สวัสดีครับ.....และขอขอบคุณ เพื่อนสมาชิกทุกท่าน ที่ได้เฝ้าติตามความคืบหน้า อาการป่วยของ นายเก้าล้าน มาโดยตลอดตั้งแต่ วันที่ 18 มกราคม 2550 และคอยให้คำแนะนำ คำปรึกษา กำลังใจเพื่อต่อสู้กับโรคร้าย
ถึงตอนนี้........... ผมเองผู้เป็นเจ้าของ นายเก้าล้าน จะเงียบหายไปโดยไม่มีคำอธิบาย หรือ รายงานใดๆต่อ เพื่อนๆสมาชิกคงมีความสงสัย ข้องใจ กับการจากไปของ นายเก้าล้าน เป็นแน่ หลังจากที่ นายเก้าล้าน จากไปด้วยอาการสงบ ในคืนวันที่ 4 เข้าสู่เช้าวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2550 เวลาประมาณ 00.45 น. ผมเองได้ให้เวลากับตัวเองเพื่อทบทวน และทำใจยอมรับสภาพความเป็นจริง กับการจากไปของเจ้าตัวน้อย................เพื่อให้เป็นแนวทาง สำหรับผู้ที่คิดจะเลี้ยงสุนัข หรือผู้ที่กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาเช่นเดียวกับผม ผมขอรายงานอาการคืบหน้าต่อ ดังนี้ครับ
04/02/2550
08.45 น. หลังจากเมื่อวานมีอาการชัก เช้าวันนี้ผมรีบไปดูอาการด้วยความเป็นห่วง วันนี้ดูซึมไปเยอะ ดูภาพรวมแล้ว คงจำเราได้บ้าง ไม่ได้บ้าง..............ผู้ช่วยอุ้มมาให้ นั่งเล่นคุยกันที่โต๊ะ พยายามเรียกชื่อเค้า ลูบหัวสัมผัสตัว แต่การตอบสนองไม่มี ได้แต่นอนหมอบคอตั้ง หายใจแผ่วๆ ตาปริบๆ..............ผอมซูบลงไปเยอะ จับโดนกระดูกซี่โครง ชั่งน้ำหนักเหลือเพียง 3.2 kg ได้ถามถึงอาการชักกับหมอ แจ้งว่าไม่มีอาการชักเลย อาจเป็นเพราะยาที่หมอฉีดให้ไปทำให้เค้าซึม ไม่เครียด ไม่ระแวง แต่ยังไม่ยอมกินอะไรเลย ได้แต่สารอาหารทางเส้นเลือดเท่านั้นเอง.............หมอเองยังหวังให้รู้ผลเพาะเชื้อแน่ๆ ในวันจันทร์ที่ 5 ก.พ. ...............หมอก็อยากเห็นเค้ามีชีวิตรอด เพราะเป็นสุนัขตัวแรกที่หมอเคยเห็น และยอมรับในความอดทน ความซื่อสัตย์ที่มีต่อเจ้านาย ไม่เสียพันธุ์บางแก้วเลย...................จำใจต้องฝากให้อยู่ใกล้หมอไปก่อน เพราะอีกใจอยากใช้เวลาอันน้อยนิดได้อยู่ร่วมกันกับเจ้าตัวน้อย คิดว่าเรากำลังนับถอยหลังแล้ว
18.30 น. กลับเข้าไปดูอาการอีกรอบ ไม่ต่างจากเมื่อเช้าเท่าไร ผู้ช่วยอุ้มออกมาให้ตามปกติ ขณะที่นั่งเล่นนั่งคุย เจ้าเก้าล้าน พยายามจะตอบสนองความรู้สึกอะไรซักอย่าง หันมาแลบลิ้นหลายครั้ง มองหน้า และจะเข้ามาใกล้ๆที่หน้าเรา เหมือนที่เคยเป็นตอนปกติ........................ แต่อาการกลับน่าตกใจ ที่เจ้าเก้าล้าน ไม่สามารถฝืนอาการชักเกร็ง เริ่มจากหน้าผากกระตุก ตากระพริบถี่ อาการคล้ายคนหอบ หายใจไม่ทัน ผมรีบเรียกหมอมาดูอาการ....ด้วยน้ำเสียงสั่น และหยดน้ำตา อาการค่อยๆทุเลาลง ผมจำต้องทำใจกล่าวคำลา เพราะอยากให้เขาหลับไปอย่างสบาย ไม่อยากให้ชักทรมาน ไม่ไหวก็หลับเถิด นายสู้เรารู้ นายอยากอยู่กับเรา.......จากนี้ไป เราจะมีนายอยู่ข้างกายเสมอ...แม้ร่างกายนี้ มันจะไม่อยู่ก็ช่างเถอะ.............ความรู้สึกระหว่างเราเท่านั้น ที่จะอยู่ด้วยกันตลอดไป..............หลับซะเจ้ายอดนักสู้ผู้ซื่อสัตว์ นายเก้าล้าน อาการนิ่งสงบลง ผู้ช่วยรีบนำกลับไปพัก ให้น้ำเกลือต่อ
