เพื่อน .

หน้า: (หน้าก่อน)  1 ...  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24 ...239   (ต่อไป)
โดย เพื่อน . - Friday, 23 February 2007, 02:30PM
 

ตอบจ้า.....ดูมันดุ....ต้องตอบมันหน่อย หุหุ

1.ตอบ เพราะว่ามัน รักนาย และหวงของ จนมีชื่อเสีย...เอ้ย...ชื่อเสียง

2.ตอบ เพราะมันน่ารัก และถูกชะตา ฟ้าลิขิตให้เรามาเป็นเนื้อคู่กัน เหมือน น้องปลา(บึกยักษ์)คู่กับด.ช.มานะ

3.อยากให้มันเฝ้าบ้าน เฝ้าของ และรักเรา

4.อยาให้เป็นสุนัขที่น่ารัก ใจดี แต่เฝ้าบ้านได้ ดูมันขัดๆกันยังไงอยู่นะครับ แต่คิดอย่างนั้นครับ ผมเชื่อว่าคนอื่นๆก็คิดอย่างนี้แหละครับ


โดย เพื่อน . - Friday, 23 February 2007, 02:20PM
 

ต้อง ขอบคุณ ท่านเกาฯ ที่เข้ามาสร้างสีสันในกระทู้ของผมครับ

เรื่อง ของโครงสร้าง ผมจะขอปิดไปก่อน นะครับ ทีนี้ เรามาดู เรื่องของเอกลักษณ์ กันดีกว่า มันจะเป็นเรื่องที่บอกถึง ว่าเจ้าหมาตัวนี้เป็นบางแก้วที่สวยหรือไม่? 

สุนัขบางแก้วนั้น ถ้าคนที่ไม่เข้าใจมองหมาบางแก้วนั้น อาจมองได้ว่ามีส่วนที่คล้ายหรือไม่แตกต่างจากสุนัขข้างถนนเลย แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันมีรายละเอียดซึ่งมากกว่า เจ้าหมาข้างถนน มากมายนัก และถือว่าเป็นสัญลักษณ์ที่จะบอกว่าเขาคือ สุนัขบางแก้วตัวจริงหรือไม่? และถือว่าเป็น เอกลักษณ์ประจำสายพันธุ์ ของสุนัขบางแก้ว

เริ่มจากส่วนหัว

1.ขนหลังใบหู จะเป็นขนที่ขึ้นปกคลุมทางด้านหลังหู ซึ่งสุนัขบางแก้วบางตัวนั้นจะมีลักษณะยาวมาก รวมถึงบางตัวก็จะมีขนที่ขึ้นภานในใบหู และยาวออกมามาก ทำให้ดูสวยงาม ถือว่าเป็นลักษณะที่เด่นของสุนัขบางแก้ว ไม่ว่าจะเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย ก็ควรจะมีเหมือนกัน

2.ขนข้างแก้ม หรือบางท่านจะเรียกว่า แผงหน้า ซึ่งบางตัวจะมีมากหรือน้อยก็ตามแต่ลักษณะเด่นของพ่อพันธุ์ และแม่พันธุ์ ถือว่าเป็นลักษณะที่เด่นของสุนัขบางแก้ว ไม่ว่าจะเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย ก็ควรจะมีเหมือนกัน

3.เครา หรือบางท่านเรียกว่า ขนที่อก อยู่ที่ช่วงอกหน้า ใต้คางลงมา

4.หู ต้องตั้ง

ลำตัว

5.ต้องมีแผงหลัง หรือบางคนเรียกว่า ผ้าคลุมไหล่ ในช่วงของหลังบริเวณที่ต่ำกว่าคอลงมา จะเห็นขนที่มีลักษณะยาวๆ ปกคลุมบริเวณหลังของสุนัข ถือว่าเป็นลักษณะที่เด่นของสุนัขบางแก้ว ไม่ว่าจะเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย ก็ควรจะมีเหมือนกัน

6.ขนชายท้อง ในบริเวณช่วงท้องของสุนัข จะมีขนยาวออกมาจากท้องยาวลงมา ไม่ว่าจะเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย ก็ควรจะมีเหมือนกัน

7.ลักษณะของขน ต้องเป็น ขนสองชั้น คือมีขนชั้นใน เป็นขนสำลีอ่อนนุมอยู่ภานใน และมีขนชั้นนอกเป็นเส้นยาวปกคลุมอยู่ทั่วตัว

ช่วงท้าย

8.ต้องมีกระโปรงท้าย หรือขนด้านท้าย ตรงขริเวณ ก้น ของสุนัขจะมีขนยาวปกคลุมลงมาถึงบริเวณข้อขาด้านบน

ขาหน้า

9.จะต้องมีแข้งสิงห์ คือ ขนที่ยาวออกมาจากด้านหลังของขาหน้า

ที่เขียนมานี้เป็นเรื่องของเอกลักษณ์ที่สำคัญ เอาแบบสรุปย่อๆ จะไม่ลงลายละเอียดไปถึง ลักษณะของตา ลักษณะของหู ไม่ลงไปถึงเรื่องลายละเอียดปลีกย่อย ซึ่งมีมากเกินไป จะทำให้ น้องๆและเพื่อนๆ สับสนได้ครับ



โดย เพื่อน . - Friday, 23 February 2007, 11:59AM
 

การพัฒนาเรื่อง มุมขาหลัง นั้น มันไม่ยากหรอกครับ หากพ่อพันธุ์เรามีมุมขาหลัง ลูกๆของเขาก็จะมีมุมครับ เป็นลักษณะการถ่ายทอดทางพันธุ์กรรมครับ

แต่ถ้าเราเริ่มต้นจากสุนัขไม่มีมุมขาหลัง หรือว่าเราไม่รู้ว่าสุนัมีมุมขาหลังเป็นอย่างไร เราก็เก็บสุนัขผิดตัว มาใช้ในการพัฒนาสายพันธุ์ นั่นก็เป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกครับ

หลักการบรีดของผม ซึ่ง..พี่ๆที่เขามอบความรู้มาให้ เขาบอกว่า ตัวเมีย จะถ่ายทอด ลักษณะของกระโหลก สี ตัวผู้จะถ่ายเรื่องของโครงสร้าง ครับ ลองเอามาพิจรณาแล้วมองกลับไปดูนะครับ ว่าเป็นจริงตามหลักการนี้หรือไม่?


