๘.
เมื่อพี่น้องคู่ซี้กลับกลายเป็นศัตรูคู่แค้น
ทราบมาว่า
สุนัขบางแก้วจะมีการผลัดขนเป็นเรื่องปกติอย่างเจ้าขุนแผนของคุณโป๋ตัวนี้ก็ผลัดขนตอนอายุ
๔
เดือนจนหน้าตาน่าเกลียดน่าชัง
หลังจากนั้น
จะมีขนงอกขึ้นมาใหม่
สวยงามกว่าเดิม
เจ้าขุนแผนเป็นสุนัขใจดีขี้เล่น
มีเพื่อนซี้เป็นสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ลชื่อกะทิ
เคยขึ้นปกหน้าหนึ่งของเว็บไซต์สนุกด๊อตคอมมาแล้วภายใต้ชื่อ
“เพราะเราคู่กัน”
แต่เจ้าปิงปองยังไม่เคยผลัดขนสักครั้งเลย
ขนฟูของมันทำให้ตัวมันใหญ่กว่าความเป็นจริง
ยิ่งเวลามันโกรธหรือตื่นเต้น
แผงขนรอบคอและกลางหลังจะแผ่ออกและตั้งขึ้นจนดูตัวใหญ่เท่าๆกับเจ้าโบซึ่งมีขนสั้น
มันคงจะได้ใจ
นึกว่าข้าใหญ่แล้ว
จึงชอบมาหาเรื่องชวนทะเลาะกับเจ้าโบ
ดังจะได้เล่าต่อไป
ความจริง
อยากให้มันเห็นสารรูปตัวเองตอนอาบน้ำ
ว่าไม่ต่างอะไรกับเจ้าขุนแผนในรูปข้างบนเลย
เวลาขนเปียก ไม่อาจพองขนให้ตั้งขึ้นได้
เจ้าปิงปองก็ตัวเล็กเท่าลูกหมาตัวหนึ่งเท่านั้น
เจ้าปิงปองชอบนอนแช่น้ำในอ่าง
แต่ไม่ชอบให้อาบน้ำ
ต้องฝืนใจมันบ่อยๆกว่าจะชะโลมแชมพูกำจัดเห็บให้ทั่วร่างได้ มันชอบเอาเห็บไปซ่อนไว้ตามใบหูและอุ้งเท้า
สมัยก่อนผมไม่รู้วิธีการฆ่าเห็บ
ชอบจับตัวมันมาบี้กับพื้น
หารู้ไม่ว่าไข่เห็บในตัวมันแตกกระจายไปเจริญเติบโตอยู่ในพื้นสนามหญ้าเต็มไปหมด
จับเท่าไหร่ก็ไม่หมดเสียที
บางครั้งมันแอบเข้าไปอยู่ลึกในรูหูของเจ้าปิงปอง
ต้องใช้ไม้พันสำลีจุ่มยาเหลืองไปแคะออกมา
ตอนหลังนี้
เลยใช้วิธีจับเห็บโยนใส่กระป๋องที่ใส่น้ำมันเครื่องเตรียมไว้
แล้วดูมันแช่น้ำมันเล่นอย่างสบายใจว่าเราไม่ได้ทำบาปโดยการบี้มันอย่างทารุณเหมือนแต่เดิม
เจ้าโบก็ชอบล่าเห็บเหมือนผม
มันชอบเอาปากไซ้ไปตามขนปุกปุยของเจ้าปิงปอง
แล้วทำปากหยุกขยิกเหมือนกำลังแทะเห็บอยู่
ไม่รู้จะได้สักกี่ตัว แต่ที่แน่ๆ
คือขนเจ้าปิงปองจะดูขาวสะอาดขึ้น
เพราะได้เจ้าโบมาช่วยไซ้ขนให้นี่แหละ
มองดูแล้ว
พี่น้องคู่นี้ก็รักใคร่กลมเกลียวกันดี ผมเองก็อุ่นใจว่า
มันจะไม่ทะเลาะกันให้ลำบากใจ เพราะทุกครั้งที่ผมพามันไปวิ่งเล่นที่สวนนอกบ้าน
มันจะวิ่งไล่กวดหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน
แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็ได้เกิดขึ้น
เมื่อมันทะเลาะกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
โดยที่ผมไม่รู้ว่าจะเข้าไปแยกมันได้อย่างไร
จึงได้เขียนเป็นกระทู้ไปถามเพื่อนๆบน
อินเทอร์เน็ต ซึ่งก็ได้รับข้อแนะนำดีๆ