ผมเข้าไปปรึกษาหมออีกที......เรื่องแผลนั้นดีขึ้น เซลล์ที่ตายหลุดออกเกือบหมดแล้ว เนื้อดีสร้างขึ้นมาใหม่แดงสด อยู่ในเกณฑ์ดี แต่ที่น่าห่วงก็ตรงที่อาหารกินไม่ได้ จะเอาอะไรไปสร้างเซลล์ แล้วกลับมาชักอีกหมอหนักใจมาก ผมเปิดประเด็นถามคุณหมอตรงๆถึงโอกาสรอด หมอบอกเหลือน้อยมากแล้ว..............เลยถามถึงว่า มีวิธีหรือยาอะไรไหมที่ทำให้เขาหลับสบาย หมายถึงหลับไม่ตื่น โดยไม่ชัก ไม่ทรมาน (ผมต้องกลั้นใจ กลั้นน้ำตาปรึกษากับหมอเรื่องนี้........พอได้ข้อมูลบ้างไว้มีโอกาสอาจเอามาเป็นประเด็นหารือ กันต่อไป) หมอบอกมี........แต่คุณพร้อมแล้วหรือ หมอทำให้ไม่ได้.....เพราะมันเป็นเรื่องละเอียดออ่น นั่นหมายถึงการตัดโอกาสให้เค้ามีชีวิตรอด หมอให้ดูอาการเค้าไปก่อน ถึงความหวังจะน้อยนิด แต่นั่นก็คือมีความหวัง.............ครับ ผมจำต้องลากลับด้วยใจที่เป็นห่วง หาทางออกกับปัญหาไม่ได้ ไม่มีทางเลือกใดๆ ทำใจก็ยาก กลับบ้านคิดตลอดทาง ถึงบ้าน ไม่มีเก้าล้าน มีแต่ของเล่นวางเกลื่อน อาหาร ยา อุปกรณ์ต่างๆ หันไปหยิบเสื้อตัวเก่งสุดหล่อที่พากันไปซื้อมาเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว มาจับๆดูๆ แล้วคิดไปต่างๆนาๆ..............มันเป็นช่วงเวลาที่ลำบากใจมากเลยครับ
22.00 น. คืนนี้มันผิดปกติกว่าทุกคืน ผมนอนหลับๆ ตื่นๆ หูแว่วได้ยินเสียงเหมือน เจ้าเก้าล้าน เคาะประตูเพื่อออกไปฉี่ข้างนอกเหมือนเมื่อก่อน แต่ลุกขึ้นมา ไม่มีเก้าล้าน มองไปที่ตรงที่เค้าชอบนอน มีแต่ผ้าปู กับ หมอนข้างเด็ก ที่เค้าชอบนอนเกยคาง มันเงียบเหงาบอกไม่ถูก
05/02/2550
เช้าวันนั้นผมเองกำลังออกเดินทางไปทำงานด้วยใจที่คิดเป็นห่วง เป็นกังวล กับอาการของเจ้าตัวน้อย ระหว่างทางก็ได้รับโทรศัพท์แจ้งข่าวร้าย จากทางโรงพยาบาลสัตว์ ผมถึงกับอึ้งไป.........และตัดสินใจยังไม่เดินทางไปโรงพยาบาลในช่วงเช้า เพื่อหาเวลาทำใจรับสภาพกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น หันไปหาคอมฯ บนโต๊ะทำงาน เพื่อเข้าเว็ปไซส์ แต่ก็ยังทำใจไม่ได้อยู่ดี ไปนั่งทานกาแฟ มองเห็นสุนัขจรจัดตัวหนึ่ง ดูไร้จุดหมาย แต่สามารถเติบโตมาได้ขนาดนี้ ก็นับว่าเก่งเอาตัวรอด แต่ไม่มีผู้ใดเหลียวแล หรือว่าเจ้านี่มันถูกคนนำมาทิ้ง พยายามตีสนิท แต่ยากครับ เค้าหนีเตลิดไป.........................ยิ่งเห็น ยิ่งคิถึงเจ้าเก้าล้าน ที่เราเคยหวัง ว่าวันข้างหน้าเขาจะเติบโต อยู่เคียงข้างเราไปอย่างน้อยก็ซัก 10 ปี ที่เราจะสร้างมิตรภาพร่วมกันอย่างแน่นแฟ้น เช่นเดียวกับสุนัขทุกๆตัวที่ผมเคยเลี้ยงผ่านมา หรืออาจจะดีกว่าเพราะมีแววตั้งแต่เล็ก ( เพราะสายพันธุ์บางแก้วในตัวเค้า) ทานกาแฟเสร็จ เดินไปดูรอบๆโรงงาน หาที่เหมาะๆ ที่จะฝังเขาไว้ที่โรงงานเรานี้ เพราะเดิมตั้งใจว่า โตขึ้นก็จะยกหน้าที่ดูแลที่นี่ให้เขารับผิดชอบโรงงานนี้ ในยามค่ำคืน
