนโซฟา เค้าจะทำธุระในบริเวณที่เรากั้นไว้ให้ เป็นอยู่อย่างนี้เป็นอาทิตย์ จนเราเห็นแล้วว่าเค้าเริ่มแข็งแรง อาทิตย์ต่อมาเราไปทำงานตามปกติต้องเอาเค้าไว้ข้างนอกแล้ววันแรกเค้าร้องตามน่าสงสารมาก (เหมือนเด็กที่ร้องตามแม่) ตอนนั้นเราเข้าใจความรู้ของเจ้าตัวยุ่งเลยว่าการที่ต้องอยู่ตัวเดียว โดดเดียว ไม่มีนาย ไม่มีเพื่อน และยิ่งเป็นหมาเด็กไม่ต้องพูดถึงเค้าคงกลัวว่าเค้าจะไม่มีใคร โดนทิ้งละมั่ง

การอยู่นอกบ้านของเจ้าตัวยุ่งเราต้องเตรียมของเล่นให้พอสมควร เสื้อผ้าที่ไม่ใช้ ก็ให้เค้าแทะกัดเล่นเพื่อให้เค้าได้รู้สึกว่ามีเราอยู่ด้วย อาหารน้ำมีตั้งไว้ตลอดเวลา บริเวณรอบบ้านก็มีสิ่งยั่วตายั่วใจให้เล่นมิใช่น้อย ต้นไม้เล็ก-ใหญ่ โดนเจ้าตัวยุ่งทำลายตายถาวรก็มาก ดินก็ขุดเป็นหลุม กว้างพอที่วันดีคืนดีพี่ก็แกก็ลงไปนอนในหลุมเสียนี้สงสัยจะเย็นสบาย ดี..นายหญิงไม่กลบตาม อิอิอิ....

ด้วยนิสัยและพิ้นฐานการเลี้ยงหมาของเราไม่มีเลย ฉะนั้นการเลี้ยงเค้าตอนแรกจะกล้าๆกลัวๆ ข้อนั้นเจ้านายเข้าใจดี และเค้าก็กลัวว่าเจ้าตัวยุ่งจะไม่ยอมรับเรา เค้าเลยมอบหน้าที่การให้อาหารเป็นเราดูแลไป แต่การให้อาหารเจ้านายก็สอนเราว่า นี่คุณบ้วนน้ำลายลงไปของกินมันก่อน (สูตรไหนละเนี่ย..?) มันจะได้จำและยอมรับว่าเราเป็นนายมัน เราก็เชื่อน่ะทำตามเค้า เค้าว่าอะไรตอนนั้นเราเชื่อหมด (เค้าเคยเลี้ยงหมามาก่อนเรานี้หน่า) มื้อแรกเค้ากินข้าวหมดเกลี้ยงเลย ตอนนั้นเรายังให้อาหารแบบอ่อนอยู่คืออาหารเม็ดแช่น้ำจนนิ่มผสมด้วยไข่เจียวบ้าง หมูสับบ้าง ตับบ้าง เคยลองอาหารเม็ดแช่น้ำอย่างเดียวเค้าไม่รับน่ะ ....