สามารถนำมาใช้แก้ปัญหาได้หลายครั้ง แต่ปัญหาดูจะไม่ยุติลงได้ง่ายๆ มีผู้มาแสดงความเห็นใจและเสนอแนวทางการแก้ปัญหาที่น่าสนใจไว้ จึงใคร่ขอนำเสนอท่านผู้อ่านผ่านกระดานข่าวดังต่อไปนี้
สุนัขกัดกัน จะเข้าไปแยกอย่างไรให้ปลอดภัย
|
เมื่อวาน นับเป็นครั้งแรกที่เจ้าโบ(โดเบอร์แมน)กับเจ้าปิงปอง(บางแก้ว)กัดกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เจ้าปิงปองจะยอมให้
เลยโดนกัดเบาๆพอเป็นพิธี
แต่ครั้งนี้ เจ้าโบมาขู่ตะคอกเพื่อแย่งเศษอาหาร
เจ้าปิงปองไม่ยอม
เลยฟัดกันนัวเนีย รู้สึกว่าเจ้าปิงปองจะเสียท่าโดนเจ้าโบงับไม่ยอมปล่อย
ผมจะเข้าไปดึงเจ้าโบออกมา ก็กลัวมันแหว้งมากัดเอา
เลยรีบไปตักน้ำราดใส่มันไป
3 ขัน แต่ก็ไม่สามารถแยกมันออกจากันได้
พอดี เจ้าปิงปองดิ้นหลุด เลยงับเข้าที่ขอบตาเจ้าโบเลือดสาดเต็มพื้น
เจ้าโบผงะออกมา เลยถือโอกาสนี้เข้าไปแยกเจ้าโบออกไป
แต่เจ้าปิงปองยังไม่หายแค้น จะตามมาเอาเรื่องเจ้าโบต่อ
เลยต้องบอกให้แฟนลากเจ้าปิงปองออกไป
|
|
vichien (203.154.102.*) [ วันศุกร์
ที่ 16 พฤษภาคม
2546 เวลา
07:37 น. ]
|
|
|
ผลการประลองกำลังครั้งนี้
เจ้าปิงปองโดนงับดั้งจมูกเป็นรูลึก ส่วนเจ้าโบโดนกัดที่ขอบตาเป็นแผลเหวอะน่าหวาดเสียว
อีกนิดเดียวคงตาบอดแน่
เลยได้บทเรียนที่ดีว่า
เจ้าบางแก้วนี่ใจนักเลงอย่างที่คุณพสุธาว่า ไม่ยอมให้ใครข่มเหงง่ายๆ
แต่ก็ไม่ใช่อันธพาลไปเที่ยวกัดใครนะครับ
แต่ที่เสียใจคือ
เราแยกสุนัขออกจากกันช้าไปหน่อย
ไม่ทราบใครมีวิธีแยกสุนัขที่กำลังกัดกันโดยปลอดภัยไหมครับ คืออย่าให้โดนลูกหลง
|
โดยคุณ ว (203.154.102.*) [ วันศุกร์
ที่ 16 พฤษภาคม
2546 เวลา
07:48 น. ] ผู้ตอบคนที่ 1
|
|
|
สวัสดีครับ
คุณวิเชียร
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับที่ลูกน้องทะเลาะกันมากมายขนาดนี้
วิธีการแยกสุนัขที่กัดกันของผมก็คือ
1.คน 2 คน แต่ละคนจับขาหลัง(ทั้ง
2 ข้างจะมั่นคงกว่า
ปลอดภัยกว่า)
ของสุนัขแต่ละตัว
แล้วยกตัวสุนัขทั้งคู่ขึ้นพร้อมกัน (ให้ลอยในอากาศได้เลยยิ่งดี)
ซักพักเค้าจะคลายปากที่กัดออก ตอนนี้ต้องระวังการแว้งกลับมากัดคนที่จับขาเค้านะครับ อาจต้องเหวี่ยงซักนิดเพื่อความปลอดภัย
2.จับสุนัขวางลงที่พื้น ถ้าสุนัขยังพยายามจะต่อสู้กันอีก
ต้องรีบแยกออกห่างกัน ไม่ควรให้เห็นกันเลยในช่วงเวลานั้นจะดีที่สุด
3.การจับตัวสุนัขช่วงนี้ ผมเห็นว่าควรจับแบบขยุ้มที่ต้นคอด้านหลัง ซึ่งการจับลักษณะนี้จะคล้ายกับการที่จ่าฝูงคาบคอลูกฝูง ข้อควรระวัง ถ้าสุนัขตัวนั้นไม่ใช่ของท่าน
