|
หมาบางแก้ว วิกฤต-ลูกผสมเกลื่อน/ทภ.3 จับมือสมาคมฯร่วมพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นทะเบียน FCI |
โดย ผู้จัดการออนไลน์ | 15 กุมภาพันธ์ 2550 11:01 น. |
|
|
สุนัขพันธุ์บางแก้ว ชื่อ "เจ้าซัน" ราคาค่าตัวแสนห้า |
|
|
| คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น |
|
|
| | พิษณุโลก - หมาบางแก้ว วิกฤต ถูกแอบอ้างสายพันธุ์/ผสมกันมั่ว จนกลายเป็นหมาพันธุ์ทางเกลื่อนเมือง ทั้งที่ถิ่นกำเนิดท่านางงาม/บางระกำ เมืองสองแควได้รับรองจากเอเชีย แถมจ่อคิวขึ้นทะเบียนสุนัขโลก (FCI) ล่าสุดสมาคมผู้เลี้ยงสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วยื่นมือเป็นแกนหลักพัฒนาสายพันธุ์ให้นิ่ง ก่อนปั้มลูกขาย พร้อมกับจับมือกับ ทภ.3 จัดมหกรรมสุนัขพันธุ์บางแก้ว-ไทยหลังอานชิงแชมป์ 17-18 กุมภาพันธ์นี้ นายพิชัย คำสุวรรณ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว พิษณุโลก:The Association of Phitsanuloke Bangkaew Breeder Dog (APB) กล่าวว่า สุนัขไทยบางแก้วเป็นสุนัขไทยพันธุ์หนึ่งที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่หมู้บ้านบางแก้ว ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก สร้างชื่อเสียงแก่ จ.พิษณุโลก มาช้านาน ปัจจุบันหลายจังหวัดดำเนินการเผยแพร่และจำหน่ายหมาบางแก้วออกสู่ตลาดในวงกว้าง แต่กลับนำสุนัขบางแก้วผสมข้ามสายพันธุ์ บางรายก็รับซื้อแบบเหมาราคาถูกๆ ในพื้นที่ แล้วนำไปตั้งราคาขายที่สูงโดยไม่คำนึงถึงสายพันธุ์แท้จริง ตนจึงได้ตั้งสมาคมผู้เลี้ยงสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วพิษณุโลกเมื่อปีเศษๆที่ผ่านมา โดยเน้นการพัฒนาสายพันธุ์สุนัขไทยบางแก้วแท้ให้นิ่งมากกว่าจำหน่ายสุนัขบางแก้วเกรดต่ำๆ
ทั้งนี้ ตามข้อมูลทะเบียนบัตรประจำตัวสุนัขบางแก้ว ที่สังกัดในพิษณุโลกจาก 2 สมาคมกับอีก 4 ชมรม ถูกระบุว่า สุนัขบางแก้วจำหน่ายออกสู่ตลาดต่างจังหวัดและกรุงเทพมหานครปีละ 3,000-4,000 ตัว ราคาเฉลี่ยประมาณ 3,000 บาท ซึ่งสุนัขบางแก้วแท้ต้องตรงตามเกณฑ์และมาตรฐานใน 3 สี คือ ขาว-ดำ ขาว-น้ำตาล และขาว-เทา ตามลักษณะเด่น คือ หัวกะโหลกค่อนข้างใหญ่, จมูกสีดำ, ปากยาวปานกลาง-โคนปากใหญ่เรียวจรดปลายจมูก, ฟันเล็กแหลมคม ควรครบ 42 ซี่, ตาเล็ก (เม็ดอัลมอนด์) สีน้ำตาลเข้ม, หูสามเหลี่ยมตั้งป้องไปข้างหน้า, คอใหญ่ล่ำสัน-แผงขนยาวรอบ, หลังเส้นตรง, ขาหน้าใหญ่กว่าขาหลัง, ขาหลังมีขนยางคล้ายแข้งสิงห์, อุ้งเท่ากลมคล้ายอุ้งเท้าแม้ว ขนคลุมนิ้วเท้า, ขนหางเป็นพวง-โคนหางใหญ่ พร้อมใบรับรองประวัติพ่อและแม่ที่ออกจากสมาคมฯ โดย ณ วันนี้ สุนัขพันธุ์บางแก้วเป็นที่ยอมรับจากนานาชาติในเอเชีย (Asia kennel union) แล้ว แต่สิ่งที่ต้องพัฒนาสายพันธุ์ให้นิ่งตามลักษณะ 5 ชั้นหรือ 5 โคตรเพื่อเข้าเกณฑ์และขึ้นทะเบียนสุนัขโลกให้ได้ตาม Federation Cynologique International (FCI) แม้ว่ายังอยู่ห่างไกลจากสุนัขโลก แต่สมาคมผู้เลี้ยงสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วก็พยายามพัฒนาให้นิ่ง โดยเฉพาะจิตประสาทและลดความกร้าวของสุนัขลง ในพ่อพันธุ์สุนัขบางแก้ว จากนั้นค่อยพัฒนาโครงสร้างของสุนัข นายพิชัย บอกว่า ต้องทำอย่างไรก็ได้ หากพูดถึง หมาบางแก้ว จะต้องนึกถึง จ.พิษณุโลก จึงเป็นที่มาของการประกวดสายพันธุ์เด่นของสุนัขพันธ์บางแก้วเพื่อก้าวสู่สุนัขโลก โดยกองทัพภาคที่ 3 (พล.ท.จิรเดช คชรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3) ร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วพิษณุโลก จัดงานสายสัมพันธุ์ความผูกพันธ์สุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว - ไทยหลังอานในงาน มหกรรมชิงแชมป์สุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว-ไทยหลังอาน ปี 2550 ครั้งที่ 1 ในวันที่ 17-18 กุมภาพันธุ์นี้ ที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ชิงถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 7 ถ้วย จ.ส.อ.ณรงค์ กาหลง เลขานุการสมาคมผู้เลี้ยงสุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ผู้เลี้ยงสุนัขบางราย ชอบนำสุนัขบางแก้วไปเฝ้าสวนยางหรือเฝ้าไร่ เพราะนิสัยดุ ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ควรอย่างยิ่ง ที่นำสุนัขบางแก้วไปผสมข้ามสายพันธุ์อย่างสุนัขลากล้อเลื่อน (ไซบีเรียน) เป็นเด็ดขาด มิฉะนั้น สุนัขจะกลายพันธุ์เป็นพันธุ์ทางไปเรื่อยๆ หากผู้เลี้ยงต้องการซื้อสุนัขบางแก้วของแท้ ก็ควรซื้อพร้อมมีใบรับรองจากฟาร์ม ชมรมหรือสมาคมผู้เลี้ยงสุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว จ.พิษณุโลก เท่านั้น เพราะสุนัขพันธุ์บางแก้วแท้ๆ บางตัวเคยวิ่งถึง 4 แสนบาท อาทิ อย่างเจ้าซัน (ตามภาพ) ราคาร่วมๆ 150,000 บาท จากที่พัฒนาสายพันธุ์เกือบนิ่งแล้ว จนรุ่นลูกๆ มีการพัฒนาทางประสาทดีเยี่ยม ทั้งนี้ สมาคมหรือชมรมคนเลี้ยงบางแก้วในพิษณุโลกควรสนใจและร่วมใจมือพัฒนาสายพันธุ์สุนัขพันธุ์บางแก้วอย่างเต็มที่ ก่อนที่จะขายออกเพื่อปั้มลูกเอาปริมาณมากๆ ควรทำสุนัขบางแก้วให้เป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นของ จ.พิษณุโลก สู่ระดับสากลก่อน จากนั้นรายได้จะค่อยๆ ไหลสู่เมืองพิษณุโลกเอง เรียกว่าค่อยๆพัฒนาให้เป็นเศรษฐกิจแบบพอเพียง
|
|
|
|
|
|
|
|
| http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9500000018280 |