ประมาณ บ่าย 3 โมง ผมตัดสินไปรับ เจ้าตัวน้อย กลับบ้านเรา ด้วยอาการที่เก็บกลั้น ทันทีที่ไปถึง ผมขอจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายก่อน ( นอนโรงพยาบาล 2 รอบ หมดไปอีก เกือบๆ 10,000 รวมแล้วที่ผ่านมาก็ร่วม 30,000
.เอาน่ะไม่เป็นไร เพื่อเค้า นายเก้าล้าน ) หลังเคลียร์เงินเสร็จ ไม่ทันตั้งตัวผู้ช่วยคนเดิม พี่เลี้ยงเจ้าเก้าล้าน ก็อุ้มร่างอันไร้วิญญาณถูกห่อหุ้มด้วยถุงดำ มีป้ายชื่อติดอยู่ เดินน้ำตาซึมตรงมาหาผม....แล้วส่งให้บอกน้องเก้าล้านครับพี่.....................!!!!!!!!!!!!!!! ผมถึงกับอึ้ง.......!!!!! ตะลึง........!!!!!! ตอบกลับไปโดยไม่ได้คิดว่า........ ไม่ใช่ ไม่ใช่เก้าล้าน ของผม แล้วหันหน้าหนี พร้อมกับน้ำตาร่วงแบบอายใครไม่เป็น แล้วรีบหันกลับไปรับเขา เข้ามาโอบกอดไว้ .......... กลับบ้านเราเถิดนะลูกนะ............ไม่เจ็บ ไม่ป่วย แล้ว .........หายแล้ว ไป....เก่งมาก ยอดเยี่ยมมาก พร้อมกันนั้นได้กล่าวลาและขอบคุณ คุณหมอและผู้ช่วยฯทุกคน ทุกคนก็สู้กันสุดความสามารถแล้ว ขับรถพาเขากลับมาโรงงาน คุย บอกเค้าตลอดทาง เหมือนตอนที่เค้ามีชีวิต ยังถามเค้าอยู่เลยว่า ไม่มีเกยคางที่แขนผม เวลาขับรถหรือ วางเค้าบนตัก (อยู่ในถุงดำ) พยายามลูบคลำหา หัว หาง หู ขา ทุกๆส่วนของร่างกายเขา บอกเขาว่าหายแล้ว ไม่เจ็บแล้ว........................... ถึงโรงงานตรงไปจัดการฝังเขาด้วยตัวเอง ที่ได้ต้นก้ามปู ขนาดใหญ่ พร้อมทั้งเอาของเล่น อาหารทุกอย่าง ฝังรวมไปด้วย ด้วยอาการเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูก...................เสร็จแล้ว ได้เอาน้ำยาฆ่าเชื้อ ( Virakly) ที่คุณหมอจัดมาให้ ฉีดพ่น ปากหลุม และบริเวณโดยรอบ เสร็จแล้วเก็บทำความสะอาดกรง และฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อทั่วบริเวณที่เขาเคยอยู่
จากนี้ไป............เก้าล้านจะอยู่ในใจผม อยู่ข้างกายผม ไปตลอด คงไม่มีสุนัขตัวใดมาทดแทนได้ ถึงมีก็ไม่ใช่ นายเก้าล้าน ครั้งนี้อาจเป็นเพราะผมละเมิดอุดมการณ์ตนเอง ที่เคยตั้งสัตย์ไว้ว่า จะไม่ซื้อขายชีวิต เพราะตั้งแต่เลี้ยงสัตว์มาหลายชนิด สุนัขก็ 8 ตัวไปแล้ว ล้วนเอาใจรักจริงไปแลกมาทั้งสิ้น ขอเอาจากญาติบ้าง เพื่อนบ้าง แล้วสัญญากันว่าจะไม่ทิ้งขว้าง จะเอาไปเลี้ยงให้ดีเอามาเป็นเพื่อน ไว้ใช้เฝ้าบ้านบ้าง........บางทีสุนัขก็เป็นนายเรา คอยหาอาหารให้เค้ากินไง เหตุการณ์นี้คงไม่ถึงกับทำให้เลิกเลี้ยงสุนัขไปเลย แต่จะเป็นจุดเริ่ม ก่อนที่จะเลี้ยงสุนัขต่อไปอย่างถูกวิธี มีการศึกษาข้อมูล คัดสรร ก่อนที่จะเลี้ยง หลังจากสุนัขตัวที่ 9 นายเก้าล้าน ต้องจากไปก่อนวัยอันควร ไม่แน่นะ....................ในอนาคตอาจคิดเป็น บรีดเดอร์ซะเอง เพื่อผลิตบางแก้วที่ได้มาตรฐาน รักษาเผ่าพันธุ์หมาไทยไม่ให้สูญไป แจกจ่ายกัน เอาใจมาแลกไปเลี้ยง ไม่ซื้อ ขาย มุ่งแต่กำไรอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน..................ในนาม คอกนายเก้าล้าน ซะเลย เป็นงัย
เก้าล้าน.................นายยังอยู่กับเราเสมอ เราเชื่อ |