ไม่ควรจับแบบนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะท่านจะกลายเป็นเป้าหมายการโจมตีของเค้าทันที
ไม่รู้ว่าจะเป็นประโยชน์กับคุณวิเชียรบ้างหรือไม่
พสุธา พันธุ์สาย
|
โดยคุณ พสุธา
พันธุ์สาย (202.183.175.*) [ วันศุกร์
ที่ 16 พฤษภาคม
2546 เวลา 11:35 น. ] ผู้ตอบคนที่ 2
|
|
|
วันนี้
พี่น้องทั้งสองทะเลาะกันอีกแล้ว
เจ้าปิงปองแรงน้อยกว่าโดนเจ้าโบต้อนจนมุม
ผมเลยรีบใช้วิธีที่คุณพสุธาแนะนำ
คือใช้มือขยุ้มที่ต้นคอด้านหลังของเจ้าโบ
แล้วดึงมันออกมา
ตอนแรกก็รู้สึกเสี่ยงหน่อย
กลัวมันแว้งกัดเอา
แต่ก็ได้ผล มันยอมให้ผมดึงมันออกมาโดยดี
แต่ที่ผิดพลาด
คือ ไม่ได้จับเจ้าปิงปองไว้ด้วย เจ้าปิงปองเลยถือโอกาสโต้กลับ
ด้วยการไล่กัดเข้าที่ขาเจ้าโบไป
2-3 ที กว่าจะกันเจ้าปิงปองออกไปได้
เจ้าโบก็ได้เลือดอีกแล้ว รู้สึกว่าเขี้ยวบางแก้วจะคมจริงๆ
กัดทีไรได้เลือดทุกที
ครั้งต่อไปคงต้องใช้มือขยุ้มที่ต้นคอด้านหลังของคู่กรณีทั้ง
2 ตัว
|
โดยคุณ vichien (203.153.134.*) [ วันเสาร์
ที่ 17 พฤษภาคม 2546 เวลา
14:52 น. ] ผู้ตอบคนที่ 4
|
|
|
ใช่ครับ
วิธีจับที่ต้นคอแล้วยกให้ตัวลอยจากพื้นเป็นวิธีที่สุนัขกลัว เหมือนตอนที่เค้าโดนแม่คาบไงครับ
ให้เขย่าแรง
ๆ เลยครับ
|
โดยคุณ โป๋ (203.113.80.*) [ วันเสาร์
ที่ 17 พฤษภาคม
2546 เวลา
15:36 น. ] ผู้ตอบคนที่ 5
|
|
|
วันนี้
ไม่รู้เป็นอะไร
เจ้าปิงปองหงุดหงิดเป็นพิเศษ
เจ้าโบไปเล่นด้วย ก็อารมณ์เสียใส่
เลยทะเลาะกันนัวเนียอีกรอบ
ลองใช้สองมือขยุ้มที่ต้นคอด้านหลังของคู่กรณีทั้ง
2 ตัวออกจากกันตามที่คิดไว้ แต่ไม่สำเร็จ
แรงมันเยอะทั้ง
2 ตัว แถมกัดแบบไม่ปล่อย เลยไม่สามารถถ่างมือออกไปให้สุดได้
ต้องเรียกให้ลูกชายมาช่วย ตามสูตรคุณพสุธานั่นแหละครับ
คือต่างฝ่ายต่างจับเท้าทั้ง
2 ข้างของคู่กรณีแต่ละตัวยกขึ้น
แล้วดึงออกจากกัน
แต่ก็ไม่ง่ายนัก เพราะเจ้าปิงปองงับไม่ปล่อยเช่นกัน
รอบนี้ เจ้าโบก็เสียคะแนนอีก
โดนกัดที่ขา เดินกระเผรกเข้ากรงไป
สงสัยว่าจะต้องเอาเจ้าปิงปองไปทำหมันดีไหมเอ่ย
|
โดยคุณ ว (203.153.134.*) [ วันเสาร์
ที่ 17 พฤษภาคม
2546 เวลา
19:30 น. ] ผู้ตอบคนที่ 6
|
|
|
โดยคุณ ว (203.153.135.*) [ วันจันทร์
ที่ 19 พฤษภาคม
2546 เวลา
19:12 น. ] ผู้ตอบคนที่ 7
|
|
|
จากการทะเลาะกัน
ทำให้ 2 ฝ่ายมองหน้ากันไม่ติด
เดินสวนกันก็ไม่ทักทายกัน
เพิ่งรู้ว่าสุนัขก็เป็นเหมือนคนเช่นกัน
อาจเป็นเพราะว่าบางแก้วมีจิตใจอาฆาตแค้นอย่างที่เขาพูดกันหรือเปล่าน่ะ...