ตอนนั้นเค้ากินเสร็จเค้าจะนอนอย่างเดียว ยังไม่คึกเท่าไหร่ มีเล่นบ้างแต่ยังน้อยอยู่ ไอ้ที่หนักใจมากคือ "การงับ" ไล่งับ โอ๊ย.... สุดยอดของความเจ็บเลย(คิดตอนนั้น) ทุกครั้งที่เค้างับ เราได้เลือดทุกที แขนเรา ขาเราเต็มไปด้วยรอยที่เจ้าตัวยุ่งจารึกด้วยความรัก..ทั้งนั้น.... ฟันคมมากๆ มากจนเรารับไม่ไหวให้หน้าที่การเล่นเป็นของเจ้านายไป เราคิดเริ่มกังวลว่ามันจะดุกับเจ้าของมั๊ยเนี่ย เล่นงับกันอย่างนี้... ตอนนั้นราไม่สามารถจริงๆ ถึงจะอ่านมาบ้างว่าหมาบางแก้วเค้ามีพฤติกรรมอย่างนี้ แต่เราก็ตกใจ และมักจะชักมือออกทุกครั้งก็ได้เลือดตามมาทุกที เป็นริ้วทางยาว ขึ้นอยู่กับว่าเค้ากระโดดสูงมากน้อยแค่ไหน ถ้าเราหยุดนิ่งก็ไม่เจ็บมากหรอก แต่ที่เป็นตอนนั้นเราตกใจทุกที .. เค้าเริ่มยั่งเชิงเจ้านายทั้งสองโดยการเกาะขาแล้วขย่ม(เรียกถูกป่าวจ๊ะ) เราห้ามเค้าทันที เค้าพยามทำอย่างี้ทุกครั้งที่มีโอกาส โอกาสที่เค้าจะทำตอนไหนบ้างล่ะ ตอนเล่น...นะสิ เค้าจะรู้ว่าเค้าเป็นต่อเมื่อไรเค้าจะขึ้นเกาะขาทันที อย่างเวลาเรายืนทำงานในครัว เผลอๆเค้าขึ้นเกาะอีกแล้ว เค้าจะเป็นบ่อยมากในเดือนนั้น .. เราพยามเรียนรู้พฤติกรรมของเค้าไปเรื่อยๆ โดยเข้ามาที่เว็บชุมชนคนรักหมาบางแก้วอย่างจริงจังมากขึ้น เริ่มจากการอ่านกระทู้ย้อนหลัง ว่าเค้าพูด เค้าถามอะไรกันมาบ้าง คำถามที่ตรงกับที่เราเจอปัญหาก็เอาปรับใช้กับเจ้าตัวยุ่งของเราไปเรื่อยๆ จนเราไปเจอความคิดเห็นท่านหนึ่ง เค้าพูดถึงหมาบางแก้วที่ทำให้เรารู้สึกดีๆ อยากที่จะเข้ารู้ให้ได้ว่าหมาบางแก้วมันอย่างงัย เราพยายามกลับไปอ่านกระทู้ที่มีความเห็นของท่านคนนั้นอีกครั้ง ติดตามอ่านมาเรื่อยๆ ซึ่งเรายังทำตัวเป็นคุณแอบ(อ่าน) ยังไม่แสดงตัวตน รอให้มีใครมาตั้งคำถามที่มันโดนใจเราไปเรื่อยๆ ก่อน และเราก็พยายามที่จะหาอ่าน "พฤติกรรมหมาบางแก้วจากคนที่เลี้ยงเค้าในบ้าน" แต่ก็ไม่ค่อยมีใครเขียนมาเล่า ช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีแต่คนถามคำถามซ้ำๆ เดิมๆ

อุ๊ย.. ไม่ทันใจฉันเลย ฉันถามเองดีกว่า เล่าเรื่องเจ้าตัวยุ่งเองดีกว่าเผื่อใครเข้ามาอ่านเจอ มีปัญหาอย่างเราเข้ามาอ่านเจออาจช่วยเค้าได้ไม่มากก็น้อย

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งที่เราทำร่วมกันกับเจ้านายทุกครั้งคือการอาบน้ำให้เจ้าตัวยุ่ง ... สอนในสิ่งที่จะให้เค้าเป็นเด็กดี เช้น พฤติกรรม การเห่า เรากลัวมากเรื่องการเห่าอย่างไม่มีเหตุผลของหมา มันน่ารำคาญมากเลย เรารู้ว่าการเห่ามันของคู่กันกับหมา แต่เราต้องหาเหตุผลว่าทำไมเค้าเห่า เราคิดแบบนี้ ทุกครั้งที่เราอยู่กับเค้า เค้าจะเห่าอะไรก็แล้วแต่เราจะพูดบอกเค้าทุกครั้ง จนเจ้าตัวยุ่งไม่เห่าอย่างไม่มีเหตุผล ถ้าไม่เจอสิ่งแปลกใหม่ หรือผิดปกติ ขนาดหมาปากเปราะเห่าได้ทั้งวัน เจ้าตัวยุ่งก็ไม่เห่าตาม มันคงรู้ภาษากันละน่ะว่า "ไอ้ตัวนั้นมันเห่า บ่นอะไรว่ะ" .... สอนการรับของกินจากเจ้านาย เราจะให้นั่งก่อนทุกครั้ง ถ้าไม่นั่งอด(แด๊ก...อิอิ) นั่งรอเช็ดเท้าก่อนเข้าบ้าน เช็ดตัวก่อนนอน ห้ามกัดสายไฟ ห้ามกัดโซฟา ฯลฯ ... สาระพัดที่เราจะสอนเค้า บอกเค้าได้ในตอนนั้น จนเจ้านายว่า

