ที่ดีใจคือลูกสาวผมที่พยายามจะเอามือไปลูบหัวเจ้ามอมเล่น แต่เจ้ามอมไม่ยอมเล่นด้วย
มันวิ่งเข้าไปหลบอยู่ใต้โต๊ะกินข้าว
แยกเคี้ยวขู่ฟอดๆ ทำท่าจะกัดเอา
ที่แปลกใจคือเจ้าโบที่พยายามเอาจมูกเข้าไปดมก้นทักทายด้วยความอยากรู้จัก
แต่ก็โดนขู่คำรามจนต้องล่าถอยออกมา
ที่ตกใจคือแฟนผมที่พยายามบอกให้เอาไปคืนคนเลี้ยงเสีย โดยอ้างพระบรมราโชวาทของในหลวงที่ทรงตรัสไว้ว่า “บางแก้วเป็นสุนัขที่ดุ
รักเจ้าของคนเดียว” แล้วพูดขยายความต่อเอาเองว่า “เดี๋ยวจะไปกัดเด็กๆในบ้าน”
ผมเองก็เริ่มรู้สึกว่า
เจ้าบางแก้วนี่ดุไม่เบาเลยขนาดตัวเล็กแค่นี้
ยังสามารถขู่คำรามให้คนและสุนัขที่ใหญ่กว่ากลัวได้
ถ้าโตขึ้นจะดุขนาดไหน
ผมเริ่มได้บทเรียนใหม่แล้วว่า การเลี้ยงสุนัขไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
จำเป็นที่จะต้องศึกษาอุปนิสัยรายละเอียดต่างๆของสุนัขให้ถี่ถ้วนและที่สำคัญคือต้องปรึกษาคนรอบข้างให้ดีก่อนที่จะซื้อมาเลี้ยงในบ้าน
ผมพยายามเอานมเทใส่จาน
ล่อให้มันออกมาจากใต้โต๊ะกินข้าว
มันก็ยังแสดงอาการไม่ไว้ใจและไม่ยอมออกมา
ผมคิดว่ามันคงจะเครียดเพราะไม่คุ้นเคยกับคนเลี้ยงใหม่และสถานที่ใหม่ จึงบอกลูกๆและแฟนรวมทั้งเจ้าโบให้ออกไปห่างๆ ทิ้งให้มันอยู่ตามลำพังสักพัก แล้วแอบมองมันจากห้องนั่งเล่น
สักครู่ใหญ่
เจ้ามอมก็เริ่มคลานออกมาจากใต้โต๊ะมาเลียนมในจานจนหมด
แล้วเริ่มเดินสำรวจไปรอบบริเวณบ้าน
คืนนั้น
พวกเราให้เจ้ามอมนอนอยู่ในห้องครัวหลังบ้าน
เพราะยังไม่กล้าปล่อยให้ไปนอนนอกบ้าน
กลัวเจ้าโบจะกัดเอา
พวกเราพากันคิดว่า
คืนนี้ สงสัยคงไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันหละ
เจ้ามอมคงร้องเรียกหาแม่เหมือนตอนที่พาเจ้าโบจากแม่มันมา
แต่คืนแรกที่บ้านใหม่ก็ผ่านไปได้ด้วยความเรียบร้อย
ผมเปิดประตูห้องครัวในตอนเช้าพบเจ้ามอมนั่งอยู่ด้วยความเรียบร้อย
หนังสือพิมพ์ที่ผมเช็ดฉี่มันในรถแล้วนำมาวางไว้ในห้องครัวเพื่อหวังให้มันฉี่เป็นที่เป็นทางถูกมันกัดกระจุยกระจายเต็มพื้น
ผมรวบรวมเศษกระดาษหนังสือพิมพ์เข้าด้วยกัน
แล้วนำไปโปรยทิ้งไว้ที่สนามหญ้าหน้าบ้าน
จากนั้นพาเจ้ามอมออกมาเดินเล่น
สักครู่
เจ้ามอมเดินไปดมพื้นสนามหญ้าที่มีเศษกระดาษหนังสือพิมพ์โปรยอยู่
มันคงได้กลิ่นฉี่ของมันที่ผมซับไว้
จึงจัดการทำธุระของมันจนเป็นที่เรียบร้อย
ผมได้บทเรียนใหม่อีกว่าบางแก้วเป็นสุนัขที่มีนิสัยรักสะอาด
ไม่ฉี่หรือขี้เรี่ยราด มันจะทำธุระในที่เดิมของมันเป็นประจำ
แม้ยามที่พาออกไปเดินเล่นนอกบ้าน
เจ้ามอมก็ไม่เคยทำอะไรให้ขายหน้าคนจูงเลย
ผิดกับเจ้าโบ
ซึ่งจะดีใจเมื่อได้ออกมานอกบ้าน
และจะไปเที่ยวฉี่และขี้ไปทั่ว
เป็นการบอกอาณาเขตของมัน จนระยะหลังผมต้องคอยถือที่ตักขี้สุนัขไปด้วย เพราะไม่อยากให้ชาวบ้านต้องเดือดร้อนเมื่อตอนเดินมาเหยียบขี้มันเข้า
เช้าวันนั้น
ผมพาเจ้ามอมไปที่หน้าสวนหลวง
ร.๙ อีกครั้งหนึ่ง
ขับรถวนหาอยู่
๒ รอบ แต่ไม่พบร่องรอยของรถคันที่เปิดท้ายขายหมาบางแก้วอีก ผมทำผิดพลาดไปอย่างมากที่ไม่ได้ขอที่ติดต่อคนขายไว้
และที่ผิดพลาดยิ่งไปกว่านั้นก็คือผมไม่ได้ขอใบรับรองพันธุ์ประวัติ
(Pedigree) ของเจ้ามอมไว้
ซึ่งผมมารู้ที่หลังว่าใบเพ็ดดิกรีนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งดังที่ผมจะได้เล่าต่อไป
สายวันนั้น
ผมกับเจ้ามอมกลับมาถึงบ้านพร้อมกันอีกครั้งหนึ่ง ด้วยความรู้สึกที่สับสน
ไม่รู้ว่าดีใจหรือเสียใจ