ความสัมพันธ์ของพี่น้องคู่นี้จะลงเองกันอย่างไรก็ยังไม่รู้
น่าอิจฉาความสัมพันธ์ของเจ้าขุนแผนกับกะทิของคุณโป๋จัง
|
โดยคุณ ว (203.153.135.*) [ วันอังคาร
ที่ 20 พฤษภาคม
2546 เวลา
04:46 น. ] ผู้ตอบคนที่ 8
|
|
|
โดยคุณ อิจฉา (203.154.102.*) [ วันพุธ
ที่ 21 พฤษภาคม
2546 เวลา
05:45 น. ] ผู้ตอบคนที่ 9
|
|
|
โดยคุณ angry (203.153.135.*) [ วันเสาร์
ที่ 24 พฤษภาคม 2546 เวลา
15:30 น. ] ผู้ตอบคนที่ 11
|
|
|
โดยคุณ โบ (203.153.134.*) [ วันเสาร์
ที่ 24 พฤษภาคม
2546 เวลา
16:54 น. ] ผู้ตอบคนที่
12
|
|
|
โดยคุณ vichien (203.153.134.*) [ วันเสาร์
ที่ 24 พฤษภาคม 2546 เวลา
19:02 น. ] ผู้ตอบคนที่ 15
|
|
|
1. ก่อนจะยกหนูปิงปองให้ใครไป
อย่าลืมทำหมันให้แกเสียก่อนนะคะ
2. ใครที่สนใจอยากรับหนูปิงปองไปอยู่ด้วย
ก็ต้องหมั่นไปมาหาสู่ สร้างความสนิทสนมคุ้นเคยกับแกเอาไว้ล่วงหน้าก่อน เวลามาหาก็ซื้อขนมของโปรดติดไม้ติดมือมาฝากแกด้วย
3. วิธีการสร้างความสนิทสนมสำหรับหมานักเลงแบบนี้
ก็ไม่ใช่มาถึงก็เอาขนมมาล่อ แกจะนึกว่าเอาส่วยมาส่งยอมรับแกเป็นหัวหน้าแก๊งค์
ต้องมีชั้นเชิง วางฟอร์มให้เหนือกว่าแกเข้าไว้
ไม่ต้องไปสนใจมองแก(แต่แอบเหล่ไว้หน่อยก็ดี เผื่อแกจะเป็นนักเลงประเภทแอบแทงข้างหลังด้วย)
ไม่ต้องไปพูดจาทักทายลูบเนื้อลูบตัว โดยเฉพาะหัว...อย่าไปยุ่งเป็นอันขาด
ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆ
ยืนอยู่ห่างๆ....คุยกันไปในกลุ่มคน ที่ต้องให้"ยืน"ก็เพื่อทำตัวให้สูงกว่าแกให้มากๆเข้าไว้ เตรียมขนมหรือของกินที่แกชอบไว้ในมือ
แต่ไม่ต้องเอามาโชว์ให้เห็น ถ้าหมาเห็นว่าไม่มีใครสนใจ
ก็มักจะเข้ามาใกล้ๆเพื่อสังเกตการณ์
และค่อยๆดมสำรวจ ให้คนห้อยมือ(ที่มีอาหาร)ไว้ในระดับที่เขาดมถึง
พอเขาดมมาที่มือ ก็เหล่ดูท่าทีว่าเขาทำท่าผ่อนคลาย
อารมณ์ดี ดูแววตาก็จะรู้ จึงค่อยเปิดแง้มมือออกให้เขากิน
และให้เขากินต่อเนื่องสัก
2-3 ครั้ง ระหว่างให้กิน ก็ไม่ต้องไปเอาอกเอาใจอะไรเขาอีก
แค่เปิดแง้มมือออกให้เขากินอาหารได้ ไม่ต้องก้มตัวลงมาหาเขา
ไม่ต้องมอง ไม่ต้องลูบ
ไม่ต้องพูดอะไรทั้งสิ้น (ถ้าเขายังทำตาขวาง
เหมือนจะข่มขู่เอาของกินจากคน
ก็ไม่ต้องเปิดให้เขาได้กิน ไม่นานเขาจะรู้ว่า
"ความสงบ"ให้ประโยชน์มากกว่า"ความก้าวร้าว")
ถ้าเคยดูทีวีช่องดิสคอฟเวอรี่เรื่องชีวิตหมาป่า
จะนึกภาพออก ว่าตัวจ่าฝูงจะยืนอย่างมั่นคงยืดหัวขึ้นสูงและไม่หันมามอง เมื่อมีหมาตัวอื่นเข้ามาใกล้แม้จะเข้ามาเลียปากเลียคอเลียหน้าเลียตา จ่าฝูงจะไม่มองเลย
อาจแง้มริมฝีปากพอให้เห็นเขี้ยว
เป็นการทักทายนิดหน่อยเท่านั้น
ลองทำเองที่บ้านดูก็ได้
สำหรับหมาดุ(ก้าวร้าว) ความสงบและฟอร์มที่เหนือกว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก
การพูดเสียงดังเอะอะโวยวาย ทำอะไรช้งเช้งโฉ่งฉ่าง
จะยิ่งไปปลุกเร้าสัญชาติญาณเขาให้แรงขึ้น
ดังนั้น บ้านที่หนูปิงปองจะไปอยู่
ควรจะเป็นบ้านที่สงบพอสมควร
ไม่มีผู้คนพลุกพล่าน
ผู้ที่จะเป็นเจ้าของ
ก็ควรมีบุคคลิก สงบเยือกเย็นและมีจิตใจเข้มแข็งเหนือกว่าหมา