"นี่คุณพูดมากจริงๆ หมามันก็เบื่อน่ะ"

จากที่เริ่มสอนให้รู้จักในเรื่อง "นั่งรอเช็ดเท้าก่อนเข้าบ้าน เช็ดตัวก่อนนอน" ท่านอย่าคิดว่าง่ายๆ น่ะ สำหรับเราคนเลี้ยงมือใหม่ ไม่ใช่เรื่องหมูๆ เลย ก็ไอ้อาการกล้าๆกลัวๆยังฝังในความรู้สึกเราอยู่ อาการที่แสดงออกมาไม่รู้เจ้าตัวยุ่งรู้ได้อย่างไง พอเรายื่นมาไปเช็ดตัวเค้า เค้าจะไล่งับเราตลอด มีขู่บ้าง ไม่ยอมให้เช็ดได้ง่ายๆ โอ๊ย..ไม่อยากพูดถึงตอนนั้นทุลักทุเลมาก "ขอบอก" บางวันเราร้องไห้เลยน่ะ ไม่เอาแล้ว (พูดกับตัวเอง) ความคิดที่จะเอาเจ้าตัวยุ่งเข้าโรงเรียนฝึกก็ได้บังเกิดขึ้น แต่ในเว็บบอกว่าถ้าให้ดีควรอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป เอาล่ะไอ้ตัวยุ่งฉันจะทนเจ้าไปอีก 5 เดือน ฮ่าๆๆ ... บางวันจัดการตัวเค้าเราก็น้ำตาก็ไหลไปพราง ตอนนั้นอารมณ์มันบอกไม่ถูกน่ะ ... แต่พอตกเย็นกลับบ้าน เรากลับคิดถึงเป็นห่วงว่าเค้าจะเป็นไงบ้าง ถามถึงเค้าทุกเย็น เอ๊ะ..มันอย่างไงกัน?


โดย น้อยหน่า ('.' ) - Monday, 16 August 2004, 06:05PM
 

ตอนที่ 2 นายใหม่ บ้านใหม่ ...........................

ตลอดการเดินทางกลับบ้าน เรา 2 คนคิดชื่อที่จะเรียกเจ้าตัวยุ่งอยู่พักใหญ่จนได้ข้อสรุปกันว่าจะเอาชื่อนี้ล่ะ "นีโอ" ตอนนั้นหนังฝรั่งเรื่องหนึ่งกำลังฮอต จนวันนี้เราอยากจะเปลี่ยนชื่อเค้าจัง (แต่คงช้าไปแล้ว) เลี้ยงหมาไทยแต่ดันไปตั้งชื่อออกฝรั่งเชียว อยากได้มั่ง ชื่อ "มดดำ" "มดแดง" เนี่ย การเรียกชื่อหมากับคนที่ไม่เคยเลี้ยงเลย มันกระดากปากมากเลยน่ะ ไม่รู้สิ ... แล้วเจ้านายก็บอกว่า เรียกชื่อมันบ่อยๆ มันจะได้รู้ว่ามันชื่อนี้

เค้าหลับยาวจนถึง ๑ ทุ่ม ตื่นมาเดินหาน้ำกิน มองเรา ๒ คนแบบยังไม่ไว้ใจ เราก็พยามเรียกชื่อ เค้าก็ยังไม่หัน เดินไปเดินมา ดมๆๆ ไปทั่ว ซึ่งตอนนั้นเราไม่รู้หรอกว่าเค้าดมๆนั้นหมายถึงอะไร สิ่งที่ตามมาหลังเดินดมๆ เค้าฉี่เสียนี่ เราโกรธเค้ามั๊ย ไม่เลย เรากลับมองตัวเราเอง ว่าไม่รู้เรื่องเอง ไม่เป็นเอง ก็นั่งเช็ดฉี่เป็นนังแจ๋วกันไป

