ในรูป ตัวที่ 1 และ 2 จากซ้ายมือ คือลักษณะของการเดิน และวิ่งที่ถูกต้องครับ รูปที่ 1 คือการ เดิน หรือวิ่ง อย่างช้าๆๆๆๆ จะเห็นลักษณะของลำขาหน้า และข้อเท้า อยู่ในแนวเดียวกัน เดินเต๊ะขาหน้าตรงๆ ข้อขาไม่บิดหรือเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง ขาหน้าตรงลงมาและขนานกัน ในกรณีนี้ จึงเกิดเป็น รอยเท้าคู่ ถ้าคุณเข้าใจถึงลักษณะการเคลื่อนไหวของสุนัข คุณจะรู้ว่า การเคลื่นไหวอย่างช้าๆ กับการวิ่งนั้น ลักษณะการใช้เท้าของสุนัขจะเปลี่ยนไป คือ 1.เมื่อสุนัขเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ เช่นเดินเล่น หรือวิ่งช้าๆ สุนัขจะใช้ขาในลักษณะที่ทะแยงกัน คือ ถ้าสุนัขก้าวเท้าหน้าด้านซ้าย เท้าหลังของสุนัขก็จะใช้ด้านขวา ถ้าก้าวเท้าหน้าด้านขวา ขาหลังก็จะใช้ด้านซ้าย 2.เมื่อสุนัขเคลื่อนที่เร็วขึ้น เป็นลักษณะที่วิ่งเร็ว สุนัขจะใช้ขาในลักษณะ ข้างเดียวกัน คือใช้ ขาแถบเดียวกัน คือ เมื่อสุนัขก้าวขาหน้าด้านขวา ก็จะใช้ขาหลังด้านขวา เมื่อสุนัขก้าวขาหน้าด้านซ้าย ก็จะใช้ขาหลังด้านซ้าย ให้ลองสังเกตุดูเอาเองครับ รูปที่ 2 คือการเคลื่อนที่อย่างเร็ว ขาหน้าทั้งสองข้างจะหุบเข้ามาหากัน ทำมุมเอียงเท่าๆกัน แต่ปลายเท้าทั้งสองจะไม่ขี่กัน มองเห็นเป็นรูปคล้ายๆ ตัว " วี " ปลายตัด แต่ลักษณะของข้อขาก็ยังตรง ไม่บิดเบี้ยวหรือสะบัดออกไป ในกรณีนี้ จึงเกิดเป็น รอยเท้าเดี่ยว ขึ้นครับ หรือเรียกเป็น ภาษา ประกิต ว่า Single track ทำไม? เมื่อสุนัขเคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็ว จึงเกิดลักษณะที่ขาต้องหุบเข้าหากัน เป็นเพราะ เพื่อการหลบหลีก ตามล่า ทำให้มีความคล่องตัว ปราดเปรียว เป็นสิ่งที่ธรรมชาติเขาสร้างมาให้กับ สุนัข เพื่อให้สมกับการเป็นนักล่าและหลบหลีกครับ |