หมาจะหยั่งรู้ได้
ถ้าคุณกลัว เพราะการแสดงออกที่เปลี่ยนแปลงไปแม้เพียงเล็กน้อยหมาก็จะสังเกตได้
|
โดยคุณ สัตว์กินเนื้อ (202.183.164.*) [ วันอาทิตย์
ที่ 25 พฤษภาคม
2546 เวลา 08:14 น. ] ผู้ตอบคนที่ 16
|
|
|
แก้ปัญหาโดยการยกให้คนอื่นหรือเอาไปปล่อยนั้นไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง ถ้าเป็นฝรั่งในอเมริกา
เขาจะฉีดยาให้มันตายแล้วฝังไว้ในบริเวณบ้านของตัวเอง หมาที่เปลี่ยนเจ้าของจิตใจมันยิ่งผิดปกติมากขึ้น และหมาที่ลองมันแค้นกันแล้วมันจะฝังใจไม่เลิก หรือไม่ก็ปล่อยให้มันกัดกันจนกว่าจะมีผู้ชนะ
แล้วมันจะยอมศิโรราบกันเอง แต่นิสัยของบางแก้วแล้วจะกัดจนคู่ต่อสู้ตาย
ถึงแม้จะนอนหงายท้องยอมแพ้แล้วก็ตาม ต่างจากหมาโดยทั่วไปที่เห็นคู่ต่อสู้หงายท้องแล้วก็เลิกกัด
นี่คงเป็นอีกหนึ่งรายที่อยากเลี้ยงบางแก้วโดยไม่ได้ศึกษามาก่อนว่าพอเกิดปัญหาก็ผลักภาระให้กับสังคมหรือคนอื่น
หลายรายที่ซื้อบางแก้วมาเลี้ยงเพราะแฟชั่น เลี้ยงได้ไม่กี่เดือนก็กัดคนในบ้าน
ก็เลยยกให้คนอื่น มันก็กัดคนในบ้านคนอื่นอีกนั่นแหละ
ท้ายสุดก็ถูกปล่อยตามยถากรรม
เชื่อว่าต่อไปคงเห็นบางแก้วถูกปล่อยตามถนนมากขึ้น
|
โดยคุณ บางแก้ว (203.144.217.*) [ วันอาทิตย์
ที่ 25 พฤษภาคม 2546 เวลา
11:29 น. ] ผู้ตอบคนที่ 17
|
|
|
ขออนุญาตมองต่างมุมค่ะ
เรามีความเห็นว่า
หมาทุกตัวที่ไม่ใช่หมาบ้า สมควรได้รับโอกาส
หากมีผู้เต็มใจรับเลี้ยงดู ที่เป็นผู้มีความรู้หรือมีความตั้งใจที่จะศึกษาวิธีการดูแลและปรับพฤติกรรมของเขาให้เข้ากับสังคมและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมได้
เนื่องจากบางแก้ว
มีนิสัยใจคอที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมโดดเด่น ดังเป็นที่รับทราบกันโดยทั่วไปว่าเป็นอย่างไร
ดังนั้น บางแก้วจึงไม่ใช่หมาสำหรับทุกคนในโลก
อย่างโกลเด้น
หรือลาบราดอร์ แต่เป็นหมาที่ต้องได้รับการเลี้ยงดูอย่างระมัดระวังจากผู้ที่เข้าใจในบางแก้วเป็นอย่างดีเท่านั้น
เช่นเดียวกับที่ในอเมริกา
มีกลุ่มผู้ที่รักและนิยมเลี้ยง หมาป่าผสมหมาบ้าน(Wolfdog หรือ Wolf hybrid) เนื่องจากหมาป่า ถือเป็นสัตว์ที่มีจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง
มีความฉลาดกว่าหมาบ้านโดยทั่วไป มีวัฒนธรรมในการดำรงชีวิตที่มีระบบและมีวินัยสูง
และจะดุร้ายมาก หากไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมและฝูงที่ไม่เหมาะสม
ดังนั้น หมาป่าพันธุ์ผสมที่ว่านี้ จึงได้รับการควบคุมโดยสมาคมหรือชมรมอย่างเข้มงวดมาก มีการให้ข้อมูลอย่างละเอียดชัดเจนสำหรับผู้ที่ต้องการเลี้ยง
ต้องทดสอบความรู้ ความเข้าใจและสภาพความเป็นอยู่เพื่อดูความพร้อมก่อนจะนำไปเลี้ยง เพื่อความปลอดภัยของทั้งหมา,ผู้เลี้ยง
ตลอดจนสังคมคนรอบข้างที่เกี่ยวข้อง
เชื่อว่าหลายท่านที่เลี้ยงบางแก้ว
คงได้รับบทเรียนกันไปบ้างพอสมควร ในเรื่องนิสัยของเขา
ซึ่งคงต้องมีการวิเคราะห์เจาะลึก และเก็บรวบรวมข้อมูลไว้เป็นกรณีศึกษาเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาสายพันธู์ และให้ความรู้แก่ผู้นิยมเลี้ยงบางแก้ว เพื่อนำไปพิจารณาและปฏิบัติให้ถูกต้องเหมาะสมต่อไป