อาหารมื้อแรกเราให้อาหารเม็ดตามที่ทางคอกแนะนำให้มา ปรากฎว่า เจ้าตัวยุ่งไม่แตะเลย ไอ้เรา ๒ คนก็เกรงว่ากลางดึกมันหิวจะตื่นมากวนเรา ก็ลงทุนหุงข้าวเจียวไข่เจียวให้กินก็ยังไม่กินอีก เราก็หาของที่จะหาให้เค้ากินได้นั้นก็คือ นม จำได้ว่าเราให้เค้ารวดเดียว ๒ กล่อง โอ๊ย... เห็นเค้ากินเรานี่ดีใจอย่างบอกไม่ถูก(คนไม่เคยเลี้ยงก็อย่างเงี้ย) แต่ว่า... พอเค้าอิ่ม ตกหนักมาอยู่ที่เรา เล่นเอาเราไม่ได้นอนทั้งคืนเลย เราต้องตื่นทุกชั่วโมง เค้าท้องเสีย ถ่ายเหลว และก็ฉี่บ่อยมาก ๒ วันแรกเราฝึกให้เค้าถ่ายในห้องน้ำ ซึ่งเค้าจำได้เร็วมาก พอเราเปิดห้องน้ำให้ เค้าก็ไปดมๆ แล้วถ่ายทุกข์ไป วันนั้นเป็นวันเสาร์อาทิตย์ ซึ่งก็ได้รับการต้อนรับจากหมาเพื่อนบ้านอย่างอึกกระทึกมาก เห่าต้อนรับกันเสียจนบ้านอื่นคิดว่าบ้านเรามีงานอะไรกัน แต่พอวันออกไปทำงาน เราต้องเอาเค้าไว้ในบ้านซึ่งตอนนั้นกรงยังไม่มาส่ง รั้วบ้านก็ยังไม่ได้กั้น (ช่องมันกว้างพอที่เจ้านี้จะหลุดไป) และไม่มีใครคอยดูต้องกะบริเวณให้ส่วนหนึ่งในบ้านไปก่อน ปรากฏว่าที่ฝึกให้ฉี่ ถ่าย ๒ วันที่ทำได้ดีเป็นอันล้มเหลว เราไม่อยู่เค้าฉี่ไม่เป็นที่ที่เราต้องการ โดยที่เราเปิดห้องน้ำไว้ให้ .. เลยต้องมาฝึกเรื่องฉี่ อึ กันใหม่ในอาทิตย์ต่อมา คราวนี้เราฝึกให้เค้าถ่ายข้างนอกแล้ว สบายขึ้นเยอะ

ในอาทิตย์แรกที่ไปทำงานแล้วเค้าต้องอยู่ในบ้าน เจ้านายจะกลับมาดูเค้าทุกเที่ยง มาให้ข้าว มาเล่นด้วยสักพัก แล้วก็ออกไปทำงานต่อ ตอนเย็นก็กลับบ้านเร็วขึ้นเพื่อมาอยู่เป็นเพื่อนเค้า พอดึกหน่อยพานั่งรถออกมารับเรา ช่วงนั้นจะเป็นอย่างนี้ทุกวัน และเป็นช่วงที่เค้าปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวบ้าน เค้าสำรวจไปทั่ว เราก็ถือโอกาสที่จะสอนเค้า พูดคุยกับเค้า บอกเค้า เค้ารู้น่ะบ่อยครั้งที่เราพูด(ได้ยินเสียงเรา) เค้าจะหันมามอง จนอาทิตย์เต็มๆ ที่เค้ารู้แล้วว่าเค้าชื่ออะไร ครั้งแรกเราตื่นเต้นมากที่เราเรียกเค้าแล้วเค้าหันมาและก็วิ่งมาหา ... เลียๆๆๆ ตอนนั้นเรากลับไม่รังเกียจเค้าเลย กับดีใจที่มันยอมรับเราเป็นนายมัน

ใครๆมักจะบอกว่า หมาบางแก้วตอนเล็กๆดูน่ารัก ขนฟูๆ นุ่มๆ แต่สำหรับเรา ไม่ใช่เลย ท่านลองอ่านไปเรื่อยๆ แล้วจะรู้ว่าบางแก้วน่ารักจริงๆตอนไหน .. ความรู้สึกตอนนั้นที่เราเลี้ยงเค้าเรามีแต่คำว่า "สงสาร" อยู่ในหัวน่ะคำว่า "รัก" ยังไม่เกิดในใจ(ณ ตอนนั้น) เอาเค้ามาเลี้ยงแล้ว ตัวก็ตัวเดียว ไม่มีเพื่อน ถ้าเราไม่เลี้ยงเค้า ไม่เล่นกับเค้า ไม่คุยกับเค้าบ้าง เค้าต้องมีปัญหาแน่ๆ และทุกวันเราจะรีบกลับเพื่อมาหาเค้า