โดย เพื่อน . - Friday, 23 February 2007, 11:26AM
 

หุหุ บางแก้ว นิสัยเหมือนคนหรือเปล่า?

บางแก้ว ที่บ้านผม นิสัยไม่เหมือนผมครับ น่ารักกว่าเยอะเลยครับ สำหรับตัวที่ไม่สวยนั้น ผมก็คงต้องหากเราขายไม่ได้ เราก็ต้องหาบ้านให้เขาครับ หรือว่าไม่ได้จริงๆ เราก็ต้องเลี้ยงจ้า.....

ก็เห็นอยู่แล้วว่าที่บ้านผม มีหมาไม่สวยมากมาย ขอก็ไม่ให้ ขายก็ไม่ขาย เพราะท่านเหล่านั้น คือ คุณครู ของผมครับ แต่เราก็ทำหมัน หรือไม่ใช้ในการพัฒนาสายพันธุ์ จ้า.....


โดย เพื่อน . - Friday, 23 February 2007, 10:59AM
 

ขอบคุณครับ..ท่านเกา....

สุนัขที่คุณ ซื้อมานั้นอาจจะไม่เคยที่จะอยู่กรงมาก่อน เราต้องเริ่มฝึกครับ ให้เขารู้จักกับการที่จะอยู่เป็นที่เป็นทาง ซึ่งอาจต้องใช้เวลาบ้าง ต้องอดทนสักนิดครับ

เรื่องการฝึกสุนัขให้อยู่ในกรงนั้น

.........ต้องเข้าใจลุกสุนัขว่า เขามาอยู่กับเจ้านายคนใหม่ ยังแปลกที่แปลกทางอยู่ ต้องเข้าใจเขา เพราะเขาอาจจะยังหวาดกลัว หวาดระแวงในสถานที่ อีกทั้งคนก็แปลกหน้าแปลกตา เขาไม่รู้จักเลย เขารู้จักแต่เพียงคุณ(คือเจ้าของคนใหม่) ที่เขาร้องก็เพียงเพื่อว่า ให้คุณ มาอยู่ใกล้ๆ ถ้าเขาเห็นหน้าคุณ เขาก็จะเงียบเสียง แต่พอคุณ เดินห่างไปเขาก็ร้อง

การแก้ไข ก็คงต้องเริ่มฝึกเขาให้อยู่ในกรงแล้วก็อยู่ใกล้ๆคุณ ขอให้ใช้กรงขาดที่ไม่ใหญ่มากนัก เป็นกรงราคาถูกๆ เอามาวางในบ้านก่อนใกล้ๆที่คุณนอน เอาเสื้อของคุณที่ใส่แล้วมีกลิ่นตัวของเจ้าของ เอามามัดเป็นปมๆ แล้วเอามาให้เขาเล่นในกรง ตามที่คุณเกาเหลาแนะนำ ถูกต้องแล้วครับ

ก่อนที่จะใส่กรงนอนนั้น เราต้องปล่อยเขาออกมาขับถ่ายนอกรงอีกครั้ง เมื่อเขาทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราจึงเก็บเขาใส่กรง หากเขาร้องอีก เราก็คงต้องลุกขึ้นมา แล้วเอามือตบกรง แล้วดุเขา ช่วงนี้คงต้องอดทนกันหน่อยนะครับ ถ้าสองสามวันผ่านไปรับรองว่าทุกอย่างจะดีขึ้น

จงจำไว้ครับ...อย่าปล่อย ลูกสุนัขทุกครั้งที่เขาร้อง

- เราจะปล่อยเขา ตอนเช้า แล้วเก็บเข้ากรง ทานอาหารเช้า แล้วก็ปล่อยเขาเล่นสักครู่ใหญ่ๆ แล้วก็เก็บเข้ากรง

- ตอนเที่ยงๆ เราก็ปล่อยเขาอีกครั้ง ให้ออกมาเล่น และขับถ่าย ช่วงนี้เราอาจจะปล่อยนานหน่อย รอจนเขาเริ่มเหนื่อยและเขาจะนอนเล่น เราก็เก็บเข้ากรง

- ตอนเย็นๆ เราก็ให้ทานอาหาร แล้วก็ปล่อยเขาอีกครั้ง

- ตอนกลางคืนก่อนนอน เราก็ปล่อยออกมาขับถ่าย

ที่บอกเล่ามานี้เป็นการฝึกการอยู่กรงสำหรับสุนัขเล็กๆ เพราะเขายังไม่รู้จักการ อั้น อึ-ฉี่

หากเขาโตขึ้น เราก็ลดขั้นตอนลง ปรับเวลาให้ตรงกับความต้องการหรือความเหมาะสมของคุณ นะครับ


หน้า: (หน้าก่อน)  1 ...  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24 ...239   (ต่อไป)