ไม่เชื่อว่าจะมีคนเอาบางแก้วไปปล่อยทิ้งไว้ตามถนนให้เป็นหมาจรจัดได้สำเร็จ เพราะเขาคงหาทางกลับบ้านเองได้ในทันที
เผลอๆ อาจกลับมานั่งรอเจ้าของอยู่หน้าบ้านก่อนแล้วก็ได้
ตอนนี้ไม่ได้เลี้ยงบางแก้ว
แต่ติดตามมาตลอด
ถ้าหมาที่เลี้ยงอยู่ตอนนี้ หมดรุ่นเมื่อไร
รุ่นต่อไป ต้องเป็นบางแก้วแน่นอน(ถ้ายังไม่ตายเสียก่อน) กะว่าจะเลี้ยงแบบทำเป็นโครงงานวิจัยเรื่องพฤติกรรมเลยแหละ
สนใจมากๆ ทั้งเรื่องหมาป่า
และเรื่องบางแก้ว
|
โดยคุณ สัตว์กินเนื้อ (202.183.164.*) [ วันอาทิตย์
ที่ 25 พฤษภาคม
2546 เวลา 21:49 น. ] ผู้ตอบคนที่ 18
|
|
|
โดยคุณ วิเชียร (203.154.102.*) [ วันจันทร์
ที่ 26 พฤษภาคม 2546 เวลา
18:02 น. ] ผู้ตอบคนที่ 19
|
|
|
โดยคุณ วิเชียร (203.154.102.*) [ วันจันทร์
ที่ 26 พฤษภาคม 2546 เวลา
18:26
น. ] ผู้ตอบคนที่ 20
|
|
|
ดีใจเหมือนกันค่ะ
ที่สนใจโครงการนี้
ถึงขั้นคิดหารายได้มาสนับสนุนโครงการ
ถ้าจะทำเป็นโครงงานวิจัย
ก็แน่นอนว่าต้องเลี้ยงหลายตัว จากทุกสายที่ใช้เป็นพ่อพันธุ์หลัก
และแม่พันธุ์ที่ถ่ายทอดลักษณะนิลัยได้ดี
เรื่องต้องรอให้หมาที่เลี้ยงอยู่หมดรุ่นนั้น
เป็นเรื่องจำเป็นมาก เพราะเป็นพวก"ปลอดภัยไว้ก่อน"
เสมอในทุกๆเรื่อง
เลี้ยงเยอรมันเชพเพอด
20-30 ตัว มานานเกือบ20
ปี ไม่เคยให้มีโอกาสได้กัดกัน
ถ้าปล่อยให้เจอกัน
ต้องมีคนคุมให้อยู่ ตัวไหนที่ไม่มั่นใจ
100% จะไม่ปล่อยเข้าหากันเลย
ไม่เคยสงสัย
ว่าถ้าให้มันกัดกัน มันจะสู้กันไปถึงไหน
ใครจะแพ้จะชนะ
พยายามระวังให้เขาอยู่ร่วมกันโดยสันติที่สุด โดยคน
ต้องควบคุมหมา(เป็นจ่าฝูง)
ตลอดเวลา
ที่สำคัญ ตัวที่เลี้ยงอยู่ใกล้ชิดติดตัวที่สุดทุกวันนี้ เป็นหมาที่มีความเป็นจ่าฝูง(Dominant)สูงมาก
กับเราเอง เขายังท้าทายด้วยวิธีต่างๆอยู่ทุกวัน
ต้องใช้พลังงานมากจึงจะข่มเขาอยู่ ตัวเดียวนี่ก็เหนื่อยแย่แล้วค่ะ
อยากลองคุยดูเหมือนกันค่ะ เรื่องบ้านพักสัตว์ เดิมทีตั้งใจว่าจะทำ(สำหรับเยอรมันเชพเพอดที่เจ้าของไม่อยากเลี้ยง
ซึ่งตอนนี้ ก็มีคนเอามาให้เลี้ยงหลายตัวแล้ว)
แต่ไม่มีทีมงานที่แข็งแกร่ง มีการศึกษาดีและยอมเสียสละเพื่อมาทำงานตรงนี้
ทำคนเดียวไม่ไหวแน่ค่ะ ยังเสียดายที่Dog's Home อยู่เลย
มีที่ว่างอยู่ที่อ.บ้านไร่
จ.อุทัยธานี ประมาณ
50 ไร่ ถ้ามีทุนและทีมงานก็น่าจะไปทำอะไรกันได้ค่ะ ตอนนี้เป็นป่าอยู่ท่ามกลางไร่อ้อยและไร่ข้าวโพดของชาวบ้าน เคยเอาหมาไปเลี้ยงที่นั่นมาแล้ว
สบายมากเลยค่ะ
เรื่องงบไม่ค่อยห่วงเท่าเรื่องทีมงานค่ะ ทำงานกับสิ่งมีชีวิตต้องมีทีมงานที่ดีจริงๆเท่านั้น จึงจะทำได้...ยังไม่พูดกันเรื่องความสำเร็จนะคะ
|
โดยคุณ สัตว์กินเนื้อ (202.183.164.*) [ วันจันทร์
ที่ 26 พฤษภาคม
2546 เวลา 19:41 น. ] ผู้ตอบคนที่
21
|
|
|
โดยคุณ ว (203.154.102.*) [ วันพุธ
ที่ 28 พฤษภาคม
2546 เวลา 14:11 น. ] ผู้ตอบคนที่ 27
|
|
|
...................................................................
.........................