ช่วงเดือนแรกที่เค้าเข้ามาอยู่กับเราเป็นเดือนที่เครียดกับตัวเราเอง เพราะเราต้องปรับตัวเองหลายเรื่อง ตั้งแต่มีเค้ามาอยู่ในบ้าน ทุกอย่างต้องเป็นระบบมากขึ้นเพื่อให้เค้ารู้กติกา ไม่งั้นของในบ้านไม่เหลือแน่ พี่แกกัดแทะทุกอย่างที่ขวางหน้า ต้องสร้างข้อห้ามให้เจ้าตัวยุ่งก็หลายเรื่อง จนทุกวันนี้เค้าเข้าใจข้อห้ามนั้นดี ไม่ค่อยฝ่าฝืน(ถ้ามีคน)


โดย น้อยหน่า ('.' ) - Monday, 16 August 2004, 06:02PM
 

ตอนที่ 1 เผชิญหน้า ...........................

จากการที่โดนรบเร้าว่าอยากเลี้ยงหมาพันธุ์บางแก้ว เรายังไม่ได้ไปหามาเลี้ยงทันที เจ้านายได้เข้ามาหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต เท่าที่จะหาได้เกี่ยวกับสายพันธุ์นี้ ไอ้เราก็เห็นดีเห็นงาม อุ๊ย ... น่ารัก สวยๆ แล้วนิสัยมันเป็นงัยล่ะ พอเจ้านายบอกว่า "ดุ" รักเจ้าของ หวงถิ่น หวงของ ทำให้ลังเลอย่างหนัก นานมาก นานจนข้ามปีเราก็ไม่โอเคว่าจะให้เลี้ยง จนเมื่อเรามาซื้อบ้านที่มีบริเวณ เจ้านายก็รบเร้าอยากเลี้ยงอีก โดยให้เราเข้าเว็บที่เค้าไป search เก็บไว้ให้เราอ่าน ให้เราทำความเข้าใจกับหมาพันธุ์นี้ก่อน

จนวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๔๖ มีงานประกวดสุนัข(ถ้าจำไม่ผิด) ที่สวนสามพราน เจ้านายก็อยากจะไปดู เราก็ไปด้วย ที่แรกที่เค้าพาเราไปดู คือสนามการประกวดความสามารถของสุนัขแต่ละพันธุ์ จำได้ว่าเรามีแต่รอยยิ้ม

อุ๊ย ... มันน่ารักจัง

เจ้านายถามว่า แล้วมันน่ารักมั๊ย

เราตอบ อืม น่ารักดี แล้วไอ้พันธุ์ที่อยากเลี้ยงน่ะ สอนมันให้ทำแบบนี้ได้ป่าว

เจ้านายตอบว่า ได้สิถ้าเรารู้จักเลี้ยง รู้จักสอนเค้า

เสร็จจากการดูประกวดเรา ๒ คนเที่ยวเดินตามเต๊นท์ที่เค้าเอาสุนัขมาวางขายแต่ละคอกแต่ละฟาร์ม เราเดินดูหลายรอบมาก(เน้นหลายรอบจริงๆ) ผ่านคอกนั้น ฟาร์มนั้นก็ไม่เอาสักตัว เราทำเป็นเดินผ่านตลอด เพราะใจเราตอนนั้นไม่อยากได้เลย มีแต่เจ้านายที่เดินเข้าไปเล่นกับตัวนั้นตัวนี้ ขอเค้าอุ้มมาดูบ้าง

อืม.. มันก็น่ารักดีนะ

งั้นคุณลองอุ้มมันสิ ดูสิมันมีปฎิกิรยาอย่างงัยบ้าง

ไม่อ่ะ คุณดูเองเถอะ

ตกลงสุนัขคอกนั้นก็ไม่ได้แอ้มเงินเรา เราเดินๆๆๆ ไปเรื่อย ซึ่งร้านมันก็ไม่ได้มีเยอะอะไร เดินไปเดินมาจนคนที่เต๊นท์เค้าจำได้ (ตอนนี้เราเริ่มเดินแยกมาคนเดียวแล้ว) เราเลยแก้เก้อถามคนที่ขายว่า ตัวเท่าไหร่ คนขายบอกว่า อ้าวพี่คิดน้องถูกๆ กว่าคอกอื่นเลย พี่ขายน้องแค่ ๒๐๐๐ บาท น้องเอาเลยมั๊ย ตอนนั้นเรานึกในใจ ดีนะที่เจ้านายให้อ่านข้อมูลมาบ้าง เราก็เลยไม่ได้ซื้อสุนัขมาจากร้านนั้น แต่คอกที่มาวางใกล้กันกับมีเจ้าตัวยุ่ง(ตัวนี้) ซึ่งเราเดินไปมาหลายรอบเราก็ไม่เจอมัน ลองถามคนขายเค้าบอกว่าเพิ่งมาถึงเช้านี้เองพี่ สนใจมั้ยหมาผมสายเลือดแชมป์นะ (เบื่อจังคำนี้ พูดทุกคอกเลย) ผมคิดพี่ ๙๐๐๐ บาทแล้วกัน ไอ้เราเดินมาทุกคอก ทุกฟาร์มเราก็ไม่ชอบตัวไหนเลย พอเรามาเจอเจ้าตัวยุ่ง เราเริ่มลังเล เดินไปบอกเจ้านายว่า มาดูนี่สิ ... มันน่ารักมั๊ย เราถูกชะตากับมันมากเลย ขนาดที่คอกข้างๆที่ขาย ๒๐๐๐ หมาเค้าทะเลาะกันเองในกรง จนคนคิดจะซื้อต้องเดินออกกันหมด ยังมาดูเจ้าตัวยุ่งเลย เจ้านายก็เลยต่อรองราคาดู ยังไม่เป็นที่พอใจ เราก็เดินออกมาจากร้านนั้นเพื่อไปดูร้านอื่น ซึ่งราคาหมื่นกว่าบาทขึ้นไป แต่สิ่งที่เราสนใจไม่ใช่เรื่องราคา ขนาดที่เราดูลูกหมาราคาหมื่นกว่าเราก็ยังไม่มีชะตาต้องกัน เราไม่เอาอีก จนต้องกลับมาที่ร้านเดิม ราคาลงมาไม่มากเท่าไหร่ แต่โดนใจเราก็โอเค เราเอาเค้ามาอุ้ม นั้นเป็นครั้งแรกที่สัมผัส ได้อุ้มหมาจริงๆ ดูเค้าซึม ๆ เหมือนง่วงนอน เพลียจากการเดินทางมั่ง เอ๊ะหรือว่ามันเมายา ฮ่าๆๆ

เราเอาเค้าออกมาจากร้าน มีคนที่คิดจะซื้อเจ้าตัวยุ่งอยู่เหมือนกัน มาเจอกันที่ร้านขายกรง เค้าเข้ามาทักว่า อ้าว หมาตัวนั้นนี้ พี่นี่เองที่ซื้อมัน ผมกำลังจะกลับไปซื้อมันอยู่เลย ผมเลยต้องเอาตัวเมียมาเลยเนี่ย ... ก่อนกลับบ้านเราสั่งกรง กับซื้ออุปกรณ์สำหรับหมาเท่าที่จำเป็นก่อน อันดับแรกคือสายจูง เราฝึกเค้าตั้งแต่วันแรกที่ซื้อเลยให้ใส่สายรัดอกจนเคยชิน

พานั่งรถกลับบ้าน ซึ่งเรากลัวมาก .. เพราะอะไรนะเหรอ เราต้องอุ้มเค้าตลอดทางนะสิ เราไม่เคยเลยนะ ถ้ามันกัดเรา มันดิ้น ฯลฯ แล้วเราเอาเค้าไม่อยู่ เราจะทำอย่างงัย แต่เหตุการณ์ผิดคาด เค้านิ่งมากเอาแต่หลับอย่าเดียว มีตื่นขึ้นมาเปลี่ยนท่านอนบ้างบ่อยครั้ง เรื่องเมารถเราก็กลัว อ่านในเน็ตประสบการณ์จากเพื่อนในชุมชนคนรักหมาบางแก้วบอกว่า เค้าจะเมารถ เราก็เตรียมตัวรับมือไว้เหมือนกัน แต่เจ้านี้ก็ไม่มีอาการเมารถให้เห็นเลย ทุกครั้งที่เอาเค้านั่งรถด้วย