สุนัขกัดสุนัข
ถือเป็นพฤติกรรมก้าวร้าวที่ค่อนข้างดุเดือด หรือบางครั้งจบลงด้วยชีวิตของสุนัขตัวที่อ่อนแอกว่า
แต่ใจสู้จนตัวตาย ทำไมสุนัขตั้งแต่สองตัวขึ้นไปจึงอยู่รร่วมโลกสุนัขอย่างสันติไม่ได้หรือถึงได้กัดกันเอง เหล่านี้เป็นไปด้วยสาเหตุ
กล่าวคือ
-แข่งกันทำตัวให้เด่นเมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้าของ เป็นในลักษณะที่อิจฉาริษยานั่นเอง ซึ่งเราจะพบลักษณะนี้บ่อยในสุนนัขที่อยู่บ้านเดียวกันหรือครอกเดียวกัน
-ในช่วงที่สุนัขจะเริ่มเข้าสังคม
เริ่มที่จะโตเป็นหนุ่มสาวนั้น เขาก็ถูกแยกจากพวกสุนัขด้วยกัน
โดยไม่มีการติดต่อกับพวกเดียวกันเลย อาจทำให้เวลามาเจอกันตอนหลังจากช่วงนี้แล้วเกิดการต่อสู้กันได้
-การต่อสู้เพื่อแย่งตัวเมีย
สาเหตุนี้มักจะพบบ่อยๆ
ให้เห็นได้ทั่วไปเวลาสุนัข ”ติดสัด”
-อาจเกิดจากภาวะเครียดทางจิตใจ และทำให้เกิดการตื่นตระหนกจนอาจเกิดการกัดกันได้
เช่น ภาวะของสุนัขที่ถูกนำมาจากหลาย
ๆ แห่งแล้วมาอยู่ร่วมกันในกรงเดียวกัน
-เกิดจากโรคหรือความเจ็บปวดทางบาดแผล
สรุป พฤติกรรมของสุนัขที่กล่าวนี้ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ธรรมชาติได้ฝากไว้ให้กับมันมาแต่รุ่นบรรพบุรุษคือสุนัขป่าและสุนัขจิ้งจอก แม้ปัจจุบันจะเป็นสุนัขที่อยู่บ้านแล้ว
เชื้อสายเดิมก็ยังคงปรากฎให้เห็นอยู่เสมอ พฤติกรรมบางอย่างเราเรียนรู้แล้วอาจปรับปรุงแก้ไขหรือฝึกหัดมันได้ ส่วนที่ฝืนธรรมชาติมากเกินไปก็อย่าไปฝึกหัดมันเลย ปล่อยให้เป็นคุณสมบัติประจำเผ่าพันธุ์สุนัขมันบ้าง
จาก พฤติกรรมเฉพาะตัวของสุนัข
http://www.geocities.com/chaynatbangkaew/
|
โดยคุณ ข้าวตัง (203.154.102.*) [ วันพฤหัสบดี
ที่ 29 พฤษภาคม
2546 เวลา 18:22 น. ] ผู้ตอบคนที่
28
|
|
|
สวัสดีครับทุกๆคนที่รักบางแล้วครับ
พอดีผมไม่ได้เปิดเมลล์ตั้งนานครับ ไปประจำการอยู่ที่อื่น
ไม่ได้เปิดเน็ตเลยครับ พูดถึงเรื่องหมากัดกันมันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วสำหรับการเลี้ยงหมาหลายตัวรวมกัน เพราะหมาต้องมีจ่าฝูง
ตรงนี้แหละครับ
มันถึงกัดกัน หรืออีกอย่างที่กัดก็อาจจะเพราะหิว
ก้อแค่นั้นเอง
เดียวก็เลิกลากันไปเองแหละครับ หมาผมก็ทะเลาะกันครับ
(ข้าวตัง-ข้าวสวย) แต่โชคดีที่ตัวผู้จะไม่ค่อยทำอะไรตัวเมียไหร่
ค่อนข้างจะรักกันมากเลย
มีอยู่วัน ผมพาทั้งสองตัวไปเดินเล่น
ประมาณ3ทุ่มแล้วล่ะ(ผมว่ามันเงียบดีนะครับ)
แต่ที่ไหนได้ เจ้าล็อตไวเลอร์ดันวิ่งมาจาอีกบ้านหนึ่ง
วิ่งเข้าใส่เจ้าข้าวตังผมเต็มๆเลย เจ้าข้าวตังก็ไม่ยอม
ใส่เจ้าล็อตฯเต็มๆเหมือนกัน (ตั้งแต่เลี้ยงยังไม่เคยเห็นมันกัดหมาตัวอื่นเลยพึ่งเห็นนี่แหละครับ)
เจ้าของเจ้าล็อตก้อไม่กล้าห้าม ผมก็พยายามห้ามสุดฤทธิ์โดยพยายามอุ้มข้าวตังออกมา
แต่เข้าไม่ติด
ส่วนหมาตัวเมีย (ข้าวสวย)
ก็สุดยอด ตัวนิดเดียวกระโดดกัดใต้ตาเจ้าล็อตฯ