โดย น้อยหน่า ('.' ) - Monday, 16 August 2004, 05:57PM
 

คำนำ

หญิง(ชรา)กับหมาบางแก้ว_๑

........ ตั้งแต่จำความได้ เราจำได้ว่าที่บ้านไม่เคยสนับสนุนให้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอะไรเลย แต่ก่อนสมัยเป็นเด็กเราก็คิดว่าทำไมนะที่บ้านถึงไม่มีสัตว์เลี้ยงเลยโดยเฉพาะหมา เพื่อนที่โรงเรียนก็พูดถึงไอ้ตูบที่บ้านกันทั้งนั้น แต่บ้านเราสิ แม้แต่ แมว นก ปลา ก็ไม่มี จนเราโตขึ้นเรากลายเป็นคนกลัวหมาไปได้ ชนิดที่เดินเข้าใกล้ไม่ได้เลยจะเลี่ยงตลอด เราก็ไม่รู้ว่าทำไม โดยที่บ้านก็ไม่เคยปลุกฝังเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับหมาเลยน่ะ

วันหนึ่งเราถามพี่สาวว่า ทำไมบ้านเราไม่เลี้ยงหมาเลยล่ะ

พี่ตอบว่า แค่เราจะกินชนิดที่ไม่เดือดร้อนเราก็แย่แล้วนะ แล้วเราจะเอาอะไรให้มันกิน

เราถามพี่ต่อว่า อ้าวแล้วบ้านอื่นล่ะก็เห็นเค้าก็เลี้ยงมันได้นิ

พี่สาวตอบว่า โน้นดูโน้นสิ นั้นน่ะนะที่ว่าเลี้ยงได้(ดี) คำว่าเลี้ยงดีคือเราต้องเลี้ยงมันจริงๆ ไม่ใช่ปล่อยให้มันวิ่งตะลอนๆ พอเหนื่อยก็กลับมานอนพัก ถ้าเราเลี้ยงเค้าไม่ได้ดี ไม่มีความสุข ไม่พร้อมหลายๆเรื่อง ก็อย่าเลี้ยงเสียเลยดีกว่า สงสารมัน เข้าใจหรือยัง ...

อ๋อ .. ค่ะ

จนวันหนึ่งเราได้พบผู้ชายที่เค้ารักหมามาก มากชนิดที่ว่าเกินไปหรือเปล่า ขนาดที่นั่งทานข้าวที่โรงอาหาร(ที่ทำงาน) มีหมามาหมอบรออยู่ใต้โต๊ะ กินข้าวเสร็จเค้าก็ให้อาหาร ลูบหัว เกาครางให้มัน เอ...แล้วเราจะไปกันรอดเหรอเนี่ย เราไม่เอาเลยน่ะหมาอ่ะ เราเปิดใจพูดกับเค้าตรงๆ ว่าเรากลัว เค้าก็บอกว่าเปลี่ยนแปลงความคิดได้ มันขึ้นกับเราจะเปลี่ยนหรือเปล่า มันไม่ได้เหลวร้าย น่ากลัวอย่างที่คุณคิดไว้หรอก ดูสิมันน่ารักดีออก ลองจับมันดูสิ แต่ตอนนั้นเราไม่เอาเลย ...

หลายปีต่อมาเมื่อเราแยกครอบครัว เจ้านายก็พร่ำเรียกร้องที่จะเลี้ยงหมาเกือบทุกวัน พยายามพูดว่ามันดีอย่างงัย มันน่ารักอย่างงัย จนเราก็พอจะเห็นดียอมฟังเค้าบ้าง เลยถามเค้าว่าแล้วเลี้ยงพันธุ์อะไรล่ะ... ทีนี้ล่ะนิยายยิ่งกว่าน้ำเน่าของจริงก็ได้เกิดขึ้นตั้งแต่เจ้าตัวยุ่งเข้าบ้านมาวันแรก


หน้า: (หน้าก่อน)  1 ...  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105