สู้กันอยู่พักใหญ่กว่าจะห้ามได้ เล่นเอาผมได้เลือดซิบๆเลยครับ
สองตัวของผมเค้ารักกันดีออก
ไม่เคยกัดกันเองรุนแรง จะทะเลาะกันก็ตอนผมกลับจากทำงานแล้วเค้าดีใจแย่งกันเข้ามาหาผมเท่านั้นแหละ แต่ห้ามแล้วก็เชื่อก็หยุดไปเองแหละครับ
|
โดยคุณ Chaynatbangkaew (203.148.237.*) [ วันอังคาร
ที่ 3 มิถุนายน
2546 เวลา 12:22 น. ] ผู้ตอบคนที่
35
|
|
|
เห็นด้วยคะ
กับที่บอกว่าบางแก้วรักเจ้าของคนเดียว
หมายถึง ทุกคนในบ้านที่เลี้ยงเค้าคะ
เพราะที่บ้านมีด้วยกัน
3 คน พ่อ แม่ ลูก เค้าไม่เคยทำร้าย
ลูกของเราเลยคะ
ลูกเราจะเล่นกับเค้าแรงๆ
ยังงัยก็ได้
ที่บ้านก็เลี้ยงไว้เป็นคู่ ดูเข้ากันได้ดี(นำโชค
กับ กำไร)
มีบ้างครั้งเหมือนกันที่ทะเลาะกันจนเสียเลือดเสียเนื้อไปบ้าง (เคยทะเลาะกันจนอีกฝ่าย
ต้องพาไปให้หมอเย็บ
3 เข็ม ที่เท้ามาแล้ว)
แต่สุดท้ายเค้าก็ยังคงเล่นกันได้เหมือนเดิม
แต่อาจเพราะว่าเค้าเป็นตัวผู้
กับ ตัวเมียก็ได้มังคะ
เคยได้ยินมาว่าบ้างแก้วบางตัวกัดเจ้าของ
แต่ของเรายังไม่เคยเลยทั้งคู่
ซึ่งถือว่าอาจจะโชคดี
หรือโชคช่วยก็ได้
ตอนที่เราเลือกเค้ามาจากคอก
ตอนนั้นยังไม่ค่อยรู้เรื่อง เรื่องบางแก้วเท่าไรนัก
ว่าสามารถบอกทางคอกเค้าได้ว่า
อยากได้อย่างใจดีเหมือนเจ้าขุนแผน
ยังเงีย
เราเพาะพันธ์เค้าได้
2 คอกแล้ว
แต่ก็ยกให้เพื่อนๆ
ที่เค้าอยากได้บางแก้วไปเลี้ยงบ้าง
มีคนมาขอซื้อไปบ้าง
ในส่วนที่ติดตามผลงานได้
เค้าก็จะมีนิสัยคล้ายไปทางแม่เค้ามากกว่าพ่อ แต่ลักษณะสีสัน
จะเหมือนไปทางพ่อมากกว่า
เราไม่เคยเอาเจ้า
2 ตัวที่บ้านออกไปเที่ยวนอกบ้านเลย
นอกจากพาไปหาหมอ ก็เลยไม่รู้ว่าถ้าเจอหมาตัวอื่น
มันจะกัดรึเปล่า
และพอดีที่บ้านมีบริเวณให้เค้าวิ่งเล่นได้พอสมควร
ไม่รู้ว่าทำแบบนี้ จะทำให้เค้าดุขึ้นได้มั๊ยคะ
เคยมีเพื่อนเคยพาตัวเมียของเค้ามา
เพื่อให้ นำโชค
เป็นพ่อพันธุ์ให้
แต่ไม่สำเร็จคะ
นำโชคเค้าไม่สนใจ
แถมจะกัด ตัวเมียซะอีก
พอมีวิธีไหนมั๊ยคะ
ที่พอจะช่วยเรื่องนี้ได้บ้าง
สงสารเพื่อนนะคะ เค้ามานั่งเฝ้าตั้งแต่เช้า-เย็นเลย
แล้วก็หมดกำลังใจไปทั้งคน
ทั้งสุนัข คะ
ทีกับกำไร
เค้าก็ไม่เคยบิดพลิ้วนะคะ
มีคนเคยบอกว่า
บางแก้วบางตัวเค้าจะมีกลิ่นของตัวเมียที่เค้าถูกใจ
ถ้าไม่ถูกใจ
เค้าก็จะไม่ผสม เป็นอย่างงั้นจริงๆรึเปล่าคะ
แล้วใครพอทราบวิธีช่วยหน่อยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าคะ
|
โดยคุณ ที (203.151.63.*) [ วันจันทร์
ที่ 2 มิถุนายน
2546 เวลา
14:19 น. ] ผู้ตอบคนที่ 34
|
|
|
ผมชอบมองวิกฤตให้เป็นโอกาส
การที่พี่น้องสองตัวทะเลาะกัน
แม้ว่าจะทำให้ทุกคนในบ้านพากันเครียดไปหมด
แต่มันก็ช่วยทำให้ผมได้รู้จักนิสัยของสุนัขบางแก้วมากขึ้น
และทำให้ได้มารู้จักกับเพื่อนๆผู้รักและเป็นห่วงอนาคตของสุนัขบางแก้ว
ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ
อยากจะทำอะไรบางอย่างให้กับเพื่อนสี่ขาผู้ซื่อสัตย์ภักดี
แต่มีปัญหาตัวนี้
Next